เรากับแฟนคบกันมาตั้งแต่ปี 49 ตั้งแต่อยู่ ม3 จนปัจจุบัน ปี59 เข้า10ปีพอดี แต่ความรักก็ต้องจบลง แล้วก็จบแบบไม่สวย เรากับเค้าเรียนจบมัธยมปลายด้วยกัน ต่อมหาลัยที่เดียวกัน เรียนคณะเดียวกัน คณะที่เราเรียนคือครุศษสตร์ ห้องเดียวกัน ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอด รักกัน ไปไหนไปกัน มีกันแค่สองคนจริง ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ และไปมาหาสู่กันตลอด จนวางแผนอนาคตทุกอย่างร่วมกัน
พอเรียนจบ เราทั้งคู่ตระเวนหาสอบงานที่เกี่ยวข้อกับราชการหลายที่มาก สุดท้ายเราก็ประสบความสำเร็จทั้งสองคน แฟนเราบรรจุได้รับราชการครู ปลายปี 58 เดือน พฤษจิกายน ส่วนเราพึ่งได้บรรจุ เดือน พฤษภาคม 59 นี่เอง แต่ในระหว่างที่เรายังไม่ได้บรรจุ ตอนนั้นแฟนเราได้เรียกไปบรรจุ เราดีใจมาก ซึ่งแฟนเราบรรจุได้ที่ชัยภูมิ ทั้งเราและครอบครัวเค้าพร้อมใจกันไปส่งเค้าที่ชัยภูมิ ตอนนั้นก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะไม่เคยห่างกันเลย แต่ก็ยังดีที่เค้าได้พักที่บ้านของครูท่านนึงที่สอนอยู่ในโรงนั้นเหมือนกัน ตอนนั้นเราดีใจมาก อย่างน้อยก็มีคนช่วยดูแลแฟนเราให้
ในระหว่างที่เค้าสอนที่นุ้นเราก็คิดถึงเค้าตลอดเวลา นับวันรอว่าเมื่อไหร่จะปีใหม่สักทีแฟนจะได้กลับมา พอถึงปีใหม่เราดีใจมาก เรากับแม่แฟนเราก็เดินทางไปรับแฟน โดยขับรถเราเอง แต่ตอนนั้นเราพึ่งออกรถใหม่ ขับยังไม่แข็ง เลยต้องจ้างคนขับ เพื่อไปรับแฟน พอรับกลับมา เราใช้เวลาช่วงวันหยุดสามสี่วันให้คุ้มค่า อยู่ด้วยกันตลอด จนเค้ากลับไปวันที่ 4 ทั้งพ่อแม่เราและพ่อแม่เค้าต่างไปส่งเค้า แต่เราไม่ไปด้วย เพราะเรากลัวอดร้องไห้ไม่ได้ ในระหว่างที่เค้าไปสอนที่นุ้น เราก็คุยกันปกติทุกวัน บอกรักกัน เชื่อใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน รักกันดี เราก็นับวันรอแล้วรอเล่า เมื่อไหร่จะปิดเทอม อยากเจอหน้า คิดถึง อยากอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) ที่เค้าอยู่ที่นุ้น เราไม่ได้ไปหาเค้าเลย เพราะเราก็มีงานที่ต้องทำ อีกอย่างก็เกรงใจเพราะเค้าพักที่บ้านกับครู รวมไปถึงเค้าสอนเราเสทอว่าให้เชื่อใจกัน ยิ่งอยู่ไกลยิ่งต้องเชื่อใจกัน เค้าบอกเราว่าไม่อยากให้เราขับรถไกล เป็นห่วง เราก้เชื่อเค้า เราก็รอวันปิดเทอม
จนวันปิดเทอมก็มาถึง เราอยากไปรับเค้า แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องหรอก เป็นห่วง ไกล อันตราย เราก้เชื่อนะ แต่ก็ยังดีที่ครูคนที่เค้าพักอยู่ด้วยมาส่ง ก้เลยโล่งอกไป เค้ากลับมา 1 เดือนเต็มๆ คือเดือนเมษายน เราก็ไปหาแฟนที่บ้านเกือบทุกวัน เจอกันเกือบทุกวัน ทำกิจกรรมมร่วมกัน ไปกิน ไปเที่ยว ไปช็อป ทุกอย่างปกติ คุยกันเรื่องบวช เรื่องแต่งงานปกติ ไม่มีอะไรที่ต้องระแวง
แต่ระหว่างที่ปิดเทอมนั้น ครูคนที่แฟนเราไปพักอยู่ด้วย อยู่ๆก็ส่งข้อความผ่านเฟสหาเรา บอกเราว่าดูแฟนให้ดีๆหน่อยนะ เค้าจีบสาวครูที่โรงเรียน เค้าคบกันมาตั้งแต่มกราแล้วนะ ตอนแรกเราไม่เชื่อ เพราะแฟนเราสอนเสมอว่าให้ไว้ใจกัน เชื่อใจกัน เราก็ไม่สนใจ แต่หลังๆ เริ่มส่งบอกเราถี่ขึ้น ว่าเค้าไปนั่นมานี่ด้วยกัน เค้าคบกันจริงๆ ตอนนั้นเรายอมรับว่าเริ่มระแวง แต่ก็ยังเชื่อใจแฟนตัวเองอยู่ เราจึงตัดสินใจถามแฟน ว่าที่ครูคนนี้ส่งมาบอก มันจริงมั้ย เค้าบอกเราว่า เราคบกันมาจนจะ10ปีแล้ว อีกหน่อยก็แต่งงานกัน ทำไมถึงหูเบาเชื่อคนอื่น ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แค่เป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น อย่าไปเชื่อ แถมยังบอกอีกว่าครูที่ส่งมาเป็นคนไม่ดีหรอก ยุให้เราทะเลาะกัน ตอนนั้นเรายอมรับว่าเชื่อแฟนเรา เพราะเราเชื่อใจเค้า และเราคบกันมานานจริงๆ จนตอนนั้นเราเริ่มที่จะไม่ชอบครูคนนั้นที่ส่งข้อความมาหาเราแบบนี้ เพราะเราเชื่อแฟนเรา แต่ครูคนนั้นก็ส่งมาบอกเรื่อยๆ เราก็ถามแฟนเราเรื่อยๆ เค้าก็ปฏิเสธตลอดมา เราก้เชื่อใจ
จนวันที่ 3 เค้าจะกลับชัยภูมิ เราบอกว่าเดี๋ยวจะไปส่ง เค้าก็บอกว่าไม่ต้องหรอก เป็นห่วง จะกลับมายังไงคนเดียว เราก็เชื่ออีก เราเลยบอกว่าถ้างั้นให้เราไปส่งคิวรถนะ เค้าก็บอกว่าไม่ต้องหรอกกลัวเห็นน้ำตา เค้าจะไม่สบายใจ เราก็เชื่อเค้าอีก ในวันนั้นเค้าให้พ่อไปส่งคิวรถ เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนตอนเย็นของวันที่สาม ครูคนนั้นก็ส่งมาบอกอีกว่า เค้าไม่ได้ขี่โดยสารมานะ เค้ามาด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น เค้าไปรับกันถึงที่เลยนะ ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราเริ่มระแวงแล้ว เราเลยตัดสินใจถามเค้า ว่าจริงมั้ยที่กลับมาชัยภูมิด้วยกัน เค้ากลับเปลี่ยนไป ก่อนหน้าที่เค้าจะกลับไปชัยภูมิ ถ้าเราถามเรื่องผู้หญิงคนนี้เค้าจะอธิบายให้เราฟังทุกอย่าง แต่พอเค้ากลับไปที่ชัยภูมิแล้ว เค้ากลับไม่อธิบาย เค้ากลับบอกเราว่า แล้วแต่จะคิด บอกหลายรอบแล้ว ยังไปเชื่อคนอื่นอีก ทำไมไม่เชื่อใจกัน คบมากี่ปี ถ้าจะงี่เง่าขนาดนี้ก้เลิกกันไปเลย สุดท้ายเรารู้สึกผิด เรารู้สึกว่าเราคงหึง ระแวงเกินไป เลยตัดสินใจขอโทษแฟนเราเพราะคิดว่าตัวเองระแวงเกินไป แล้วตัดสินใจหาเฟสผู้หญิงคนที่บอกว่าคบกับแฟนเรา ตอนนั้นเรารู้สึกผิดที่เอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นด้วยว่า ขอโทษนะคะที่เอาเข้ามาพาดพิงด้วย เพราะค่อนข้างที่จะเชื่อใจแฟน และเชื่อใจพี่ด้วย (ผ็หญิงคนนั้นเกิดก่อน) หนูเชื่อว่าแฟนหนูไม่เป็นคนแบบนั้น หนูเชื่อใจแฟนหนูมาก เค้าไม่มีทางทำให้หนูเสียใจ สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาว่าคบกันมาตั้งแต่เดือนมกราแล้ว บอกตรงๆคะวินาทีนั้นหัวใจสลาย ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่คนอื่นส่งมาให้ดู ไม่เคยเชื่อว่าแฟนตัวเองจะเป็นคนโกหก หลอกลวงแบบนี้ ถามมาตลอดว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย แฟนเราปฏิเสธมาตลอด ทำให้เราเชื่อใจมาตลอด
พอเรารู้ความจริงจากปากผู้หญิง เราถึงตัดสินใจถามแฟนเรา ว่าจริงมั้ยที่ผู้หญิงคนนั้นพูด สุดท้ายแฟนเราตอบกลับมาว่า จริง ไม่ได้รักตั้งนานแล้ว แต่ไม่บอกเฉยๆ คิดดใจเราตอนนั้นสิ มันเจ็บปวดแค่ไหน ที่ผ่านมาไม่เคยยอมรับ เราถามตลอดไม่เคยยอมรับเลย ปฏิเสธตลอด พอเรารู้ความจริงกลับบอกว่าไม่ได้รักเราแล้ว แล้วหลอกเราทำไม ทำไมถึงทำแบบนี้ ไม่ใช่ทำลายแค่เรา แต่เค้าทำลายครอบครัวเรา ทำให้ทุกคนเสียน้ำตา เพราะคิดว่าเค้าจะเป็นคนที่ดูแลเราได้ในอนาคต แต่สุดท้าย เค้ากลับหลอกเราได้ลง คบกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่มกรา ทั้งที่มีเราอยู่ทั้งคน ทั้งที่ทั้งสองครอบครัว ไปมาหาสู่กันแล้ว วางแผนอนาคตไว้หมดแล้ว แต่เค้ายังกล้าไปจีบผู้หญิงแล้วไปบอกผู้หญิงอีกว่าไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าจิตใจเค้าทำด้วยอะไร เค้าทำลายชีวิตเราได้อย่างเลือดเย็นจริงๆ ไม่สมกับที่เรารัก เชื่อใจ ไว้ใจ ซื่อสัตย์กับเค้าตลอดมา
ผู้ชายมันเลวได้ขนาดนี้เลยหรอ
พอเรียนจบ เราทั้งคู่ตระเวนหาสอบงานที่เกี่ยวข้อกับราชการหลายที่มาก สุดท้ายเราก็ประสบความสำเร็จทั้งสองคน แฟนเราบรรจุได้รับราชการครู ปลายปี 58 เดือน พฤษจิกายน ส่วนเราพึ่งได้บรรจุ เดือน พฤษภาคม 59 นี่เอง แต่ในระหว่างที่เรายังไม่ได้บรรจุ ตอนนั้นแฟนเราได้เรียกไปบรรจุ เราดีใจมาก ซึ่งแฟนเราบรรจุได้ที่ชัยภูมิ ทั้งเราและครอบครัวเค้าพร้อมใจกันไปส่งเค้าที่ชัยภูมิ ตอนนั้นก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะไม่เคยห่างกันเลย แต่ก็ยังดีที่เค้าได้พักที่บ้านของครูท่านนึงที่สอนอยู่ในโรงนั้นเหมือนกัน ตอนนั้นเราดีใจมาก อย่างน้อยก็มีคนช่วยดูแลแฟนเราให้
ในระหว่างที่เค้าสอนที่นุ้นเราก็คิดถึงเค้าตลอดเวลา นับวันรอว่าเมื่อไหร่จะปีใหม่สักทีแฟนจะได้กลับมา พอถึงปีใหม่เราดีใจมาก เรากับแม่แฟนเราก็เดินทางไปรับแฟน โดยขับรถเราเอง แต่ตอนนั้นเราพึ่งออกรถใหม่ ขับยังไม่แข็ง เลยต้องจ้างคนขับ เพื่อไปรับแฟน พอรับกลับมา เราใช้เวลาช่วงวันหยุดสามสี่วันให้คุ้มค่า อยู่ด้วยกันตลอด จนเค้ากลับไปวันที่ 4 ทั้งพ่อแม่เราและพ่อแม่เค้าต่างไปส่งเค้า แต่เราไม่ไปด้วย เพราะเรากลัวอดร้องไห้ไม่ได้ ในระหว่างที่เค้าไปสอนที่นุ้น เราก็คุยกันปกติทุกวัน บอกรักกัน เชื่อใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน รักกันดี เราก็นับวันรอแล้วรอเล่า เมื่อไหร่จะปิดเทอม อยากเจอหน้า คิดถึง อยากอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) ที่เค้าอยู่ที่นุ้น เราไม่ได้ไปหาเค้าเลย เพราะเราก็มีงานที่ต้องทำ อีกอย่างก็เกรงใจเพราะเค้าพักที่บ้านกับครู รวมไปถึงเค้าสอนเราเสทอว่าให้เชื่อใจกัน ยิ่งอยู่ไกลยิ่งต้องเชื่อใจกัน เค้าบอกเราว่าไม่อยากให้เราขับรถไกล เป็นห่วง เราก้เชื่อเค้า เราก็รอวันปิดเทอม
จนวันปิดเทอมก็มาถึง เราอยากไปรับเค้า แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องหรอก เป็นห่วง ไกล อันตราย เราก้เชื่อนะ แต่ก็ยังดีที่ครูคนที่เค้าพักอยู่ด้วยมาส่ง ก้เลยโล่งอกไป เค้ากลับมา 1 เดือนเต็มๆ คือเดือนเมษายน เราก็ไปหาแฟนที่บ้านเกือบทุกวัน เจอกันเกือบทุกวัน ทำกิจกรรมมร่วมกัน ไปกิน ไปเที่ยว ไปช็อป ทุกอย่างปกติ คุยกันเรื่องบวช เรื่องแต่งงานปกติ ไม่มีอะไรที่ต้องระแวง
แต่ระหว่างที่ปิดเทอมนั้น ครูคนที่แฟนเราไปพักอยู่ด้วย อยู่ๆก็ส่งข้อความผ่านเฟสหาเรา บอกเราว่าดูแฟนให้ดีๆหน่อยนะ เค้าจีบสาวครูที่โรงเรียน เค้าคบกันมาตั้งแต่มกราแล้วนะ ตอนแรกเราไม่เชื่อ เพราะแฟนเราสอนเสมอว่าให้ไว้ใจกัน เชื่อใจกัน เราก็ไม่สนใจ แต่หลังๆ เริ่มส่งบอกเราถี่ขึ้น ว่าเค้าไปนั่นมานี่ด้วยกัน เค้าคบกันจริงๆ ตอนนั้นเรายอมรับว่าเริ่มระแวง แต่ก็ยังเชื่อใจแฟนตัวเองอยู่ เราจึงตัดสินใจถามแฟน ว่าที่ครูคนนี้ส่งมาบอก มันจริงมั้ย เค้าบอกเราว่า เราคบกันมาจนจะ10ปีแล้ว อีกหน่อยก็แต่งงานกัน ทำไมถึงหูเบาเชื่อคนอื่น ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แค่เป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น อย่าไปเชื่อ แถมยังบอกอีกว่าครูที่ส่งมาเป็นคนไม่ดีหรอก ยุให้เราทะเลาะกัน ตอนนั้นเรายอมรับว่าเชื่อแฟนเรา เพราะเราเชื่อใจเค้า และเราคบกันมานานจริงๆ จนตอนนั้นเราเริ่มที่จะไม่ชอบครูคนนั้นที่ส่งข้อความมาหาเราแบบนี้ เพราะเราเชื่อแฟนเรา แต่ครูคนนั้นก็ส่งมาบอกเรื่อยๆ เราก็ถามแฟนเราเรื่อยๆ เค้าก็ปฏิเสธตลอดมา เราก้เชื่อใจ
จนวันที่ 3 เค้าจะกลับชัยภูมิ เราบอกว่าเดี๋ยวจะไปส่ง เค้าก็บอกว่าไม่ต้องหรอก เป็นห่วง จะกลับมายังไงคนเดียว เราก็เชื่ออีก เราเลยบอกว่าถ้างั้นให้เราไปส่งคิวรถนะ เค้าก็บอกว่าไม่ต้องหรอกกลัวเห็นน้ำตา เค้าจะไม่สบายใจ เราก็เชื่อเค้าอีก ในวันนั้นเค้าให้พ่อไปส่งคิวรถ เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนตอนเย็นของวันที่สาม ครูคนนั้นก็ส่งมาบอกอีกว่า เค้าไม่ได้ขี่โดยสารมานะ เค้ามาด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น เค้าไปรับกันถึงที่เลยนะ ตอนนั้นเรายอมรับว่าเราเริ่มระแวงแล้ว เราเลยตัดสินใจถามเค้า ว่าจริงมั้ยที่กลับมาชัยภูมิด้วยกัน เค้ากลับเปลี่ยนไป ก่อนหน้าที่เค้าจะกลับไปชัยภูมิ ถ้าเราถามเรื่องผู้หญิงคนนี้เค้าจะอธิบายให้เราฟังทุกอย่าง แต่พอเค้ากลับไปที่ชัยภูมิแล้ว เค้ากลับไม่อธิบาย เค้ากลับบอกเราว่า แล้วแต่จะคิด บอกหลายรอบแล้ว ยังไปเชื่อคนอื่นอีก ทำไมไม่เชื่อใจกัน คบมากี่ปี ถ้าจะงี่เง่าขนาดนี้ก้เลิกกันไปเลย สุดท้ายเรารู้สึกผิด เรารู้สึกว่าเราคงหึง ระแวงเกินไป เลยตัดสินใจขอโทษแฟนเราเพราะคิดว่าตัวเองระแวงเกินไป แล้วตัดสินใจหาเฟสผู้หญิงคนที่บอกว่าคบกับแฟนเรา ตอนนั้นเรารู้สึกผิดที่เอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นด้วยว่า ขอโทษนะคะที่เอาเข้ามาพาดพิงด้วย เพราะค่อนข้างที่จะเชื่อใจแฟน และเชื่อใจพี่ด้วย (ผ็หญิงคนนั้นเกิดก่อน) หนูเชื่อว่าแฟนหนูไม่เป็นคนแบบนั้น หนูเชื่อใจแฟนหนูมาก เค้าไม่มีทางทำให้หนูเสียใจ สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาว่าคบกันมาตั้งแต่เดือนมกราแล้ว บอกตรงๆคะวินาทีนั้นหัวใจสลาย ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่คนอื่นส่งมาให้ดู ไม่เคยเชื่อว่าแฟนตัวเองจะเป็นคนโกหก หลอกลวงแบบนี้ ถามมาตลอดว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย แฟนเราปฏิเสธมาตลอด ทำให้เราเชื่อใจมาตลอด
พอเรารู้ความจริงจากปากผู้หญิง เราถึงตัดสินใจถามแฟนเรา ว่าจริงมั้ยที่ผู้หญิงคนนั้นพูด สุดท้ายแฟนเราตอบกลับมาว่า จริง ไม่ได้รักตั้งนานแล้ว แต่ไม่บอกเฉยๆ คิดดใจเราตอนนั้นสิ มันเจ็บปวดแค่ไหน ที่ผ่านมาไม่เคยยอมรับ เราถามตลอดไม่เคยยอมรับเลย ปฏิเสธตลอด พอเรารู้ความจริงกลับบอกว่าไม่ได้รักเราแล้ว แล้วหลอกเราทำไม ทำไมถึงทำแบบนี้ ไม่ใช่ทำลายแค่เรา แต่เค้าทำลายครอบครัวเรา ทำให้ทุกคนเสียน้ำตา เพราะคิดว่าเค้าจะเป็นคนที่ดูแลเราได้ในอนาคต แต่สุดท้าย เค้ากลับหลอกเราได้ลง คบกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่มกรา ทั้งที่มีเราอยู่ทั้งคน ทั้งที่ทั้งสองครอบครัว ไปมาหาสู่กันแล้ว วางแผนอนาคตไว้หมดแล้ว แต่เค้ายังกล้าไปจีบผู้หญิงแล้วไปบอกผู้หญิงอีกว่าไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าจิตใจเค้าทำด้วยอะไร เค้าทำลายชีวิตเราได้อย่างเลือดเย็นจริงๆ ไม่สมกับที่เรารัก เชื่อใจ ไว้ใจ ซื่อสัตย์กับเค้าตลอดมา