- เหมาะสำหรับคนที่อ่านเล่ม 1-5 แล้ว
- ชื่อ คำเรียกต่างๆ อย่าถือสาถ้าหากตัวสะกดไม่ถูกใจ
บทนำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้プロローグ 復讐者
อาโทโร่ สไปเกอร์ พูดกับอัตเล็ตในวัย 14 ปี ว่า ไม่มีเวลามาสนใจขยะแบบแกหรอกนะ ทั้งยังโดนศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ในเวลานั้นดูถูกอย่างหนัก เหตุเพราะว่าหลังจากหมู่บ้านถูกทำลายลง อัตเล็ตที่เต็มไปด้วยไฟแค้นได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักในการฝึกซ้อม แต่ฝีมือก็ไม่พัฒนาขึ้นเลย จะวิชาดาบ การปาเข็ม การใช้อาวุธลับต่างๆ จัดว่าอยู่ในระดับห่วยเลยก็ว่าได้ อัตเล็ตในตอนนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ในตอนนั้นก็ยังมีคนที่ใจดีกับอัตเล็ตด้วย เป็นรุ่นน้องที่อายุเท่ากับอัตเล็ตเข้ามาทีหลัง ช่วยชี้จุดที่ต้องแก้ไขเวลาฝึก ทั้งทำแผลให้กับอัตเล็ต
อยู่มาวันหนึ่งเด็กหนุ่มที่ว่าก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้อัตเล็ต เสนอให้อัตเล็ตล้มเลิกความคิดที่จะเป็น 6 กลีบแล้วออกจากที่นี่ไปจะดีกว่า กระดาษที่ว่าคือใบฝากตัวให้เป็นลูกมือพ่อค้าที่เป็นญาติของเด็กหนุ่มนั่นเอง เด็กหนุ่มต้องการให้อัตเล็ตมีเพื่อนและมีชีวิตที่ดีกว่านี้
อัตเล็ตตะโกนลั่นด้วยความเกรี้ยวกราดและพุ่งเข้าใส่หมายจะแทงเด็กหนุ่มเพราะอัตเล็ตตัดสินใจไว้แล้วว่าจะฆ่าทุกคนที่ขัดขวางการล้างแค้นของตนเอง แต่เด็กหนุ่มหลบการโจมตีของอัตเล็ตอย่างง่ายดายแล้วเตะเข้าที่ท้องอัตเล็ตจนล้มคว่ำไปกองกับพื้น เด็กหนุ่มมองอัตเล็ตอย่างดูแคลนถามว่าคิดจะฆ่าแม้แต่เพื่อนที่มีอยู่แค่คนเดียวเนี่ยนะ อาโทโร่ก็บอกว่าอัตเล็ตน่ะไม่ไหวหรอก มีแต่ความแค้นไม่มีทางทำให้แข็งแกร่งขึ้น คนที่ไม่มีสิ่งที่ต้องการปกป้องไม่มีทางได้รับความแข็งแกร่ง คนอย่างอัตเล็ตที่ไม่ให้ความสำคัญกับใครเลยไม่มีทางเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีได้ คำพูดของเด็กหนุ่มเสียดแทงใจของอัตเล็ต เด็กหนุ่มยังพูดต่อว่า เบื่ออัตเล็ตแล้ว เชิญพยายามอย่างเสียเปล่าไปจนตายเถอะ แล้วก็จากไปโดยไม่เคยกลับมาคุยกับอัตเล็ตอีกเลย
อาโทโร่เคยบอกว่า คนที่ไม่มีสิ่งสำคัญ ไม่มีทางแข็งแกร่งได้ ทว่าหัวใจของอัตเล็ตแตกสลายไปแล้วนับตั้งแต่วันที่หมู่บ้านโดนทำลาย คนที่รักและสิ่งที่อยากปกป้องมลายหายไปจนสิ้น ความรู้สึกสูญเสียได้ควบคุมจิตใจของอัตเล็ตโดยสิ้นเชิง พอคิดจะสร้างความสนิทสนมกับใคร ใบหน้าของไลเนอร์ก็ลอยขึ้นมาถามว่าคิดจะลืมกันหรือไง พอจะคิดถึงใคร ตัวตนของเชนิล่าก็โผล่ขึ้นมาขวางเอาไว้ นอกจากคนเหล่านี้แล้วอัตเล็ตไม่สามารถรักใครได้อีก ความคิดคำนึงถึงใครนั้นอัตเล็ตคิดได้เพียงว่านั่นคือสิ่งที่จะมาขัดขวางการล้างแค้นเท่านั้น ไม่สามารถคิดเป็นอื่นได้อีก สิ่งที่ฉายในแววตามีเพียงแค่ศัตรู ชีวิตมีแต่การฆ่าฟัน ถ้อยคำหวานหรือความเห็นใจใดๆ ก็ไม่อาจส่งไปถึงหัวใจของอัตเล็ตได้
อัตเล็ตเองก็รู้ตัวว่าตนเองที่เป็นแบบนี้คงไม่มีทางแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมไฟแห่งการล้างแค้นในอกได้เหมือนกัน คืนหนึ่งอัตเล็ตฝันว่าตนเองได้พบและรักกับใครคนหนึ่ง อัตเล็ตยื่นมือและเดินออกไปเพื่อจะโอบกอดคนคนนั้น แต่นิ้วของอัตเล็ตก็เอื้อมไปไม่ถึง แล้วอัตเล็ตก็ตกใจที่ตนเองยังเหลือหัวใจความเป็นมนุษย์ที่คิดว่าสูญเสียไปนานแล้วอยู่อีก เชื่อมาตลอดว่าตนเองเป็นแค่สัตว์ประหลาดที่มีแต่ความแค้นและการฆ่าฟันเท่านั้น แต่ตอนนี้อัตเล็ตกลับรู้สึกว่ารักใครคนหนึ่งอยู่ แล้วอัตเล็ตก็ตื่นจากความฝันทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถกอดคนคนหนึ่งที่ว่าได้ แล้วก็นั่งเหม่อในถ้ำที่พักจนถึงเช้า
ถ้าเป็นฝันปกติ ตื่นขึ้นมาก็คงลืมไปแล้ว แต่ฝันนี้สลักลึกในใจของอัตเล็ต เกิดเป็นความเศร้าที่ไม่สามารถสัมผัสใครคนนั้นในฝันได้ขึ้นมา อัตเล็ตพยายามจะลืมเพราะคิดว่าไม่มีเวลามาคิดเรื่องอื่นอีก แล้วก็ฝึกดาบไปเรื่อยๆ แต่ความฝันที่ว่าก็หวนกลับเข้ามาในสมองของอัตเล็ต เป็นความเปล่าเปลี่ยวที่ไม่สามารถกอดใครคนนั้นได้ พอคิดถึงคนคนนั้นแล้วใบหน้าของไลเนอร์และเชนิล่าก็ห่างไกลออกไป แล้วอัตเล็ตก็รู้สึกตัวได้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่หัวใจของมนุษย์จะจมอยู่กับแค่ความชิงชังและการล้างแค้นเท่านั้น การรักใครซักคน มันเป็นสิ่งที่หยุดไม่ได้
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัตเล็ตก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เริ่มพูดคุยและแสดงความเป็นมิตรกับคนรอบข้าง เริ่มเห็นความสำคัญของการรู้จักพึ่งพาและช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น ยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือเริ่มมีพัฒนาการในการฝึกวิชามากขึ้น ถึงจะยังห่างกับลูกศิษย์คนอื่น แต่ความเปลี่ยนแปลงก็คือความเปลี่ยนแปลง และเป็นครั้งแรกที่อาโทโร่เริ่มชมอัตเล็ตว่าก็ดีขึ้นนิดหน่อย แล้วยังบอกว่า จงอย่าลืมความรู้สึกที่ไม่อยากสูญเสียคนที่อยากปกป้องไปอีกเป็นครั้งที่สอง อย่างน้อยขยะอย่างอัตเล็ตก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ แต่ถ้าไม่เห็นพัฒนาการฝีมือยังไงก็ต้องออกไปจากที่นี่เหมือนเดิม
หลังจากฝันในวันนั้น ผ่านมาได้ประมาณ 3 เดือน อัตเล็ตนั่งอยู่ในถ้ำ ในมือถือตะปูที่ว่าเป็นสุดยอดอาวุธลับที่อาโทโร่คิดค้นขึ้นมาได้ แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบและยังไม่มีชื่อเรียก เป็นอาวุธที่ใช้ประโยชน์จากเลือดของนักบุญ โดยอาโทโร่สกัดเลือดนักบุญเอามาเฉพาะส่วนประกอบที่เป็นพิษต่อเคียวมะ มาทำเป็นผลึกแล้วติดไว้ที่ปลายของตะปู
อาโทโร่สั่งให้อัตเล็ตหาวิธีใช้อาวุธชิ้นนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นวิธีใหม่ที่ต่อให้เคียวมะฉลาดแค่ไหนก็ยังนึกไม่ได้ จินตนาการไม่ออก คาดไม่ถึง ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่มีค่าพอจะเหลือไว้ในบันทึกของอาโทโร่ และจะใช้เป็นบททดสอบ ถ้าทำให้อาโทโร่ตกใจไม่ได้ ก็ต้องออกไปจากที่นี่ เพราะคนโง่คงไม่มีทางใช้อาวุธนี่ได้แน่นอน
อัตเล็ตได้แต่นั่งคิด อาโทโร่เอาจริงแน่นอนเรื่องให้ออกไปจากที่นี่และความฝันที่ว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีก็ต้องจบลง คงไม่มีทางล้างแค้นให้ไลเนอร์ เชนิล่าและคนในหมู่บ้านได้ อีกอย่างก็คือ อัตเล็ตรู้สึกว่า ถ้าไม่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีก็คงปกป้องเด็กสาวในความฝันไม่ได้ ถึงจะไม่มีหลักฐานหรือเหตุผลอะไรมารองรับ เด็กสาวอาจจะเป็นแค่ความเพ้อฝันของอัตเล็ตก็ได้ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับเหตุผลที่จะแข็งแกร่ง ความรู้สึกที่ไม่อยากจะสูญเสียอะไรไปอีกเป็นครั้งที่สองคือสิ่งที่ทำให้อัตเล็ตแข็งแกร่งขึ้น อัตเล็ตพึมพำว่าใครจะยอมโดนไล่ออกจากที่นี่กัน หลังจากนั่งจ้องมองตะปูอยู่ครู่หนึ่ง จึงหลับตาลงเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ แล้วใช้มือจับตะปูเอาไว้ แทงเข้าที่กลางอกของตนเอง
[Spoil] Rokka no Yuusha นิยายเล่ม 6 แบบหนัก
- ชื่อ คำเรียกต่างๆ อย่าถือสาถ้าหากตัวสะกดไม่ถูกใจ
บทนำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้