ก่อนอื่นต้องบอกจุดมุ่งหมายก่อนว่า กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้ มิได้เขียนขึ้นเพื่อใส่ร้ายป้ายสีร้านสะดวกซื้อใดๆ
คุณเคยสังเกตและตั้งคำถามบ้างไหมว่า ร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็นเจ้าไหนที่คุณเดินเข้าไปซื้อของกันทุกวัน มันมีข้อเสียบางอย่างที่ไม่เคยเห็นหรือไม่ได้คิดว่าเป็นข้อเสียเลย วันนี้เราได้รวบรวมจุดอ่อนต่อไปนี้ของร้านสะดวกซื้อมาให้ได้ศึกษากันครับ
1. ลูกค้ากับเจ้าของร้านไม่ค่อยมีโอกาสสนิทสนมกัน เพราะเมื่อลูกค้าชำระเงินเสร็จแล้ว พนักงานร้านก็ต้องรอรับบริการจากลูกค้าคนถัดไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ทั้งลูกค้าและพนักงานร้าน หรือแม้กระทั่งเจ้าของร้านไม่มีโอกาสได้เม้ามอยสนุกๆ กันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ เท่าไรนัก (เกรงใจลูกค้าที่รอต่อคิวอยู่ หรือไม่ก็กลัวหัวหน้ามาเห็นแล้วจะโดนตำหนิ)
2. ต่อรองราคาสินค้าไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาที่มีเศษเงินไม่พอ เขาก็หยวนให้เราไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถขอติดหนี้เขาไว้ก่อนได้เช่นกัน เพราะราคาสินค้าทุกชิ้นภายในร้านมีระบบตั้งราคาขึ้นมาอย่างตายตัว และบังคับใช้ทุกสาขาแล้ว
3. เมื่อสินค้ามีปัญหา เราจะขอแลกเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้เลย ต่างจากร้านโชห่วยทั่วไปที่ซื้อของไปแล้วมีปัญหาก็สามารถเอามาเปลี่ยนหรือคืนได้
4. ไม่มีบริการส่งสินค้า ถ้าต้องการซื้อเยอะๆ ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับคนที่ไม่สะดวกเข้าไปซื้อของจำนวนมากในห้างใหญ่ๆ เพราะไม่อยากเสียค่าเดินทาง (ไม่มีรถส่วนตัว) จึงต้องพึ่งพาร้านสะดวกซื้อที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง แต่ร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่ไม่มีระบบ Delivery ทำให้คนที่ซื้อเยอะๆ ต้องแบกกลับบ้านค่อนข้างลำบาก (โดยเฉพาะคนที่มาซื้อเพียงคนเดียว)
5. ขายสินค้าเหมือนกันทุกสาขา ซึ่งอาจไม่ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ห่างไกลตัวเมือง สินค้าบางประเภทคนจะชอบไปใช้บริการตามร้านโชห่วย เพราะราคาถูกกว่า
หากคุณมีประสบการณ์อื่นๆ เกี่ยวกับกระทู้นี้ มาแชร์กันได้เลยนะครับ
รู้หรือไม่ ? จุดอ่อนที่ถูกซ่อนอยู่ในร้านสะดวกซื้อ
คุณเคยสังเกตและตั้งคำถามบ้างไหมว่า ร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็นเจ้าไหนที่คุณเดินเข้าไปซื้อของกันทุกวัน มันมีข้อเสียบางอย่างที่ไม่เคยเห็นหรือไม่ได้คิดว่าเป็นข้อเสียเลย วันนี้เราได้รวบรวมจุดอ่อนต่อไปนี้ของร้านสะดวกซื้อมาให้ได้ศึกษากันครับ
1. ลูกค้ากับเจ้าของร้านไม่ค่อยมีโอกาสสนิทสนมกัน เพราะเมื่อลูกค้าชำระเงินเสร็จแล้ว พนักงานร้านก็ต้องรอรับบริการจากลูกค้าคนถัดไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ทั้งลูกค้าและพนักงานร้าน หรือแม้กระทั่งเจ้าของร้านไม่มีโอกาสได้เม้ามอยสนุกๆ กันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ เท่าไรนัก (เกรงใจลูกค้าที่รอต่อคิวอยู่ หรือไม่ก็กลัวหัวหน้ามาเห็นแล้วจะโดนตำหนิ)
2. ต่อรองราคาสินค้าไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาที่มีเศษเงินไม่พอ เขาก็หยวนให้เราไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถขอติดหนี้เขาไว้ก่อนได้เช่นกัน เพราะราคาสินค้าทุกชิ้นภายในร้านมีระบบตั้งราคาขึ้นมาอย่างตายตัว และบังคับใช้ทุกสาขาแล้ว
3. เมื่อสินค้ามีปัญหา เราจะขอแลกเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้เลย ต่างจากร้านโชห่วยทั่วไปที่ซื้อของไปแล้วมีปัญหาก็สามารถเอามาเปลี่ยนหรือคืนได้
4. ไม่มีบริการส่งสินค้า ถ้าต้องการซื้อเยอะๆ ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับคนที่ไม่สะดวกเข้าไปซื้อของจำนวนมากในห้างใหญ่ๆ เพราะไม่อยากเสียค่าเดินทาง (ไม่มีรถส่วนตัว) จึงต้องพึ่งพาร้านสะดวกซื้อที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง แต่ร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่ไม่มีระบบ Delivery ทำให้คนที่ซื้อเยอะๆ ต้องแบกกลับบ้านค่อนข้างลำบาก (โดยเฉพาะคนที่มาซื้อเพียงคนเดียว)
5. ขายสินค้าเหมือนกันทุกสาขา ซึ่งอาจไม่ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่ห่างไกลตัวเมือง สินค้าบางประเภทคนจะชอบไปใช้บริการตามร้านโชห่วย เพราะราคาถูกกว่า
หากคุณมีประสบการณ์อื่นๆ เกี่ยวกับกระทู้นี้ มาแชร์กันได้เลยนะครับ