ซินจ่าว ~ สวัสดีชาวโลก 
สวัสดีและขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทุกคนนะคะ เราชื่อ "กระต่าย" นี่เป็นกระทู้แรกของเราที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพราะเป็นการไป ตปท. ครั้งแรกที่ไปด้วยตัวเองโดยไม่ง้อทัวร์ (และที่สำคัญเป็นการไป ตปท. ครั้งแรกที่ไปกับแฟน(เฮียไอซ์) ฟินนนฝุดๆ5555) เราสองคนศึกษาหาข้อมูลทุกอย่างด้วยตัวเองเยอะมาก จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนๆ และอยากจุดประกายความฝันของคนที่อยากไป ตปท. กับแฟนให้เป็นจริง เพราะทุกอย่างไม่ยากอย่างที่เราคิด ถ้าเราตั้งใจและลงมือทำ และสนับสนุนให้ลองBackpack ต่างเมืองกันสักครั้ง
. . . เพราะ มันคือประสบการณ์ และกำไรชีวิตที่แท้จริง . . .
>> เราสองคน อายุ 23 ปี ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าต่ายตั้งกฎความสุขกับตัวเองไว้ข้อหนึ่ง คืออยากพาตัวเองไปเที่ยว ตปท.ให้ได้ทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ประเทศอะไรก็ได้ เพราะทุกประเทศมีความสวยงามและสร้างประสบการณ์ที่ต่างกันออกไป แต่ปีนี้พิเศษกว่าทุกๆปีเพราะอย่างที่บอก คือ ไปกับแฟนครั้งแรก (ก่อนหน้านี้ที่ไปก็จะไปกับพี่สาว หรือไม่ก็ไปกับเพื่อนๆ)
>> ทำไมถึงเลือกไปเวียดนาม?? ตอบง่ายๆเลยว่า #ตามใจแฟน เพราะแฟนต่ายยังไม่เคยไป ตปท.มาก่อน และก่อนหน้านี้ต่ายมีแพลนจะไปเที่ยวอยู่แล้ว (สิงคโปร์ เวียดนาม และลาว) แต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปประเทศไหนดี พอคบกับแฟนได้ประมาณ 1 เดือน(บางคนคิดว่าพึ่งคบกันทำไมไปเที่ยว ตปท.กันแล้ววะ5555 จริงๆแล้วเราเป็นเพื่อนกันมา10ปีได้แล้วค่ะ) ก็ตัดสินใจชวนเค้าไป เพราะอยากให้เค้าเป็นคนแรกที่ไปกับเราและเราเองก็อยากเป็นคนแรกที่ได้ไปกับเค้า อิอิ >< เลยถามความเห็นว่าถ้ามีโอกาสได้ไป ตปท.ด้วยกัน อยากไปประเทศอะไร? เฮียตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า #เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่เฮียอยากไปและเป็นประเทศที่อยู่ในลิสต์เราอยู่แล้วด้วย โอ้ยย!!ใจตรงกันขนาดนี้ก็แพ็คกระเป๋ารอเลย5555+ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการจองตั๋วล่วงหน้า 3 เดือน - -"
>> นี่คือ Flight ที่ต่ายเลือกบิน อาจจะไม่ใช่เที่ยวบินที่ดีที่สุดเพราะบินเช้าทั้งไป-กลับ ซึ่งถ้านับ ชม.เท่ากับเราเที่ยวกันแค่ 2วัน 2คืน เหตุผลที่เลือกไฟล้ท์นี้เพราะว่าช่วงเดือนมกราคม-เมษายน59 เรามีแพลนไป ตจว.กัน(เป็นช่วงที่เราไปเพชรบุรี-หัวหินกันทุกเดือน) เหลือเดือนมีนาคมที่ยังว่างอยู่1เดือน พอไปหาข้อมูลของประเทศเวียดนามก็ถึงกับฟิน!อีกรอบ เพราะช่วงปลายเดือนมีนา-ต้นเดือนเมษา เป็นช่วงที่สวยที่สุดและอากาศดีที่สุดของเวียดนามก็ว่าได้ (ฤดูใบไม้ผลิ) ก็เลยจัดการหาเที่ยวบินช่วงปลายมีนา-ต้นเมษา และยังมีเรื่องให้ฟินมาเรื่อยๆเพราะเที่ยวบินที่เราได้เป็นช่วง Promotion ของหางแดง ตรงกับวันที่ 27-28-29 มีนาคม 2559 ไม่รีรอ รีบกดจองเลยค่ะ
>> แต่ด้วยความที่ไม่เคยจองตั๋วเองมาก่อน เพราะปกติไปกับทัวร์ไม่ต้องทำอะไรเลยทัวร์จัดการให้หมด น้องต่ายเลยซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าจ้า ความปลอดภัยมาเป็นที่หนึ่งให้เฮียได้อุ่นใจ โดยการซื้อประกันกับสายการบิน(ซึ่งเพื่อนๆบอกไม่จำเป็นบ้างไรบ้าง) และด้วยความที่เป็นคนชอบช้อปปิ้งซื้อนู่นซื้อนี่จุกจิกไปเรื่อยเลยซื้อน้ำหนักกระเป๋าไปเยอะมาก ขาไป 20 กก. ขากลับ 25 กก. (แต่ซื้อคนเดียวนะคะใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่รวมกัน และสะพายเป้ขึ้นเครื่องคนละใบ) ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วต่ายไปญี่ปุ่นมาน้ำหนักกระเป๋าเกือบไม่พอ รอบนี้เลยซื้อน้ำหนักขากลับเพิ่มเผื่อไว้กะช้อปเต็มที่ แต่ลืมไปว่าเราไปเมืองธรรมชาติกัน ไม่ได้ไปเมืองช้อปปิ้ง5555 (ถ้าจำไม่ผิดน้ำหนักที่ใช้ไปคือ ไป13-กลับ17 เหลือเพียบเลยจ้า แอบเสียดายเงิน T.T) ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ DMK -> HAN -> DMK รวมทุกอย่าง (ค่าประกัน/น้ำหนักกระเป๋า/น้ำมัน/ภาษีสนามบิน/เลือกที่นั่ง) จำนวน 2 ที่นั่ง เบ็ดเสร็จ 7,893 บาท เฉลี่ยไป-กลับคนละ 3,947 บาท สำหรับต่ายถือว่าไม่แพงนะคะถ้าไม่ซื้อประกันและเลือกน้ำหนักกระเป๋าที่พอดี ถือว่าคุ้มนะคะ^^
>> ช่วงเวลา 3 เดือนก่อนเดินทางต่ายนั่งหาข้อมูลนั่งดูรูปทู๊กกกวัน ทุกวันจริงๆค่ะ ตื่นเต้นอยากไปเร็วๆ55555 ข้อมูลสำคัญหลักๆที่ได้ก็ได้มาจาก Pantip นี่เลยค่ะแหล่งรวมสิ่งที่ต่ายอยากรู้มีครบทุกเรื่องจริงๆ ความเห็นส่วนมากเลยคือเมื่อถึงสนามบิน Noi Bai แล้วให้เดินลงมาชั้นล่างเลี้ยวขวาเดินตรงสุดทางและให้ต่อรถเมล์สาย 17 เพื่อไปลงตัวเมือง Hanoi หลังจากนั้นก็ศึกษาเส้นทางต่างๆเพราะใจอยากไป SAPA มากๆค่ะ ดูรีวิวทุกอย่างแต่สุดท้ายฝันก็สลายเพราะเซ็ครอบรถแล้วต้องเดินทางเช้า 28 ซึ่งเวลาที่เรามีก็น้อยอยู่แล้ว ถ้าไปเราจะได้ไปแค่ที่เดียวและเสี่ยงต่อการตกเครื่องมาก จึงตัดสินใจเปลี่ยนแพลนอยู่แค่ในตัวเมืองดีกว่า เที่ยวให้เต็มที่ เลยหาข้อมูลไป Halong Bay และ Hoa Lu Tam Coc (คนไทยเรียกฮาลองบก) พอหาข้อมูลไปมาก็ไปเจอกับทะเล Nha Trang (อ่านว่า ญาจาง) สวยมากกกกๆๆ อยากไปมาก จึงเช็คตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเวียดนามเพราะต้องต่อเครื่อง (Flightเต็มหมดเลยจ้า ฝันสลายอีกแล้ว T.T) สุดท้ายก็เลยตั้งใจว่าจะเดินเที่ยวกันในตัว Hanoi ย่านเมืองเก่า Old Quarter ซึ่งเป็นแหล่งที่มีของกินเยอะมาก มีแหล่งช้อป โรงแรม ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ของหวาน บาร์ ถนนคนเดิน Night Market เรียกได้ว่าครบวงจร รู้อย่างนี้แล้ว ไปเที่ยวกันเล๊ยยยยย!! >>>
>> ต่ายนำเงิน THB ไปแลกเป็น USD ที่ Super Rich สาขา Central Ladprao ทั้งหมด 10,574 บาท แลกได้ 300 USD (ตกเหรียญละ 35.25) ช่วงไหนถูกถ้าวางแพลนดีๆแนะนำให้แลกไว้ก่อนนะคะ
>> และนำเงิน USD ไปแลกเป็น VND ที่สนามบิน Noi Bai แลกแค่ 240 USD นะคะ (เก็บ 60 USD ไว้ซื้อทัวร์ไป Halong Bay เพราะสะดวกกว่าและช่วงที่ไปคำนวนแล้วว่าถูกกว่าค่ะ) 240 USD แลกได้ 5,280,000 VND (หันไปหาแฟน โอ้ยยยเตง.. เค้ามีเงินตั้ง 5 ล้านแหนะ5555) ต่ายแลกตอนที่ลงจากเครื่องรับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ลงมา 1 ชั้น เห็นก็แลกเลยเพราะจะซื้อ SIM แต่แนะนำให้แลกชั้นล่างสุดนะคะจะถูกกว่า ปล. เวลาจะซื้อของวิธีง่ายๆเลยคือ นำราคา VND หารด้วย /625 จะเท่ากับ = ราคาTHB
(วิธีคิดค่าเงิน ณ วันที่เราแลก คือ แลกมา 240 USD*35.25 = 8,460 บาท = 5,280,000 VND จับหารกันเลยค่ะ จะได้ประมาณ 625 เวลาซื้ออะไรก็นำ 625 หารตลอด จะได้ราคาไทยที่เป็นราคาที่เราแลก)
. . . หลังจากที่ทำงานเก็บเงินกันมา ก็ถึงเวลาเข้าสู่โหมดละลายทรัพย์ . . .
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ ที่ 27 มีนาคม 2559
. . . ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็จับมือแท็กทีมเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เห็นคู่อื่นเค้าชอบทำกันก็เลยเอาบ้าง555 . . .
ตอนเลือกที่นั่งก็เลือกแถวที่ติดกับพรีเมียม(15E-15F) ลืมคิดไปว่าตรงกับปีก(น้องต่ายพลาดอีกแย้ววว) แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะ เพราะองศาตอนโค้งเห็นวิวเหมือนกัน เราบินไฟล้ท์เช้ามาก เครื่องออกตรงเวลา 6:45 น. Check in ผ่าน Web กันมาก่อนแล้วแต่ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะดอนเมืองคนแน่นมากกกค่ะ มีหงุดหงิดกับทัวร์จีนนิดหน่อย เสียงดังโวยวายบ้านแตกมาก55555 ปล่อยเค้าไปเนอะๆๆๆ
@Noi Bai Airport 8:15 น. ถึงเวียดนามแล้วเย่ๆๆๆ สภาพพึ่งตื่นกันแบบสดๆร้อนๆ อากาศตอนนี้ 18 องศากำลังดี เย็นสบาย สดชื่นมากค่ะ (ตอนแรกก็กลัวอากาศไม่เป็นใจเพราะก่อนเดินทางเช็คสภาพอากาศตลอด อุณหภูมิขึ้นเป็น 21 องศา) แต่โชคดีมากค่ะช่วงที่มาถึงตลอด 3วัน 2คืน อากาศดีมาก 16-18 องศา ฟินกันเลยยยย เพราะเป็นช่วงที่บ้านเราร้อนตับแตกเหยียบ 40 องศา
>> ลงจากเครื่องปุ๊บก็รีบไปเอากระเป๋าที่ Belt3 รออยู่นานมากวนแล้ววนอีกกระเป๋าก็ไม่มาสักที จนเดินไปดูที่ Belt อันอื่น สรุปกระเป๋าไปอยู่ที่ Belt1 สนามบินประกาศผิด ผิดทั้งไฟล้ท์เลยจ้าาา นอยสมชื่อ 55555
>> หลังจากได้กระเป๋าแล้วก็ลงไปแลกเงิน รายละเอียดตามที่แจ้งไว้ด้านบนเลยจ้า
>> ต่อด้วยเดินหาร้านขาย SIM CARD กันในสนามบินเลยเพื่อความสะดวกในการติดต่อ เพื่อลงรถเมล์ไม่ทันกันตามรีวิวใน Pantip ต่ายซื้อ SIM CARD ของ Viet Phone ราคา 200,000*2อัน (640 บาท อันละ 320 บาท) ใช้ได้ 1 สัปดาห์ เป็นแบบ Unlimited 3GB.
>> จากนั้นก็ลงมาอีก 1 ชั้น (ชั้นล่างสุด) ก็เดินเช็คค่าเงินไปเรื่อย ระหว่างเดินก็จะมีร้านขาย SIM ขายแพ็คเกจทัวร์คอยเรียกเราอยู่ตลอดทาง พอเดินดูไปมา สรุปชั้นล่างสุดเลทค่าเงินดีกว่า ราคา SIM ถูกกว่า แต่ก็ไม่ต่างกันมากนะคะ แต่ข้างบนสะดวกคนน้อยไม่ต้องรอคิว
>> แลกเงิน ซื้อ SIM ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกมาหน้าสนามบินกัน (ตามรูปเลยจ้า) อากาศดีสุดๆ พอถึงด้านหน้าก็เลี้ยวขวาเดินตรงมาเรื่อยๆตามที่อ่านรีวิวมา แต่!! มันไม่มีท่ารถเมล์ตามที่รีวิวบอกเลยค่ะ เดินมาเจอคนไทยกลุ่มหนึ่ง 5-6 คน บอกว่าอ่านจากรีวิวมาเหมือนกันเลยเดินมาทางนี้ (สงสัยออกคนละทางกับในรีวิว) สุดท้ายก็ก็กลับมาตั้งหลักหน้าสนามบิน จากเลี้ยวขวาก็เปลี่ยนเป็นเลี้ยวซ้ายแทน จะมีรถสีเหลือง (ตามรูป) คอยบริการรับส่งท่ารถ (มีค่าบริการ)
ต่อจากนี้เหตุการณ์ประหลาดๆที่เกิดขึ้นที่ต่ายกับเฮียเจอ เราจะเรียกมันว่า Zombie (เฮียไอซ์เป็นคนตั้ง555)
>>
Zombieตัวที่1เริ่มปรากฏ อยากบอกว่าราคาที่ติดอยู่ข้างรถ 7,000VND(11บาท) เชื่อถือไม่ได้เลย เพราะเราเห็นฝรั่งขึ้นกันก็เลยจะขึ้นตาม แต่ดีนะคะที่ถามราคาก่อน เวลาจะทำอะไรที่เป็นบริการให้ถามราคาก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัย พอถามปุ๊บจาก 7,000 กลายเป็น 50,000VND(80 บาท) ขึ้นมาทันที ซึ่งก็ไม่ได้แพง แต่เราก็ไม่ยอมก็เลยถามว่าทำไมมันต่างกัน เค้าบอกว่ามันคือราคาเหมา ที่ทุกคนเหมากัน ถ้าราคา 7,000 ต้องรอให้คนเต็มรถ แต่ก็ไม่มีคันไหนเลยที่รอให้เต็ม เป็นวิ่งเหมาทั้งหมด
>> แต่ตอนที่เดินมา เฮียบอกว่าเห็นรถ 17 วิ่งผ่านไป เราก็เลยยืนรอกับกลุ่มคนไทย 5-6 คนนั้น แต่สุดท้ายเค้าก็ตัดสินใจขึ้นแท็กซี่กัน ก็ชวนเราไปด้วย (มีน้ำใจ น่ารักมาก อิอิ) แต่เราไม่ได้ไปนะคะ เพราะอยากรู้ว่าต้องขึ้นรถยังไงเพราะติดใจอากาศเผื่อมีโอกาสได้มากันอีก ยืนรอกันได้สักพักก็ทนไม่ไหว เฮียเลยไปถามคนเวียดนามที่นั่งอยู่ตรงท่ารถสิงคนว่าจะไปฮานอยต้องไปยังไงนั่งรถสาย 17 ใช่มั้ย เค้าก็พยัคหน้า (การสื่อสารเมื่อออกจากสนามบิน ต้องใช้ภาษามือช่วยซะส่วนใหญ่ เพราะคนเวียดนามใช้ภาษาบ้านเค้าเป็นหลักเหมือนบ้านเรา) พยายามจะช่วยบอกทางเรา ดีมากๆค่ะ พอรถเมล์สาย 07 มา เค้าก็บอกว่าไปได้ คันนี้ไปฮานอยได้ เราก็ลังเลไม่กล้าขึ้นกัน จน 07 วนมาอีกคัน จึงตัดสินใจขึ้น
>> เมื่อขึ้นสาย 07 มาได้สักระยะผ่านไป 2-3ป้าย ก็เลยเอาแผนที่ให้กระเป๋ารถเมล์ดูว่าเราจะไปตรงย่าน Old Quarter แถว St. Joseph ต้องลงไหน กระเป๋ารถเมล์ก็บอกให้ลงๆ ให้ไปต่อรถเมล์สาย 58 (จังหวะนั้นคือใจไม่ดีแล้ว ขึ้นผิดคันหรอ โดน2คนนั้นหลอกรึป่าว เราอยู่ตรงไหนกันก็ไม่รู้ แล้วจะหลงมั้ย จะไปถึงฮานอยมั้ย) จึงหยิบแผนที่ถามผู้โดยสารบนรถคนอื่นๆว่าจะไปฮานอย ไปยังไง แต่กระเป๋ารถเมล์ก็ยังแทรกมาตอบว่าเปลี่ยนเป็นสาย 58 (แล้วก็พูดอะไรกันไม่รู้เป็นภาษาเวียดนาม) ต่ายกับเฮียเลยคิดว่าเราเจอ Zombieตัวที่2 แล้วล่ะ แล้วนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของ Zombieตัวที่2 รอติดตามกันนะคะ รับรองมีแต่เรื่องเด็ดๆ เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะข้อความเต็มพอดี
รอติดตามวิธีการเอาตัวรอดของเราสองคนกันนะค๊าาา >>>>
[CR] ไปเที่ยว Vietnam-Hanoii กันเหอะ (หนีร้อนมากับรัก เรา2คน 3วัน 2คืน) ฟินนนน!!!
สวัสดีและขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทุกคนนะคะ เราชื่อ "กระต่าย" นี่เป็นกระทู้แรกของเราที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพราะเป็นการไป ตปท. ครั้งแรกที่ไปด้วยตัวเองโดยไม่ง้อทัวร์ (และที่สำคัญเป็นการไป ตปท. ครั้งแรกที่ไปกับแฟน(เฮียไอซ์) ฟินนนฝุดๆ5555) เราสองคนศึกษาหาข้อมูลทุกอย่างด้วยตัวเองเยอะมาก จึงอยากมาแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนๆ และอยากจุดประกายความฝันของคนที่อยากไป ตปท. กับแฟนให้เป็นจริง เพราะทุกอย่างไม่ยากอย่างที่เราคิด ถ้าเราตั้งใจและลงมือทำ และสนับสนุนให้ลองBackpack ต่างเมืองกันสักครั้ง
>> ทำไมถึงเลือกไปเวียดนาม?? ตอบง่ายๆเลยว่า #ตามใจแฟน เพราะแฟนต่ายยังไม่เคยไป ตปท.มาก่อน และก่อนหน้านี้ต่ายมีแพลนจะไปเที่ยวอยู่แล้ว (สิงคโปร์ เวียดนาม และลาว) แต่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปประเทศไหนดี พอคบกับแฟนได้ประมาณ 1 เดือน(บางคนคิดว่าพึ่งคบกันทำไมไปเที่ยว ตปท.กันแล้ววะ5555 จริงๆแล้วเราเป็นเพื่อนกันมา10ปีได้แล้วค่ะ) ก็ตัดสินใจชวนเค้าไป เพราะอยากให้เค้าเป็นคนแรกที่ไปกับเราและเราเองก็อยากเป็นคนแรกที่ได้ไปกับเค้า อิอิ >< เลยถามความเห็นว่าถ้ามีโอกาสได้ไป ตปท.ด้วยกัน อยากไปประเทศอะไร? เฮียตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า #เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่เฮียอยากไปและเป็นประเทศที่อยู่ในลิสต์เราอยู่แล้วด้วย โอ้ยย!!ใจตรงกันขนาดนี้ก็แพ็คกระเป๋ารอเลย5555+ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการจองตั๋วล่วงหน้า 3 เดือน - -"
>> แต่ด้วยความที่ไม่เคยจองตั๋วเองมาก่อน เพราะปกติไปกับทัวร์ไม่ต้องทำอะไรเลยทัวร์จัดการให้หมด น้องต่ายเลยซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าจ้า ความปลอดภัยมาเป็นที่หนึ่งให้เฮียได้อุ่นใจ โดยการซื้อประกันกับสายการบิน(ซึ่งเพื่อนๆบอกไม่จำเป็นบ้างไรบ้าง) และด้วยความที่เป็นคนชอบช้อปปิ้งซื้อนู่นซื้อนี่จุกจิกไปเรื่อยเลยซื้อน้ำหนักกระเป๋าไปเยอะมาก ขาไป 20 กก. ขากลับ 25 กก. (แต่ซื้อคนเดียวนะคะใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่รวมกัน และสะพายเป้ขึ้นเครื่องคนละใบ) ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วต่ายไปญี่ปุ่นมาน้ำหนักกระเป๋าเกือบไม่พอ รอบนี้เลยซื้อน้ำหนักขากลับเพิ่มเผื่อไว้กะช้อปเต็มที่ แต่ลืมไปว่าเราไปเมืองธรรมชาติกัน ไม่ได้ไปเมืองช้อปปิ้ง5555 (ถ้าจำไม่ผิดน้ำหนักที่ใช้ไปคือ ไป13-กลับ17 เหลือเพียบเลยจ้า แอบเสียดายเงิน T.T) ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ DMK -> HAN -> DMK รวมทุกอย่าง (ค่าประกัน/น้ำหนักกระเป๋า/น้ำมัน/ภาษีสนามบิน/เลือกที่นั่ง) จำนวน 2 ที่นั่ง เบ็ดเสร็จ 7,893 บาท เฉลี่ยไป-กลับคนละ 3,947 บาท สำหรับต่ายถือว่าไม่แพงนะคะถ้าไม่ซื้อประกันและเลือกน้ำหนักกระเป๋าที่พอดี ถือว่าคุ้มนะคะ^^
>> และนำเงิน USD ไปแลกเป็น VND ที่สนามบิน Noi Bai แลกแค่ 240 USD นะคะ (เก็บ 60 USD ไว้ซื้อทัวร์ไป Halong Bay เพราะสะดวกกว่าและช่วงที่ไปคำนวนแล้วว่าถูกกว่าค่ะ) 240 USD แลกได้ 5,280,000 VND (หันไปหาแฟน โอ้ยยยเตง.. เค้ามีเงินตั้ง 5 ล้านแหนะ5555) ต่ายแลกตอนที่ลงจากเครื่องรับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ลงมา 1 ชั้น เห็นก็แลกเลยเพราะจะซื้อ SIM แต่แนะนำให้แลกชั้นล่างสุดนะคะจะถูกกว่า ปล. เวลาจะซื้อของวิธีง่ายๆเลยคือ นำราคา VND หารด้วย /625 จะเท่ากับ = ราคาTHB
(วิธีคิดค่าเงิน ณ วันที่เราแลก คือ แลกมา 240 USD*35.25 = 8,460 บาท = 5,280,000 VND จับหารกันเลยค่ะ จะได้ประมาณ 625 เวลาซื้ออะไรก็นำ 625 หารตลอด จะได้ราคาไทยที่เป็นราคาที่เราแลก)
. . . ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็จับมือแท็กทีมเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เห็นคู่อื่นเค้าชอบทำกันก็เลยเอาบ้าง555 . . .
ตอนเลือกที่นั่งก็เลือกแถวที่ติดกับพรีเมียม(15E-15F) ลืมคิดไปว่าตรงกับปีก(น้องต่ายพลาดอีกแย้ววว) แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะ เพราะองศาตอนโค้งเห็นวิวเหมือนกัน เราบินไฟล้ท์เช้ามาก เครื่องออกตรงเวลา 6:45 น. Check in ผ่าน Web กันมาก่อนแล้วแต่ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะดอนเมืองคนแน่นมากกกค่ะ มีหงุดหงิดกับทัวร์จีนนิดหน่อย เสียงดังโวยวายบ้านแตกมาก55555 ปล่อยเค้าไปเนอะๆๆๆ
@Noi Bai Airport 8:15 น. ถึงเวียดนามแล้วเย่ๆๆๆ สภาพพึ่งตื่นกันแบบสดๆร้อนๆ อากาศตอนนี้ 18 องศากำลังดี เย็นสบาย สดชื่นมากค่ะ (ตอนแรกก็กลัวอากาศไม่เป็นใจเพราะก่อนเดินทางเช็คสภาพอากาศตลอด อุณหภูมิขึ้นเป็น 21 องศา) แต่โชคดีมากค่ะช่วงที่มาถึงตลอด 3วัน 2คืน อากาศดีมาก 16-18 องศา ฟินกันเลยยยย เพราะเป็นช่วงที่บ้านเราร้อนตับแตกเหยียบ 40 องศา
>> หลังจากได้กระเป๋าแล้วก็ลงไปแลกเงิน รายละเอียดตามที่แจ้งไว้ด้านบนเลยจ้า
>> ต่อด้วยเดินหาร้านขาย SIM CARD กันในสนามบินเลยเพื่อความสะดวกในการติดต่อ เพื่อลงรถเมล์ไม่ทันกันตามรีวิวใน Pantip ต่ายซื้อ SIM CARD ของ Viet Phone ราคา 200,000*2อัน (640 บาท อันละ 320 บาท) ใช้ได้ 1 สัปดาห์ เป็นแบบ Unlimited 3GB.
>> จากนั้นก็ลงมาอีก 1 ชั้น (ชั้นล่างสุด) ก็เดินเช็คค่าเงินไปเรื่อย ระหว่างเดินก็จะมีร้านขาย SIM ขายแพ็คเกจทัวร์คอยเรียกเราอยู่ตลอดทาง พอเดินดูไปมา สรุปชั้นล่างสุดเลทค่าเงินดีกว่า ราคา SIM ถูกกว่า แต่ก็ไม่ต่างกันมากนะคะ แต่ข้างบนสะดวกคนน้อยไม่ต้องรอคิว
>> แต่ตอนที่เดินมา เฮียบอกว่าเห็นรถ 17 วิ่งผ่านไป เราก็เลยยืนรอกับกลุ่มคนไทย 5-6 คนนั้น แต่สุดท้ายเค้าก็ตัดสินใจขึ้นแท็กซี่กัน ก็ชวนเราไปด้วย (มีน้ำใจ น่ารักมาก อิอิ) แต่เราไม่ได้ไปนะคะ เพราะอยากรู้ว่าต้องขึ้นรถยังไงเพราะติดใจอากาศเผื่อมีโอกาสได้มากันอีก ยืนรอกันได้สักพักก็ทนไม่ไหว เฮียเลยไปถามคนเวียดนามที่นั่งอยู่ตรงท่ารถสิงคนว่าจะไปฮานอยต้องไปยังไงนั่งรถสาย 17 ใช่มั้ย เค้าก็พยัคหน้า (การสื่อสารเมื่อออกจากสนามบิน ต้องใช้ภาษามือช่วยซะส่วนใหญ่ เพราะคนเวียดนามใช้ภาษาบ้านเค้าเป็นหลักเหมือนบ้านเรา) พยายามจะช่วยบอกทางเรา ดีมากๆค่ะ พอรถเมล์สาย 07 มา เค้าก็บอกว่าไปได้ คันนี้ไปฮานอยได้ เราก็ลังเลไม่กล้าขึ้นกัน จน 07 วนมาอีกคัน จึงตัดสินใจขึ้น
>> เมื่อขึ้นสาย 07 มาได้สักระยะผ่านไป 2-3ป้าย ก็เลยเอาแผนที่ให้กระเป๋ารถเมล์ดูว่าเราจะไปตรงย่าน Old Quarter แถว St. Joseph ต้องลงไหน กระเป๋ารถเมล์ก็บอกให้ลงๆ ให้ไปต่อรถเมล์สาย 58 (จังหวะนั้นคือใจไม่ดีแล้ว ขึ้นผิดคันหรอ โดน2คนนั้นหลอกรึป่าว เราอยู่ตรงไหนกันก็ไม่รู้ แล้วจะหลงมั้ย จะไปถึงฮานอยมั้ย) จึงหยิบแผนที่ถามผู้โดยสารบนรถคนอื่นๆว่าจะไปฮานอย ไปยังไง แต่กระเป๋ารถเมล์ก็ยังแทรกมาตอบว่าเปลี่ยนเป็นสาย 58 (แล้วก็พูดอะไรกันไม่รู้เป็นภาษาเวียดนาม) ต่ายกับเฮียเลยคิดว่าเราเจอ Zombieตัวที่2 แล้วล่ะ แล้วนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของ Zombieตัวที่2 รอติดตามกันนะคะ รับรองมีแต่เรื่องเด็ดๆ เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะข้อความเต็มพอดี