โสมมิกา และ ชยากร เคยอยู่ในตำแหน่งคู่ตุนาหงันกันมาก่อน ก่อนที่โสมมิกาจะตัดสินใจทำให้สิ่งที่ชยากรให้อภัยไม่ได้ต่อผู้หญิงที่เขาหลงใหลและหวงแหนมากที่สุด .... หลานสาวคนสวยนามอนุศนิยา อันที่จริงแล้วการกระทำของโสมมิกานั้นไม่ได้ต่างอะไรกับการกระทำของเด็กผู้หญิงที่เอาแต่ใจ big girl คนหนึ่งที่ภายในคือเด็กหญิงไม่รู้จักโต ไม่รู้ว่าการกระทำของตนเองจะส่งผลอะไรอย่างไร จารีต กฎหมาย ศีลธรรม ไม่กระทบอะไรกับความคิดและชีวิตของเธอ เพราะตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนกระทั่งถึงวันที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว วัยที่ควรจะรู้ผิดชอบชั่วดี มีวุฒิภาวะ และ รับผิดชอบตัวเองได้ เธอกลับไม่มีเพราะเมื่อเธอต้องการเธอก็จะได้ ไม่มีใครสอนสั่ง ไม่มีใครบอกกล่าว ไม่มีใครเอ่ยถึงคุณค่าและวิธีการได้มาอย่างที่ถูกที่ควรที่วิญญูชนในสังคมปกติควรปฏิบัติมันคืออะไร โสมมิกาจึงใช้ชีวิตอย่างไม่ยั้งทั้งกายและใจ อะไรที่เธออยากได้ก็ต้องได้ ไม่ว่าจะทางไหน เมื่อเบื่อเมื่อหน่ายก็โยนทิ้งไป เมื่อโกรธเมื่อแค้นก็เอาคืนระบายออก ไม่สนใจไม่ใส่ใจ และ ไม่เข้าใจผลที่ตามมา และ ถึงจะเข้าใจก็เข้าใจอะไรที่มันผิด ๆ ว่าภายใต้บารมีของผู้เป็นพ่อ เธอก็จะหนีรอดไปได้ทุกครั้ง
ความผิดของเธอในวันนั้นคือการแนะนำให้ไฮโซเซเลปเจ้าของโรงแรม
จัดการรวบหัวรวบหางศัตรูคู่อาฆาตอย่างอนุศนิยาเสีย
โดยที่เธอไม่ได้คิดว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่เมื่อมันเลยเถิดไปถึงขั้น
ที่ผู้หญิงคนนั้นหายไปในเกลียวคลื่นแห่งท้องทะเล
ยุติธรรมแล้วหรือ ? ถึงใคร ๆ จะมองว่าเธอเป็นเซเลปที่เหลวแหลกและตื้นเขิน หากสัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงของเธอนั้นเฉียบคม ชยากร ... คู่หมั้นหมายของเธอจะต้องคิดอะไรกับอนุศนิยาคู่แค้นของเธอมากกว่าหลานสาวในไส้ เธอเองมิใช่คนลงมือทำเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำ นายคนนั้นต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างเลยเถิด จริง ๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในข้ออ้างที่เขาตีตัวออกห่างเธอได้อย่างสบายใจเท่านั้นสินะ มันใช่แล้วหรือที่ผู้หญิงอย่างโสมมิกามีค่าเป็นแค่ฉากบังหน้าปกป้องภาพลักษณ์และจรรยาศีลธรรมอันดีของผู้ชายคนหนึ่ง และ ที่สำคัญเพราะอะไรเธอถึงต้องแพ้ผู้หญิงคนนั้นตลอดมาไม่ว่าจะเรื่องอะไร
โสมมิกา ชื่อนี้มีความหมายว่า ผู้มีรัศมีแห่งจันทร์ ราชินีแห่งฟากฟ้า
แล้วเธอต้องพ่ายแพ้อนุศนิยา .... อนุส คือความระลึกถึง นิยา หมายถึง เหลือคณานับ
ราชินีเช่นเธอต้านทานความระลึกถึงและเสน่หาที่ชยากรมีต่อหลานสาวไม่ได้ ....
โลกแห่งความบ้าคลั่งของโสมมิกาก่อตัวขึ้นในคราวนั้นนั่นเอง
ชยากร ประกอบด้วยคำว่า ชยะ และ อากร บ่อเกิดแห่งชัยชนะ แต่อะไรหรือคือชัยชนะสำหรับชยากร เด็กผู้ชายที่ถูกตราหน้าว่าลูกเมียรอง แม้จะมีกินมีใช้ ได้รับความรักจากแม่และพี่ชาย แต่มันก็ไม่เพียงพอ สภาวะ "ไร้ตัวตน" ทำให้เขาต้องการการยอมรับอย่างยิ่งยวดและมากมายกว่าใครอื่น แถมยังเกิดความรักที่ผิดศีลธรรมแรงกล้า ความรักที่มีต่อหลานสาวอย่างอนุศนิยา การศึกษาสูงส่งหน้าที่การงานอันดีงาม และ แฟนสาวไฮโซที่ทั้งสวยสะและร่ำรวย ความสมบูรณ์พร้อมเหล่านี้ก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่เขาเพียรพยายามสร้างไว้เพื่อปกปิดความบ้าคลั่งในใจ โลกแห่งความบ้าคลั่งที่รุนแรงไม่น้อยกว่าโลกของโสมมิกา เมื่อทุกคนรู้ทุกคนเห็นความในใจ เขารู้ว่ามันผิดเขาจึงอับอาย เขาเห็นสายตาทุกสายตาแสดงความผิดหวังและประณามหยามหมิ่น
เมื่อโลกแห่งความเป็นจริงมันน่าผิดหวังเหลือแสน และ ดูเหมือนจะไม่มีทีใดเหลือไว้ให้
ทั้งโสมมิกา และ ชยากร จึงสร้างโลกใบใหม่ โลกสมมติที่ "คิด" เข้าข้างตัวเองตามใจ
Mad World ที่มีอคติเข้ามาบังตา
โสมมิกานำโลกแห่งความบ้าคลั่งห่อหุ้มหมอศตวรรษไว้ เธออาจถูกใจเขาตั้งแต่เริ่มแรก หากเธอไม่รู้หรอกว่า "ความรัก" คืออะไร จิตใจของเธอจดจ่อผิวเผินอยู่ที่ความปรารถนาและการครอบครอง เธอไม่สนเสียด้วยซ้ำว่าหมอศตวรรษจะรู้สึกอย่างไร พื้นฐานของโสมมิกาไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น เธอเพียงแค่ฝันถึงการได้เข้าครอบครองชายหนุ่มที่ใคร ๆ ว่าดีแสนดี ชายหนุ่มที่เป็น "สมบัติ" ของอนุศนิยาคู่แค้นคู่อาฆาต หากเมื่อใกล้ชิดผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนขนาดนั้นต่างจากใคร ๆ ที่เธอเจอมา โสมมิกาจึงนึกว่านี่แล้วคือการที่ "หมอ" มีจิตปฏิพัทธ์ต่อเธอ หัวใจของเธอจึงเริ่มปรุงแต่งว่าเขารักเธอ โสมมิกาไม่เคยถูกสอนสั่ง มนุษย์ที่ดีมีมารยาทควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร หมอที่อย่างน้อยได้รับการอบรมขัดเกลามาตั้งแต่ต้นมือ ทำให้เธอทึ่ง และ เข้าใจเป็นอื่นไปได้โดยง่าย ท้ายที่สุดจิตที่ปรุงแต่งว่า "เขารักฉัน" กลายเป็นความคุ้มคลั่งแรงกล้า เมื่อผิดหวังซ้ำซากขึ้นมา สิ่งที่เหลือในตัวโสมมิกาจึงได้แก่ความต้องการที่จะมีชัยชนะเหนืออนุศนิยาเพียงประการเดียว
เธออาจคิดว่านั่นคือความรักแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่
มันคือโลกแห่งความบ้าคลั่งที่เกาะกินหัวใจ
จากความร้าวราน ความผิดหวัง ความแพ้พ่าย
ที่กลายเป็นการทำอะไรก็ได้เพื่อเอาคืน
หากเปรียบความบ้าคลั่งของโสมมิกาคือเกลียวคลื่นสึนามิในทะเล ค่าที่มันถาโถมรุนแรง มองเห็นและจับต้องได้ เกลียวคลื่นของชยากรคงเปรียบได้ดังคลื่นใต้น้ำ เขาเกลียดหมอศตวรรษใคร ๆ ก็รู้ แต่ด้วยอาชีพการงานเกียรติและหน้าตาที่ต้องรักษา ความชังจึงเหมือนผิวน้ำที่กระเพื่อมเล็กน้อยพอให้เห็นสัญญาณ ไม่มีใครนึก ไม่มีใครคิด ใต้ผิวน้ำนิ่งจะมีสายธารที่ไหลลึกไหลเชี่ยวกรากวนเวียนอยู่ รอวันที่จะสร้างรอยแผลและรอยร้าว ทั้งยังใจร้ายพอที่จะสร้างความหวังชิ้นใหญ่ให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะเครื่องมือที่จะใช้ตัดใจจากหลานสาว แต่เป็นเครื่องมือ "บังหน้า" ให้อนุศนิยา และ ผู้เป็นพี่ชายคลายใจ ไม่ระแวงสงสัย ไม่ได้สนใจใส่ใจเลยแม้แต่น้อย .... ว่ามิรันตี ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะรู้สึกเช่นไร
และบัดนี้ความบ้าคลั่งของโสมมิกาเริ่มส่งผลต่อชีวิตคู่ที่เปราะบางของศตวรรษและอนุศนิยา
โดยมีคลื่นใต้น้ำอย่างชยากรที่มีแก่ในจะรอซ้ำอยู่เสมอ
นี่หรือคือ "ความรัก" ที่คนทั้งคู่นิยาม
ไม่ใช่หรอกกระมัง .... นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "โลกบ้าคลั่ง ต่างหาก"
"Mad World"
เพียงชายฯ (กึ่งรีวิว) : โสมมิกา - ชยากร ..... World of Madness
จัดการรวบหัวรวบหางศัตรูคู่อาฆาตอย่างอนุศนิยาเสีย
โดยที่เธอไม่ได้คิดว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่เมื่อมันเลยเถิดไปถึงขั้น
ที่ผู้หญิงคนนั้นหายไปในเกลียวคลื่นแห่งท้องทะเล
ยุติธรรมแล้วหรือ ? ถึงใคร ๆ จะมองว่าเธอเป็นเซเลปที่เหลวแหลกและตื้นเขิน หากสัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงของเธอนั้นเฉียบคม ชยากร ... คู่หมั้นหมายของเธอจะต้องคิดอะไรกับอนุศนิยาคู่แค้นของเธอมากกว่าหลานสาวในไส้ เธอเองมิใช่คนลงมือทำเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำ นายคนนั้นต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างเลยเถิด จริง ๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในข้ออ้างที่เขาตีตัวออกห่างเธอได้อย่างสบายใจเท่านั้นสินะ มันใช่แล้วหรือที่ผู้หญิงอย่างโสมมิกามีค่าเป็นแค่ฉากบังหน้าปกป้องภาพลักษณ์และจรรยาศีลธรรมอันดีของผู้ชายคนหนึ่ง และ ที่สำคัญเพราะอะไรเธอถึงต้องแพ้ผู้หญิงคนนั้นตลอดมาไม่ว่าจะเรื่องอะไร
แล้วเธอต้องพ่ายแพ้อนุศนิยา .... อนุส คือความระลึกถึง นิยา หมายถึง เหลือคณานับ
ราชินีเช่นเธอต้านทานความระลึกถึงและเสน่หาที่ชยากรมีต่อหลานสาวไม่ได้ ....
โลกแห่งความบ้าคลั่งของโสมมิกาก่อตัวขึ้นในคราวนั้นนั่นเอง
ชยากร ประกอบด้วยคำว่า ชยะ และ อากร บ่อเกิดแห่งชัยชนะ แต่อะไรหรือคือชัยชนะสำหรับชยากร เด็กผู้ชายที่ถูกตราหน้าว่าลูกเมียรอง แม้จะมีกินมีใช้ ได้รับความรักจากแม่และพี่ชาย แต่มันก็ไม่เพียงพอ สภาวะ "ไร้ตัวตน" ทำให้เขาต้องการการยอมรับอย่างยิ่งยวดและมากมายกว่าใครอื่น แถมยังเกิดความรักที่ผิดศีลธรรมแรงกล้า ความรักที่มีต่อหลานสาวอย่างอนุศนิยา การศึกษาสูงส่งหน้าที่การงานอันดีงาม และ แฟนสาวไฮโซที่ทั้งสวยสะและร่ำรวย ความสมบูรณ์พร้อมเหล่านี้ก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่เขาเพียรพยายามสร้างไว้เพื่อปกปิดความบ้าคลั่งในใจ โลกแห่งความบ้าคลั่งที่รุนแรงไม่น้อยกว่าโลกของโสมมิกา เมื่อทุกคนรู้ทุกคนเห็นความในใจ เขารู้ว่ามันผิดเขาจึงอับอาย เขาเห็นสายตาทุกสายตาแสดงความผิดหวังและประณามหยามหมิ่น
ทั้งโสมมิกา และ ชยากร จึงสร้างโลกใบใหม่ โลกสมมติที่ "คิด" เข้าข้างตัวเองตามใจ
Mad World ที่มีอคติเข้ามาบังตา
โสมมิกานำโลกแห่งความบ้าคลั่งห่อหุ้มหมอศตวรรษไว้ เธออาจถูกใจเขาตั้งแต่เริ่มแรก หากเธอไม่รู้หรอกว่า "ความรัก" คืออะไร จิตใจของเธอจดจ่อผิวเผินอยู่ที่ความปรารถนาและการครอบครอง เธอไม่สนเสียด้วยซ้ำว่าหมอศตวรรษจะรู้สึกอย่างไร พื้นฐานของโสมมิกาไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น เธอเพียงแค่ฝันถึงการได้เข้าครอบครองชายหนุ่มที่ใคร ๆ ว่าดีแสนดี ชายหนุ่มที่เป็น "สมบัติ" ของอนุศนิยาคู่แค้นคู่อาฆาต หากเมื่อใกล้ชิดผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษและอ่อนโยนขนาดนั้นต่างจากใคร ๆ ที่เธอเจอมา โสมมิกาจึงนึกว่านี่แล้วคือการที่ "หมอ" มีจิตปฏิพัทธ์ต่อเธอ หัวใจของเธอจึงเริ่มปรุงแต่งว่าเขารักเธอ โสมมิกาไม่เคยถูกสอนสั่ง มนุษย์ที่ดีมีมารยาทควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร หมอที่อย่างน้อยได้รับการอบรมขัดเกลามาตั้งแต่ต้นมือ ทำให้เธอทึ่ง และ เข้าใจเป็นอื่นไปได้โดยง่าย ท้ายที่สุดจิตที่ปรุงแต่งว่า "เขารักฉัน" กลายเป็นความคุ้มคลั่งแรงกล้า เมื่อผิดหวังซ้ำซากขึ้นมา สิ่งที่เหลือในตัวโสมมิกาจึงได้แก่ความต้องการที่จะมีชัยชนะเหนืออนุศนิยาเพียงประการเดียว
มันคือโลกแห่งความบ้าคลั่งที่เกาะกินหัวใจ
จากความร้าวราน ความผิดหวัง ความแพ้พ่าย
ที่กลายเป็นการทำอะไรก็ได้เพื่อเอาคืน
หากเปรียบความบ้าคลั่งของโสมมิกาคือเกลียวคลื่นสึนามิในทะเล ค่าที่มันถาโถมรุนแรง มองเห็นและจับต้องได้ เกลียวคลื่นของชยากรคงเปรียบได้ดังคลื่นใต้น้ำ เขาเกลียดหมอศตวรรษใคร ๆ ก็รู้ แต่ด้วยอาชีพการงานเกียรติและหน้าตาที่ต้องรักษา ความชังจึงเหมือนผิวน้ำที่กระเพื่อมเล็กน้อยพอให้เห็นสัญญาณ ไม่มีใครนึก ไม่มีใครคิด ใต้ผิวน้ำนิ่งจะมีสายธารที่ไหลลึกไหลเชี่ยวกรากวนเวียนอยู่ รอวันที่จะสร้างรอยแผลและรอยร้าว ทั้งยังใจร้ายพอที่จะสร้างความหวังชิ้นใหญ่ให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะเครื่องมือที่จะใช้ตัดใจจากหลานสาว แต่เป็นเครื่องมือ "บังหน้า" ให้อนุศนิยา และ ผู้เป็นพี่ชายคลายใจ ไม่ระแวงสงสัย ไม่ได้สนใจใส่ใจเลยแม้แต่น้อย .... ว่ามิรันตี ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะรู้สึกเช่นไร
โดยมีคลื่นใต้น้ำอย่างชยากรที่มีแก่ในจะรอซ้ำอยู่เสมอ
นี่หรือคือ "ความรัก" ที่คนทั้งคู่นิยาม
ไม่ใช่หรอกกระมัง .... นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "โลกบ้าคลั่ง ต่างหาก"
"Mad World"