นางผีเสื้อเชื่อถือรื้อประณต พระทรงยศจงช่วยชุบอุปถัมภ์
ตามตำราสาระพัดไม่ชัดคำ ช่วยแนะนำอนุกูลอย่าสูญใจ ฯ
* พระฟังคำสำราญสำเร็จคิด จึงว่าผิดสายสมรหาสอนไม่
ตำรานั้นแต่ครั้งตั้งเมรุไกร ว่าถ้าใครฝันร้ายจะวายปราณ
ให้ไปอยู่ผู้เดียวที่**เขา แล้วอดข้าวอดปลากระยาหาร
ถ้วนสามคืนสามวันจะบันดาล ให้สำราญรอดตายสบายใจ ฯ
* ฝ่ายว่านางผีเสื้อก็เชื่อถือ คิดว่าชื่อสจริตพิสมัย
จึงตอบว่าถ้ากระนั้นฉันจะไป อยู่เขาใหญ่ในป่าพนาวัน
พระโฉมยงจงอยู่ในคูหา เลี้ยงรักษาลูกน้อยคอยหม่อมฉัน
จะอดใจให้เหมือนคำที่รำพรรณ ถ้วนสามวันก็จะมาอย่าอาวรณ์
แล้ววันทาลาองค์พระทรงโฉม ปลอบประโลมลูกแก้วแล้วสั่งสอน
อย่าแข็งนักรักตัวกลัวบิดร แม้นไม่นอนมารดาจะมาตี ฯ
* สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี
ให้ห่วงหลังกังวลด้วยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบังคมคัล
บิดาดูรู้แจ้งจึงแกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์
อยู่เป่าปีตีเกราะเสนาะครัน แล้วรับขวัญลูกน้อยกลอยฤไทย ฯ
* นางผีเสื้อเมื่อแรกก็แปลกจิตต์ ครั้นทรงฤทธิปลอบลูกชายหายสงไสย
จึงรีบออกนอกคูหาแล้วคลาไคล ไปเขาใหญ่ในป่าพนาวัน ฯ
* ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลยโฉม ปลอบประโลมลูกชายจะผ่ายผัน
จึงหยับปีที่เป่าเมื่อคราวนั้น เอาผ้าพันผูกดีแล้วลีลา
ให้ลูกรักผลักแผ่นศิลาล้ม สมอารมณ์รีบออกนอกคูหา
เลียบลีลาสหาดทรายชาคงคา แลชลาล้วนคื่นเสียงครื้นโครม ฯ
* ฝ่ายเงือกน้ำสำหรับทะเลลึก ไม่วายนึกถึงองค์พระทรงโฉม
พอแจ่มแจ้งแสงทองผ่องโพยม ปลอบประโลมลูกเมียเข้าเคลียคลอ
จะไปลอยคอยองค์ทรงสวัสดิ์ ให้สมนัดซึ่งสัญญาเธอมาหนอ
แล้วออกจากวลวังไม่รั้งรอ ค่อยเคลื่อนคลายว่ายคลอกันไคลคลา
พอเห็นองค์ทรงยศโอรสราช อยู่ชายหาดพร้อมกันก็หรรษา
จึงชวนลูกสาวนั้นกับภรรยา คลานขึ้นมาชายฝั่งแล้วบังคม ฯ
ช่วยแปลกลอนพระอภัยมณี ตอน หนีนางผีเสื้อสมุทร หน่อยคะ
ตามตำราสาระพัดไม่ชัดคำ ช่วยแนะนำอนุกูลอย่าสูญใจ ฯ
* พระฟังคำสำราญสำเร็จคิด จึงว่าผิดสายสมรหาสอนไม่
ตำรานั้นแต่ครั้งตั้งเมรุไกร ว่าถ้าใครฝันร้ายจะวายปราณ
ให้ไปอยู่ผู้เดียวที่**เขา แล้วอดข้าวอดปลากระยาหาร
ถ้วนสามคืนสามวันจะบันดาล ให้สำราญรอดตายสบายใจ ฯ
* ฝ่ายว่านางผีเสื้อก็เชื่อถือ คิดว่าชื่อสจริตพิสมัย
จึงตอบว่าถ้ากระนั้นฉันจะไป อยู่เขาใหญ่ในป่าพนาวัน
พระโฉมยงจงอยู่ในคูหา เลี้ยงรักษาลูกน้อยคอยหม่อมฉัน
จะอดใจให้เหมือนคำที่รำพรรณ ถ้วนสามวันก็จะมาอย่าอาวรณ์
แล้ววันทาลาองค์พระทรงโฉม ปลอบประโลมลูกแก้วแล้วสั่งสอน
อย่าแข็งนักรักตัวกลัวบิดร แม้นไม่นอนมารดาจะมาตี ฯ
* สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบิดาจะพาหนี
ให้ห่วงหลังกังวลด้วยชนนี เจ้าโศกีกราบก้มบังคมคัล
บิดาดูรู้แจ้งจึงแกล้งห้าม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์
อยู่เป่าปีตีเกราะเสนาะครัน แล้วรับขวัญลูกน้อยกลอยฤไทย ฯ
* นางผีเสื้อเมื่อแรกก็แปลกจิตต์ ครั้นทรงฤทธิปลอบลูกชายหายสงไสย
จึงรีบออกนอกคูหาแล้วคลาไคล ไปเขาใหญ่ในป่าพนาวัน ฯ
* ฝ่ายองค์พระอภัยวิไลยโฉม ปลอบประโลมลูกชายจะผ่ายผัน
จึงหยับปีที่เป่าเมื่อคราวนั้น เอาผ้าพันผูกดีแล้วลีลา
ให้ลูกรักผลักแผ่นศิลาล้ม สมอารมณ์รีบออกนอกคูหา
เลียบลีลาสหาดทรายชาคงคา แลชลาล้วนคื่นเสียงครื้นโครม ฯ
* ฝ่ายเงือกน้ำสำหรับทะเลลึก ไม่วายนึกถึงองค์พระทรงโฉม
พอแจ่มแจ้งแสงทองผ่องโพยม ปลอบประโลมลูกเมียเข้าเคลียคลอ
จะไปลอยคอยองค์ทรงสวัสดิ์ ให้สมนัดซึ่งสัญญาเธอมาหนอ
แล้วออกจากวลวังไม่รั้งรอ ค่อยเคลื่อนคลายว่ายคลอกันไคลคลา
พอเห็นองค์ทรงยศโอรสราช อยู่ชายหาดพร้อมกันก็หรรษา
จึงชวนลูกสาวนั้นกับภรรยา คลานขึ้นมาชายฝั่งแล้วบังคม ฯ