ทุกวันนี้ มองไปทางไหน ก็มีแต่คนที่อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่คำนิยามนี้ ต่างคนก็ตีความหมายต่างๆกันไป
บางคนบอกว่า ต้องมีเงินเยอะๆ หลายๆร้อยล้าน จึงจะนับว่า ประสบความสำเร็จ
บางคน ขอแค่ สิบล้าน ก็ประสบความสำเร็จ
บางคน ไม่มีหนี้ มีบ้านอยู่ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
บางคน บอก ขอประสบความสำเร็จเป็นวันๆไป วันนี้มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ก็ประสบความสำเร็จแล้ว....
แต่ที่ทุกคนอาจมองข้าม หรือ อาจจะนึกถึงน้อยไประหว่างที่เรากำลังเดินทางไปสู่ความสำเร็จนั้นคือ........ครอบครัว ของเราไงครับ
ผมเคยเห็นเพื่อนๆของคุณพ่อ ท่านร่ำรวย กิจการ มากมาย แต่ท่านมีปัญหาระหว่างบ้านใหญ่ และ บ้านเล็ก ตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ผมได้มีโอกาสทานอาหารกับคุณพ่อ และ เพื่อนๆของคุณพ่อ ผมจะเห็นคุณอาท่านนี้บ่นถึงเรื่องครอบครัวเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภรรยาหลวงไปหาเรื่องภรรยาน้อย เคยเจอว่าภรรยาหลวงถึงกับเอาขวดไปตีหัวภรรยาน้อย ขึ้นโรงพักกันเลย
ไหนจะเรื่องลูกๆที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน หลังๆผมมีครอบครัวจึงไม่ค่อยได้ไปทานข้าวกับ คุณพ่อและเพื่อนๆของท่าน
แต่ก็ได้ยินมาว่า ช่วงหลังๆ สุขภาพของคุณอาไม่ค่อยจะดี กิจการของท่านที่เคยรุ่งเรืองก็ถูกแบ่งแตกแยกออกไปให้ลูกๆบริหาร
ดีบ้าง แย่บ้าง แล้วแต่ความสามารถของลูกๆแต่ละคน แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนคือ ท่านก็ยังบ่นเรื่องครอบครัวของท่านอยู่ดี
อีกเคส ลูกค้าประจำผม ซื้อของกันมาเป็นสิบปี แต่ก่อนทำงานกันสอง สามี ภรรยา ขับรถกะบะเก่าๆ เข้ามาซื้อของกัน
มาทุกครั้งก็จะคุยกันเรื่องทั่วๆไป ภรรยา คอยถือเงิน จ่ายเงินซื้อของ คอยดูแลลูกน้อง ก็ดูพวกเขามีความสุขดีกับงานที่ทำ
ทำไปเรื่อยๆ กิจการเริ่มดี สามีออกรถเก๋งมาใหม่ ขับรถเก๋งมาสั่งของ ให้ลูกน้องขับรถกะบะมารับสินค้า ผมก็เลยไม่ค่อยได้คุยกับลูกค้ารายนี้
เพราะจะเข้ามาจ่ายเงินแล้วก็ขับรถไป แกบอกว่างานยุ่ง รับงาน บริษัทฯใหญ่เงินดี เลยให้ภรรยา ไปอยู่ บ้านที่สร้าง ตจว......
เหตุการณ์ผ่านมาหลายปี ลูกค้าก็ยังมาซื้อของอยู่ หลังๆเห็นเริ่มแต่งตัวหล่อขึ้น ใส่เสื้อผ้า ใส่สร้อยทอง เปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ
ออกรถตรวจการใหม่เพิ่มอีกคัน ....
ช่วงต้นปี ลูกน้องผมมาบอก ว่าแกเล่าให้ลูกน้องผมฟังว่าแกไปมีภรรยาน้อย เลยให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ไปอยู่ ตจว.
ผมได้ยินก็สะท้อนใจเหมือนกัน แต่ทำอะไรไม่ได้ อยากจะเตือนเหมือนกันแต่คงไม่ถูกที่ๆจะไปยุ่งกับเรื่องครอบครัวเขา
มาจนช่วงก่อนสงกรานต์ ลูกค้าขับรถกะบะคันเก่า มาซื้อของ มาครั้งนี้ลูกค้าแต่งตัวเหมือนก่อน ในชุดช่าง บอกผมว่าช่วงนี้งานน้อยลงเยอะ
รถคันที่ออกมาใหม่เลยให้เขายึดไป คาดว่า ภรรยาใหม่ก็คงไปพร้อมรถคันใหม่ไปด้วย ......
เห็นลูกค้าเล่าให้ผมฟังว่า ช่วงสงกรานต์จะกลับไปบ้าน ไปหาภรรยา ดูแววตา เศร้าๆ แบบคนปลงๆ ผมก็ได้แต่หวังว่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี
ขออีกเคส เป็นเพื่อนบ้านผมเลย คุณลุงท่านมีห้องแถว 7-8 คูหาให้คนแถวนี้เช่า เก็บค่าเช่าต่อเดือนหลักแสน แต่แกมี 2 บ้าน ลูกๆเลยทะเลาะกัน
หลังๆ เห็นแกไปลงทุนอสังหาให้ลูก แล้ว ขาดทุน วันดีคืนดีก็จะมีหมายมาปิดที่หน้าบ้าน หลังๆจึงค่อยๆขายอาคารออกไปทีละ 1 -2 คูหา
ปัจจุบันลูกคนโตของคุณลุง ต้องเช่าห้องแถว 1 คูหา เพื่อทำกิจการของเขา
ส่วนคุณลุงเห็นว่าย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว
ที่ผมเล่ามานี่ ผมอยากให้ทุกๆคนลองมองๆไปรอบๆตัวเรา ถ้าเราเห็นเพื่อนหรือญาติ คนไหนที่เขามีครอบครัวที่อบอุ่น
ลูกๆน่ารัก มีความรักให้กันและกัน ..... ส่วนมากแล้ว เขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
ส่วนตัวผมแล้ว ผมเชื่อนะครับว่า แม้ว่าเราจะมีเงินล้นฟ้า มีสิ่งของมากมาย แต่ถ้าเราหันไปทางไหนก็ไม่มีคนที่จะมาร่วมยินดี
กับความสำเร็จนั้นๆของเรา ด้วยใจจริง .... ผมถือว่าคนนั้น ยังไม่นับว่าประสบความสำเร็จที่แท้จริง
ผมเคยเขียนในกระทู้เหมือนกัน (นานมาแล้ว) ว่าผมเลือกที่จะทำธุรกิจในทิศทางที่ทำให้ผมมีเวลาให้กับครอบครัว
แลกกับงานที่จะทำให้ผมมีรายได้มากกว่าหลายเท่าตัว แต่ที่เพิ่มมาคือความเครียด และ เวลาที่แทบจะไม่มีให้กับครอบครัว....
แม้ตอนนี้ผมจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ผมเชื่อว่าผมก็อยู่ระหว่างทางที่จะประสบความสำเร็จ ในแบบของผม
เพื่อนๆล่ะครับมีนิยามของ ความสำเร็จ อย่างไรกันบ้างครับ ?
รบกวน มาแชร์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ.....
จริงไหมกับคำที่ว่า "ครอบครัวอบอุ่นคือฐานรากของคนที่จะประสบความสำเร็จ"
บางคนบอกว่า ต้องมีเงินเยอะๆ หลายๆร้อยล้าน จึงจะนับว่า ประสบความสำเร็จ
บางคน ขอแค่ สิบล้าน ก็ประสบความสำเร็จ
บางคน ไม่มีหนี้ มีบ้านอยู่ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
บางคน บอก ขอประสบความสำเร็จเป็นวันๆไป วันนี้มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ก็ประสบความสำเร็จแล้ว....
แต่ที่ทุกคนอาจมองข้าม หรือ อาจจะนึกถึงน้อยไประหว่างที่เรากำลังเดินทางไปสู่ความสำเร็จนั้นคือ........ครอบครัว ของเราไงครับ
ผมเคยเห็นเพื่อนๆของคุณพ่อ ท่านร่ำรวย กิจการ มากมาย แต่ท่านมีปัญหาระหว่างบ้านใหญ่ และ บ้านเล็ก ตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ผมได้มีโอกาสทานอาหารกับคุณพ่อ และ เพื่อนๆของคุณพ่อ ผมจะเห็นคุณอาท่านนี้บ่นถึงเรื่องครอบครัวเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภรรยาหลวงไปหาเรื่องภรรยาน้อย เคยเจอว่าภรรยาหลวงถึงกับเอาขวดไปตีหัวภรรยาน้อย ขึ้นโรงพักกันเลย
ไหนจะเรื่องลูกๆที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน หลังๆผมมีครอบครัวจึงไม่ค่อยได้ไปทานข้าวกับ คุณพ่อและเพื่อนๆของท่าน
แต่ก็ได้ยินมาว่า ช่วงหลังๆ สุขภาพของคุณอาไม่ค่อยจะดี กิจการของท่านที่เคยรุ่งเรืองก็ถูกแบ่งแตกแยกออกไปให้ลูกๆบริหาร
ดีบ้าง แย่บ้าง แล้วแต่ความสามารถของลูกๆแต่ละคน แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนคือ ท่านก็ยังบ่นเรื่องครอบครัวของท่านอยู่ดี
อีกเคส ลูกค้าประจำผม ซื้อของกันมาเป็นสิบปี แต่ก่อนทำงานกันสอง สามี ภรรยา ขับรถกะบะเก่าๆ เข้ามาซื้อของกัน
มาทุกครั้งก็จะคุยกันเรื่องทั่วๆไป ภรรยา คอยถือเงิน จ่ายเงินซื้อของ คอยดูแลลูกน้อง ก็ดูพวกเขามีความสุขดีกับงานที่ทำ
ทำไปเรื่อยๆ กิจการเริ่มดี สามีออกรถเก๋งมาใหม่ ขับรถเก๋งมาสั่งของ ให้ลูกน้องขับรถกะบะมารับสินค้า ผมก็เลยไม่ค่อยได้คุยกับลูกค้ารายนี้
เพราะจะเข้ามาจ่ายเงินแล้วก็ขับรถไป แกบอกว่างานยุ่ง รับงาน บริษัทฯใหญ่เงินดี เลยให้ภรรยา ไปอยู่ บ้านที่สร้าง ตจว......
เหตุการณ์ผ่านมาหลายปี ลูกค้าก็ยังมาซื้อของอยู่ หลังๆเห็นเริ่มแต่งตัวหล่อขึ้น ใส่เสื้อผ้า ใส่สร้อยทอง เปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ
ออกรถตรวจการใหม่เพิ่มอีกคัน ....
ช่วงต้นปี ลูกน้องผมมาบอก ว่าแกเล่าให้ลูกน้องผมฟังว่าแกไปมีภรรยาน้อย เลยให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ไปอยู่ ตจว.
ผมได้ยินก็สะท้อนใจเหมือนกัน แต่ทำอะไรไม่ได้ อยากจะเตือนเหมือนกันแต่คงไม่ถูกที่ๆจะไปยุ่งกับเรื่องครอบครัวเขา
มาจนช่วงก่อนสงกรานต์ ลูกค้าขับรถกะบะคันเก่า มาซื้อของ มาครั้งนี้ลูกค้าแต่งตัวเหมือนก่อน ในชุดช่าง บอกผมว่าช่วงนี้งานน้อยลงเยอะ
รถคันที่ออกมาใหม่เลยให้เขายึดไป คาดว่า ภรรยาใหม่ก็คงไปพร้อมรถคันใหม่ไปด้วย ......
เห็นลูกค้าเล่าให้ผมฟังว่า ช่วงสงกรานต์จะกลับไปบ้าน ไปหาภรรยา ดูแววตา เศร้าๆ แบบคนปลงๆ ผมก็ได้แต่หวังว่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี
ขออีกเคส เป็นเพื่อนบ้านผมเลย คุณลุงท่านมีห้องแถว 7-8 คูหาให้คนแถวนี้เช่า เก็บค่าเช่าต่อเดือนหลักแสน แต่แกมี 2 บ้าน ลูกๆเลยทะเลาะกัน
หลังๆ เห็นแกไปลงทุนอสังหาให้ลูก แล้ว ขาดทุน วันดีคืนดีก็จะมีหมายมาปิดที่หน้าบ้าน หลังๆจึงค่อยๆขายอาคารออกไปทีละ 1 -2 คูหา
ปัจจุบันลูกคนโตของคุณลุง ต้องเช่าห้องแถว 1 คูหา เพื่อทำกิจการของเขา
ส่วนคุณลุงเห็นว่าย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว
ที่ผมเล่ามานี่ ผมอยากให้ทุกๆคนลองมองๆไปรอบๆตัวเรา ถ้าเราเห็นเพื่อนหรือญาติ คนไหนที่เขามีครอบครัวที่อบอุ่น
ลูกๆน่ารัก มีความรักให้กันและกัน ..... ส่วนมากแล้ว เขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
ส่วนตัวผมแล้ว ผมเชื่อนะครับว่า แม้ว่าเราจะมีเงินล้นฟ้า มีสิ่งของมากมาย แต่ถ้าเราหันไปทางไหนก็ไม่มีคนที่จะมาร่วมยินดี
กับความสำเร็จนั้นๆของเรา ด้วยใจจริง .... ผมถือว่าคนนั้น ยังไม่นับว่าประสบความสำเร็จที่แท้จริง
ผมเคยเขียนในกระทู้เหมือนกัน (นานมาแล้ว) ว่าผมเลือกที่จะทำธุรกิจในทิศทางที่ทำให้ผมมีเวลาให้กับครอบครัว
แลกกับงานที่จะทำให้ผมมีรายได้มากกว่าหลายเท่าตัว แต่ที่เพิ่มมาคือความเครียด และ เวลาที่แทบจะไม่มีให้กับครอบครัว....
แม้ตอนนี้ผมจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ผมเชื่อว่าผมก็อยู่ระหว่างทางที่จะประสบความสำเร็จ ในแบบของผม
เพื่อนๆล่ะครับมีนิยามของ ความสำเร็จ อย่างไรกันบ้างครับ ?
รบกวน มาแชร์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ.....