ในค่ำคืนอันสงบเงียบ ท้องฟ้ามืดราวป้ายด้วยน้ำหมึก ตัดกับแสงพร่างพรายใต้ท้องน้ำที่เขากำลังมองดูอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตที่สามารถก้าวไปได้อย่างอิสระอย่างที่ฝันใฝ่แท้ที่จริงแล้วเป็นสุขเช่นนี้ หมอศตวรรษคิดว่าตัวเขานั้นได้เติมเต็มแล้ว ในความมืดยังมีแสงสว่างวิบวับใต้ผิวน้ำ สิ่งมีชีวิตน้อย ๆ เหล่านั้นส่องประกายเมื่อน้ำทะเลลอดผ่านอุ้งมือของเขาไป อุ้งมือที่รับผิดชอบงานน้อยใหญ่ทั้งในโรงพยาบาลในฐานะอาจารย์แพทย์ และ ทั้งฐานะหมอบนเกาะแก่งที่ยังห่างไกลความเจริญ สิ่งเหล่านี้ที่เขาได้อุทิศชีวิตให้และไม่คิดว่าจะมีใครที่ไหนมาร่วมแบ่งปัน ความสมบูรณ์และสมดุลเกิดขึ้นแล้ว ณ ที่นี้ ศตวรรษมีความคิดเช่นนั้น และ แน่ใจเสมอมา
จนกระทั่ง ... พรายน้ำสาวได้ปรากฎตัว
อนุศนิยา คือ สาวนักธุรกิจรุ่นใหม่ เธอรวดเร็วเฉียบคม และ เด็ดขาด สมกับที่ได้รับความไว้วางใจให้กุมเครือข่ายธุรกิจของตระกูล วัยสาวกับรูปโฉมงดงาม และ ทรัพย์ศฤงคารที่พรั่งพร้อม ดึงดูดใครต่อใครเข้ามาใกล้ได้มากมาย หากความคิดในลักษณะ business-like วิธีการวางตัวเหมือนสงวนนวลอยู่บนหอคอยงาช้าง และ คุณอา ... ที่ดูแล้วใกล้ชิดคุณหลานเสียเหลือเกิน นั่นล้วนเป็นสิ่งที่กันบุรุษทั้งหลายให้ไกลห่าง หากเธอเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อสิ่งที่จัดลำดับไว้สูงสุดคือเรื่องงาน และ เรื่องเงิน เมื่อคนที่สำคัญที่สุดอย่างพ่อ ยังไม่กดดันเธอ ชยากร .... อากึ่งพี่กึ่งเพื่อนก็เห็นด้วยกับเธอ แล้วมีสิ่งใดที่เธอจะต้องแคร์
แต่วันนั้นกลับมาถึงรวดเร็วจนเกินจะตั้งตัวรับทัน
เธอไม่เคยคิดว่า "ผู้ชาย และ การแต่งงาน" จะเริ่มต้นเช่นนี้ เริ่มด้วยความชัง เริ่มต้นการขายศักดิ์ศรีและตัวตนเพื่อแลกกับเงิน เช่นเดียวกับศตวรรษ ... เขาเองก็ไม่คิดว่า "ชีวิตครอบครัว" ที่อย่างน้อยมีภาพอบอุ่นของวัยเยาว์อยู่ในใจจะต้องมาเริ่มต้นด้วยการดูหมิ่นถินแคลน ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นดับสลายหายวับไปกับตา ไม่รู้จะทำอย่างไรได้เมื่อเธอก็ถูกบีบด้วยความรู้สึกต้องห้ามตามศีลธรรมจรรยาของ "ญาติ" ที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุด เธอทั้งเสียใจทั้งพิพักพิพ่วนกับสิ่งที่อาชยารู้สึกกับเธอ จึงจำต้องก้าวเข้าสู่หนทางนี้เพื่อกู้หน้า เพื่อเว้นที่ว่างให้เขาได้ห่างออกไป เพื่อความสบายของพ่อคนที่เธอรักมากที่สุด ส่วนเขาถูกบีบด้วยหนี้ความกตัญญูที่พอกพูนขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล หากใครจะ "เชื่อ" ว่าเขาไม่รู้เห็น แล้วใครเล่าจะไม่ "คิด" ว่าการกระทำเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับ "ทาสขัดดอก" เมื่อสมัยโบราณกาลมา
เมื่อไม่รู้จะโทษอะไรหรือใครความชิงชังของเธอจึงพุ่งมาที่เขา ทั้งโขกสับ จิกกัด และ ทำร้าย
เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรได้ความชิงชังของเขาจึงกลายเป็นความขมขื่นที่ต้องกลืนเลือด ... เอาเถอะอย่างน้อยก็ไม่ตลอดไป
แต่แล้วในความชิงชังกลับมีบางสิ่งที่ผลิบานขึ้นในใจ ผู้หญิงคนนั้นถึงแม้จะคล่องแคล่วเด็ดขาดในงานที่ทำ หากข้างในก็ไม่ผิดอะไรกับเด็กผู้หญิงแก่นแก้วคนนึง เด็กผู้หญิงที่พาลพาโลโฉเกเมื่ออะไร ๆ ไม่ได้ดังใจ เด็กผู้หญิงที่เมื่อรู้ตัวว่าผิดก็อยากจะงอนง้อเอาใจแต่ก็ทำตัวไม่ถูก เด็กผู้หญิงที่มีหัวใจซื่อตรง ซื่อตรงจนกระทั่งยอมรับว่าตัวเองนั้นมีข้อบกพร่อง และ กลัวเหลือเกินว่าข้อบกพร่องนั้นจะกลายเป็นว่าเธอไม่ดีพอสำหรับเขา ทั้งที่เขาทำอะไรหลายอย่างให้เธอ แต่เธอกลับละเลยมันไม่เห็นค่ามันด้วยทิฐิโง่ ๆ ผู้ชายแสนดีแบบเขาจะตัดสินใจลงเอยกับเด็กเกเรอย่างเธอเช่นนั้นละหรือ ?
แต่แล้วในความขมขื่นกลับมีบางสิ่งงอกงามขึ้นในใจ ความอับอายและความเจ็บปวดในการถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีบรรเทาเบาบางลงไปนิด ๆ เมื่อเขาได้เรียนรู้ว่าเธอก็มีแง่มุมน่ารักบางประการ กระแสความเป็นห่วงเป็นใยการดูแลเอาใจใส่และไม่รังเกียจ การเรียนรู้ที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด พยายามปรับตัวเข้าหา ความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอกลับคืนมาและหยั่งรากลึกลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ มารู้ตัวอีกทีก็เกินที่จะถ่ายถอนออกเสียแล้ว หากความอับอายและเจ็บปวดกับพลุ่งพล่านขึ้นมาอีก .... ความขมขื่นกลับขึ้นมาเป็นเจ้าเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้ความขมเฝื่อนถูกปรุงแต่งให้เข้มข้นขึ้นด้วยอารมณ์น้อยใจเสียใจ ต่างจากคราวแรกที่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะเจ็บช้ำได้เพียงไรเมื่อสิ่งมีค่าที่สุดที่เก็บสงวนไว้ให้ถูกตีตราไว้แค่เพียง "ราคา"
ใช่ ... เขาเปลี่ยนไปแล้ว
เริ่มต้นมันอาจเป็นเพียงความเสียดายความรู้สึกดี ๆ
ถัดมามันเป็นแค่ความขมขื่นของชีวิตเพียง 3 ปี
หากท้ายที่สุดเมื่อเขาเดินจากมา
เขากลับรู้สึกว่า "ทิ้ง" หัวใจตัวเองไว้ที่นั่น
ไม่ .... เขาจะต้องไม่หลุดลอยไป เธอทนไม่ได้
ความซื่อตรงส่วนหนึ่งในใจผลักดันเธอให้ติดตามเขาไป
ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร จะต้องพูดยังไง จะพูดได้ไหม
แต่บัดนี้หัวใจของเธอสลัดความชิงชังไปแล้ว
จำต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนไป
เธอรู้ ครั้งนี้ ... "เขา" พาหัวใจเธอติดไปด้วย
from Hate to Love
ดังนั้นเมื่อ "หัวใจ" มาบรรจบกับ "หัวใจ" มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปลี่ยนผ่านมาเป็นความรัก ทั้งคู่ต่างรู้จักกันเพราะความชัง และ ความชังนั่นเองที่ทำให้ความรักได้เติบโตและก่อตัว แล้วความสดใหม่รุนแรงของรักแรกนั้นเองที่นำพาความรักสู่แรงปรารถนา
from Love to Lust
แรงปรารถนาเหล่านี้หาใช่เรื่อง "บนเตียง" แต่เพียงอย่างเดียว หากมันคืออารมณ์ความรู้สึกแหนหวง และ อีกหลายอารมณ์ของคู่รักที่ปนเปกันไป เข้าใจได้ว่าเมื่อความรักที่เกิดขึ้นนั้นยังสดใหม่ มันจึงเร่าร้อนรุนแรง หากสิ่งที่เกิดใหม่ก็ย่อมอ่อนแอและเปราะบาง ถึงเขาจะพิสูจน์ให้เธอเห็นในหลายทางแม้กระทั่งยอมแลกชีวิต "เงิน" ยังเป็นสิ่งที่รบกวนใจ "มารยาสาไถ" ของผู้หญิงบ้าคนนั้นเธอเองก็ยังไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร ความปรารถนาที่เก็บกักอยู่ในส่วนลึก อารมณ์เจ็บปวดความเอาแต่ใจที่เพียรพยายามกั้นเอาไว้ เพื่อเป็นเจ้าหญิงที่น่ารักและมีเหตุผลอยู่เสมอ มันทำให้อนุศนิยาคลั่ง ความดีและวิชาชีพแพทย์ก็ทำให้หมอตกอยู่ระหว่าง dilemma เมื่อขีดขั้นของมนุษยธรรม และ ความมืดดำของมารยาหญิงหลอมรวมเข้าด้วยกัน
แต่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนต้องผ่านจุดนี้กันทั้งนั้นแหละนะ Love กับ Lust ก็เป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่มันจะไปด้วยกัน และ dilemma ที่เข้ามานั้นก็ไม่ต่างอะไรอุปสรรคในชีวิตที่จะต้องพบเจอ เขาว่ากันว่าการจะรู้จักใครคนใดคนหนึ่งอย่างจะร่วมหอลงโลงก็หมายความว่าต้องรู้จักทุกแง่มุมทุกสิ่งอย่าง อนุศนิยา และ ศตวรรษผ่านมาแล้วทั้ง hate love และ lust ความเกลียดที่มีต่อกัน ความรักที่มีต่อกัน แรงปราถนาของกันและกัน ทั้งอุปสรรคที่มีมาทดสอบและจะต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน
หลังจากขั้นตอนนั้น .... ก็คงจะเดินมาถึงขั้นสุดท้าย from Lust to Truth
แต่จะไปถึงหรือไม่ ?
ปัญหามันอยู่ที่ ... อุปสรรคเบอร์แรงชื่อ โสมิกา นี่แหละ
แด่ความรักที่ยังเยาว์อายุเหลือเกิน
You know you're not the only one.
ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่เจอเรื่องแบบนี้
เพียงชายฯ (กึ่งรีวิว) : อนุศนิยา - ศตวรรษ from Hate to Love ... from Love to Lust (ภาคต้น)
อนุศนิยา คือ สาวนักธุรกิจรุ่นใหม่ เธอรวดเร็วเฉียบคม และ เด็ดขาด สมกับที่ได้รับความไว้วางใจให้กุมเครือข่ายธุรกิจของตระกูล วัยสาวกับรูปโฉมงดงาม และ ทรัพย์ศฤงคารที่พรั่งพร้อม ดึงดูดใครต่อใครเข้ามาใกล้ได้มากมาย หากความคิดในลักษณะ business-like วิธีการวางตัวเหมือนสงวนนวลอยู่บนหอคอยงาช้าง และ คุณอา ... ที่ดูแล้วใกล้ชิดคุณหลานเสียเหลือเกิน นั่นล้วนเป็นสิ่งที่กันบุรุษทั้งหลายให้ไกลห่าง หากเธอเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อสิ่งที่จัดลำดับไว้สูงสุดคือเรื่องงาน และ เรื่องเงิน เมื่อคนที่สำคัญที่สุดอย่างพ่อ ยังไม่กดดันเธอ ชยากร .... อากึ่งพี่กึ่งเพื่อนก็เห็นด้วยกับเธอ แล้วมีสิ่งใดที่เธอจะต้องแคร์
เธอไม่เคยคิดว่า "ผู้ชาย และ การแต่งงาน" จะเริ่มต้นเช่นนี้ เริ่มด้วยความชัง เริ่มต้นการขายศักดิ์ศรีและตัวตนเพื่อแลกกับเงิน เช่นเดียวกับศตวรรษ ... เขาเองก็ไม่คิดว่า "ชีวิตครอบครัว" ที่อย่างน้อยมีภาพอบอุ่นของวัยเยาว์อยู่ในใจจะต้องมาเริ่มต้นด้วยการดูหมิ่นถินแคลน ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นดับสลายหายวับไปกับตา ไม่รู้จะทำอย่างไรได้เมื่อเธอก็ถูกบีบด้วยความรู้สึกต้องห้ามตามศีลธรรมจรรยาของ "ญาติ" ที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุด เธอทั้งเสียใจทั้งพิพักพิพ่วนกับสิ่งที่อาชยารู้สึกกับเธอ จึงจำต้องก้าวเข้าสู่หนทางนี้เพื่อกู้หน้า เพื่อเว้นที่ว่างให้เขาได้ห่างออกไป เพื่อความสบายของพ่อคนที่เธอรักมากที่สุด ส่วนเขาถูกบีบด้วยหนี้ความกตัญญูที่พอกพูนขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล หากใครจะ "เชื่อ" ว่าเขาไม่รู้เห็น แล้วใครเล่าจะไม่ "คิด" ว่าการกระทำเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับ "ทาสขัดดอก" เมื่อสมัยโบราณกาลมา
เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรได้ความชิงชังของเขาจึงกลายเป็นความขมขื่นที่ต้องกลืนเลือด ... เอาเถอะอย่างน้อยก็ไม่ตลอดไป
แต่แล้วในความชิงชังกลับมีบางสิ่งที่ผลิบานขึ้นในใจ ผู้หญิงคนนั้นถึงแม้จะคล่องแคล่วเด็ดขาดในงานที่ทำ หากข้างในก็ไม่ผิดอะไรกับเด็กผู้หญิงแก่นแก้วคนนึง เด็กผู้หญิงที่พาลพาโลโฉเกเมื่ออะไร ๆ ไม่ได้ดังใจ เด็กผู้หญิงที่เมื่อรู้ตัวว่าผิดก็อยากจะงอนง้อเอาใจแต่ก็ทำตัวไม่ถูก เด็กผู้หญิงที่มีหัวใจซื่อตรง ซื่อตรงจนกระทั่งยอมรับว่าตัวเองนั้นมีข้อบกพร่อง และ กลัวเหลือเกินว่าข้อบกพร่องนั้นจะกลายเป็นว่าเธอไม่ดีพอสำหรับเขา ทั้งที่เขาทำอะไรหลายอย่างให้เธอ แต่เธอกลับละเลยมันไม่เห็นค่ามันด้วยทิฐิโง่ ๆ ผู้ชายแสนดีแบบเขาจะตัดสินใจลงเอยกับเด็กเกเรอย่างเธอเช่นนั้นละหรือ ?
แต่แล้วในความขมขื่นกลับมีบางสิ่งงอกงามขึ้นในใจ ความอับอายและความเจ็บปวดในการถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีบรรเทาเบาบางลงไปนิด ๆ เมื่อเขาได้เรียนรู้ว่าเธอก็มีแง่มุมน่ารักบางประการ กระแสความเป็นห่วงเป็นใยการดูแลเอาใจใส่และไม่รังเกียจ การเรียนรู้ที่จะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด พยายามปรับตัวเข้าหา ความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอกลับคืนมาและหยั่งรากลึกลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ มารู้ตัวอีกทีก็เกินที่จะถ่ายถอนออกเสียแล้ว หากความอับอายและเจ็บปวดกับพลุ่งพล่านขึ้นมาอีก .... ความขมขื่นกลับขึ้นมาเป็นเจ้าเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้ความขมเฝื่อนถูกปรุงแต่งให้เข้มข้นขึ้นด้วยอารมณ์น้อยใจเสียใจ ต่างจากคราวแรกที่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะเจ็บช้ำได้เพียงไรเมื่อสิ่งมีค่าที่สุดที่เก็บสงวนไว้ให้ถูกตีตราไว้แค่เพียง "ราคา"
เริ่มต้นมันอาจเป็นเพียงความเสียดายความรู้สึกดี ๆ
ถัดมามันเป็นแค่ความขมขื่นของชีวิตเพียง 3 ปี
หากท้ายที่สุดเมื่อเขาเดินจากมา
เขากลับรู้สึกว่า "ทิ้ง" หัวใจตัวเองไว้ที่นั่น
ความซื่อตรงส่วนหนึ่งในใจผลักดันเธอให้ติดตามเขาไป
ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร จะต้องพูดยังไง จะพูดได้ไหม
แต่บัดนี้หัวใจของเธอสลัดความชิงชังไปแล้ว
จำต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนไป
เธอรู้ ครั้งนี้ ... "เขา" พาหัวใจเธอติดไปด้วย
ดังนั้นเมื่อ "หัวใจ" มาบรรจบกับ "หัวใจ" มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปลี่ยนผ่านมาเป็นความรัก ทั้งคู่ต่างรู้จักกันเพราะความชัง และ ความชังนั่นเองที่ทำให้ความรักได้เติบโตและก่อตัว แล้วความสดใหม่รุนแรงของรักแรกนั้นเองที่นำพาความรักสู่แรงปรารถนา
แรงปรารถนาเหล่านี้หาใช่เรื่อง "บนเตียง" แต่เพียงอย่างเดียว หากมันคืออารมณ์ความรู้สึกแหนหวง และ อีกหลายอารมณ์ของคู่รักที่ปนเปกันไป เข้าใจได้ว่าเมื่อความรักที่เกิดขึ้นนั้นยังสดใหม่ มันจึงเร่าร้อนรุนแรง หากสิ่งที่เกิดใหม่ก็ย่อมอ่อนแอและเปราะบาง ถึงเขาจะพิสูจน์ให้เธอเห็นในหลายทางแม้กระทั่งยอมแลกชีวิต "เงิน" ยังเป็นสิ่งที่รบกวนใจ "มารยาสาไถ" ของผู้หญิงบ้าคนนั้นเธอเองก็ยังไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร ความปรารถนาที่เก็บกักอยู่ในส่วนลึก อารมณ์เจ็บปวดความเอาแต่ใจที่เพียรพยายามกั้นเอาไว้ เพื่อเป็นเจ้าหญิงที่น่ารักและมีเหตุผลอยู่เสมอ มันทำให้อนุศนิยาคลั่ง ความดีและวิชาชีพแพทย์ก็ทำให้หมอตกอยู่ระหว่าง dilemma เมื่อขีดขั้นของมนุษยธรรม และ ความมืดดำของมารยาหญิงหลอมรวมเข้าด้วยกัน
แต่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนต้องผ่านจุดนี้กันทั้งนั้นแหละนะ Love กับ Lust ก็เป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่มันจะไปด้วยกัน และ dilemma ที่เข้ามานั้นก็ไม่ต่างอะไรอุปสรรคในชีวิตที่จะต้องพบเจอ เขาว่ากันว่าการจะรู้จักใครคนใดคนหนึ่งอย่างจะร่วมหอลงโลงก็หมายความว่าต้องรู้จักทุกแง่มุมทุกสิ่งอย่าง อนุศนิยา และ ศตวรรษผ่านมาแล้วทั้ง hate love และ lust ความเกลียดที่มีต่อกัน ความรักที่มีต่อกัน แรงปราถนาของกันและกัน ทั้งอุปสรรคที่มีมาทดสอบและจะต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน
แต่จะไปถึงหรือไม่ ?
ปัญหามันอยู่ที่ ... อุปสรรคเบอร์แรงชื่อ โสมิกา นี่แหละ
You know you're not the only one.
ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่เจอเรื่องแบบนี้