ผมเพิ่งเรียนจบเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว พอเข้าเดือน มิ.ย. ก็เริ่มทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง แต่ผ่านไปได้ 2-3 อาทิตย์ ผมก็รู้สึกอยากลาออก ไม่อยากทำที่นี่อีกแล้ว เพราะตัวงานไม่ถนัด เจ้านายญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยดีด้วย แค่เดือนแรกผมก็หนีไปสัมภาษณ์ที่ใหม่เลย แต่ก็ไม่ผ่าน เลยต้องก้มหน้าทำที่เดิมต่อไป เดือนที่ 2 ผมก็หนีไปสัมภาษณ์อีก แต่ก็ไม่ผ่านอีกตามเคย ด็ต้องทำต่อ ช่วงที่ทำที่นั่นผมเครียดมาก ทุกเช้าไม่อยากจะลุกไปทำงาน ถึงขั้นนั่งนับป้ายรถเมล์เลย ยิ่งใกล้ถึงที่ทำงานก็ยิ่งแย่ แถมทุกเช้า กลางวัน ผมต้องโทรหาแม่เพื่อพูดคุย ปรับทุกข์ตลอด เวลาพักก็จะออกไปอ่านหนังสือที่ร้านในห้างแถวที่ทำงาน คือเบื่อมากจริง ๆ
จนเข้าเดือน พ.ย. ผมห็หนีไปสัมภาษณ์อีกในตำแหน่งเดิม แต่เป็นของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ทีแรกก็นึกว่าจะไม่ผ่านอีก แต่สุดท้ายก็ผ่านจนได้ สุดท้ายผมก็ลาออกในเดือน ธธ.ค. แล้วเริ่มงานใหม่ที่โรงพยาบาลในเดือน ม.ค. ปีนี้เอง
ถามว่าผมชอบงานที่ทำอยู่ตอนนี้มั้ย ก็ชอบกว่าที่เดิม แต่ไม่ได้รักอะไร แต่มันสบายใจกว่า ในช่วงแรกเงินเดือนอาจน้อยกว่าที่เดิมมาก แต่อีกไม่นานผมกำลังจะสอบ ซึ่งถ้าผ่าน มันจะเยอะกว่าตอนทำที่เดิมซะอีก
เปลี่ยนงานแล้วมีความสุข สบายใจขึ้น
จนเข้าเดือน พ.ย. ผมห็หนีไปสัมภาษณ์อีกในตำแหน่งเดิม แต่เป็นของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ทีแรกก็นึกว่าจะไม่ผ่านอีก แต่สุดท้ายก็ผ่านจนได้ สุดท้ายผมก็ลาออกในเดือน ธธ.ค. แล้วเริ่มงานใหม่ที่โรงพยาบาลในเดือน ม.ค. ปีนี้เอง
ถามว่าผมชอบงานที่ทำอยู่ตอนนี้มั้ย ก็ชอบกว่าที่เดิม แต่ไม่ได้รักอะไร แต่มันสบายใจกว่า ในช่วงแรกเงินเดือนอาจน้อยกว่าที่เดิมมาก แต่อีกไม่นานผมกำลังจะสอบ ซึ่งถ้าผ่าน มันจะเยอะกว่าตอนทำที่เดิมซะอีก