คุณคือคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาในการสมัครงานอยู่ใช่หรือไม่ ?!
ส่งอีเมลไปเท่าไหร่ ก็ไร้ซึ่งวี่แววที่จะได้รับการติดต่อกลับจากทางบริษัท
นี่คือ 10 ข้อแนะนำที่อยากให้คุณทำเมื่อต้องการส่ง e-mail สมัครงาน โดย เฮ่ย!นึกว่าใคร ครับ
==========================================================
1. ควรจะมี e-mail เป็นของตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก ไม่แนะนำให้ยืมเพื่อน จะเอา gmail , yahoo หรือ hotmail ก็แล้วแต่ตามที่ซินแสทักว่าเหมาะกับฮวงจุ้ยเลยครับ แต่ไม่แนะนำให้ใช้นามสกุล chaiyo , thaimail หรือ hunsa เพราะแลดูล้าสมัย ไม่เป็นที่นิยมนัก มันดูไม่ COOL!
.
2. ต้องรู้ e-mail ปลายทางที่เราจะส่ง กรณีไม่รู้ ให้ถามหรือหาใน website ของบริษัทดูก่อน ไม่แนะนำให้ใส่ที่อยู่ไปรษณีย์หรือเบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศไปแทนในช่อง send to เพราะผลการวิจัยพบว่ามันส่งไปไม่ถึง
.
3. แจ้งความต้องการไปในหัวข้อเรื่อง เช่น Resume NADECH , Yaya's Application Form , Creative Position เป็นต้น ไม่แนะนำให้เขียนว่า "สมัครงานครับ/ค่ะ" เพราะจากการพูดคุยกับทาง HR แล้ว เมลประเภทนี้มักจะถูกปัดตกไปในรอบแรก ไม่เข้ารอบไปตอบคำถามกับกรรมการ ด้วยเหตุผลว่า น่าเบื่อ ซ้ำซาก จำเจ ไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย !
.
4. แนบ Resume / CV ไปใน e-mail แนะนำให้ทำเป็นไฟล์ .pdf จะดีมาก เพื่อความสะดวกในการเปิดอ่าน ไม่แนะนำให้กวนตรีน HR ด้วยการส่งไฟล์ .ai , .psd ไป เพราะอัพโหลดนานและฟ้อนท์มันจะโดด กรณีที่แนบไฟล์ไม่เป็น ควรลงเรียนวิชา mail100 พื้นฐานหลักการใช้งานอีเมลเบื้องต้น
.
5. เขียนแนะนำตัวเองคร่าวๆ ลงไปในอีเมลด้วย อย่าคิดเอาเองว่ารายละเอียดทุกอย่างมีอยู่ใน Resume / CV แล้วจะเขียนทำไมอีก ? สถาบันวิจัยสตรองคุกกี้มีเยอะได้รวบรวมข้อมูลจากทาง HR แล้วพบว่าหนึ่งในอีเมลที่น่าหงุดหงิดที่สุด คือ อีเมล์ที่แนบไฟล์ Resume มาแล้วส่งมาแต่อีเมลเปล่าๆ ไม่มีคำทักทาย คำพูดแนะนำตัวใดๆ ทั้งสิ้น HR บอกว่าลบทิ้งอย่างเดียวครับ กรณีที่ไม่รู้ว่าต้องเขียนถึงใคร ให้จั่วหัวไปว่า To Whom it may concern แปลเป็นไทยก็คือ ถึงใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง แต่ห้ามก็อปปี้ประโยคภาษาไทยไปใส่ในเมลนะ ตบตาหลุดจริงๆ ด้วย สติครับ สติ!
.
6. ไม่ควร ย้ำ ไม่ควร! Forward Mail สมัครงานต่อๆ กันไปเรื่อยๆ หรือส่ง mail เดียว แต่ใส่ cc ถึงทุกบริษัท มันดูเสร่อ! และดูเป็นคนขี้เกียจมากๆ อันนี้ไม่แนว ไม่ดี อย่าทำ!
.
7. อย่าลืมใส่ช่องทางการติดต่อกลับไว้ด้วย แนะนำให้ใช้เป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือจะสะดวกที่สุด เพราะหากใส่เป็น Serial Number ของโทรศัพท์ไปแทน จะไม่สามารถติดต่อได้ และการติดต่อด้วยสัญญาณควันหรือนกฮูกมักจะช้า กว่าเราจะได้รับการติดต่อคงถึงวัยหมดประจำเดือนพอดี
.
8. อย่าพูดเรื่องเงินเดือน อันนี้เอาไว้ไปเจรจากันในรอบสัมภาษณ์ หลายครั้งที่เจอเด็กจบใหม่พูดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างแรก ความสามารถเท่าชินจัง แต่จะเอาเงินเดือนเท่ากัปตันอเมริกา ฮัลโหล!! ตื่นครับ ตื่น!
.
9. กด Send กรณีที่หาปุ่ม Send ไม่เจอ ให้ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ เดินไปหน้าบ้าน โบกตุ๊กๆ ไปวัดสายตาและตัดแว่นก่อน
.
10. มาส์กหน้า นอนรอรับโทรศัพท์ครับ ข้อนี้แล้วแต่สภาพความหยาบกร้านของผิวหน้าแต่ละคนของใครของมัน จะใช้แตงกวา มะขามเปียก โยเกิร์ต แตงโม มะขวิด ชะอม หรืออะไรก็แล้วแต่วัตถุดิบในตู้เย็นของแต่ละคนได้เลยครับ
==============================================================
และนี่คือ 10 ข้อที่ผมอยากจะแนะนำครับ เพื่อนๆ ท่านไหนอยากจะเพิ่มเติมยังไง มาแชร์กันได้ครับ
เฮ่ย!นึกว่าใคร
[HOW TO] ส่ง e-mail สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน
ส่งอีเมลไปเท่าไหร่ ก็ไร้ซึ่งวี่แววที่จะได้รับการติดต่อกลับจากทางบริษัท
นี่คือ 10 ข้อแนะนำที่อยากให้คุณทำเมื่อต้องการส่ง e-mail สมัครงาน โดย เฮ่ย!นึกว่าใคร ครับ
==========================================================
1. ควรจะมี e-mail เป็นของตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก ไม่แนะนำให้ยืมเพื่อน จะเอา gmail , yahoo หรือ hotmail ก็แล้วแต่ตามที่ซินแสทักว่าเหมาะกับฮวงจุ้ยเลยครับ แต่ไม่แนะนำให้ใช้นามสกุล chaiyo , thaimail หรือ hunsa เพราะแลดูล้าสมัย ไม่เป็นที่นิยมนัก มันดูไม่ COOL!
.
2. ต้องรู้ e-mail ปลายทางที่เราจะส่ง กรณีไม่รู้ ให้ถามหรือหาใน website ของบริษัทดูก่อน ไม่แนะนำให้ใส่ที่อยู่ไปรษณีย์หรือเบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศไปแทนในช่อง send to เพราะผลการวิจัยพบว่ามันส่งไปไม่ถึง
.
3. แจ้งความต้องการไปในหัวข้อเรื่อง เช่น Resume NADECH , Yaya's Application Form , Creative Position เป็นต้น ไม่แนะนำให้เขียนว่า "สมัครงานครับ/ค่ะ" เพราะจากการพูดคุยกับทาง HR แล้ว เมลประเภทนี้มักจะถูกปัดตกไปในรอบแรก ไม่เข้ารอบไปตอบคำถามกับกรรมการ ด้วยเหตุผลว่า น่าเบื่อ ซ้ำซาก จำเจ ไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย !
.
4. แนบ Resume / CV ไปใน e-mail แนะนำให้ทำเป็นไฟล์ .pdf จะดีมาก เพื่อความสะดวกในการเปิดอ่าน ไม่แนะนำให้กวนตรีน HR ด้วยการส่งไฟล์ .ai , .psd ไป เพราะอัพโหลดนานและฟ้อนท์มันจะโดด กรณีที่แนบไฟล์ไม่เป็น ควรลงเรียนวิชา mail100 พื้นฐานหลักการใช้งานอีเมลเบื้องต้น
.
5. เขียนแนะนำตัวเองคร่าวๆ ลงไปในอีเมลด้วย อย่าคิดเอาเองว่ารายละเอียดทุกอย่างมีอยู่ใน Resume / CV แล้วจะเขียนทำไมอีก ? สถาบันวิจัยสตรองคุกกี้มีเยอะได้รวบรวมข้อมูลจากทาง HR แล้วพบว่าหนึ่งในอีเมลที่น่าหงุดหงิดที่สุด คือ อีเมล์ที่แนบไฟล์ Resume มาแล้วส่งมาแต่อีเมลเปล่าๆ ไม่มีคำทักทาย คำพูดแนะนำตัวใดๆ ทั้งสิ้น HR บอกว่าลบทิ้งอย่างเดียวครับ กรณีที่ไม่รู้ว่าต้องเขียนถึงใคร ให้จั่วหัวไปว่า To Whom it may concern แปลเป็นไทยก็คือ ถึงใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง แต่ห้ามก็อปปี้ประโยคภาษาไทยไปใส่ในเมลนะ ตบตาหลุดจริงๆ ด้วย สติครับ สติ!
.
6. ไม่ควร ย้ำ ไม่ควร! Forward Mail สมัครงานต่อๆ กันไปเรื่อยๆ หรือส่ง mail เดียว แต่ใส่ cc ถึงทุกบริษัท มันดูเสร่อ! และดูเป็นคนขี้เกียจมากๆ อันนี้ไม่แนว ไม่ดี อย่าทำ!
.
7. อย่าลืมใส่ช่องทางการติดต่อกลับไว้ด้วย แนะนำให้ใช้เป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือจะสะดวกที่สุด เพราะหากใส่เป็น Serial Number ของโทรศัพท์ไปแทน จะไม่สามารถติดต่อได้ และการติดต่อด้วยสัญญาณควันหรือนกฮูกมักจะช้า กว่าเราจะได้รับการติดต่อคงถึงวัยหมดประจำเดือนพอดี
.
8. อย่าพูดเรื่องเงินเดือน อันนี้เอาไว้ไปเจรจากันในรอบสัมภาษณ์ หลายครั้งที่เจอเด็กจบใหม่พูดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างแรก ความสามารถเท่าชินจัง แต่จะเอาเงินเดือนเท่ากัปตันอเมริกา ฮัลโหล!! ตื่นครับ ตื่น!
.
9. กด Send กรณีที่หาปุ่ม Send ไม่เจอ ให้ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ เดินไปหน้าบ้าน โบกตุ๊กๆ ไปวัดสายตาและตัดแว่นก่อน
.
10. มาส์กหน้า นอนรอรับโทรศัพท์ครับ ข้อนี้แล้วแต่สภาพความหยาบกร้านของผิวหน้าแต่ละคนของใครของมัน จะใช้แตงกวา มะขามเปียก โยเกิร์ต แตงโม มะขวิด ชะอม หรืออะไรก็แล้วแต่วัตถุดิบในตู้เย็นของแต่ละคนได้เลยครับ
==============================================================
และนี่คือ 10 ข้อที่ผมอยากจะแนะนำครับ เพื่อนๆ ท่านไหนอยากจะเพิ่มเติมยังไง มาแชร์กันได้ครับ
เฮ่ย!นึกว่าใคร