ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้... 6.5/10 จะโดนทาสแมวแหกไหมเนี่ยยย?? (SPOIL - SPOIL - SPOIL) !!!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้” เป็นหนังที่สอนชีวิตที่ดีเรื่องนึง ไล่ไปตั้งแต่ ความผูกพันระหว่างเพื่อน คนรัก จนถึงความงดงามของครอบครัว...

โดยใช้บางสิ่งเชื่อมโยงไปหาความสัมพันธ์เหล่านั้น

1. ให้โทรศัพท์หายไปจากโลกนี้

จุดเริ่มต้นของความรักระหว่างนางเอกกับพระเอก ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นการยัดเยียดเกินไป โทรผิด...แล้วคุยกันเรื่องหนัง...เรียนที่เดียวกันอีก... สุดท้ายก็คบกัน โทรศัพท์เป็นวัตถุที่คิดว่ามันน่าจะมีลูกเล่นมากกว่านี้ เหมือนที่หนังจะสื่อว่าถ้าได้ใช้โทรศัพท์ครั้งสุดท้าย คุณจะโทรหาใคร แต่ก็พาไปอีกทาง... ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าพระเอกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีโทรศัพท์... ดูเหมือนเป็นคนที่ไม่ได้ติดต่อใครอยู่แล้ว

2. ให้หนังทุกเรื่องหายไปจากโลกนี้

นี่คือทำร้ายจิตใจคนชอบดูหนังมาก เราจะอยู่ได้อย่างไรถ้าโลกนี้ไม่มีหนัง แต่ก็นั่นแหละ ยัดเยียดเช่นเคย ใส่คาแร๊คเตอร์ของคนบ้าหนัง หาหนังให้พระเอกดูทุกวัน แค่บอกว่าพระเอกชอบดูหนัง บอกตรงๆว่าไม่เชื่อเลยว่าพระเอกเป็นคนชอบดูหนังขนาดนั้นถ้าไม่บอก

3. ให้นาฬิกาหายไปจากโลกนี้

ชอบตรงนี้มากกกกก มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ยึดติดกับเวลา ต้องคอยมองนาฬิกาตลอดเวลา ให้เวลาเป็นตัวกำหนดชีวิต แล้วพ่อพระเอกก็เป็นชั่งทำนาฬิกา ตอนเปิดเรื่องบอกตรงๆว่าไม่รู้เลยว่านี่คือพ่อ... นึกว่าเป็นแค่ช่างทั่วไปซ่อมนาฬิกาให้แม่พระเอก... เชื่อมไปถึงตอนที่พระนางไปเที่ยวอาร์เจนติน่าด้วยกัน จนถึงการสูญเสียบุคคลที่ทำทุกอย่างเพื่อชีวิตตัวเอง ท่องเที่ยวรอบโลก ทำทุกอย่างดั่งเช่นใช้ชีวิตทุกวันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็นั่นแหละ ไม่ชอบที่นางเอกตะโกนบอกว่า... ฉันจะใช้ชีวิตให้เต็มที่ที่สุด เก็บทุกอย่างมาตะโกนที่หน้าน้ำตก หน้าโลเคชั่นสวยๆ ที่คิดว่ามันน่าจะมีอะไรพิเศษกว่านี้เพราะมันสวยมาก... สุดท้ายก็เลิกกัน แต่ก็ยังเห็นนางเอกทำงานเหมือนเดิม ไม่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่เท่าไหร่... สงสัยเหมือนพระเอกว่า เอ๊ะ เราเลิกกันทำไม?

4. ให้แมวหายไปจากโลกนี้

ชอบประเด็นครอบครัวมากกกก คนที่อยากเลี้ยงแมวคือพระเอก แต่คนที่ผูกพันกับแมวที่สุดคือแม่ พอแมวตาย ก็หาแมวตัวใหม่ มันใช่หรอ? ในฐานะคนเลี้ยงแมวเหมือนกัน ถ้ามันตายจากเราไปจริงๆ มันคงเป็นเรื่องที่โคตรเศร้า แต่ยังไงก็คงไม่ไปหาตัวใหม่มาเลี้ยงอย่างแน่นอน เพราะคงทำใจไม่ได้ถ้าต้องสูญเสียมันไปอีกครั้ง ชั่งมันๆมองข้ามไปๆๆ ซึ้งจนน้ำตาเกือบไหล ช่วงเวลาที่ครอบครัวนี้กำลังสูญเสียผู้เป็นแม่ ทำออกมาได้อย่างอบอุ่นมากกกกก

ส่วนตัวไม่ชอบจริตของหนังเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่บิ้วอารมณ์แบบบังคับ(ยกเว้นบางเพลงประกอบที่เอามาจากหนังเก่าๆ ที่มีสเน่ห์มาก ถ้าคอหนังจริงๆจะรู้เลย) การแสดงที่บางครั้งมันโอเวอร์แอคติ้งมาก การเรียบเรียงเรื่องที่ดูค่อนข้างสะเปะสะปะ เหตุผลรองรับของตัวละครดูชี้ทางให้คนดูรู้สึกตามแบบบังคับ ทุกอย่างเหมือนถูกจับวางไว้แล้ว

ชอบตรงที่ถามคนเป็นแม่ว่า... แม่เคยอยากทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างไหม? แม่มีความฝันบ้างไหม? บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าการที่ผมเกิดมา แม่ได้ทำตามความฝันตัวเองหรือยัง?

ชอบตรงที่ในการสื่อให้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ที่เราเกิดมาโดยที่ไม่รู้ว่า มันจะมีชาติหน้าไหม เลือกทำในชาตินี้ให้ดีที่สุด ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองมีความสุขที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ชอบตรงที่เรายอมแลกทุกอย่างที่มันเคยทำให้เรามีความสุข เพื่อให้เราได้มีชีวิตเพิ่มอีก 1 วัน สุดท้ายมันก็เหมือนตายทั้งเป็น สุดท้ายก็อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ชอบตรงที่ว่า ภายใต้ความไม่สมบูรณ์แบบ(เช่นภาพถ่ายที่เบลอ) มันมีเหตุผลที่กินใจเสมอ มีความหมายที่งดงามที่สะกิดจิตใจ แม้ว่าภายนอกจะไม่สวยงามก็ตาม

ความสำเร็จของหนังคือทำให้เราคิดว่า เราควรใช้ชีวิตอย่างไร แล้วถ้าพรุ่งนี้เราจะตาย เราจะทำอะไรก่อนตาย ซึ่งเอาจริงๆในชีวิตนี้ก็ได้ยินคำนี้มาเยอะมาก หนังก็ดึงประเด็นนี้มาใช้โดยทำให้คนสงสัยว่าเอ๊ะเกี่ยวอะไรกับแมว

ปล. ขออภัยคนรักแมวจริงๆ ส่วนตัวผมชอบแมวเหมือนกันแต่บอกตรงๆว่าแมวในเรื่องมันไม่ได้น่ารักขนาดนั้น หนังใช้แมวเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้พระเอกคิดถึงแม่

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ได้ทาง https://www.facebook.com/filmotion.rp/