ปกติได้แต่ส่องกระทู้โน่นนี่ เม้นท์บ้างตามสมควร แต่วันนี้ขอเขียนอะไรบ้างสักกระทู้นะคะ
และขอร้องมา ณ ที่นี้ว่า รูปสร้อยส้มตำอะไรนั่น หรือธรรมะโพสยาวๆ กอปมาวาง เราเห็นมาหลายครั้งแล้วไม่ต้องจัดหามาให้นะคะ ^ ^  วันนี้เรื่องราวต่างๆ กำลัง HOT  จึงอยากขอใช้พื้นที่นี้บ้างเผื่อจะได้พูดคุยกับท่านที่สนใจพูดคุยกันเยี่ยงผู้ที่มีสติปัญญา ส่วนใครที่ยังไม่พร้อมที่จะใช้เหตุผลคุยกันดีๆ ได้ตามสมควร ขอร้องมา ณ ที่นี้ว่าเว้นกระทู้นี้ไว้สักกระทู้เถอะนะคะ  บางทีก็เพลียใจกับการที่หลวงพ่อถูกจิกด่าล้อเลียนเหลือเกิน

หลายความเห็น ที่มาตามข่าวทีหลัง มักมีคำถามเรื่องการป่วยของหลวงพ่อ ว่าท่านป่วยเป็นอะไร  แล้วถ้าอาการหนักขนาดนั้น แล้วทำไมถึงไม่ไปโรงพยาบาล??

ที่เราทราบคืออาการป่วยของหลวงพ่อท่านไม่ใช่เพิ่งมาเป็น แต่เป็นอาการเรื้อรังต่อเนื่องมานานหลายปีค่ะ ที่ผ่านมาท่านรักษาตัวตามแนวทางแพทย์แผนปัจจุบันซึ่ง และหมอมีวินิจฉัยว่าต้องตัดขาข้างซ้ายทิ้ง หลวงพ่อจึงเลือกกลับมารักษาตัวที่วัดโดยคุณหมอที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาดูแลอย่างใกล้ชิด ร่วมกับการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก  โดยมุ่งเน้นการดูแลรักษาตามอาการ
ดังนั้น สำหรับคำถามว่าทำไมหลวงพ่อไม่ไปโรงพยาบาล ก็คงต้องขอยืมคำ DSI มาตอบ ว่ามันเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว!!
ขณะนี้ อาการป่วยของหลวงพ่อที่เป็นหลักๆ คือ ขาข้างซ้ายของท่านบวมขึ้นมาจากปกติ 1 เท่า มีสีม่วงคล้ำ มีแผลติดเชื้อ  ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะลิ่มเลือดอุดตันค่ะ นอกจากนั้น ท่านยังมีโรคเบาหวาน  ความดัน และอื่นๆ ร่วมด้วย  และเพราะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือดที่หมุนเวียนได้ไม่ดี โรคเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศรีษะบ่อยครั้ง และ ความดันที่ไม่เสถียร ทำให้มีอาการเวียนหัวอย่างรุนแรง ที่เรียกกันว่า”บ้านหมุน”  และมีอาการไม่คงที่  

ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่ง ก็คงต้องบอกเลยค่ะ ว่าส่วนตัวไม่ไว้ใจ DSI ภายใต้การนำของท่านรัฐมนตรีท่านนี้เลย เรารู้สึกถึงความไม่จริงใจเช่นกันในทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมพูดคุยกับพุทธอิสระบ่อยครั้ง ทั้งๆ นั่นก็คือคนที่มีคดีที่ต้องดำเนินการเช่นกัน แต่ถูกเลือกปฏิบัติอีกทั้งเมื่อวานพบว่ามีกำลังตำรวจสลายจลาจล 200 นาย รถพยาบาลพร้อมย้ายผู้ป่วย 1 คัน รถคุมผู้ต้องหาจอดรอพร้อม !!  ซึ่งส่วนตัดคิดว่าเป็นการกระทำที่ดูเกินกว่าเหตุสำหรับการที่พระภิกษุอายุ 72 ปี ที่ป่วยอยู่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา
ส่วนการที่ลูกศิษย์ลูกหาเดินทางไปให้กำลังใจหลวงพ่อเป็นจำนวนมากที่ สภอ.คลองหลวงเมื่อวาน เป็นเพราะเราอยากมั่นใจว่าหลวงพ่อจะได้รับการประกันตัวจริงตามที่คุยกันไว้  บอกตรงๆ เลยค่ะว่ากลัวเค้าอุ้มหลวงพ่อไปคุมตัวไว้ที่ รพ ตำรวจตามข่าวลือที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้  ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งในการคุมตัว!!
แต่เราจะไว้ใจ DSI ว่าจะดำเนินการทั้งหมดภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส และเป็นธรรม โดยเคารพหลักสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร ในเมื่อกระบวนการต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งการเร่งรัดกระบวนการดำเนินการคดีกับหลวงพ่อ โดยที่เจ้าทุกข์ในเบื้องต้นคือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนไม่มีความประสงค์จะแจ้งความ และขอร้องโดยตรงให้ DSI เร่งรัดติดตามคดีทางการเงินอื่นๆ ที่ยังคงค้าง  หรือตามที่เคยปรากฏว่าทาง DSI มีการร่วมหารือกับคนที่มีอคติกับวัดพระธรรมกายอยู่หลายครั้ง

สำหรับเรา เรามองว่า ในคดีนี้ หลวงพ่อไม่ควรเป็นผู้ต้องหาค่ะ แต่ท่านเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ  
เสียโอกาสในการรักษาตัว  ส่วนโครงการต่างๆ ในการส่งเสริมศีลธรรม ไม่ว่าจะเป็นการบวช หรือสนับสนุนการศึกษาด้านศีลธรรมทั้งในวัด โรงเรียน และชุมชน ที่ท่านทุ่มเทกำลัง รวมใจศิษยานุศิษย์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นสิบปี หยุดชะงักทั้งหมด เพราะลูกศิษย์ทุกคนเป็นห่วงหลวงพ่อ ...
ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ อยู่วัดมานานนับสิบปี อยากถามเถอะค่ะ ว่ามีองค์กรเอกชนองค์กรไหน ทุ่มเทสรรพกำลัง และบุคลากรมูลค่ากว่าร้อยล้านบาททุกปี  เพื่อดำเนินโครงการสาธารณกุศล เกื้อกูลวัด และการศึกษามาอย่างต่อเนื่องเป็นสิบๆ ปี โดยไม่ได้ประกาศทำ csr เอาหน้า  ถ้าถามว่าทำไมไม่เคยรู้ เห็นแต่วัดสร้างวัตถุใหญ่โต ..  ดังนั้นคนที่คอมเม้นท์ เอาสนุกว่าวัดเอาแต่โป้ง รวย หลอกเอาตังค์  หากเปิดใจถามว่าตังค์ไปไหน ก็นี่ล่ะค่ะคือคำตอบ..
คนที่มองว่าหลวงพ่ออยากดัง ... ความจริงคือท่านค่อนข้างจะเก็บตัวด้วยซ้ำไป หากคุณพอจะตามข่าวบ้างจะทราบว่าก่อนปี 41-42 ที่วัดโดนมรสุมข่าวรอบแรก ไมมีใครรู้จักหลวงพ่อเลย รู้แต่ว่าวัดพระธรรมกายทำอะไร อยู่ตรงไหน แต่ใคร ชื่อะไรยังไม่รู้.. จนกระทั่ง มี DMC ที่ลูกศิษย์ดำเนินการเผยแพร่คำสอนของวัดพระธรรมกายผ่านทางทีวีดาวเทียมคนถึงพอคุ้นหน้าท่านขึ้นมาบ้าง  ถึงกระนั้น ท่านก็บอกเสมอว่าสิ่งที่อยากให้คนทั่วโลกเห็นผ่าน DMC คือภาพลักษณ์ที่งดงามของพระพุทธศาสนา ว่า ภาพพระภิกษุสามเณรที่เผยแพร่ผ่าน DMC จะต้องเป็นภาพที่เป็นกำลังใจให้ชาวพุทธ คณะสงฆ์ต้องสงบเสงี่ยมสง่างาม นุ่งห่มเรียบร้อย และเป็นต้นบุญต้นแบบของชาวโลก ส่วนคำสอนของหลวงพ่อก็จะได้บันทึกไว้เพื่อเป็นมรดกธรรมก่อนท่านจะลาโลกไป ... ถ้าหลวงพ่ออยากดัง เอาจริงๆ นะคะ ลูกศิษย์ลูกหาท่านที่เป็นผู้คนในแวดวงประชาสัมพันธ์ แวดวงโฆษณาและธุรกิจมากมาย แต่ท่านไม่ได้ใช้โอกาสนี้ เรียกสื่อมาหา มาให้สัมภาษณ์ หรือทำการประชาสัมพันธ์ตัวเอง ทั้งๆ ที่ก็ทำไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย  

.. ณ จุดนี้ บอกเลยว่า ศรัทธาของลูกศิษย์ทั่วโลกที่มีต่อสิ่งที่หลวงพ่อสอนไม่ได้สั่นคลอนลงไปแต่อย่างใด  คนรอบข้างอาจตั้งคำถาม หรือละที่จะไม่พูดถึง  แต่เชื่อมั่นว่ากาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่าน  หลายคนบอกว่ากรรมกำลังตามสนอง  เราไม่ปฏิเสธว่าใช่ค่ะ และเพราะรู้ว่าเป็นกรรมเก่า และไม่ปรารถนาให้เป็นกรรมใหม่สืบเนื่องกันไป เราจึงงดเว้นที่จะให้ร้าย หรือเอาเรื่องใคร ทั้งๆ ที่บางคน บางเรื่องก็สมควรจะต้องหยุดเต้าข่าว หรือแชร์ข้อมูลผิดๆ หรือกล่าวร้ายหลวงพ่อโดยไม่มีมูลเสียที  แต่พระพุทธองค์ก็ไม่สรรเสริญการนอนงอมืองอเท้ารับผลอะไรโดยไม่ใช้สติปัญญาความสามารถแก้ไขอย่างเต็มที่โดยอยู่ในกรอบศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรารู้ทั้งรู้ว่าหลวงพ่อไม่ได้มีความผิด

ดังนั้นหากหลวงพ่อโดนปฏิบัติอย่างอยุติธรรม ลูกๆ หลายคนล้วนพร้อมจะเอาชีวิตวางเรียงให้คนทุศีลเหยียบย่ำ เพื่อให้โลกรู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  

สุดท้ายนี้อยากเรียนไปยังลูกหลวงพ่อที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ... หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะช่วยหลวงพ่ออย่างไร ขอความกรุณาบอกและยืนยันถึงคุณธรรมของหลวงพ่อ และคำสอนที่แท้จริงของท่านเพื่อทำความเข้าใจกับคนรอบข้าง ด้วยใจเมตตา  ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนคือภาพสะท้อนคำสอนของหลวงพ่อ ขอให้ยึดธรรมเป็นที่ตั้ง งดวจีกรรม มโนกรรม และกายกรรมทุกอย่าง และ อยู่กับปัจจุบันด้วยใจใสๆ แม้จะยากสักเท่าไหร่ก็ตาม

ส่วนท่านที่เกลียดวัดพระธรรมกายไปแล้ว กราบขอความเมตตาใช้ภาษาสุภาพ และไม่ประชดประชัน จิกกัด เรายอมรับในความคิดต่าง  และ ศรัทธาที่ไม่เหมือนกัน  ... และขอความกรุณาอย่าใช้กระบวนการแบ่งแยกกันด้วยคำพูดแสดงความเกลียดชัง ก่นด่าว่าเรามีแต่ศรัทธาโดยไม่ใช้ปัญญา .. ถ้าอดไม่ได้ ขอให้ต่างคนต่างอยู่ และละกระทู้นี้ไประบายในกระทู้อื่นเถิดนะคะ  อย่าใช่วจีกรรมหมิ่นน้ำใจกันเลย

อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน และขอบคุณที่กรุณาที่อ่านเรียงความยาวๆ มาถึงบรรทัดนี้ นะคะ ^ ^