วันที่เกิดเหตุ 19/05/2559 คือแบบนี่ครับ ผมได้ไปเช็คเครื่องเสียงรถ ที่ร้าน PowerSoundV9 (สาขาใหญ่) ถ้าจาก กทม. ก็ก่อนถึงแยกบางแสนอ่ะครับ พอเช็ครถทำไรเสด ผมก็ว่าจะล้างรถ ที่ร้านข้างๆนี่ล่ะครับ ผมมาทำเครื่องเสียง3วัน มาทุกวันไม่ทันได้ล้างรถซักที อยากล้างที่ร้านนี้ ตั่งแต่มาทำเครื่องเสียงวันแรกเลยครับ แต่ร้านร้างรถปิดก่อนทุกที เพราะทำเครื่องเสียงไม่เสด พอวันสุดท้ายที่ทำรถ เอาล่ะวันนี้ได้ล้างล่ะ พอเสดจากร้านเครื่องเสียงผมก็ขับรถเข้าไป คือบอกก่อนครับ ร้านล้างรถเค้าปิด 6โมงครับ ผมเข้าไป 5โมงเย็น จะปิดล่ะ นึกว่าจะไม่ได้ล้างแล้ววว เค้าก็ล้างให้ครับ ผมรู้อยู่แล้วว่ามีเกือบ 2ชม ผมล้างรถ ขัดสีบ่อยมาก จนสีรถบาง แล้วผมก็นั่งรอ หยอดตู้พลู เล่นมันอยู่คนเดว เพราะมีผมคนเดวในร้าน ร้านนี้เค้ามีโต๊ะพลูให้เล่นครับ เล่นอยู่พักใหญ่ แล้วก็เล่นมือถือไปพลาง พอดีหันไปดูว่าไปถึงไหนแล้ว เห็นกำลังเช็ดรถพอดี นึกขึ้นได้ เรามีผ้าเช็ดรถที่พี่เค้าให้มาใช้นี่หน่า ก็จะลองใช้ดูไหนๆก็ล้างล่ะ ผมก็เดินไปหาเด็กที่รถผมบอก ใช้ผ้าผมได้ม่ะผ้าสีส้มๆ ผมพูดแค่นี้นะ ผมก็เปิดประตูรถข้างหลัง อ่าว!!....เอ๊ะ ผ้าไปไหน  คือได้มาจนลืมว่าไว้ไหน หาไม่เจอ เลยปิดประตูว่าจะกลับไปนั่งต่อ ก็หันไปถาม เด็กเช็ดรถว่า เห็นผ้าสีส้มๆมั้ย เด็กบอกว่านีไงพี่ กระจกหลังรถ ผมก็เออนี่ไง ใช้ผ้านี้นะ แล้วก็กลับไปกดโทรสับเล่นตามปกติ นั่งอยู่แป๊บเดว เรื่องเกิดเลยครับ เด็กล้างรถก็ไปบอกเจ้าของร้าน คงบอกตามปกติล่ะครับว่า ลูกค้าจะใช้ผ้าของเค้านะ นี่เลยยยครับ เจ้าของออกมา ผมยังไม่รู้เรื่องเลยนะ เพราะกดโทรสับอยู่ ได้ยังเสียงโวยวาย ประมานว่า ใช้ผ้าเช็ดรถเราไม่ได้ ทำไม...มันเป็นไร..... คือผมไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่เพราะไกลกันอยู่ แต่รู้ว่าด่าผมอยู่ แล้วก็ต่อด้วย เอาออกไปเลยไม่ต้องทำแล้ว สั่งให้เด็กเอารถผมออกนอกร้านไปเลย คือจะว่าไงดี ไล่กันป่ะ งง.. แล้วเจ้าของร้านก็เดินไปเปิดประตูรถผม เข้าไปแล้วปิดประตูไม่รู้แรงป่าว ไม่ได้ยิน แล้วก็ถอยออกไปทิ้งไว้ข้างนอกร้านครับ ผมก็ตกใจ เอ้ยย.....อะไรว่ะเนี่ย แล้วก็มีผู้หญิง น่าจะเป็นแฟนของคุณเจ้าของร้าน กับ พ่อของคุณเจ้าของร้านเดินดุ่ยๆๆมา ผมก็ลุก แล้วเดินไปถามผู้หญิงที่เป็นแฟนเจ้าของว่า มีอะไรหรอครับเกิดไรขึ้น แล้วพ่อเจ้าของร้านก็เดินเข้ามา ก็อึ้งๆกันอยู่ แล้วคุณเจ้าของร้านที่ขับรถผมออกไปนอกร้านเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามา ทางพ่อเค้าก็บอกว่าเรื่องผ้าเช็ดรถ แล้ว คุณเจ้าของร้านก็พูดเลยว่า อย่าดูถูกร้านของเค้านะ ผมก็บอกว่า ผมไปดูถูกอะไร ผมไม่ได้ดูถูกอะไรร้านคุณเลย แค่อยากจะใช้ผ้าของผมที่ได้มาเท่านั้นเอง แล้วเจ้าของร้านก็บอกว่า "คุณทำแบบนี้ก็คือดูถูกร้านผม แล้วเค้าก็สมมุตมติว่า เวลาผมไปกินก๊วยเตี๋ยวแล้วเอาเนื้อไปเองด้วยม่ะ มีใครเค้าเอาเนื้อไปเองป่ะ"   ด่าผมซ่ะงั้น ผมนี่ งง....เลย..คิดในใจ ล้างรถเคลือบสีรถราคา 900 บาท ผมก็ไม่ได้ต่อซักคำ ผ้าก็ของผมเอง รถก็รถของผม แล้วร้านเสียหายอะไรเนี่ย ผมงง..แล้ววว เกี๋ยวอะไรกับก๋วยเตี๋ยวเนื่ยยยยย..... เงิบหนักเลยทีนี้    โอเครรร...ผมคิดแป๊บนึง พอเข้าใจว่าผ้าเช็ดรถคือเนื่อ แล้วรถผมคือไรดีล่ะ ผมก็ตอบไปว่า "ก็...ไม่มีครับ" ตอบไปแบบ งงๆ กับสิ่งที่เค้าสมมุติ แล้วพ่อเค้าก็เสริมมาว่าร้านเราไม่ได้ธรรมดานะ เราใช้ผ้าอย่างดี น้ำยาเคลือบ 3M แล้วรถที่มาทำร้านเรามีแต่รถแพงๆรถมีระดับ จนรถราคา3หมื่นเราก็ล้าง คุณมาล้าง คุณต้องไว้ใจเรา  "แล้วผมก็คิดในใจว่า เปนผมนะ ผมก็ล้าง ก็งานบริการอ่ะ ได้เงินนี่ ก็เราเปิดร้านล้างรถนี่ ผมเข้าใจว่าคนเปนพ่อก็ต้องปกป้องลูกเปนปกติ อ๋อลืมบอก..ผมใช้เทียน่า J32 ครับ   อ่ะต่อ..ๆ  ผมก็ตอบว่า "ผมก็ไว้ใจไงครับถึงเอาเข้ามาล้างนี่ไง แล้วผก็ไม่ได้ดูถูกอะไรเลยด้วย ผมแค่..อยากใช้ผ้าที่ผมได้มาจากพี่ที่ผมสนิทเท่านั้นเองง"  ผมก็นึกในใจต่อว่า เฮ้ย....ปกติถ้าไม่ให้ใช้ หรือ ให้ใช้ เค้าจะเดินมาแจ้งผมป่ะ  ว่า..คุณลูกค้าครับ ใช้ได้ครับ แต่ถ้ารถเปนรอย ที่เกิดจากผ้าของคุณลูกค้าเอง ทางร้านจะไม่รับผิดชอบนะครับ อะไรแบบนี้ ให้บริการตามความพึงพอใจของลูกค้า ผมคิด..แล้วนี่มันอะไรว่ะ ตามความพึงพอใจของร้านหรอ ต้องผ้าร้านเท่านั้น คือลูกค้าเลือกไม่ได้ ก็แค่เดินมาบอกผมก็จบ แล้ว...ร้านนี้ไม่มีมาพูดก่อนเลยครับ ผมก็คิดในใจว่า แค่ผมอยากจะใช้ผ้าของผม แล้วผมสบายใจ มันผิดอะไร แล้วผมไปพูดดูถูกอะไรยังไงตอนไหน  กับแค่จะเอาผ้าสีส้มที่ผมได้มาจากพี่ของผม มาเช็ดรถของผมเอง แค่เนี่ย คือออ.. ลูกค้าไม่มีสิทธิที่จะเลือกว่างั้น    แล้วมาถึงตอนจบครับ เค้าก็พูดๆออกแนวว่า ผมไปดูถูกร้านของเค้าตลอดการสนทนากัน ผมบอกคุณเข้าใจผิดแล้ว คือแบบว่า ผมพยายามพูดให้อารมแต่ล่ะคนเย็นลง ผมคิด..เฮ้ย ผมลูกค้าประเนี่ย นี่ลูกค้าง้อนะเนี่ย แต่ร้านเค้าไม่ยอมผมว่างั้น โอเคร..ด้วยความที่ผมคุยด้วยเหตุผลไม่รู้เรื่อง พ่อเค้าก็ยังพูดประมานว่าผมดูถูกร้านเค้า ผมไม่ไว้ใจร้านเค้า ผมก็เอาว่ะ...คิดในใจ..กูผิดก็ได้ว่ะะ...เลยงัดท่าไม้ตายออกมาใช้เลยครับ สองมือประสาน ยกมือไหว้ขอโทษมันซ่ะเลย แล้วพูดว่า ผมขอโทษด้วยนะครับที่เอาผ้ามาให้ใช้ ขอโทษด้วยครับที่ทำให้เข้าใจผิด ไหว้ขอโทษสามคนเลยครับ มีพ่อเจ้าของร้าน แล้วก็ เจ้าของร้าน กับคุณผู้หญิง คุณเชื่อมั้ย...ไม่มีใครยกมือไหว้ผมกลับเลย แค่ก้มหน้าตอบรับ แล้วพ่อของเจ้าของร้านไม่คิดเงินครับ ผมก็เดินไปจ่ายตังค่าน้ำที่ผมหยิบมาทาน แล้วคุณผู้หญิงก็ ยื่นกุญแจรถให้ผม ผมก็เดินออกมาจากร้านมาขึ้นรถผม แล้วก็ขับกลับพัทยา มาถึงจอดรถ อื่มมม..เปนดวงๆเลย เพราะรถยังไม่เช็ดแห้ง ผมก็บรรจง เช็ดแล้วเคลือบwax พอเสด ผมก็ขับรถออกมาข้างนอก จะไปซื้อของกินผักอาหารเข้าบ้าน ออกมาได้พักนึง ฝนตก อ่ะ..นะ. วันนี้มันอะไรว่ะซวยเจงงงง จบแล้วครับ    ก็เป็นบทเรียนนะครับว่า..เราเอารถไปล้าง อย่าเอาแชมพูหรืออะไรที่เราใช้แล้วสบายใจเราไปให้เค้าใช้ และ เวลาเข้าไปใช้บริการ ก็อย่าลืมบอกกับทางร้านไว้ก่อนเลยครับว่า ผมไว้ใจร้านคุณนะ ถึงได้เข้ามาใช้บริการ จบครับ เฮ่ออออออออออออ

                  ใครอยากเจอแบบผม ก็ไปดูครับ จะผ้าหรือแชมพูหรืออะไรก็ได้ เดวคุณจะเงิบเอง  ไม่ของบอกชื่อร้านนะครับ แต่อยู่ข้างร้านเครื่องเสียงตามที่ผมพิมพ์ไว้ข้างบนเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ ถ้าเป็นคุณเจอแบบนี้จะว่ายังไงครับ ทั้งในแบบของร้าน และผู้รับบริการ ขอบคุณครับ