ข้อสอบ GAT คือข้อสอบที่ (สทศ บอกว่า) วัดความถนัดทั่วไป

ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
1. พาร์ทเชื่อมโยงความคิด ซึ่งเป็นข้อสอบอนุพันธ์จากข้อสอบเชื่อมโยงของการสอบความถนัดทางแพทย์
2. คือ ภาษาอังกฤษล้วนๆ

คนบางคนเรียกข้อ 1 ว่า GAT ไทย ซึ่งมันก็ไม่ได้จะเป็นวิชาภาษาไทยเลยสักนิด
และข้อสอง ก็ คือ GAT อังกฤษ หรือที่จริงเรียกว่า ข้อสอบภาษาอังกฤษไปเลยก็ได้ อันนี้มาเรียก เชื่อมโยง บ้าบอคอแตก

ทุกๆ คน  มีความเห็นอย่างไรครับที่ สทศ นำวิชา 2 อย่างซึ่งแตกต่างกันมากๆ นี้มารวมกัน แล้วเรียกเป็นวิชาเชื่อมโยง
บางคนที่อ่านอยู่อาจกำลังคิดว่าไอนี่พูดบ้าอะไร แต่เคยคิดไหมครับ ว่าเวลาเขาเอาคะแนนมารวมเป็น 300 คะแนน มันส่งผลยังไง

คำตอบก็คือ คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็ซวยสิครับ เพราะคะแนนมันแยกกันไม่ได้ แล้วคะแนนที่ออกมาเฉลี่ยประเทศ
ค่าทางสถิติต่างเช่น ค่าเฉลี่ย ฐานนิยม มัธยฐาน ของ GAT อังกฤษ ช่างต่ำเสียเหลือเกิน

เราลองไปดูฝั่ง GAT เชื่อมโยง (เขาเรียก GAT ไทย ก็ปล่อยเขาไป 55) กันบ้าง
แหม เป็นวิชาที่จะว่าแปลกก็กะไรอยู่ ลองดูกราฟและพิจารณาค่าสถิติของคะแนนในชุดวิชานี้สิครับ
ไปกองกันอยู่ตรงคะแนนสูงๆ 120-150 กัน ซึ่งมันผิดวิสัยของข้อสอบ คือ มันเป็นข้อสอบแบบแนวเดียว คือคนรู้ก็รู้ไม่รู้คือไม่รู้
อะ แล้วที่นี้บางคนที่กำลังอ่านอยู่ก็คงคิดในใจครับว่า "แล้วมันไม่ดีตรงไหน" หากคุณไปดูกราฟจริงๆ
คุณจะเห็นอีกว่า คะแนนกองตรง 120-150 ว่าเยอะแล้ว จะช็อคไหมครับถ้าผมพูดว่า ไปกองที่ 0-30 เยอะกว่า !!!
เป็นไงครับ ความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงข้อมูลและโอกาสในการได้รับการศึกษา แบบนี้เด็กบ้านนอกเขาจะมีโอกาสไหมครับ

ในขณะที่ GAT ภาษาอังกฤษ กราฟของคะแนนก็มีการแจกแจงค่อนข้างปกติในทางวิชาสถิติ ข้อมูลอาจจะมีเบ้ขวา (คนได้คะแนนมากมีน้อยกว่าคนได้คะแนนน้อย)
แต่อย่างไรก็ตาม กราฟที่แสดงให้เห็นถึงการกระจายของข้อมูลก็ยังดีกว่า GAT เชื่อมโยง (ภาษาไทย) ซึ่งในทางสถิติเราอธิบายการสอบ GAT ไทย ว่าเป็นข้อสอบที่วัดเด็กไม่ได้ดีพอ

ผมอยากเสนอว่า เราควรแยก 2 วิชานี้ออกจากกัน แล้วเพิ่มระดับฐานะของ GAT ภาษาอังกฤษออกเป็น PAT คือ ความถนัดทางภาษาอังกฤษ (แยกจาก PAT7 คือภาษาที่ 3)
อย่าเอามารวมกับ GAT เชื่อมโยงเลย เพราะแค่วิชา GAT เชื่อมโยงมันก็บ้าบอคอแตกพอแล้วครับ แล้วอีกอย่างนึง คณะไหนที่เอา GAT แต่ตัวคณะไม่ได้เคร่งภาษาอังกฤษ (ซะโดดเด่น เช่น พวกคณะภาษา หรือ วิทย์สุขภาพ) คนเก่งอังกฤษก็ฟาดเรียบสิครับ

บางคนอาจคิดว่า ที่ตั้งกระทู้เนี่ย ผมเป็นคนด้อยอังกฤษแล้วออกมาประท้วงพิทักษ์เพื่อคนด้อยอังกฤษหรือเปล่า เปล่าครับ ผมชอบภาษาอังกฤษมาก O-NET ภาษาอังกฤษผมก็ไม่ได้ท็อปประเทศหรอกครับ (ถึงข้อสอบมันจะง่ายก็เถอะ) แต่ก็ได้มา 90

ไม่ว่าคุณที่กำลังอ่านอยู่จะคิดตามผมทันหรือไม่ อยากให้คุณเปิดใจย้อนกลับไปอ่านและเชื่อมโยงและทบทวนดีๆ ว่าที่ผมพูดเป็นจริงหรือไม่
GAT ใช้ในหลายคณะ คะแนนที่ออกมาจึงมีผลมาก ในการเข้าแอดมิชชั่น ขาดไป 10 คะแนน บางคณะอาจหายไป 200 บางคณะ 300 บางคณะ 500 ไม่ใช่น้อยๆ
ซึ่ง 10 คะแนน มาจากทั้ง 2 วิชาคือ เชื่อมโยง และภาษาอังกฤษ สำหรับบางคณะ (สมมติเน้นอังกฤษนะครับ)  คะแนนอังกฤษที่น้อยก็ทดแทนด้วยคะแนนเชื่อมโยงที่มากได้อย่างแนบเนียน เพราะมีความสำคัญเท่ากัน  เพราะเป็นวิชา GAT เหมือนกัน (เอ้า แสดงว่าภาษาอังกฤษคณะนิรนามเมื่อกี้ที่บอกเน้น ก็ไม่มีความหมายเด้)  ดังนั้น กฎบ้าๆ แบบนี้หรือที่มาตัดสินชีวิตและอนาคตของเด็กคนนึง

สรุปแล้ว ทุกๆ คนคิดเห็นอย่างไรกันครับ กับวิชาสองวิชานี้ ผมจะบอกไว้ก่อนคือ การพัฒนาเกิดขึ้นได้ด้วยการเปลี่ยนแปลง ความก้าวหน้าเกิดขึ้นได้เพราะคำติเตียน

กรุณางดมาม่า ผมไม่มีกาน้ำร้อนให้นะค้าบ ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้หมด รู้มาไม่เท่ากัน ความคิดเห็นต่าง comment ต่างจุดประสงค์ที่ผมต้องการเสนอให้ก็ไม่ว่ากันครับ แค่อย่ามาแขวะอย่ามาสร้างบรรยากาศแย่ๆ ก็พอแล้วครับ

ปล.ถ้าคุณ สทศ มาอ่าน ช่วยนำไปพิจารณาหน่อยนะครับ สวัสดีครับ