เนื้อเรื่องไม่ต่อกับเล่ม 6 เป็นบทพัก เป็นเรื่องราวในในชีวิตประจำวันของ 6 กลีบ แต่ละคนในช่วงสมัยก่อนที่เทพมารจะลืมตาตื่น ในเล่มจะแบ่งเป็นเรื่องหลักยาวหน่อยๆ แล้วคั่นด้วยบทย่อยที่เป็นเรื่องราวๆ ทั่วไป ปนขำของ 6 กลีบ แต่ละคน
ฮันส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทแรก เป็นเรื่องราวของฮันส์ จะเกี่ยวกับหญิงชราที่ชื่อโทโร่ นักบุญแห่งยา ที่รู้จักกับฮันส์โดยบังเอิญ และคบหาเป็นมิตรในลักษณะใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน โทโร่รู้ถึงความแข็งแกร่งและสติปัญญาที่เฉียบคมของฮันส์ จึงได้พยายามกล่อมให้ฮันส์เป็น 6 กลีบ แต่ฮันส์ปฏิเสธ โทโร่เลยพยายามจะให้คนสนิทชื่อฮอคแมนไปคอยสืบดูอุปนิสัยใจจริงของฮันส์ เพื่อหาสาเหตุที่ฮันส์ปฏิเสธ และเพื่อหาทางทำให้ฮันส์ยอมรับข้อเสนอ สุดท้ายด้วยข้อมูลที่ได้มา โทโร่ก็สามารถทำให้ฮันส์หันมายอมรับเรื่องการเป็น 6 กลีบได้ในที่สุด เพราะโทโร่รู้แล้วว่าฮันส์เป็นคนไม่ชอบการบังคับและการผูกมัด เป็นแมวที่รักความเป็นอิสระแต่กลับยึดติดกับคำว่าอิสระเป็นที่สุด โทโร่จึงประกาศห้ามไม่ให้ฮันส์เป็น 6 กลีบอย่างเด็ดขาดและจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง ทำให้ฮันส์หัวเราะชอบใจเพราะฮอคแมนอ่านขาดว่าฮันส์เป็นประเภทที่ถ้าบังคับให้ทำก็จะไม่อยากทำ แต่ถ้ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุนั่นเอง
บทคั่น เป็นเรื่องของฮันส์ที่เล่าผ่านมุมมองของแมวตัวหนึ่งที่ฮันส์เรียกว่าท่านอาจารย์ โดยจะเป็นเรื่องราวในหนึ่งวันที่ฮันส์พยายามจะเลียนแบบท่าทางของท่านอาจารย์แมวตลอดทั้งวัน แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
โมร่า + โรโรเนีย + ชาโม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทสอง เป็นเรื่องราวของโมร่า จุดเริ่มต้นประมาณว่านักบุญแห่งน้ำแข็ง อัสเลย์ สงสัยว่าโมร่าจะมีความลับสำคัญอะไรบางอย่างเก็บไว้แต่ไม่ยอมบอก เพราะไปเจอกระท่อมร้างที่ลงอาคมผนึกเอาไว้ และแอบเห็นผู้รับใช้แห่งภูผา ซึ่งเป็นคนของโมร่าเดินเข้าออกอย่างลับๆ ล่อๆ เลยเริ่มตรวจสอบโมร่า โดยไม่สนใจคำทักท้วงของนักบุญแห่งเกลืออย่างวีรอนที่ให้ความเคารพรักในตัวโมร่ามากๆ สุดท้ายก็แอบไปขอยืมพลังของนักบุญแห่งแสงกับนักบุญแห่งเสียงมาสร้างกระจกสะท้อนให้เห็นเหตุการณ์ภายในกระท่อม จึงได้พบอีกตัวตนหนึ่งซึ่งเป็นนิสัยที่แท้จริงของโมร่า ภายใต้หน้ากากฐานะผู้นำของเหล่านักบุญที่ดูเคร่งเครียด เอาจริงเอาจังตลอดเวลา ทำให้ทั้งอัสเลย์และวีรอนถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะแทบไม่ทัน แต่วีรอนคิดว่าโมร่าเล่นละครเพื่อกลบเกลื่อนการสะกดรอยของอัสเลย์ เลยไปถามหาความจริงกับโมร่า โมร่าถึงกับช็อคที่โดนเห็นเหตุการณ์ในกระท่อมทั้งหมด เลยทั้งโกรธทั้งอายทั้งงอนวีรอนยกใหญ่
บทสาม เป็นเรื่องราวของโรโรเนียหลังเจออัตเล็ตได้ 3 เดือน ก็ท่าทีเปลี่ยนไป เริ่มตั้งใจฝึกซ้อม ทำตัวให้เก่งขึ้น แต่พอตกกลางคืนก็เอาแต่นั่งเพ้อฝันเรื่องอัตเล็ตอยู่ทุกคืน แต่พอเห็นหน้าตัวเองในกระจกก็น้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่สวย วันรุ่งขึ้นก็ไปเจอกลุ่มสาวๆ ทั้งนักบุญและผู้รับใช้ พากันรุมดูเครื่องแต่งหน้า เครื่องประดับ เลยเข้าไปร่วมวงคุยแล้วโรโรเนียพยายามถามว่าคนสวยเป็นยังไง คนก็ยกตัวอย่างไปต่างๆ นานา โมร่าบ้าง อัสเลย์บ้าง นาเชทาเนียบ้าง สุดท้ายพอดีว่าตอนนั้นชาโม่มาที่วิหารเพราะโดนโมร่าตามตัวมาฝึก ชาโม่กำลังอารมณ์ไม่ดี พอเห็นหน้าโรโรเนีย ก็ดูแคลนเป็นอย่างมากว่าเหมือนหมู โรโรเนียช็อคจนนิ่ง พอตกดึกก็เอาอุปกรณ์แต่งหน้าที่ขอยืมมาลองแต่งแต่ไม่เวิร์ค สุดท้ายเลยเอาเหรียญตราของประเทศพิเอน่า ที่สลักรูปด้านข้างของาเชทาเนียมาพิจารณาแล้วคิดว่า ปัญหาใหญ่ของตนคือส่วนจมูก เลยพยายามจะใช้พลังควบคุมเส้นเลือดให้เปลี่ยนรูปร่างเพื่อปรับรุปร่างจมูก แต่ทำไปทำมาเลือดก็ไหลออกมาจากจมุกเป็นจำนวนมาก จนคนในวิหารพากันตกใจคิดว่าโดนเคียวมะบุกมาทำร้าย โมร่าพยายามถามหาสาเหตุแต่วีรอนก็เข้ามาช่วยเบี่ยงประเด็นจนทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน ตัววีรอนก็ปลอบใจโรโรเนียเพราะทั้งคู่ต่างก็เกิดมาไม่สวยเหมือนกัน เลยเข้าใจความรู้สึกของโรโรเนีย
บทสี่ เป็นเรื่องราวของชาโม่ ที่ปกติจะอยู่ที่อื่น แต่ถูกโมร่าเรียกตัวมาฝึกที่วิหารหลัก แล้วชาโม่อาละวาดด้วยความไม่พอใจที่หัวหน้าทหารมาแนะนำจุดอ่อนของชาโม่ เลยโดนโมร่าเรียกมาพบ ชาโม่ได้แต่นั่งจ๋องเพราะกลัวโมร่า ส่วนโมร่าก็ดุเสียงลั่นและบอกว่าที่หัวหน้าทหารพูดมามันก็ถูกต้องทั้งหมด และสั่งให้ชาโม่ไปขอโทษทหารทุกคนที่โดนลูกหลง ชาโม่เริ่มอิดออด แต่โมร่าบอกว่าไม่งั้นจะโดนตีก้น ชาโม่ถึงกับหน้าซีด ยอมทำแต่โดยดี แล้วโมร่ายังเตรียมแผนรับมือไว้คือ เวลาที่ชาโม่ไม่สบอารมณ์แล้วพยายามจะทำตัวเกเรและอาละวาด สาวใช้ประจำตัวหรือคนที่เกี่ยวข้องจะยกแผ่นกระดาษข้อความจากโมราที่เขียนว่า ถ้าทำตัวไม่ดีจะโดนโมร่าดุ พอไปที่ไหนก็เจอแต่แบบนี้ทำให้ชาโม่เริ่มอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายถึงวันหยุด ชาโม่เลยออกไปหาเรื่องเจ้าเมืองที่ได้ยินข่าวลือว่าเป็นคนไม่ดีชอบขูดรีดภาษีชาวบ้าน โดยอ้างว่าการช่วยเหลือคนที่ลำบากหรือการลงโทษคนไม่ดี ไม่ผิดไปจากคำสอนของนักบุญ โมร่าก็ไม่มีสิทธิ์ลงโทษ สุดท้ายตอนกลับมาถึงโมร่าจะรู้เรื่องทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับชาโม่เลย แม้วันรุ่งขึ้นโมร่าก็ไม่พูดกับชาโม่ จนชาโม่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ที่โมร่าไม่สนใจ ชาโม่เริ่มรู้สึกสลดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เหมือนกับว่าสิ่งที่ชาโม่กลัวไม่ใช่การที่โดนโมร่าโกรธ ในที่สุดชาโม่ก็ได้ยินเสียงโมร่าตวาดดังมาแต่ไกล ถึงทำให้ชาโม่หลุดยิ้มออกมาได้ แต่สุดท้ายก็โดนโมร่าจับตีก้นอย่างหนัก
บทคั่น เป็นเรื่องของโมร่าสมัยยังอายุ 12 ยังไม่เป็นนักบุญ เป็นแค่ลูกสาวพ่อค้าคนหนึ่ง โมร่าแอบไปงานเลี้ยงโดยอ้างกับทุกคนว่าเป็นตัวแทนของพ่อ เพื่อไปตามหาผู้ชายคนหนึ่งที่เคยมาติดต่อเรื่องค้าขายกับพ่อของโมร่า ชื่อว่าคันนะ ตอนที่กำลังมองหาอยู่กลายเป็นโดนคันนะเข้ามาทักเพราะเห็นว่าโมร่าเป็นเด็ก ไม่น่าจะได้มางานนี้คนเดียว แต่โมร่าเถียงขาดใจว่าโตแล้ว โดยพยายามใช้คำพูดให้ดูเหมือนผู้ใหญ่ แต่จริงๆ แล้วคำพูดที่โมร่าใช้เป็นของพวกผู้เฒ่าผู้แก่ใช้กันมากกว่า โมร่าพยายามดึงดันว่าปกติใช้คำพูดแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้โกหก สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าต้องพูดแบบนี้ไปตลอด ไม่งั้นก็จะกลายเป็นคนโกหกในสายตาคันนะ พอหลังแต่งงานโมร่าก็โอดครวญว่า รู้ยังงี้ตอนนั้นไม่น่าใช้คำพูดแบบนี้เลย แต่ก็พูดมาจนติดและลืมวิธีพูดแบบธรรมดาไปแล้ว คันนะได้แต่หัวเราะแล้วตอบว่า ก็ชอบที่โมร่าเป็นคนแบบนี้นั่นแหละ โมร่าได้แต่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
บทคั่น เป็นเรื่องของโรโรเนียที่เกิดหิวกลางดึกขึ้นมา ทั้งที่กินจนอิ่มหนำมากแล้ว เลยแอบลงมาทำซุปที่ใส่แค่เกลือกับแครอท สมัยที่โรโรเนียยังไม่ได้เป็นนักบุญ ต้องอยู่อย่างยากจน ซุปนี้ถือเป็นอาหารชั้นเลิศที่อร่อยที่สุด แต่ด้วยความสุขสบายที่ได้รับตั้งแต่เป็นนักบุญ พอมากินอีกทีเลยรู้สึกว่าไม่อร่อยไปแล้ว เพราะลิ้นของเธอคุ้นกับรสอร่อยและความฟุ่มเฟือยไปซะแล้ว สุดท้ายวีรอนเดินมาเจอในครัว แล้วเลยแซวว่า อ้วน โรโรเนียก็งงเพราะตั้งแต่สมัยที่อยู่อย่างแร้นแค้น โรโรเนียไม่เคยมีความคิดในหัวเลยว่า อ้วนแล้วไม่ดี
บทคั่น ชาโม่ไปที่ทะเลสาปในป่าลึก เพื่อปล่อยสัตว์เลี้ยงออกมาเล่นน้ำ ล่าเหยื่อ อย่างสนุกสนาน แล้ววีรอนมาเป็นคนคอยอารักขา วีรอนเริ่มเบื่อ พอเห็นชาโม่เอาผ้าคอยเช็ดตัวให้สัตว์เลี้ยงเคียวมะทีละตัวๆ แล้วเห็นว่าเสียเวลานานเลยอาสาจะช่วย ตอนแรกชาโม่จะไม่ยอมให้ช่วย แต่พอเห็นวีรอนเริ่มเบื่อ ชวนคุยนู่นคุยนี่มากขึ้น ดูเป็นเรื่องไร้สาระอย่างเรื่องความรัก เลยยอมให้ช่วยทำความสะอาดก็ได้ ตอนที่ทำความสะอาดวีรอนเผลอเช็ดแรงไปเลยเกือบโดนกัดเข้า ดีที่หลบทัน ชาโม่เลยดุว่าสัตว์เลี้ยงของเธอละเอียดอ่อนมาก ทำให้ดีๆ หน่อย อย่าเช็ดแรงไป พอเช็ดจนเสร็จชาโม่บอกว่า ดูท่าทางสัตว์เลี้ยงของเธอจะถูกใจวีรอนไม่น้อย ครั้งหน้าจะยอมให้ช่วยอีกก็ได้ หรือถ้าวีรอนอยากเล่นกับสัตว์เลี้ยงของชาโม่เมื่อไหร่ ก็อย่าเกรงใจบอกได้เลย วีรอนได้แต่ยิ้มแห้ง ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี
กอลดอฟ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทห้า เป็นเรื่องราวของกอลดอฟ อายุพึ่ง 14-15 เป็นหัวหน้ากองอัศวินดำไปแล้ว กำลังประลองกับอัศวินกองกำลังอื่นๆ เพื่อแสดงแสนยานุภาพให้กับนาเชทาเนีย เพื่อที่จะได้ไม่มีคนกล้าคิดเป็นปรปักษ์ กอลดอฟค่อนข้างได้รับความนิยมมากจากผู้หญิงเกือบทุกคน แม้กระทั่งลูกสาวขุนนางที่หน้าตาสวยที่สุด (ชนิดที่ถ้าถามว่าใครสวยที่สุดในพิเอน่า ทุกคนจะตอบชื่อนี้ขึ้นมาได้อย่างไม่ลังเล และแน่นอนว่าสวยกว่านาเชทาเนียเสียอีก) ยังมาขอความรักจากกอลดอฟ แต่กอลดอฟก็ไม่สนใจ และเอาแต่กลัดกลุ้มถึงความรู้สึกที่มีต่อนาเชทาเนีย เพราะตนเองเป็นอัศวิน เป็นข้ารับใช้ ไม่ควรจะคิดแบบนี้ และกอลดอฟพยายามจะเก็บงำเอาไว้ ไมอยากให้ใครรู้ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าใครๆ ในพระราชวังก็รู้ว่ากอลดอฟรักนาเชทาเนีย แน่นอนว่านาเชทาเนียก็รู้ นาเชทาเนียพยายามจะวางแผนสร้างคนรักให้กับกอลดอฟร่วมกับทหารคนสนิทที่เป็นรองหัวหน้าอัศวินดำอีกคนชื่อคาซามะ คาซามะเคยถามว่าไม่คิดจะเป็นคนรักกับกอลดอฟมั่งหรือ แต่นาเชทาเนียปฏิเสธบอกว่า เธอยังสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อยู่ เพียงแต่รอวันที่จะมีคนที่เหมือนท่านพี่ปรากฏตัวขึ้นมาเท่านั้นแหละ ท่านพี่ที่ว่าก็คือ ไครซ์โทมา พี่ชายที่ตายไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อนของนาเชทาเนียนั่นเอง
ทางนาเชทาเนียตอนที่กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากในห้องที่มีแต่สัตว์เลี้ยงของเธอ เสียงนั้นถามว่าถ้าวางแผนอะไรก็ช่วยบอก จะได้ช่วยกันคิด แต่นาเชทาเนียปฏิเสธว่านี่เป็นใจจริงของเธอ เพราะกอลดอฟเป็นคนสำคัญที่หาใครมาแทนที่ไม่ได้ เลยอยากจะให้มีความสุขมากๆ เพราะในอนาคตอีกไม่นาน เธออาจจะต้องสังหารกอลดอฟด้วยตัวเธอเองก็ได้ ถึงตอนนั้นตัวเธอคงต้องเสียใจมากๆ เป็นแน่ เลยพยายามจะทำให้กอลดอฟมีความสุขมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อว่าถ้าเวลานั้นมาถึงเธอจะได้ไม่รู้สึกผิดมาก ต้นเสียงปริศนาพูดลอยๆ ว่า พูดเองว่าเป็นคนสำคัญที่หาใครแทนที่ไม่ได้ แต่ก็พูดออกมาโดยไม่ลังเลว่าจะฆ่า มันดูลักลั่นย้อนแย้ง นาเชทาเนียหัวเราะแล้วตอบว่า ก็เหมือนคุณนั่นแหละ
เรื่องราวเหมือนๆ จะมีสาวคนหนึ่งกำลังจะไปได้ดีอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ตอนที่สาวเจ้าโดนปฏิเสธก็ถามกอลดอฟว่า เคยได้ยินข่าวลือว่า กอลดอฟชอบผู้ชายด้วยกัน แต่กอลดอฟก็จงใจไม่ปฏิเสธให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะในใจกอลดอฟแต่ได้เศร้าเสียใจที่ตนเองคงไม่อาจรักใครได้นอกจานาเชทาเนีย และคงต้องโอบกอดความรู้สึกนี้ไปจนตาย กอลดอฟไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บปวดแบบนี้อีกเลยพยายามหาทางให้ผู้หญิงทุกคนไม่มาสนใจตนเอง เลยทำให้เกิดข่าวลือว่ากอลดอฟรักผู้ชายด้วยกัน จนนาเชทาเนียต้องไปตามแก้ข่าว
บทคั่น เป็นเรื่องกอลดอฟสมัยยังอายุ 12 พึ่งเข้ามาอยู่ในวังไม่นาน กำลังเรียนวิชาเลขอยู่ แต่กอลดอฟได้แต่ครางอย่างทรมานและเอามือทุบโต๊ะด้วยความเดือดดาล แม้แต่เอาเลขคูณกันง่ายๆ อย่าง 7*3 กอลดอฟก็ตอบไม่ได้ ผู้รับใช้หนุ่มที่เป็นผู้สอนเลยด่าว่าให้ใช้หัวหน่อย แต่ดูเหมือนไม่ได้ผล สุดท้ายเลยลองเปลี่ยนวิธีโดยถามว่า ถ้ามีศัตรูบุกมาหมายจะทำร้ายนาเชทาเนีย ศัตรูมีกองละ 7 คน ถ้าจัดการได้ 3 กองจะถือว่าจัดการไปกี่คน กอลดอฟตอบได้ทันทีว่า 21 คน พอลองถามด้วยวิธีเดียวกันหลายๆ รอบ ไม่ว่าจะซับซ้อนแค่ไหน กอลดอฟก็สามารถตอบได้ทันที แต่พอลองกลับมาถามด้วยการใช้ตัวเลขล้วนๆ กอลดอฟก็เอามือทุบโต๊ะด้วยความเดือดดาล แล้วบอกว่า ยากยังงี้ใครจะไปรู้ ผู้รับใช้หนุ่มเลยเอาสันหนังสือทุบกลางหัวกอลดอฟแล้วบอกว่า มันก็ไม่น่าจะไม่รู้นะ กอลดอฟเถียงว่าช่วยสอนให้มันจริงจังหน่อย แต่ชายหนุ่มก็ตอบว่า นี่ก็จริงจังอยู่ไงเล่าแล้วก็เอาสันหนังสือทุบหัวกอลดอฟอีกรอบ
[Spoil] Rokka no Yuusha นิยายเล่ม 7 แบบคร่าวๆ
ฮันส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โมร่า + โรโรเนีย + ชาโม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กอลดอฟ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้