ขอเชียร์ คุณเรืองไกร สักวัน..กรณีที่เตรียมร้องนายกฯ ให้ยกเลิกสิทธิพิเศษ อผศ.รับงาน หลังพบปัญหาเพียบ..!

.
ไมใช่เพียบธรรมดา แต่เพียบแปล้เลยครับ..สำหรับ อผศ. หรือ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก..ที่พณฯทั่น รมต.กลาโหม เป็นประธานฯนั่นแหละครับ

วันนี้ใครจะว่าอย่างไร ก็ขอเขียร์คุณ “เรืองไกร” สักกะวันล่ะครับ เพราะแกจะร้องเรียนนายกฯให้พิจารณายกเลิกระบบผูกขาดว่าด้วยเรื่องการขุดลอกคลองคู พัฒนาแหล่งน้ำ ของ อผศ. ซะที…..

เท่าที่ติดตามข่าวมา ก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดน่ะครับ  เพราะการที่รัฐบาลไปเพิ่มสิทธิพิเศษให้ อผศ.รับจ้างพัฒนา หรือก่อสร้างปรับปรุงแหล่งน้ำ แบบว่า ถ้าหน่วยงานไหนจะขุดลอกคลองก็ให้ใช้บริการขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกนั้น ผลลัพธ์มันออกมาอย่างไร

อย่าลืมน่ะครับงบประมาณ ทุกบาททุกสตางค์เนี่ยล้วนมาจากภาษีอากรของประชาชน รัฐบาลมีหน้าที่ใช้ก็สมควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รัฐบาลจะจ้างใคร จ้างทำอะไรนั้นก็ควรต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญในงานในสาขานั้นๆมิใช่หรือครับ เช่นต้องการทำถนนเข้าทำเนียบฯ แต่ดันไปจ้าง คนขายถั่วมาออกแบบถนน เอาคนขับรถเมล์ ปอ 8 มาสร้าง..แล้วมันจะได้เรื่อง ได้งานหรือครับ ?????

อย่างนี้เขาเรียกว่าใช้คน ไม่ถูกกับงาน...

แต่ถ้าหากมองในแง่ความเห็นอกเห็นใจในองค์กรที่ว่า การให้สิทธิพเศษในการจ้างงานจากหน่วยงานรัฐเรื่อง จ้างรักษาความปลอดภัย นั่นก็พอเข้าใจ และรับได้ เพราะทหารมีพื้นฐานด้านนี้พอสมควร

แต่นี่อะไรครับ ทำไมหน่วยงานรัฐทั้งหลายแหล่จำเป็นต้องมาจ้างหน่วยงาน อผศ. หน่วยงานเดียวด้วยล่ะครับ

คำถามที่ตามมาก็คือ

อผศ. มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญด้านการขุดลอกคลองคู เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำมากกว่าคนในพื้นที่ ผู้รับเหมาในพื้นที่ ทั้งรายเล็ก รายน้อยจริงล่ะหรือ

อผศ. มีบุคลากร มีเครื่องไม้เครื่องมือมากพอที่จะรับผิดชอบภารกิจดังกล่าวได้ทั่วประเทศจริงล่ะหรือ เพราะห้ามไม่ให้มีการจ้างเหมาช่วงด้วย

และ สุดท้ายจะแน่ใจได้อย่างไร ว่า อผศ. ให้ราคาที่ค่าขุดคลองคู เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำดังกล่าวนั้น ต่ำสุด หรือต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับราคากลาง แม้กระทั่งราคาของผู้รับเหมารายอื่นๆ ???????


ตามข่าว เฉพาะ 2 กระทรวงที่ จ้าง อผศ.ดำเนินการอันได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงมหาดไทย ที่มีบิ๊กทหารเป็นรัฐมนตรีเนี่ย ก็กวาดไป 800 กว่าโครงการ คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 3,000 กว่าล้านบาทเข้าไปแล้ว

แล้วผลงานออกมาอย่างไร ก็ขอเชิญดูได้จากที่คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เขาแถลงออกมาก็แล้วกันครับ

ทำงานไม่เสร็จ ไม่ทันตามสัญญา ก็ต้องโดนปรับ แล้วค่าปรับน่ะ เงินใคร จะเอามาจากไหนกันล่ะครับ

จะมาบอกว่าอัฐยาย ซื้อขนมยายก็ใช่ที่น่ะครับ เพราะถ้างานล่าไม่เสร็จ ความเดือดร้อนก็ตกอยู่กับประชาชนอยู่ดีแหละครับ

จริงเท็จประการใด ถ้าไม่มีการหมกเม็ดหรือ บังคดี..งานนี้ใครควรจะรับผิดชอบล่ะครับทั่น

.......................................................................................................................................

“เรืองไกร” เตรียมร้อง นายกฯ ให้ระงับ ยกเลิกสิทธิพิเศษ อผศ.รับงาน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบกรณีองค์การทหารผ่านศึก(อผศ.) ได้รับสิทธิพิเศษจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ในการรับขุดลอกคูคลองโดยวิธีกรณีพิเศษ แต่มีเงื่อนไขว่า อผศ. จะต้องทำงานเองจะนำไปจ้างช่วงไม่ได้

แต่จากการติดตามการทำงานและลงพื้นที่งานจริง ได้พบข้อมูลที่น่าเชื่อว่า อผศ. ไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับสิทธิพิเศษ และมีงานที่ทำไม่เสร็จตามสัญญาจำนวนมาก อีกทั้งไม่มีเครื่องมือ-เครื่องจักรที่เพียงพอ ซึ่งงานที่ทำไม่เสร็จจะทำให้ อผศ. ต้องเสียค่าปรับตามมาด้วย

เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่จริงมาตรวจสอบกับข้อมูลการตรวจสอบของราชการ ก็พบว่า สำนักงานตรวจสอบภายใน ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็มีการออกรายงานเมื่อ เมษายน 2559 โดยระบุในส่วนงานของ อผศ. ว่า ทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ซึ่งระบุว่า งานที่ อผศ. รับไปจากโครงการเงินกู้ มีจำนวน 759.7999 ล้านบาท สัญญาสิ้นสุดตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่ทำงานไม่เสร็จตามสัญญาและมีการเบิกเงินไปเพียง 290.2092 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38.20 เท่านั้น

และยังมีเอกสารราชการของกระทรวงการคลังและกรมชลประทานที่ระบุว่า การจ้าง อผศ. โดยวิธีกรณีพิเศษนั้น ไม่สามารถจ่ายเงินล่วงหน้าตามสัญญาได้ทั้งแบบ 15% หรือ 50% และต้องเรียกหลักประกันสัญญาจาก อผศ. ด้วย นอกจากนี้ กรณีที่ กทม. จ้าง อผศ. ขุดลอกนั้น อาจมีปัญหาว่า ไม่สามารถทำได้โดยวิธีกรณีพิเศษ เนื่องจากติดขัดที่ข้อบัญญัติของ กทม. เรื่องการพัสดุ พ.ศ. 2538 อีกด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อนำข้อมูลที่ตรวจพบจากการลงพื้นที่จริงมาพิจารณาประกอบกับรายงานของกระทรวงเกษตรฯ โดยไปตรวจสอบข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ยังพบข้อมูลเพิ่มเติมที่สุ่มตรวจได้อีกจำนวนมากที่ อผศ. รับงานโดยวิธีกรณีพิเศษจากหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ คือ กรมชลประทาน รวม 180 โครงการ 1,239,352,940.28 บาท ปภ. รวม 657 โครงการ 1,855,666,120.88 บาท ฯลฯ ซึ่งรวมแล้ว 851 โครงการ มูลค่า 3,138,921,700.16 บาท

อย่างไรก็ตาม ตนจะไปยื่นร้องเรียนเครื่องดังกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 9.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลสั่งระงับยกเลิก เร่งตรวจสอบ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

http://www.matichon.co.th/news/152565

……………………………………………………………………

ก่อนจบขอเรียนย้ำน่ะครับว่า เงินที่ท่านเอาไปใช้ในกิจการต่างๆของรัฐ นั่นคือ เงินที่มาจากภาษีอากรของคนทั้งประเทศ

ที่ผมพูดมานี้ ไม่ใช่รังเกียจทหารหรอกน่ะครับ แต่อยากจะบอกว่าทหารไม่ได้ทำอะไรได้ดีไปหมดซะทุกอย่าง

อะไรทำได้ก็ทำ ทำไม่ไหวก็อย่าไปฝืน เดี่ยวจะกลายไปซ้ำกับประวัติศาสตร์ในอดีตที่ว่า

“ ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ” ถ้าเปลี่ยนจากคำว่า ตำรวจ เป็น ทหาร ก็คงจะแย่เลย...

หรือว่าทั่นเห็นเป็นประการใด..?




Bee Gees - I Started A Joke (Live-HQ)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่