[ประกาศ] เรียนท่านนายกรัฐมนตรีไทย (ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และนายกรัฐมนตรีเยอรมัน (Angela Merkel) ช่วยเหลือทีครับ

ท้าวความก่อนนะครับ ล็อกอินนี้เป็นของเจสซี่ (www.facebook.com/jessy.triofucx) เองนะครับ ส่วน IP มาจาก MacBook Pro ของผมเอง เผื่อใครต้องการเช็คว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย (ปล.เขียนผิดตรงไหนช่วยบอกด้วยครับ)
---------------------------------------------------------------------------------
          

          กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี

เนื่องจากกระผม นาย เจสซี่ เครเมอร์ มีความเดือดร้อนเรื่องครอบครัว พ่อ (นาย ทอร์สเทน เครเมอร์) ไม่ส่งเสียดูแล โดยที่ต้องการให้กระผมไปทำงานที่เยอรมัน ซึ่งตัวกระผมเพิ่งเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 3 เท่านั้น ตามกฏหมายแล้วปรกติจะมี พรบ.คุ้มครองเยาวชน (จริงๆตรงนี้ผิดตามกฏหมาย ในฐานใช้แรงงานเด็ก) และก็มีหมายฟ้องศาลที่ให้พ่อส่งเดือนละ 600 ยูโร (เป็นภาษาเยอรมัน สามารถขอมาทางหลังไมค์ได้) โดยพ่อมีฐานะทางบ้านที่ดี มีอพาร์ทเม้นท์ให้เข่า มีมรดกมากพอสมควร จึงกราบเรียนมา ณ ที่นี้


--------------------------------------------

ที่นี่เล่าเรื่องของผมนะครับ

ตอนนี้ศาลได้ตัดสินให้เขาส่งเสียเลี้ยงดูผมแล้ว (ประมาณปี 2013) และพ่อก็มาหาในปี 2014 ตอนนั้นเราดีใจมาก คิดว่าพ่อสำนึกผิดที่ไม่ได้ดูแลผม แต่ เขามาขอให้เราหยุดดำเนินเรื่องฟ้องร้องเขา และตอนนั้นแม่ก็ตกใจ โดยที่ตอนนั่นแม่ยังไม่ทราบว่าใครดำเนินเรื่องให้ จนหลังจากนั้น 2 เดือนกว่าๆ ทางผู้ดำเนินเรื่องก็โทรมาหาแม่ ว่าสามารถทำเรื่องให้พ่อต้องส่งเสียเลี้ยงดูได้แล้ว โดยที่ศาลตัดสินว่าพ่อต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูย้อนหลังตั้งแต่ช่วงที่เริ่มดำเนินเรื่อง (ช่วงต้นปี 2010) จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทางศาลตัดสินให้ส่งเสียเดือนละ 600 ยูโร ซึ่งเทียบค่าเงินในตอนนั้นก็ประมาณ 18000 บาท และผมขอให้พ่อส่งเสียเป็นเดือนละ 30000 บาท (ตอนนั้นนั่งคุยกันอยู่) พ่อก็รับฟัง แต่ทุกครั้งก็เหมือนเดิม เราต้องโทรขอค่าเลี้ยงดูพ่อทุกเดือน พ่อไม่เคยส่งเงินตามที่ศาลสั่งเลยสักครั้ง และบ่อยครั้งเขาก็โกหกว่าส่งเงินมาแล้ว และพอผ่านไปซัก 2-3 อาทิตย์ ปกติส่งเงินใช้เวลาแค่ 3-7 วันทำการ แต่ปกติจะ 3 วันทุกครั้ง ที่เราจะได้รับเงิน และในตอนนี้ รร. จะเปิดเทอมแล้ว แต่พ่อบอกว่า ไม่ต้องเรียนแล้ว โดยที่พ่อพูดประมาณว่า การศึกษาไทยมันห่วย ให้ออกจากการเรียน แล้วไปทำงาน โดยที่ผมอยู่ ม.2 กำลังจะขึ้น ม.3 เทอมนี้ ผมเครียดจนป่วย แม่ก็ป่วยไปด้วย  แต่พ่อก็หาว่าเราโกหก ตอนนี้เราเลยหยุดติดต่อพ่อไป เพราะคิดว่าติดต่อไปพ่อก็ไม่สนใจ โทรไปก็ไม่รับสาย Whatsapp ไปก็ไม่ตอบ แต่พอบอกว่าเราป่วยมาก ขอให้ช่วยค่ารักษา พ่อก็หาว่าเราโกหก เราตัดใจ เพราะพูดไปพ่อก็ไม่เชื่อซักอย่าง เราเลยบอกพ่อไป ถ้าเป็นแบบนี้เราเลิกติดต่อกันเถอะ แล้วผมก็ทิ้งท้ายไว้ว่าผมจะดำเนินการฟ้องร้อง แต่พ่อก็ไม่สนใจ เพราะพ่อรู้อยู่แล้วว่าเราไม่มีปัญญาที่จะหาเงินไปวิ่งเต้นดำเนินเรื่อง และพ่อเคยพูดว่า จดหมายจากทนายความหรือกฏหมายใดๆส่งมาเขาก็โยนทิ้งหมด เพราะเป็นแค่คำขู่ พ่อเลยได้ใจ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่