- PAGE 2 –
MIYAJIMA ศาลเจ้าลอยน้ำกับกวางน้อยกลอยใจ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คอนนิจิวะ~ ใครที่ตามมาจากกระทู้ที่แล้วคงไม่ต้องเกริ่นกันเย๊อะ พูดแบบสั้นคือเป็นรีวิวแรกของเด็กน้อยฝึกเขียนริวิว ฝากกะหล่งป้งรีวิวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน้าค้า ว่าแล้วก็ไปตะลุยเกาะนี้กันเต๊อะ!
เผื่อผู้ใดจะติดตาม อิอิ
- PAGE 1 – DAZAIFU + CANNAL CITY
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35194770
- PAGE 2 – MIYAJIMA
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35201624
- PAGE 3 – KINTAIKYO + RURIKOJI TEMPLE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35215679
- PAGE 4 – BEPPU + KITSUKI
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35222890
- PAGE 5 – YUFUIN + NOMORI + บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/35244402
- - - - - - - - -
- 14.05.2016 –
- PAGE 2 -
- MIYAJIMA –
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ฟ้าฝนแสนเป็นใจ แดดแรงฝุดๆ แต่ยังคงมีลมเย็นๆ ปะทะใบหน้าให้คลายร้อนเบาๆ ออกจากที่พักแต่เช้าตรู่ และพาน้องไปอึที่สถานีจนตกรถไฟรอบ 6.28 น. 5555555 แต่ไม่เป็นไรมีหลายขบวนและเราไม่ได้ reseved seat ไว้จึงขึ้นขบวนไหนก็ด้ายตามเงื่อนไขของบัตรที่ซื้อและโบกี้ที่กำหนดไว้
สำหรับเส้นทางของเราวันนี้ เราสามคนนั่ง shinkansen จากสถานี hakata ไปลงที่ Hiroshima พอถึงสถานี Hiroshima เราก็จะต่อ local line ไป MIYAJIMAGUCHI ค่ะ
หลังจากออกมาจากรถไฟความเร็วสูงก็รอรถไฟกันปายยย (ใครที่งงว่าจะไปต่อที่ไหน หลังจากออกมาจากชินคันเซ็น มองหาป้ายได้เลยค่ะ เค้าจะบอกชัดเจนว่า local line ไปต่อที่ไหน รึจะสังเกตตามพื้นก็ได้ค่ะ ละเอียดกว่าที่คิดไว้ถึงเวลาจริงๆ ไม่ยากเลยค่ะ)
คันนี้แหละเจ้าค่า
หน้าสถานีค่ะ แดดแรงได้ใจหนูไปจริงๆ
พอมาถึงสถานี MIYAJIMAGUCHI เราก็จะต่อเรือ JR ferry ข้ามไปเกาะมิยาจิม่ากับกวางน้อยกลอยใจทันทีค่ะ ซึ่งpassที่เราซื้อครอบคลุมเข้าตัวนี้ ฉะนั้นไม่ต้องจ่ายเพิ่มเจ้าค่า ^^
เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็มาถึงที่ขึ้นเรือกันแล้ว
เรือ!!!!
ไปแล้ว TT ไม่เป็นไร รออีกลำ
มาแล้วค่า ได้เวลาไปเยือนเกาะส๊ากกกที
เนื่องจากเราไม่อยากจะรัดตัวเอง เลยใช้ทั้งวันนี้อยู่บนเกาะเพื่อจะได้เก็บให้ครบทุกอย่าง
ทันทีที่มาถึงสิ่งที่เจอก่อนแลนมาร์คของที่นี่ก็คือ กวาง และ กวาง อย่าเผลอหันตูดให้มันเชียว งับไม่ปล่อย (น้องโดนมาแล้วจ้า 5555) รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ เห็นยิ้มพริมใจแบบนี้น่ากลัวนะคะ
หมั่นไส้ได้มั้ยคะคุณขา ทำหน้าทำตาหันตูดมาดิ้กๆ ใส่อีก -.-
หลังจากเพลิดเพลินกับกวางน้อยเราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ เพื่อมุ่งไปชมศาลเจ้าลอยน้ำหรือศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)ค่ะ เห็นแล้วก็เอะใจ เอ๊ะทำไมปิดประตู มาเป็นไรเลาะด้านข้างไปก็ได้ .. เดินไปก็บ่นกับพ่อไป ทำไมถึงไม่มีร้านขายของเลย เกาะเงียบจัง บลาๆ
พอเราเจอศาลในมุมไกลลิบๆ หันหลังกลับไปก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วอ๋อในใจ .. ตูเดินมาผิดทางนี่หน่า 555555
จากภาพจะเห็นว่ามีร้านขายของตลอดสองข้างทางในอีกทางเข้านึงค่ะ เข้าใจแล้วทำไมเค้าปิดประตูไว้ 555
เดินมาอีกนิดก็ได้เห็นโทริอิแล้วค่ะ น้ำลงพอดีมีคนเดินลงไปเยอะแยะเลย น้องสาวก็ตื่นเต้น ลงไปกันเถอะๆๆ แต่เรากับพ่อคิดว่าเดี๋ยวรอให้ลงอีกนิดละกันจะได้ไม่ต้องย่ำน้ำ (อีกครั้งที่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนก็ไม่รู้ว่าน้ำจะลง 555)
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะเราตั้งใจจะขึ้น ropeway และเดินขึ้นไปให้ถึงยอดเขา misen ที่เค้าว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น จึงแวะเข้าศาลเจ้าอิสึคุชิมะก่อนเลย
ค่าเข้าชม 300Y แต่งงมากตอนนั้นเจ้าหน้าที่คิดเราสามคนพ่อลูกคนละ 100Y อาจจะเพราะเป็นตอนน้ำลงมั้งคะ (ไม่ทราบจีจี)
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย~ ทำไมครอบครัวฉันไม่มาเดินที่นี่ตอนน้ำขึ้น 55555 แต่ก็สวยแบบแห้งๆ ค่ะ
พอเข้าไปแล้ว อากาศในศาลผิดกับข้างนอกมากค่ะ เย็นเหลือเกินพอไม่มีแดด คิดว่าถ้าน้ำขึ้นต้องสวยมากแน่ๆ เลย TT แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราคนจริง มาดูอะไรแปลกๆ ไม่สนใจกระแสค่ะ (หรอ)
เดินออกมาจากศาลทะลุอีกด้านก็เห็นธารใสไหลเย็นเห็นปลาคราฟ(?) และร้านค้าทั่วไปค่ะ จุดหมายต่อไปของเราคือ ropeway เก็บแรงปืนเขากันเลยทีเดียว ร้านค้าของฝากค่อยว่ากัน
หลังจากขึ้นเนินไปก็ได้แต่มองหน้ากัน เอ๊ะ ทำไมเหนื่อย 5555 ยังไม่ทันไรเลยเริ่มหอบกันละ เพียงแต่ตอนที่เดินมีบางสิ่งที่ทำให้แอบร้องกรี๊ดในใจเบาๆ
ฮรือออ ส่วนตัวหนูเป็นคนที่crazyใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ ค่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวช่วงนั้นเลย ปีที่แล้วก็ติดติวสอบอย่างหนักหน่วง แถมปีนี้ขึ้นปีหนึ่งอย่าหวังจะได้ไปไหนค่ะ นี่ก็เที่ยวครั้งแรกหลังจากที่ติวสอบมาตลอด 1 ปีเต็ม อย่างน้อยก็ได้เห็นต้นสองต้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นสีของมันอยู่แล้วหรือหลงฤดูมา เอาเป็นว่าชอบมากค่ะ พล่ามมายาวละ ไปเที่ยวต่อเถอะค่ะ 5555
ระหว่างทางมีน้ำตกเล็กๆ ด้วยค่า T^T
เดินดูวิวและต้นไม้จนสุดท้ายก็ขึ้น ropeway มาแล้วค่ะ สูงไปอีก สูงไปอีก เย้ๆ
ถึงแล้วค่ะ สถานีกลางหุบเขาด้านบน เสร็จแล้วก็ได้เวลาลุยต่อ!
เนื่องจากเดินในเส้นทางกลางหุบเขา 1 กม. เขาเขียนป้ายว่างั้น พื้นค่อนข้างขรุขระอันตรายเบาๆ ไม่สามารถเก็บภาพมาได้ค่ะ รักษาชีวิตตัวเองก่อน (เว่อไปๆ 55) ตลอดทางก็มีคนญี่ปุ่นที่เดินสวนมา โคนิจิวะตลอดทางแต่ท่าทางเค้าดูเหนื่อยหอบกันมาก เราสามคนก็เริ่มมองหน้ากันแล้วก็คิดว่ามันจะขนาดไหนกันเชียว
เดินมาเรื่อยๆ จนเริ่มบ่นอิดออด ถึงยัง นี่มันยังไม่ 1 กม.อีกหรอ 555555
เดินขึ้นมาสักพักก็จะถึงศาลค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าถึงแล้ว ปรากฏว่ายังค่ะ มันยังมีต่อ แต่สามคนก็พักขาเอาแรงกันก่อน .. มันไม่เล่นๆ เลยนะคะ เห็นบันไดแล้วท้อใจ
ว่าแล้วก็ลุยกันต่อ เห็นเด็กน้อยเดิมตามขึ้นมาแล้วกลับมามองตัวเอง 5555 ทำไมเหนื่อยง่ายแบบนี้ ขำขำกันไปแต่ก็ปล่อยให้เด็กน้อยแซง 5555555
จะขึ้นสุดท้ายแล้ว จะถึงแล้ววววววค่ะคุณกิตติ
ไม่ค่อยอยากเอาวิวข้างบนมาอวดมากเท่าไหร่ อยากให้ได้ไปเห็นเองแล้วจะได้สัมผัสถึงความทรหดต่อการเดินขึ้นมา 1 กม. ซึ่งไม่อยากเชื่อว่าแค่ 1 กม. เลยค่ะพี่คะ
นั่งหอบพร้อมกับมองวิวเกือบชม.ได้ เราก็ลงมาจากยอดเขา misen ค่ะ ส่วนตัวแล้วไม่ได้ชอบวิวมากขนาดนั้นค่ะ แต่อากาศถือว่าดีฝุดๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลองนะคะ ^^
ลงมาก็มองหาข้าวก่อนเลยค่ะ บ่ายสองแว้ว หิวมากก เลยเข้าร้านนี้เลย
อร่อยเป็นพิเศษอาจจะเพราะหิวด้วยประมาณ 80% แต่เอาจริงๆ รสชาติดี๊ดีค่ะ
หลังจากได้เติมกำลังด้วยอาหารก็ไปตะลอนต่อค่ะ โดยแวะเก็บให้ครบ รวมถึงตั้งใจจะกลับไปที่โทริอิกลางน้ำด้วย กะจะลงไปดูใกล้ๆ ซักหน่อย
แต่ทว่า
เอ๊ะทำไมน้ำขึ้น .. (บอกแล้วว่าไปเอาความมั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหนว่าน้ำจะลงอีก 555555) สุดท้ายลงไม่ได้ค่ะ เลยได้ภาพโทโรอิกลางน้ำมาแทน
เอาเป็นว่าจบทริปนี้แบบสวยๆ ละกันค่ะ ยกเว้นเสียงน้องสาวที่บ่นตลอดตอนเดินกลับว่า บอกแล้วไม่เชื่อหนู บลาๆ (นางอยากลงจริงๆ ค่ะ) พูดมากจนอยากจะจับน้องโยนลงไปให้รู้แล้วรู้รอด (ทำไมเลว 5555)
สะใจใช่มั้ยล่ะ - -^ (แค้นที่นางงับกระโปรงเฉยๆ ค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น 555)
- - - - - - - - - - - - -
จบแล้วสำหรับรีวิวของวันนี้ ดูหนักไปทางพล่ามเนอะ 5555 ขอบคุณที่ตามมาถึงตอนนี้นะคะ แล้วตอนต่อไปจะตามมาสำหรับสะพาน kintaikyo และ Toshujin temple ในทู้หน้า ใครติดใจความกะหล่งป้งรบกวนกดบวกหน่อยนะคะ 5555555
- - - - - - - - - - - -
[CR] - - - [KALONGPHONGINJAPAN] MIYAJIMA ศาลเจ้าลอยน้ำกับกวางน้อยกลอยใจ (PAGE2) - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คอนนิจิวะ~ ใครที่ตามมาจากกระทู้ที่แล้วคงไม่ต้องเกริ่นกันเย๊อะ พูดแบบสั้นคือเป็นรีวิวแรกของเด็กน้อยฝึกเขียนริวิว ฝากกะหล่งป้งรีวิวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน้าค้า ว่าแล้วก็ไปตะลุยเกาะนี้กันเต๊อะ!
เผื่อผู้ใดจะติดตาม อิอิ
- PAGE 1 – DAZAIFU + CANNAL CITY [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- PAGE 2 – MIYAJIMA [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- PAGE 3 – KINTAIKYO + RURIKOJI TEMPLE [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- PAGE 4 – BEPPU + KITSUKI [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- PAGE 5 – YUFUIN + NOMORI + บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- PAGE 2 -
- MIYAJIMA –
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ฟ้าฝนแสนเป็นใจ แดดแรงฝุดๆ แต่ยังคงมีลมเย็นๆ ปะทะใบหน้าให้คลายร้อนเบาๆ ออกจากที่พักแต่เช้าตรู่ และพาน้องไปอึที่สถานีจนตกรถไฟรอบ 6.28 น. 5555555 แต่ไม่เป็นไรมีหลายขบวนและเราไม่ได้ reseved seat ไว้จึงขึ้นขบวนไหนก็ด้ายตามเงื่อนไขของบัตรที่ซื้อและโบกี้ที่กำหนดไว้
สำหรับเส้นทางของเราวันนี้ เราสามคนนั่ง shinkansen จากสถานี hakata ไปลงที่ Hiroshima พอถึงสถานี Hiroshima เราก็จะต่อ local line ไป MIYAJIMAGUCHI ค่ะ
หลังจากออกมาจากรถไฟความเร็วสูงก็รอรถไฟกันปายยย (ใครที่งงว่าจะไปต่อที่ไหน หลังจากออกมาจากชินคันเซ็น มองหาป้ายได้เลยค่ะ เค้าจะบอกชัดเจนว่า local line ไปต่อที่ไหน รึจะสังเกตตามพื้นก็ได้ค่ะ ละเอียดกว่าที่คิดไว้ถึงเวลาจริงๆ ไม่ยากเลยค่ะ)
คันนี้แหละเจ้าค่า
หน้าสถานีค่ะ แดดแรงได้ใจหนูไปจริงๆ
พอมาถึงสถานี MIYAJIMAGUCHI เราก็จะต่อเรือ JR ferry ข้ามไปเกาะมิยาจิม่ากับกวางน้อยกลอยใจทันทีค่ะ ซึ่งpassที่เราซื้อครอบคลุมเข้าตัวนี้ ฉะนั้นไม่ต้องจ่ายเพิ่มเจ้าค่า ^^
เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็มาถึงที่ขึ้นเรือกันแล้ว
เรือ!!!!
ไปแล้ว TT ไม่เป็นไร รออีกลำ
มาแล้วค่า ได้เวลาไปเยือนเกาะส๊ากกกที
เนื่องจากเราไม่อยากจะรัดตัวเอง เลยใช้ทั้งวันนี้อยู่บนเกาะเพื่อจะได้เก็บให้ครบทุกอย่าง
ทันทีที่มาถึงสิ่งที่เจอก่อนแลนมาร์คของที่นี่ก็คือ กวาง และ กวาง อย่าเผลอหันตูดให้มันเชียว งับไม่ปล่อย (น้องโดนมาแล้วจ้า 5555) รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ เห็นยิ้มพริมใจแบบนี้น่ากลัวนะคะ
หมั่นไส้ได้มั้ยคะคุณขา ทำหน้าทำตาหันตูดมาดิ้กๆ ใส่อีก -.-
หลังจากเพลิดเพลินกับกวางน้อยเราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ เพื่อมุ่งไปชมศาลเจ้าลอยน้ำหรือศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)ค่ะ เห็นแล้วก็เอะใจ เอ๊ะทำไมปิดประตู มาเป็นไรเลาะด้านข้างไปก็ได้ .. เดินไปก็บ่นกับพ่อไป ทำไมถึงไม่มีร้านขายของเลย เกาะเงียบจัง บลาๆ
พอเราเจอศาลในมุมไกลลิบๆ หันหลังกลับไปก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วอ๋อในใจ .. ตูเดินมาผิดทางนี่หน่า 555555
จากภาพจะเห็นว่ามีร้านขายของตลอดสองข้างทางในอีกทางเข้านึงค่ะ เข้าใจแล้วทำไมเค้าปิดประตูไว้ 555
เดินมาอีกนิดก็ได้เห็นโทริอิแล้วค่ะ น้ำลงพอดีมีคนเดินลงไปเยอะแยะเลย น้องสาวก็ตื่นเต้น ลงไปกันเถอะๆๆ แต่เรากับพ่อคิดว่าเดี๋ยวรอให้ลงอีกนิดละกันจะได้ไม่ต้องย่ำน้ำ (อีกครั้งที่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนก็ไม่รู้ว่าน้ำจะลง 555)
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะเราตั้งใจจะขึ้น ropeway และเดินขึ้นไปให้ถึงยอดเขา misen ที่เค้าว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น จึงแวะเข้าศาลเจ้าอิสึคุชิมะก่อนเลย
ค่าเข้าชม 300Y แต่งงมากตอนนั้นเจ้าหน้าที่คิดเราสามคนพ่อลูกคนละ 100Y อาจจะเพราะเป็นตอนน้ำลงมั้งคะ (ไม่ทราบจีจี)
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย~ ทำไมครอบครัวฉันไม่มาเดินที่นี่ตอนน้ำขึ้น 55555 แต่ก็สวยแบบแห้งๆ ค่ะ
พอเข้าไปแล้ว อากาศในศาลผิดกับข้างนอกมากค่ะ เย็นเหลือเกินพอไม่มีแดด คิดว่าถ้าน้ำขึ้นต้องสวยมากแน่ๆ เลย TT แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราคนจริง มาดูอะไรแปลกๆ ไม่สนใจกระแสค่ะ (หรอ)
เดินออกมาจากศาลทะลุอีกด้านก็เห็นธารใสไหลเย็นเห็นปลาคราฟ(?) และร้านค้าทั่วไปค่ะ จุดหมายต่อไปของเราคือ ropeway เก็บแรงปืนเขากันเลยทีเดียว ร้านค้าของฝากค่อยว่ากัน
หลังจากขึ้นเนินไปก็ได้แต่มองหน้ากัน เอ๊ะ ทำไมเหนื่อย 5555 ยังไม่ทันไรเลยเริ่มหอบกันละ เพียงแต่ตอนที่เดินมีบางสิ่งที่ทำให้แอบร้องกรี๊ดในใจเบาๆ
ฮรือออ ส่วนตัวหนูเป็นคนที่crazyใบไม้แดงหรือใบไม้เปลี่ยนสีมากๆ ค่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวช่วงนั้นเลย ปีที่แล้วก็ติดติวสอบอย่างหนักหน่วง แถมปีนี้ขึ้นปีหนึ่งอย่าหวังจะได้ไปไหนค่ะ นี่ก็เที่ยวครั้งแรกหลังจากที่ติวสอบมาตลอด 1 ปีเต็ม อย่างน้อยก็ได้เห็นต้นสองต้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นสีของมันอยู่แล้วหรือหลงฤดูมา เอาเป็นว่าชอบมากค่ะ พล่ามมายาวละ ไปเที่ยวต่อเถอะค่ะ 5555
ระหว่างทางมีน้ำตกเล็กๆ ด้วยค่า T^T
เดินดูวิวและต้นไม้จนสุดท้ายก็ขึ้น ropeway มาแล้วค่ะ สูงไปอีก สูงไปอีก เย้ๆ
ถึงแล้วค่ะ สถานีกลางหุบเขาด้านบน เสร็จแล้วก็ได้เวลาลุยต่อ!
เนื่องจากเดินในเส้นทางกลางหุบเขา 1 กม. เขาเขียนป้ายว่างั้น พื้นค่อนข้างขรุขระอันตรายเบาๆ ไม่สามารถเก็บภาพมาได้ค่ะ รักษาชีวิตตัวเองก่อน (เว่อไปๆ 55) ตลอดทางก็มีคนญี่ปุ่นที่เดินสวนมา โคนิจิวะตลอดทางแต่ท่าทางเค้าดูเหนื่อยหอบกันมาก เราสามคนก็เริ่มมองหน้ากันแล้วก็คิดว่ามันจะขนาดไหนกันเชียว
เดินมาเรื่อยๆ จนเริ่มบ่นอิดออด ถึงยัง นี่มันยังไม่ 1 กม.อีกหรอ 555555
เดินขึ้นมาสักพักก็จะถึงศาลค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าถึงแล้ว ปรากฏว่ายังค่ะ มันยังมีต่อ แต่สามคนก็พักขาเอาแรงกันก่อน .. มันไม่เล่นๆ เลยนะคะ เห็นบันไดแล้วท้อใจ
ว่าแล้วก็ลุยกันต่อ เห็นเด็กน้อยเดิมตามขึ้นมาแล้วกลับมามองตัวเอง 5555 ทำไมเหนื่อยง่ายแบบนี้ ขำขำกันไปแต่ก็ปล่อยให้เด็กน้อยแซง 5555555
จะขึ้นสุดท้ายแล้ว จะถึงแล้ววววววค่ะคุณกิตติ
ไม่ค่อยอยากเอาวิวข้างบนมาอวดมากเท่าไหร่ อยากให้ได้ไปเห็นเองแล้วจะได้สัมผัสถึงความทรหดต่อการเดินขึ้นมา 1 กม. ซึ่งไม่อยากเชื่อว่าแค่ 1 กม. เลยค่ะพี่คะ
นั่งหอบพร้อมกับมองวิวเกือบชม.ได้ เราก็ลงมาจากยอดเขา misen ค่ะ ส่วนตัวแล้วไม่ได้ชอบวิวมากขนาดนั้นค่ะ แต่อากาศถือว่าดีฝุดๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลองนะคะ ^^
ลงมาก็มองหาข้าวก่อนเลยค่ะ บ่ายสองแว้ว หิวมากก เลยเข้าร้านนี้เลย
อร่อยเป็นพิเศษอาจจะเพราะหิวด้วยประมาณ 80% แต่เอาจริงๆ รสชาติดี๊ดีค่ะ
หลังจากได้เติมกำลังด้วยอาหารก็ไปตะลอนต่อค่ะ โดยแวะเก็บให้ครบ รวมถึงตั้งใจจะกลับไปที่โทริอิกลางน้ำด้วย กะจะลงไปดูใกล้ๆ ซักหน่อย
แต่ทว่า
เอ๊ะทำไมน้ำขึ้น .. (บอกแล้วว่าไปเอาความมั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหนว่าน้ำจะลงอีก 555555) สุดท้ายลงไม่ได้ค่ะ เลยได้ภาพโทโรอิกลางน้ำมาแทน
เอาเป็นว่าจบทริปนี้แบบสวยๆ ละกันค่ะ ยกเว้นเสียงน้องสาวที่บ่นตลอดตอนเดินกลับว่า บอกแล้วไม่เชื่อหนู บลาๆ (นางอยากลงจริงๆ ค่ะ) พูดมากจนอยากจะจับน้องโยนลงไปให้รู้แล้วรู้รอด (ทำไมเลว 5555)
สะใจใช่มั้ยล่ะ - -^ (แค้นที่นางงับกระโปรงเฉยๆ ค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น 555)
จบแล้วสำหรับรีวิวของวันนี้ ดูหนักไปทางพล่ามเนอะ 5555 ขอบคุณที่ตามมาถึงตอนนี้นะคะ แล้วตอนต่อไปจะตามมาสำหรับสะพาน kintaikyo และ Toshujin temple ในทู้หน้า ใครติดใจความกะหล่งป้งรบกวนกดบวกหน่อยนะคะ 5555555
- - - - - - - - - - - -