ห้ะ... นี่แกจะไปเกาหลีอีกแล้วหรอ !!???
.
.
เป็นประโยคที่ได้ยินทุกครั้ง เมื่อเวลาบอกใครว่าจะไป เกาหลี
ทุกทีก็ได้แต่ยิ้มกลับ แล้วก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้
แต่ก็คิดในใจ เออ ใช่ดิ ไปอีกแล้วไงวะ 5555 (จริงๆ มันก็มีเรื่องให้ไปแหละนะ ^^)
ครั้งนี้เป็นการมาที่เกาหลี เป็นครั้งที่ 4 แต่ก็ไม่เคยเบื่อเลย
เป็นความรู้สึกยินดี ฟิน ดีใจทุกครั้ง หลังจากได้จองตั๋วเครื่องบินเสร็จ (โรคจิต 555)
ที่ฟินยิ่งกว่า คือการที่เท้าได้มาเหยียบสนามบิน อินชอน 555 อารมณ์แบบ เฮ้ย เรามาถึงแล้วที่ที่เรารัก (หรา)
แต่... มันก็มีเรื่องที่ทำให้เราเป็นกังวลในทุกๆครั้งที่มา
นั่นคือ ตม. เกาหลี อันลือชื่อ
ไม่เคยโดนเข้าห้องเย็นหรอกนะ
ไม่เคยโดนถาม ไม่เคยอะไรเลยยยยยย
แต่เป็นบ้า พารานอยด์ไปเองตลอด
ตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าแถว เฮ้ย กรูจะโดนมั้ยเนี้ยคนข้างหน้าก็โดนสอยไปหลายรายละ
(กังวลทุกครั้ง แต่ไม่เคยมีเอกสารไรมาเลย..ข่ะ!)
ขอเล่าก่อนว่า เมื่อก่อน การเข้าแถว ตม.ที่เกาหลี จะเป็นแบบ ใครอยากเข้าช่องไหน ก็ไปต่อแถว
สำหรับเรา ได้ยินเค้าพูดต่อๆกันมา ว่า เออ ตม.ผู้ชาย จะใจดีกว่า ตม.ผู้หญิง
ดังนั้น เราก็มักจะเลือกหน้าตา ท่าทาง ของ ตม. ก่อนเข้าแถวเสมอ 5555+
จนกระทั่งไม่นานมานี้ประมาณ มิ.ย. หรือ ก.ค. 2558 ไปเห็นกระทู้นึงในนี้แหละว่า มีการเปลี่ยนระบบการเข้าแถวเป็นแบบใหม่ คือ ให้เข้าแถวเป็นแถวเดียว แล้วช่องไหนว่าง เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปช่องนั้นๆ เอง ซึ่งหมายความว่า เราไม่สามารถเลือก ตม.ได้อีกต่อไป....
ตอนที่เข้าแถว คนก่อนหน้า แผงนึง สมมติ 7 คน คือโดนเข้าห้องเย็นประมาณ 4-5 คนอ่ะ
สำหรับเรา ถือว่าเยอะมากกก เพราะ เราไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน
ระหว่างเข้าแถวรอ คือ พี่ก็แบบ เฮ้ยโดนอีกแล้ว คนนั้นก็โดน คนนี้ก็โดน ดูดิๆๆ
5555555555555 โอ๊ย คือแบบ หนูก็กลัวค่ะ จิตตกเบาๆ พาสปอร์ตเพิ่งเปลี่ยนใหม่ด้วย มีปั๊มญี่ปุ่นมาแค่ประเทศเดียว
ละวันนั้นไม่มีเอกสารไรเลย มีแค่พาสปอร์ต ใบ ตม. แผนเที่ยว ที่ให้พี่ทำแบบกากๆ (เก็บในกระเป๋าไม่ได้เอาออกมา)
ใบรับรองเงิน รับรองงานไม่เคยขอไป ละวันนั้น ตม.หญิงทั้งแผง เสียวมากกกก
แต่วันนั้น พอถึงคิวเรา เค้ามีเปลี่ยนเวรมาเป็น ผู้ชายพอดี ฮ่าๆ สุดท้ายก็แสกนนิ้ว ผ่านฉลุย
(แต่จริงๆ ตม.ไหนก็เหมือนกันแหละ พิสูจน์กับ ผู้หญิงมาละ ก็ผ่าน555)
เฮ้ออออ ....
ขอข้ามการนั่งรถไฟเข้าเมืองเนอะ
ที่พักที่เราพักประจำคือ HongDae Guesthouse
อยู่ Hongik Sta. Exit1 เดินขึ้นมาเลี้ยวซ้ายละเดินเข้าตึกได้เลยจุดสังเกตคือร้าน Dunkin Donut
ที่นี่จะเป็นเหมือนตึกออฟฟิศแบ่งเช่าเป็นเกสเฮ้าส์ดังนั้นมันจะไม่เหมือนเกสเฮ้าส์ที่อื่นๆที่แบบเป็นบ้าน
Reception อยู่ชั้น 3 ห้อง 303 (สตาฟน่ารักดี กิกิ)
ห้องพักที่นี่มีแบบเป็น Female dorm, Mixed dorm และ Private Room ราคาเริ่มต้น 20,000 วอน
ปกติเราจะนอน Female dorm (22,000 won) เพราะนอนเป็นสิบคืน
แต่ครั้งนี้เห็นว่ามาแปปเดียวเลยเลือกนอนแบบหอรวมถูกกว่านิดหน่อย 5555 (นิดหน่อยก็เอา)
ลักษณะห้อง
ห้องรวม (Mixed Dorm) จะมีประมาณ 8-9 เตียง ชั้นล่างเป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียง มีชั้นลอยอีก 3 เตียงห้องแคบกว่าห้องหญิงพวกเครื่องใช้จะน้อยกว่าไม่มีร่มไม่มีไดร์เป่าผม
หอหญิง (Female Dorm) จะห้องใหญ่กว่ามีประมาณ 11 เตียงชั้นล่างเป็นเตียง 2 ชั้น 4 เตียง มีชั้นลอย 3 เตียงห้องจะใหญ่กว่าโปร่งกว่าและมีอุปกรณ์เครื่องใช้เยอะกว่าหอรวม
ถ้านอนชั้นลอยจะรู้สึกเป็นส่วนตัวดีนะ 555 อยู่ข้างบนแต่ลำบากแบกกระเป๋าขึ้นไป ไปหน้าร้อนไม่แนะนำนอนชั้นลอยเพราะมันร้อนมากแอร์เป่าไม่ถึง
ห้องอื่นๆไม่เคยนอน
เกริ่นยาวมาก.... =__= เข้าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันน
ปล. บอกก่อน คือไม่ได้จะตั้งใจเขียนแต่แรก รูปเลยมีไม่ครบ ไม่ละเอียด ไม่ได้ตั้งใจถ่ายมาเขียนอ่ะ T_T
วันที่ 1 :: 11 July 2015
Hongdae flea market
ตลาดนัดที่ฮงแดดดด เป็นอะไรที่ใฝ่ฝัน หลังจากเก็บของที่ รร. แล้วเราก็ออกมาตลาด
ตลาดนี้จะอยู่ตรงสนามเด็กเล่นที่ฮงแดเลย
วิธีไป :: Hongik sta. Exit 9 (จากที่พักให้เดินลงใต้ดินไปอีกฝั่งหรือเดินไปทางซ้ายเพื่อข้ามถนนก็ได้)
เมื่อออกจาก exit 9 แล้วให้เลี้ยวซ้ายตรงมานิดนึงจะเจอแยกให้เดินไปทางขวาถนนเส้นนี้เป็นสววรค์ของเรา 5555 เป็นถนนที่จะมีโชว์วงเต้น cover ร้องเพลงและแสดงความสามารถอื่นๆมากมายรวมถึงข้างทางก็เป็นร้านเสื้อผ้าร้านอาหารขนมต่างๆให้ได้ shopping กันด้วย
ถนนเส้นนี้นะ เดินมาตามทาง (พอดีรูปนี้ เป็นมุมถ่ายย้อนทางที่เดินมา งงมะ)
สำหรับคนโสดโฟกัสที่รูปถนนและต้นไม้ใบหญ้าไปนะ 5555
เดินตรงตามถนนไปเรื่อยๆจะเจอร้าน New balance ตรงหัวมุมด้านซ้ายมือหรือร้าน H&M ด้านขวามือปกติเราจะข้ามถนนตรงนี้เลยมันเป็นถนนที่ไม่มีทางม้าลายแต่คือแบบคนเกาหลีก็ข้ามกันไม่งั้นต้องเดินไปอีกนิด(ซึ่งขี้เกียจ) ข้ามตรงนี้จะเจอร้าน Tony moly ฝั่งตรงข้ามพอดีให้เดินตรงเข้าถนนหลักเส้นใหญ่ไปเรื่อยๆ (ไม่มีรูป T_T)
ถนนเส้นนี้ก็เป็นสวรรค์ของเรานะเป็นแบบถนนสายช็อปปิ้งมากๆ 555 2 ข้างทางคือเป็นร้านขายเสื้อผ้ารองเท้าเคสมือถือสารพัด เพลินมากๆ
ให้เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึง 4 แยกเลี้ยวซ้ายแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆจะเจอสนามเด็กเล่น
ระหว่างทางในซอยนี้คือจะมีผับชื่อดังน่าจะรู้จักกันดี Cocoon นั่นเอง
(เดินผ่านตอนกลางคืนขอให้มองคนที่มาต่อแถวเข้าผับแซ่บอยู่นะ 555)
ตลาดนัดนีมีทุกวันเสาร์ช่วงเดือนมีนาคม–พฤศจิกายนมีตั้งแต่ประมาณช่วงบ่ายๆเป็นต้นไป
จะขายของ Handmade ของแนวๆภาพวาดต่างๆราคาแอบสูงอยู่เหมือนกันนะ 555 แต่ชอบเดินอ่ะได้บรรยากาศดี
ที่นี่ก็มีวงดนตรีเปิดหมวกแสดงเหมือนกันนะเดินช็อปปิ้งไปฟังเพลงไป
ของที่ขายพวก Accessories
อันนี้น่าจะ Postcard วาดกันสดๆ ตรงนั้นเลย
จบวันที่ 1 :: ขอตัดเท่านี้ ก่อนนะคะ
กล้อง : Olympus EP5 + Kit 14-42 mm / Fujian 35mm f1.8
Canon 550d + 18-200 mm
รูปขอบเบลอมาก เพราะ fujian ล้วนๆ ปรับ f 1.7 ฮ่าๆ
ปล. ไปตั้งแต่ปีที่แล้วนะคะ เคยเขียนลงบล็อคแล้ว แต่อันนี้เอามา Re-run ใน pantip เผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเนาะ
[CR] เกาหลี..ให้ไปกี่ทีก็ได้ ^_^ :: พาเที่ยวเกาหลีหน้าร้อน 4 วัน 3 คืน Korea : Summer July & September 2015
.
.
เป็นประโยคที่ได้ยินทุกครั้ง เมื่อเวลาบอกใครว่าจะไป เกาหลี
ทุกทีก็ได้แต่ยิ้มกลับ แล้วก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้
แต่ก็คิดในใจ เออ ใช่ดิ ไปอีกแล้วไงวะ 5555 (จริงๆ มันก็มีเรื่องให้ไปแหละนะ ^^)
ครั้งนี้เป็นการมาที่เกาหลี เป็นครั้งที่ 4 แต่ก็ไม่เคยเบื่อเลย
เป็นความรู้สึกยินดี ฟิน ดีใจทุกครั้ง หลังจากได้จองตั๋วเครื่องบินเสร็จ (โรคจิต 555)
ที่ฟินยิ่งกว่า คือการที่เท้าได้มาเหยียบสนามบิน อินชอน 555 อารมณ์แบบ เฮ้ย เรามาถึงแล้วที่ที่เรารัก (หรา)
แต่... มันก็มีเรื่องที่ทำให้เราเป็นกังวลในทุกๆครั้งที่มา
นั่นคือ ตม. เกาหลี อันลือชื่อ
ไม่เคยโดนเข้าห้องเย็นหรอกนะ
ไม่เคยโดนถาม ไม่เคยอะไรเลยยยยยย
แต่เป็นบ้า พารานอยด์ไปเองตลอด
ตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าแถว เฮ้ย กรูจะโดนมั้ยเนี้ยคนข้างหน้าก็โดนสอยไปหลายรายละ
(กังวลทุกครั้ง แต่ไม่เคยมีเอกสารไรมาเลย..ข่ะ!)
ขอเล่าก่อนว่า เมื่อก่อน การเข้าแถว ตม.ที่เกาหลี จะเป็นแบบ ใครอยากเข้าช่องไหน ก็ไปต่อแถว
สำหรับเรา ได้ยินเค้าพูดต่อๆกันมา ว่า เออ ตม.ผู้ชาย จะใจดีกว่า ตม.ผู้หญิง
ดังนั้น เราก็มักจะเลือกหน้าตา ท่าทาง ของ ตม. ก่อนเข้าแถวเสมอ 5555+
จนกระทั่งไม่นานมานี้ประมาณ มิ.ย. หรือ ก.ค. 2558 ไปเห็นกระทู้นึงในนี้แหละว่า มีการเปลี่ยนระบบการเข้าแถวเป็นแบบใหม่ คือ ให้เข้าแถวเป็นแถวเดียว แล้วช่องไหนว่าง เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปช่องนั้นๆ เอง ซึ่งหมายความว่า เราไม่สามารถเลือก ตม.ได้อีกต่อไป....
ตอนที่เข้าแถว คนก่อนหน้า แผงนึง สมมติ 7 คน คือโดนเข้าห้องเย็นประมาณ 4-5 คนอ่ะ
สำหรับเรา ถือว่าเยอะมากกก เพราะ เราไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน
ระหว่างเข้าแถวรอ คือ พี่ก็แบบ เฮ้ยโดนอีกแล้ว คนนั้นก็โดน คนนี้ก็โดน ดูดิๆๆ
5555555555555 โอ๊ย คือแบบ หนูก็กลัวค่ะ จิตตกเบาๆ พาสปอร์ตเพิ่งเปลี่ยนใหม่ด้วย มีปั๊มญี่ปุ่นมาแค่ประเทศเดียว
ละวันนั้นไม่มีเอกสารไรเลย มีแค่พาสปอร์ต ใบ ตม. แผนเที่ยว ที่ให้พี่ทำแบบกากๆ (เก็บในกระเป๋าไม่ได้เอาออกมา)
ใบรับรองเงิน รับรองงานไม่เคยขอไป ละวันนั้น ตม.หญิงทั้งแผง เสียวมากกกก
แต่วันนั้น พอถึงคิวเรา เค้ามีเปลี่ยนเวรมาเป็น ผู้ชายพอดี ฮ่าๆ สุดท้ายก็แสกนนิ้ว ผ่านฉลุย
(แต่จริงๆ ตม.ไหนก็เหมือนกันแหละ พิสูจน์กับ ผู้หญิงมาละ ก็ผ่าน555)
เฮ้ออออ ....
ที่พักที่เราพักประจำคือ HongDae Guesthouse
อยู่ Hongik Sta. Exit1 เดินขึ้นมาเลี้ยวซ้ายละเดินเข้าตึกได้เลยจุดสังเกตคือร้าน Dunkin Donut
ที่นี่จะเป็นเหมือนตึกออฟฟิศแบ่งเช่าเป็นเกสเฮ้าส์ดังนั้นมันจะไม่เหมือนเกสเฮ้าส์ที่อื่นๆที่แบบเป็นบ้าน
Reception อยู่ชั้น 3 ห้อง 303 (สตาฟน่ารักดี กิกิ)
ห้องพักที่นี่มีแบบเป็น Female dorm, Mixed dorm และ Private Room ราคาเริ่มต้น 20,000 วอน
ปกติเราจะนอน Female dorm (22,000 won) เพราะนอนเป็นสิบคืน
แต่ครั้งนี้เห็นว่ามาแปปเดียวเลยเลือกนอนแบบหอรวมถูกกว่านิดหน่อย 5555 (นิดหน่อยก็เอา)
ลักษณะห้อง
ห้องรวม (Mixed Dorm) จะมีประมาณ 8-9 เตียง ชั้นล่างเป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียง มีชั้นลอยอีก 3 เตียงห้องแคบกว่าห้องหญิงพวกเครื่องใช้จะน้อยกว่าไม่มีร่มไม่มีไดร์เป่าผม
หอหญิง (Female Dorm) จะห้องใหญ่กว่ามีประมาณ 11 เตียงชั้นล่างเป็นเตียง 2 ชั้น 4 เตียง มีชั้นลอย 3 เตียงห้องจะใหญ่กว่าโปร่งกว่าและมีอุปกรณ์เครื่องใช้เยอะกว่าหอรวม
ถ้านอนชั้นลอยจะรู้สึกเป็นส่วนตัวดีนะ 555 อยู่ข้างบนแต่ลำบากแบกกระเป๋าขึ้นไป ไปหน้าร้อนไม่แนะนำนอนชั้นลอยเพราะมันร้อนมากแอร์เป่าไม่ถึง
ห้องอื่นๆไม่เคยนอน
เกริ่นยาวมาก.... =__= เข้าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันน
ปล. บอกก่อน คือไม่ได้จะตั้งใจเขียนแต่แรก รูปเลยมีไม่ครบ ไม่ละเอียด ไม่ได้ตั้งใจถ่ายมาเขียนอ่ะ T_T
วันที่ 1 :: 11 July 2015
Hongdae flea market
ตลาดนัดที่ฮงแดดดด เป็นอะไรที่ใฝ่ฝัน หลังจากเก็บของที่ รร. แล้วเราก็ออกมาตลาด
ตลาดนี้จะอยู่ตรงสนามเด็กเล่นที่ฮงแดเลย
วิธีไป :: Hongik sta. Exit 9 (จากที่พักให้เดินลงใต้ดินไปอีกฝั่งหรือเดินไปทางซ้ายเพื่อข้ามถนนก็ได้)
เมื่อออกจาก exit 9 แล้วให้เลี้ยวซ้ายตรงมานิดนึงจะเจอแยกให้เดินไปทางขวาถนนเส้นนี้เป็นสววรค์ของเรา 5555 เป็นถนนที่จะมีโชว์วงเต้น cover ร้องเพลงและแสดงความสามารถอื่นๆมากมายรวมถึงข้างทางก็เป็นร้านเสื้อผ้าร้านอาหารขนมต่างๆให้ได้ shopping กันด้วย
ถนนเส้นนี้นะ เดินมาตามทาง (พอดีรูปนี้ เป็นมุมถ่ายย้อนทางที่เดินมา งงมะ)
สำหรับคนโสดโฟกัสที่รูปถนนและต้นไม้ใบหญ้าไปนะ 5555
เดินตรงตามถนนไปเรื่อยๆจะเจอร้าน New balance ตรงหัวมุมด้านซ้ายมือหรือร้าน H&M ด้านขวามือปกติเราจะข้ามถนนตรงนี้เลยมันเป็นถนนที่ไม่มีทางม้าลายแต่คือแบบคนเกาหลีก็ข้ามกันไม่งั้นต้องเดินไปอีกนิด(ซึ่งขี้เกียจ) ข้ามตรงนี้จะเจอร้าน Tony moly ฝั่งตรงข้ามพอดีให้เดินตรงเข้าถนนหลักเส้นใหญ่ไปเรื่อยๆ (ไม่มีรูป T_T)
ถนนเส้นนี้ก็เป็นสวรรค์ของเรานะเป็นแบบถนนสายช็อปปิ้งมากๆ 555 2 ข้างทางคือเป็นร้านขายเสื้อผ้ารองเท้าเคสมือถือสารพัด เพลินมากๆ
ให้เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึง 4 แยกเลี้ยวซ้ายแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆจะเจอสนามเด็กเล่น
ระหว่างทางในซอยนี้คือจะมีผับชื่อดังน่าจะรู้จักกันดี Cocoon นั่นเอง
(เดินผ่านตอนกลางคืนขอให้มองคนที่มาต่อแถวเข้าผับแซ่บอยู่นะ 555)
ตลาดนัดนีมีทุกวันเสาร์ช่วงเดือนมีนาคม–พฤศจิกายนมีตั้งแต่ประมาณช่วงบ่ายๆเป็นต้นไป
จะขายของ Handmade ของแนวๆภาพวาดต่างๆราคาแอบสูงอยู่เหมือนกันนะ 555 แต่ชอบเดินอ่ะได้บรรยากาศดี
ที่นี่ก็มีวงดนตรีเปิดหมวกแสดงเหมือนกันนะเดินช็อปปิ้งไปฟังเพลงไป
ของที่ขายพวก Accessories
อันนี้น่าจะ Postcard วาดกันสดๆ ตรงนั้นเลย
เนื่องจากตอนเย็นมีภารกิจที่ Olympic park Sta. ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไปเกือบชั่วโมง
เลยต้องรีบออกมาตอน 4โมงเย็น
ฮงแดวันเสาร์นี่คนคึกคักมากกกกกกแน่นๆสุดๆเดินชนกันอ่ะแต่ละคนก็ชิคมากกก ชอบมากกกกกกกกกกก
จบวันที่ 1 :: ขอตัดเท่านี้ ก่อนนะคะ
กล้อง : Olympus EP5 + Kit 14-42 mm / Fujian 35mm f1.8
Canon 550d + 18-200 mm
รูปขอบเบลอมาก เพราะ fujian ล้วนๆ ปรับ f 1.7 ฮ่าๆ
ปล. ไปตั้งแต่ปีที่แล้วนะคะ เคยเขียนลงบล็อคแล้ว แต่อันนี้เอามา Re-run ใน pantip เผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเนาะ