‪เรื่องสั้นจากประสบการณ์ ‎เทวดาเฝ้าพระประธาน เพราะติดกรรม‬

กระทู้สนทนา
อันยศลาภ หาบไป ไม่ได้แน่
มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ ฯ
เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
ใยมัวเมา โลภลาภ ทำบาปใหญ่
มามือเปล่า แล้วจะ เอาอะไร
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา ฯ
ควรเร่งสร้าง กรรมดี หนีกรรมชั่ว
ไม่พาตัว พาใจ ใฝ่ตัณหา
หมั่นเจริญศีล สมาธิ และปัญญา
จึงจะพา ให้พ้นทุกข์ สุขนิรันดร์ ฯ
กลอนของหลวงปู่มั่น ท่านได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน ถึงบาปบุญคุณโทษ ที่มีจริงอยู่บนโลก จะจริงจะเท็จประการใด ท่านทั้งหลายก็ลองพิจารณาดู โดยส่วนตัวของผู้เขียนมีความเชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่ผลของกรรมที่กระทำมา ในครั้งนี้ผมขอนำประสบการณที่ได้มีโอกาสได้ประสบพบเจอมา ขอนำเรื่องราวมาเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกัน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2559 ผมมีโอกาสได้เข้าไปร่วมช่วยในงาน วางศิลาฤกษ์ สร้างอาคารเอนกประสงค์ ณ วัด วัดหนึ่งในจังหวัดสระบุรี การเตรียมงานก็เป็นไปอย่างปกติ โดยได้เตรียมแผ่นหินอ่อนที่ลงอัคร ไว้บนแผ่นหินนั้น พระสงฆ์ได้เจริญพระพุทธมนต์ ทางเจ้าภาพที่เข้าร่วมการก่อสร้างอาคารนี้ต่างมานั่ง ยังสถานที่ ที่ได้เตรียมไว้ให้ ผมก็ได้ช่วยดูแลพระสงฆ์ที่ท่านมาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้ด้วย มาถึงฤกษ์งามยามเหมาะ พราหมณ์ ที่ทำพิธีได้ทำพิธีกรรม บวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ ชุมนุมเทวดา จัดอาหารหวานคาว ไว้ตามสมควร ยังแท่นบูชา ผมเองก็สังเกตุเห็นว่าระหว่างทำพิธี มีเทพเทวดามาร่วมพิธีกันหลายท่านพอสมควร ผมเองก็ยังแอบ อุทิศบุญถวายท่านด้วยเช่นกัน ระหว่างทำพิธีเหตุการณ์ต่างๆก็เป็นปกติ อ้าวแล้วประเด็นมันอยู่ตรงไหนหละหากปกติ พิธีการวางศิลาฤกษ์ที่ทางวัดจัดขึ้นเป็นไปอย่างดี อะหละ! ประเด็นจะอยู่ที่หลังเสร็จสิ้นภารกิจพิธีการ เมื่อกิจกรรมของผมเรียบร้อยแล้วก็จะเดินทางกลับยังที่พัก ผมนั้นได้จอดรถยนต์ไว้บริเวณหน้าโบสถ์ ผมกำลังจะเปิดประตูรถพลันพลังบางอย่างก็มาสัมผัส อย่างจัง ขนแขนที่นอนสงบนิ่ง ลุกชูชันกันอย่างไม่ได้นัดหมาย "เอาแล้ว มีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ปกติอีกเป็นแน่" ผมนึกอยู่ในใจ แต่ด้วยความเคยชินว่าอาการที่มาสัมผัสแบบนี้ เป็นอาการสัมผัสของเทวดา "อืม! ท่านคงมาดี" ผมนึก ผมจึงทำสมาธิกำหนดจิตนิ่งสักครู่ ภาพที่ปรากฏเป็นภาพของเทวดา ที่แต่งกายด้วยชุดสวยงาม มีเครื่องประดับแก้วมณีสารพัดสี สวยงามระยิบระยับ อย่างกับช่างหลวงได้ตัดเย็บให้เลยทีเดียว ผมจึงแสดงความเคารพ ในฐานะที่ท่านเป็นเทวดา ผมจึงได้ทักทายออกไป เพื่อแสดงน้ำใจ และมารยาท
ผม: สวัสดีครับท่าน
เทวดา:สวัสดี
ผม:ท่านดูดีจังนะครับ
เทวดา:ขอบใจ ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม
ผม:ผมจะช่วยอะไรได้ครับ ท่านเป็นเทวดา ท่านนั่นแหละ จะต้องช่วยผม
เทวดา:อย่าพูดแบบนั่นเลย เราเป็นเทวดาก็จริง แต่เป็นเพียงเทวดาปลายแถว เราขอคำแนะนำจากท่านหน่อย ไหว้หละ (พร้อมกับยกมือ)
ผม: ใจเย็นไว้ครับ มีสิ่งใดที่ผมพอช่วยได้เชิญบอก
เทวดา:เราขอคำแนะนำจากเทวดาท่านอื่น ท่านให้คำตอบเราไม่ได้ เราจึงมาขอคำแนะนำจากท่าน
ผม: ว่ามาครับ สิ่งใดที่ผมรู้ก็จะตอบครับ
เทวดา:ขอเล่าว่า สัก สี่สิบ ห้าสิบปีมาแล้ว เราเคยร่วมสร้างวัดแห่งนี้ เคยร่วมสร้างโบสถ์วิหาร พระประธาณ ที่อยู่ที่วัดนี้ เมื่อเราสิ้นจากมนุษย์ ก็มาเกิดเป็นเทวดาที่เฝ้าพระประธานในโบสถ์นี้
ผม:อ้อ ก็ดีนี่ครับ
เทวดา:ดีตรงไหนกัน เราขาดอิสระภาพจะไปไหน มาไหนก็ได้ไม่เกินรัสมีของวัดนี้ เราทุกข์เหลื่อเกิน
ผม:ท่านออกจากที่นี้ไม่ได้หรือครับ
เทวดา:ไม่ได้เลย
ผม:ท่านเคยกักขัง สัตว์ให้ขาดอิสระภาพบ้างไหม
เทวดา:ไม่เลย ตอนเป็นมนุษย์ก็ทำงาน หากินแบบปกติ
ผม:เล่าตอนที่ท่านสิ้นจากมนุษย์ได้ไหมครับ
เทวดา: เราตายด้วย อายุขัย ในร่างที่ชรา ก่อนตายรู้สึกหายใจไม่ออก พลันสติก็นึกถึงพระที่เราได้สร้างไว้ แล้วก็ดับไป เมื่อปรากฏไปก็มาปรากฏตัว ที่พระประธานนี้ทันที แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านรู้
ผม:อ้อ ผมเข้าใจแล้วว่าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ก่อนสิ้นจากร่างมนุษย์ท่านนึกถึงพระที่สร้าง ถือว่าเป็นสิ่งดี เป็นบุญ แต่บังเอิญว่าท่านไปยึดว่าพระนี้เป็นของฉัน ฉันสร้าง ท่านก็เลยต้องมาติดอยู่กับองค์พระ ด้วยเหตุนี้
เทวดา:ถ้าอย่างนั้นแก้ไขได้ไหม
ผม:ได้ ไม่ยากเลย เพียงท่านสละไม่ยึดติดกับพระองค์นี้
เทวดา:จะทำอย่างไร เราถึงจะสละได้
ผม:ไม่ยากเลย เพียงแค่ท่านอธิฐานต่อหน้าพระประธาน ให้ท่านเอ่ยว่า " ข้าพเจ้าเคยร่วมสร้างสถานที่นี้ พระประธานองค์นี้ ข้าพเจ้าขอถวายสถานที่นี้ พระประธานองค์นี้ ไว้แก่พระศาสนา เพื่อเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาสืบต่อไปภายหน้า สาธุ" เพียงเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง
เทวดา: ถ้าเช่นนั้นเราทำเลย "ข้าพเจ้าขอยกสถานที่แห่งนี้ ขอยกพระประธานนี้ไว้แด่พระศาสนา เพื่อเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาสืบต่อไป สาธุ". ไชโย เราดีใจเราพ้นพันธนาการ นี้แล้ว เราเป็นอิสระแล้ว เราจะขึ้นไปข้างบนแล้ว เราขอบใจท่านมากที่เมตตาให้ความกระจ่างแก่เรา
ผม:ยังมีผู้คนอีกมาก ที่ไม่รู้ แปะชื่อตัวเองไว้ตามประตู หน้าต่าง โบสถ์ ศาลา ซ้ำที่ฐานพระ นั่นแสดงถึงความไม่สละ ท่านเทวดาว่าจริงไหม
เทวดา:จริงตามที่ท่านกล่าวมา ยังมีเทวดา มีดวงจิตอีกหลายดวงไปไหนไม่ได้ ไปเกิดไม่ได้เพราะจิตติดยึดกับโบสถ์วิหาร จะหลุดพ้นได้ก็ต่อเมื่อสิ่งนั่นสูญสิ้นสลายไปอาจจะร้อยปีพันปี เรารู้ซึ้งถึงความทรมานนั้นแล้ว สาธุ (ภาพเทวดาท่านนั้นก็ลอยหายไป)
ผม:สาธุ จบภาระกิจเรียบร้อย
บุญกระทำเป็นสิ่งดี แต่หากยึดติดไม่ยอมสละ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำบุญโดยแท้ต้องรู้จักสละ เรานึกถึงบุญนั้นได้แต่ก็ไม่ควรยึดไว้เป็นของๆตน ขอบุญจงส่งถึงญาติธรรมทุกๆท่าน ขอจงมีความสุขสวัสดีทุกประการ
                                                                                                                            มารน้อย บัญชาเทพ ผู้เขียน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่