เยอรมันนี เพียงแค่ 21 ปี จากผู้แพ้ww1 ที่ต้องจ่ายหนี้กลายเป็นมหาอำนาจผู้รุกรานในww2 เพราะปัจจัยไรครับ

ทำไมเยอรมันถึงฟื้อตัวเร็วมากขนาดนั้นครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้าเงินยังแทบจะไม่มีโดนสัมพันธมิตรไถตังค์ เงินเฟ้อมาก เศรษฐกิจล่มสลาย พื้นที่อุดมสมบูรณ์โดนยึด แต่ทำไมเยอรมันถึงฟื้นตัวเร็วมากจนไปก่อสงครามประเทศอื่น ด้วยปัจจัยไรครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
เศรษฐกิจจะดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับภาคการผลิตเป็นหัวหอก
เมื่อใดก็ตามที่ผลิต แล้วมีคนซื้อ และรักษาวงจรให้ต่อเนื่องเติบโตไปเรื่อยๆ
มันจะเป็นวัฎวัตรที่ทำให้ปัจจัยการผลิต(Supply) Create Demands ได้ด้วยตัวเอง
ความมั่นคงขึ้นอยู่กับแรงขับของประชาชน ว่าจะบริโภคมากขึ้น ซื้อคุณค่ามากขึ้นมั้ย
ส่วนภาคการเงินเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เป็นเหตุ

คนที่มองภาคการเงินเป็นเหตุ มักจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้
(ในปี 44 รัฐบาลใหม่ของไทยกล่าวต่อรัฐบาลเก่าเช่นนั้น)

ฮิตเลอร์ทำได้ยังไง ?
เรื่องนี้พูดยาวๆจะมันส์มาก แต่มันจะซับซ้อนหน่อย

คำตอบคือตอนนั้นเศรษฐกิจโลกล่ม(1929 The Great Depression) เยอรมันเจอเงินเฟ้อ ติดหนี้สงคราม
ผู้คนมีความเชื่อที่ตกต่ำจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ทุกคนยิ่งประหยัด ยิ่งลดการบริโภค
เมื่อการบริโภคไม่มี ภาคการผลิตก็ขายของไม่ได้ = ก็ต้องลดการผลิต
เมื่อลดการผลิต  = ยิ่งต้องลดคนงาน
ยิ่งลดคนงาน = ประชาชนยิ่งไม่มีเงิน
ยิ่งไม่มีเงิน > ยิ่งไม่ซื้อ > ยิ่งไม่ผลิต >ยิ่งไม่จ้างงาน > ยิ่งไม่มีเงิน  เป็นวงจรอุบาทว์


ตอนนั้นคนว่างงาน 30 %
ทั้งๆที่คนเยอนรมันมีสินทรัพย์อันมีค่ามหาศาลอยู่
เป็นสินทรันพย์ที่"ไร้สภาพคล่อง"  หรือสินทรัพย์ที่แลกเปลี่ยนไม่ได้ทันที
นั่นคือวินัย ความขยัน ความรู้ทางวิทย์-คณิต --- คนเราทุกคนมีค่า แต่อาจจะไม่มีสภาพคล่อง
ความเก่งของเราอาจจะมีในตัว แต่ไม่ได้เอามาแลกเปลี่ยนได้เร็วนัก


ฮิตเลอร์จะต้องเอาสินทรัพย์ไร้สภาพคล่องเล่านั้น มาเป็นปัจจัยการผลิต
โดยรัฐจะต้องเริ่มเป็นคนทำ เพราะเอกชนไม่มีใครกล้าทำแล้ว

เริ่มจากการลงทุนด้วยอภิมหาโปรเจ็กต์
ที่จะมีผลไปถึงอนาคตอีก 100 ปี ปัจจุบันนี้คนเยอรมันก็ได้รับผลนั้น

1. ถนนหลวงเชื่อมต่อทุกๆเขต หรือที่เรียกว่าออโตบาห์น

ลงทุนมหาศาล = จ้างงานมหาศาล = คนอีกหลายๆครอบครัวมีงานทำ มีกิน
และผลงานนั้นจะใช้ประโยชน์ระยะยาว การคมนาคมเป็นเส้นเลือด
เหมือนการที่มนุษย์เจริญขึ้นเพราะแม่น้ำฉันใด  
การขนส่งเศรษฐกิจ กระจายความเจริญ มหาศาลอีกร้อยๆปีฉันนั้น

2. สร้างสาธารณูปโภคเพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิต สวนสนุก สนามกีฬา

แต่ฮิตเลอร์มีศิลปะอย่างหนึ่ง เขามีคูปองการท่องเที่ยวแจกประชาชน
โดยให้ประชาชนเอาคูปองนั้นมาเที่ยวในสถานที่เหล่านี้
(ลงทุนสูง จ้างงานมากทั้งต้นน้ำ ปลายน้ำ บริษัทต่างๆก็ผลิตขายคึกคัก
ยิ่งจ้างงานคนยิ่งมีเงิน มีเงินคนก็ยิ่งเที่ยว เที่ยวแล้วก็รวยกันถ้วนหน้า
ของพวกนี้จะกระตุ้นการใช่จ่าย และเสริมสร้างความสุขในชีวิต คนจะรู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น
เมื่อฝั่งดีมานด์ใช้จ่ายมาก ฝั่งผลิตจะยิ่งรีดศักยภาพของปัจจัยการผลิต ที่ดิน ทุน แรงงาน ผู้ประกอบการออกมา
ความรวยมันไม่ใช่ลำดับเลขคณิต แต่มันสามารถทวีค่าได้ ถ้ามีปฏิกริยาลูกโซ่เศรษฐกิจ)

3.) จ้างวิทยาศาสตร์ คิดค้น พัฒนาเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะรถยนต์
กระตุ้นแรงจูงใจด้านความรู้และการศึกษา เมื่อคนแข่งกันศึกษามา ทรัพย์ในตัวมนุษย์ยิ่งเพิ่มทวี
สิทธิบัตรต่างๆก็จะตามมามาก มีการผลิตรถยนต์แห่งประชาชน มีพอร์ช
เมื่อประชาชนได้เครื่องมือมาใช้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจยิ่งทวีขึ้นๆ
คุณจะสร้าง SME ได้ยังไง ถ้าไม่ให้รถแก่เขา ให้เขาเดินแล้วหวังว่าธุรกิจจะเกิด เป็นไปไม่ได้

4) จ้างทหาร พัฒนาสงคราม กองทัพ
แรงจูงใจขั้นสูงของคนเป็นชาย คือการได้ทำอุตสาหกรรมเท่ห์ๆอย่างการทหาร
ความข่มขื่นในอดีต ยิ่งสร้างนักรบที่กล้าแกร่ง คุณจะคิดและทำ ขยันทั้งวันทั้งคืน ถ้าคุณมีเกียรติ ถ้าคุณไร้เกียรติ คือเช้าชามเย็นชาม
ซื้อเหล็ก ซื้อเครื่องยนต์ ซื้อส่วนประกอบ บริษัทห้างร้านต่างๆยิ่งรวยๆ
และที่สำคัญคือได้อำนาจทางอาวุธให้ประเทศตัวเอง

5)ผู้หญิงไม่ต้องทำงาน กีดกันยิว และพวกนอกเยอรมัน
ฟังดูเหมือนกีดกัน แต่จริงๆเป็นผลดีทางเศรษฐกิจในระยะยาว
1) ผู้หญิงเลี้ยงลูก เป็นแม่บ้าน สร้างสภาบันครอบครัวให้เข็มแข็ง ผลิตประชากรที่ดี
2) เมื่อผู้หญิงไม่ทำงาน ผู้ชายคนอื่นๆยิ่งมีโอกาสทำงาน (เพราะไม่ถูกผู้หญิงแย่ง) ผู้ชายเหล่านั้นมีลูก มีเมีย
และมีแรงขับแห่งความเป็นชาย ทำให้รายได้กระจายทั่วถึงทุกครอบครัว พร้อมๆกับการที่ทำให้ประชากรเติบโตต่อเนื่อง

** ปัญหาหนึ่งในยุคปัจจุบันนี้คือผู้หญิงทำงานนะ ประชากรลดลงๆ แต่งงานช้า ไม่มีลูก แรงงานลด
ประเทสขาดความเข้มแข็ง ประเทศจนลง คนเก่งไหลออก  -- ปัจจุบันเด็กไทยเกิดใหม่ลดลงๆ จากปีละ 8 แสน เหลือ 7 แสน
อีกหน่อยลดลง ประเทศเราจะแย่ คนแก่ต้องทำงานหนัก GDP ตกต่ำ คนเก่งๆหนีไปประเทศที่เติบโต ประเทศเจ๊ง และมุสลิมคลองโลก


-----

อิตเลอร์เอาเงินมาจากไหน ในการเริ่มต้นกิจกรรมเหล่านี้ ?

คำตอบคือ
1. การทำ QE นั่นแหละ พิมพ์แบงค์มาก ถ้าคนทั้งระบบเชื่อว่าเงินของเขามีค่า มันก็มีค่า
อเมริกาคนเชื่อ เลยทำได้ เพราะเขามีแอปเปิ้ล กูเกิ้ล เฟสบุ๊ก มีปัจจัยการผลิต การสงครามสูงที่สุด
แต่อย่างประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะคนไม่เชื่อ ประเทศเจ๊ง

2) วาทะศิลป์ สภาวะผู้นำ เมื่อผู้นำพูด แล้วคนเชื่อมั่น เชื่อว่ามันทำได้ ทุกคนจะถูกจุดประกายตาม พาลกันคิดว่าทำได้ๆๆ
พอคิดแบบนี้กันหมด จะเหลือเหรอ มันก็ทำได้จริงๆ ผลิตๆๆ คิดค้น ขยัน มีคำขวัญว่าการทำงานหนักคือสวรรค์ของชีวิต
ผลิตถนน วิทยาศาสตร์ รถยนต์ รถถัง เรือดำน้ำ สนามกีฬา  เครื่องบิน จึงเกิดอย่างปัง ! ผู้นำระดับสูงสุด
ไม่ใช่นักการจัดการ ไม่ใช่ความชำนาญ แต่คือแรงบัลดาลใจ
ผู้นำขั้นต่ำๆเปรียบเหมือนขวาน ที่ต้องใช้ความขยันในการฟันต้นไม้ทีละครั้งๆ
ผู้นำที่สูงขึ้นหน่อยคือเลื่อยไฟฟ้า ทำงานอย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพ
แต่สุดยอดผู้นำคือไม้ขีด จุดครั้งเดียว เผาทั้งป่าราบได้หมด และนั่นคือสิ่งที่ฮิตเลอร์เป็น
ไม่ได้เรียนสูง ไม่ได้มีความรู้ แต่มีแรงบัลดาลใจอันลึกล้ำเหนือคนอื่นๆ

------

จริงๆมันมีรายละเอียดทางทฤษฎีเป็นจิตวิทยา ที่น่าจะเอามาพูดเป็นวิชาการได้อีกเยอะนะ
ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาพูดถึงกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่