จะมีสักกี่เหตุผล ที่แฟนเก่าขอคืนดี . . .
และจะมีสักกี่เหตุผล ที่จะกลับไปคบกับเขา . . .
ก่อนอื่นผมขออนุญาตท้าวความย้อนกลับไปเมื่อปี2550
เรื่องเราของเราสองคนเริ่มจากตอนที่ผมเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง แต่นั้นมันก็เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน ในวันแรกที่เราเจอกันที่ร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัย ก็มีพี่ชายผมอีกคนแนะนำให้รู้จักพี่เขา ไอ้ตัวผมเองก็รู้สึกจะเกรงใจพี่เขาเอามากมาก ก็พี่เขาแก่กว่าผมตั้ง 3 ปี แต่ทำไงได้ พี่เขาน่ารักดี ถึงจะอายุเยอะกว่าแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรทั้งนั้น พอได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันสักระยะหนึ่ง ไอ้เราก็รู้สึกปลื้มพี่เขาอยู่เหมือนกัน พี่เขาบอกว่าพี่เขาพึ่งออกรถเก๋งมาใหม่ ขับรถก็ไม่คล่อง จึงจะจ้างผมให้ขับรถไปส่งที่ร้านอาหารในตัวเมือง ซึ่งระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก เมื่อไปถึงร้านอาหารก็ชวนผมนั่งทานข้าวด้วย ผมก็ติดเกรงใจนิดนึงกินบ้างไม่กินบ้าง โทรหากันเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ก็เป็นแบบนี้อยู่ประจำหลายเดือน และด้วยความใกล้ชิดมันทำให้ผมรู้สึกว่าเริ่มตกหลุมรักพี่สาวคนนี้เข้าให้แล้ว . . .
หลังจากที่เราตกลงคบกันเป็นแฟน ก็ล้วนมีเรื่องราวต่างต่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความสุข ความทุกข์ ปัญหา อุปสรรค ต่างๆมากมาย มาด้วยกัน เรื่องราวเหล่านี้มันคือสิ่งที่ทรงคุณค่าสำหรับผมมาก และยังมีหลายเหตุการณ์ หลากหลายเรื่องราว ที่เธอทำให้ผมรักเธอจนสุดหัวใจ เรื่องราวประทับใจในปีเเรกที่เราคบกัน ซึ่งในวันเกิดของผมนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดจะทำไรอยู่แล้วในวันเกิด ผมเลยเดินไปร้านเกมส์เพื่อนใกล้ๆกับร้านเสริมความงามของแฟนผมนั้นแหละ ผมก็นั่งเล่นตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เพราะอากาศมันร้อนด้วยแหละครับ ทำให้ผมต้องกระโดดไปนั่งคลุกอยู่ที่ร้านเกมส์ ผมก็นั่งเล่นเกมส์อยู่เรื่อยๆตามปกติ สักพักเพื่อนผมก็โทรมาถามผมว่าอยู่ไหน ผมก็บอกว่าอยู่ร้านเกมส์ แต่เพื่อนผมกลับบอกว่า เดี๋ยวกูไปหากูมีเรื่องให้ช่วย ผมเลยบอกไปว่ามาเลยเพื่อน ผ่านไปประมาณ 10 นาที เพื่อนผมก็มาถึงที่ร้านเกมส์ เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ผมเลยเออะใจและถามไปว่า มีไรทำหน้าเครียดจังวะ เพื่อนผมก็พูดสวนกลับมาทันทีว่า กูโดนพวกวิศวะไล่ต่อยว่ะ ทันใดนั้นผมก็เริ่มฉุนมากและถามกลับไปว่าที่ไหน เมื่อไหร่ จำหน้ามันได้ไหม เพื่อนผมมันบอกว่าจำได้ อยู่แถวๆนี้แหละ ผมไม่รีรอที่จะช่วยเพื่อน ได้โทรเรียกเพื่อนมาอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากออกจากร้านเกมส์มาเพื่อนผมก็พาผมไปห้องพักใกล้กับร้านเสริมความของแฟนผม แต่แล้วก็ไม่เจอ ผมเลยกอดคอเพื่อนแล้วบอกว่า ไว้เจอมันแล้วรีบโทรบอกกูเลยนะ หลังจากที่ผมหาคนที่ไล่ต่อยเพื่อนผมไม่เจอ ผมกับเพื่อนเพื่อนก็มาอยู่หน้าร้านแฟนผมแล้วนั่งลงคุยกัน ตอนนี้เวลาก็ประมาณ 3 ทุ่มแล้ว สักพักไฟในร้านแฟนผมก็ดับ ผมแปลกใจอยู่เหมือนกันผมเลยเดินเข้าร้านไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แฟนผมเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมเค้กที่จุดเทียนพร้อมกับร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด มันทำให้ผมยิ้มจนน้ำตาซึมและดีใจสุดๆ เพื่อนเพื่อนผมก็ช่วยกันร้องเพลงพร้อมปรบมือ ผม
โครตดีใจเลยจนพูดไม่ออกเลย แต่พอผมเริ่มกลับมามีสติได้ ก็ไม่วายที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆได้ แท้ที่จริงแล้วแฟนผมอยากเซอร์ไพรส์วันเกิดผม โดยการวางแผนกับเพื่อนเพื่อนผมเกือบทั้งหมด แค่เรื่องราวนี้ก็ทำผมอึงเลยครับว่าแฟนผมเป็นจอมวางแผนจริงๆ
แต่มันก็จริงที่แฟนผมเป็นจอมวางแผน ผมเองก็เลยไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน ในวันเกิดของแฟนผม ผมก็เริ่มด้วยการทะเลาะก่อน แล้วค่อยปลอบที่หลัง แต่แล้วมันก็ได้ผลตามคาดไว้ ตกเย็นผมก็ทำตามแผนสิรอไร เข้าไปง้อ เข้าไปอ้อน สุดท้ายก็ใจอ่อน ผมเลยบอกให้แฟนผมไปแต่งตัว เราจะไปกินข้าวนอกบ้านกัน แต่นางเล่นแต่งตัวตั้งแต่ ห้าโมงเย็น จนถึง ทุ่มครึ่ง ผมคิดในใจว่าจะแต่งจนบินได้เลยรึไง ห้าๆๆๆ พอแต่งตัวเสร็จผมก็ขับรถพาไปเรื่อย พร้อมกับถามแฟนผมว่าอยากทานข้าวร้านไหน แฟนผมก็เลือกร้านร้านหนึ่งซึ่งมีบรรยากาศ ชิวชิว แต่ก็ไม่วายที่แฟนผมเดินตามแผนผมมาตลอด พอถึงร้านผมก็ทำตัวตามปกติ สั่งอาการ และเครื่องดื่ม ฟังดนตรี พอถึงช่วงเวลาประมาณ สี่ทุ่มครึ่ง ก็มีเด็กที่เดินขายดอกกุหลาบ ในระหว่างที่แฟนผมเข้าห้องน้ำ ผมเลยซื้อดอกกุหลาบไว้ 1 ดอก เอาไว้ให้แฟนผมในวันเกิด เมื่อแฟนผมกลับมาจากห้องน้ำ ผมเลยยื่นดอกกุหลาบให้แฟนผมพร้อมบอกว่า สุขสันต์วันเกิดนะตัวเอง และแล้วไฟทั้งร้านก็ดับลง สักพักมีกลุ่มไฟโผล่ขึ้นมาจากหลังเค้าเตอร์บาร์ ประกอบกับนักร้องที่ร้านก็ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดพร้อมกับลูกค้าที่อยู่ในร้าน ทำให้แฟนปล่อยโฮเลยทันที ผมเองก็ประทับใจที่เดาใจแฟนผมได้ว่าจะเลือกนั่งร้านไหน เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงบ่ายที่ชวนแฟนผมทะเลาะ ผมได้ข้อความไปนัดแนะกับเจ้าของร้านเป็นทีเรียบร้อย เพราะทุกอย่างที่ผมทำล้วนมาจากความรู้สึกเพียวเพียว . . . นะค๊าบบบ
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เรื่องราวของเรายังมีอีกมากมายระหว่าง 6 ปีที่เราสองคนคบกันมา แต่ถึงผมจะรักเขามากแค่ไหน มันก็คงมีไม่กี่เหตุผลที่ทำให้เราต้องเลิกกัน ผมใช้เวลาถึง 3 ปีกว่า และอาจจนถึงปัจจุบัน จนมีอยู่วันหนึ่งเธอมาขอคืนดี แต่คงเป็นเพราะผมเคยบอกเขาไว้ว่า ถ้าไม่ไหวก็กลับมา ในวันที่คุณไม่มีใคร ตอนนี้ผมไม่รู้ใจผมเองว่าจะตอบเขากลับไปว่าอย่างไร . . .
เพราะระหว่างช่วงเวลาที่เราเลิกกัน ก็มีเรื่องราวต่างๆมากมายและที่สำคัญ ผมก็เห็นเขามีปัญหากับแฟนใหม่เขาอยู่ตลอด แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ตัวผมเองก็ได้แค่รับฟังในสิ่งที่เขาอยากระบาย และปรึกษาในบางเรื่องเท่านั้น พอคุยกับเขาเมื่อไหร่ ผมก็รู้สึกใจหวิวๆไงไม่รู้ ผมก็อยู่คนเดียวแบบนี้มาตลอด แต่ก็ดีที่ยังมีเพื่อนๆมีพี่ๆมีน้องๆ ที่ยังทำให้ผมยิ้มได้
หรือมันเป็นรักแท้
หรือเป็นเพราะความผูกพัน
หรือเป็นเพราะผมยังรักเขา
หรือเป็นเพราะผมยังมีเขาอยู่ในใจ
สับสนจริงๆครับ
และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ติชม ทุกๆคำนะครับ
จะมีสักกี่เหตุผล ที่แฟนเก่าขอคืนดี . . . และจะมีสักกี่เหตุผล ที่จะกลับไปคบกับเขา . . .
และจะมีสักกี่เหตุผล ที่จะกลับไปคบกับเขา . . .
ก่อนอื่นผมขออนุญาตท้าวความย้อนกลับไปเมื่อปี2550
เรื่องเราของเราสองคนเริ่มจากตอนที่ผมเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง แต่นั้นมันก็เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน ในวันแรกที่เราเจอกันที่ร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัย ก็มีพี่ชายผมอีกคนแนะนำให้รู้จักพี่เขา ไอ้ตัวผมเองก็รู้สึกจะเกรงใจพี่เขาเอามากมาก ก็พี่เขาแก่กว่าผมตั้ง 3 ปี แต่ทำไงได้ พี่เขาน่ารักดี ถึงจะอายุเยอะกว่าแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรทั้งนั้น พอได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันสักระยะหนึ่ง ไอ้เราก็รู้สึกปลื้มพี่เขาอยู่เหมือนกัน พี่เขาบอกว่าพี่เขาพึ่งออกรถเก๋งมาใหม่ ขับรถก็ไม่คล่อง จึงจะจ้างผมให้ขับรถไปส่งที่ร้านอาหารในตัวเมือง ซึ่งระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก เมื่อไปถึงร้านอาหารก็ชวนผมนั่งทานข้าวด้วย ผมก็ติดเกรงใจนิดนึงกินบ้างไม่กินบ้าง โทรหากันเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ก็เป็นแบบนี้อยู่ประจำหลายเดือน และด้วยความใกล้ชิดมันทำให้ผมรู้สึกว่าเริ่มตกหลุมรักพี่สาวคนนี้เข้าให้แล้ว . . .
หลังจากที่เราตกลงคบกันเป็นแฟน ก็ล้วนมีเรื่องราวต่างต่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความสุข ความทุกข์ ปัญหา อุปสรรค ต่างๆมากมาย มาด้วยกัน เรื่องราวเหล่านี้มันคือสิ่งที่ทรงคุณค่าสำหรับผมมาก และยังมีหลายเหตุการณ์ หลากหลายเรื่องราว ที่เธอทำให้ผมรักเธอจนสุดหัวใจ เรื่องราวประทับใจในปีเเรกที่เราคบกัน ซึ่งในวันเกิดของผมนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดจะทำไรอยู่แล้วในวันเกิด ผมเลยเดินไปร้านเกมส์เพื่อนใกล้ๆกับร้านเสริมความงามของแฟนผมนั้นแหละ ผมก็นั่งเล่นตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เพราะอากาศมันร้อนด้วยแหละครับ ทำให้ผมต้องกระโดดไปนั่งคลุกอยู่ที่ร้านเกมส์ ผมก็นั่งเล่นเกมส์อยู่เรื่อยๆตามปกติ สักพักเพื่อนผมก็โทรมาถามผมว่าอยู่ไหน ผมก็บอกว่าอยู่ร้านเกมส์ แต่เพื่อนผมกลับบอกว่า เดี๋ยวกูไปหากูมีเรื่องให้ช่วย ผมเลยบอกไปว่ามาเลยเพื่อน ผ่านไปประมาณ 10 นาที เพื่อนผมก็มาถึงที่ร้านเกมส์ เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ผมเลยเออะใจและถามไปว่า มีไรทำหน้าเครียดจังวะ เพื่อนผมก็พูดสวนกลับมาทันทีว่า กูโดนพวกวิศวะไล่ต่อยว่ะ ทันใดนั้นผมก็เริ่มฉุนมากและถามกลับไปว่าที่ไหน เมื่อไหร่ จำหน้ามันได้ไหม เพื่อนผมมันบอกว่าจำได้ อยู่แถวๆนี้แหละ ผมไม่รีรอที่จะช่วยเพื่อน ได้โทรเรียกเพื่อนมาอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากออกจากร้านเกมส์มาเพื่อนผมก็พาผมไปห้องพักใกล้กับร้านเสริมความของแฟนผม แต่แล้วก็ไม่เจอ ผมเลยกอดคอเพื่อนแล้วบอกว่า ไว้เจอมันแล้วรีบโทรบอกกูเลยนะ หลังจากที่ผมหาคนที่ไล่ต่อยเพื่อนผมไม่เจอ ผมกับเพื่อนเพื่อนก็มาอยู่หน้าร้านแฟนผมแล้วนั่งลงคุยกัน ตอนนี้เวลาก็ประมาณ 3 ทุ่มแล้ว สักพักไฟในร้านแฟนผมก็ดับ ผมแปลกใจอยู่เหมือนกันผมเลยเดินเข้าร้านไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แฟนผมเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมเค้กที่จุดเทียนพร้อมกับร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด มันทำให้ผมยิ้มจนน้ำตาซึมและดีใจสุดๆ เพื่อนเพื่อนผมก็ช่วยกันร้องเพลงพร้อมปรบมือ ผมโครตดีใจเลยจนพูดไม่ออกเลย แต่พอผมเริ่มกลับมามีสติได้ ก็ไม่วายที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆได้ แท้ที่จริงแล้วแฟนผมอยากเซอร์ไพรส์วันเกิดผม โดยการวางแผนกับเพื่อนเพื่อนผมเกือบทั้งหมด แค่เรื่องราวนี้ก็ทำผมอึงเลยครับว่าแฟนผมเป็นจอมวางแผนจริงๆ
แต่มันก็จริงที่แฟนผมเป็นจอมวางแผน ผมเองก็เลยไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน ในวันเกิดของแฟนผม ผมก็เริ่มด้วยการทะเลาะก่อน แล้วค่อยปลอบที่หลัง แต่แล้วมันก็ได้ผลตามคาดไว้ ตกเย็นผมก็ทำตามแผนสิรอไร เข้าไปง้อ เข้าไปอ้อน สุดท้ายก็ใจอ่อน ผมเลยบอกให้แฟนผมไปแต่งตัว เราจะไปกินข้าวนอกบ้านกัน แต่นางเล่นแต่งตัวตั้งแต่ ห้าโมงเย็น จนถึง ทุ่มครึ่ง ผมคิดในใจว่าจะแต่งจนบินได้เลยรึไง ห้าๆๆๆ พอแต่งตัวเสร็จผมก็ขับรถพาไปเรื่อย พร้อมกับถามแฟนผมว่าอยากทานข้าวร้านไหน แฟนผมก็เลือกร้านร้านหนึ่งซึ่งมีบรรยากาศ ชิวชิว แต่ก็ไม่วายที่แฟนผมเดินตามแผนผมมาตลอด พอถึงร้านผมก็ทำตัวตามปกติ สั่งอาการ และเครื่องดื่ม ฟังดนตรี พอถึงช่วงเวลาประมาณ สี่ทุ่มครึ่ง ก็มีเด็กที่เดินขายดอกกุหลาบ ในระหว่างที่แฟนผมเข้าห้องน้ำ ผมเลยซื้อดอกกุหลาบไว้ 1 ดอก เอาไว้ให้แฟนผมในวันเกิด เมื่อแฟนผมกลับมาจากห้องน้ำ ผมเลยยื่นดอกกุหลาบให้แฟนผมพร้อมบอกว่า สุขสันต์วันเกิดนะตัวเอง และแล้วไฟทั้งร้านก็ดับลง สักพักมีกลุ่มไฟโผล่ขึ้นมาจากหลังเค้าเตอร์บาร์ ประกอบกับนักร้องที่ร้านก็ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดพร้อมกับลูกค้าที่อยู่ในร้าน ทำให้แฟนปล่อยโฮเลยทันที ผมเองก็ประทับใจที่เดาใจแฟนผมได้ว่าจะเลือกนั่งร้านไหน เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงบ่ายที่ชวนแฟนผมทะเลาะ ผมได้ข้อความไปนัดแนะกับเจ้าของร้านเป็นทีเรียบร้อย เพราะทุกอย่างที่ผมทำล้วนมาจากความรู้สึกเพียวเพียว . . . นะค๊าบบบ
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เรื่องราวของเรายังมีอีกมากมายระหว่าง 6 ปีที่เราสองคนคบกันมา แต่ถึงผมจะรักเขามากแค่ไหน มันก็คงมีไม่กี่เหตุผลที่ทำให้เราต้องเลิกกัน ผมใช้เวลาถึง 3 ปีกว่า และอาจจนถึงปัจจุบัน จนมีอยู่วันหนึ่งเธอมาขอคืนดี แต่คงเป็นเพราะผมเคยบอกเขาไว้ว่า ถ้าไม่ไหวก็กลับมา ในวันที่คุณไม่มีใคร ตอนนี้ผมไม่รู้ใจผมเองว่าจะตอบเขากลับไปว่าอย่างไร . . .
เพราะระหว่างช่วงเวลาที่เราเลิกกัน ก็มีเรื่องราวต่างๆมากมายและที่สำคัญ ผมก็เห็นเขามีปัญหากับแฟนใหม่เขาอยู่ตลอด แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ตัวผมเองก็ได้แค่รับฟังในสิ่งที่เขาอยากระบาย และปรึกษาในบางเรื่องเท่านั้น พอคุยกับเขาเมื่อไหร่ ผมก็รู้สึกใจหวิวๆไงไม่รู้ ผมก็อยู่คนเดียวแบบนี้มาตลอด แต่ก็ดีที่ยังมีเพื่อนๆมีพี่ๆมีน้องๆ ที่ยังทำให้ผมยิ้มได้
หรือมันเป็นรักแท้
หรือเป็นเพราะความผูกพัน
หรือเป็นเพราะผมยังรักเขา
หรือเป็นเพราะผมยังมีเขาอยู่ในใจ
สับสนจริงๆครับ
และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ติชม ทุกๆคำนะครับ