สืบเนื่องจากการเดินทางคนเดียวช่วง 3 วัน ก็ผ่านมาถึงวันสุดท้ายแล้วนะครับ ติดตามวันแรกๆได้จาก
Alone In German : Day1 Bruhl -Cologne-Bonn-Konigswinter  http://ppantip.com/topic/35181455
Alone In Germany: Day2 Konigswinter-Koblenz-Heidelberg http://ppantip.com/topic/35182426

การเดินทางก็หลวมขึ้นเรื่อยตามร่างกายที่ค่อยๆ โรยรา  สำหรับวันสุดท้ายผมเลือกที่จะใช้เวลาทั้งวันที่ Heidelberg

ผมตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าโรงแรมแบบสบายๆ หลังจากนั้นออกเดินเที่ยวเก็บรูปยามเช้า สิ่งที่มหัศจรรย์ ก็คือ พื้นหินที่เมื่อวานมีผู้คนเนืองแน่น กลับสะอาด และโล่ง ผมเดินมายังสะดาน Alte Brucke เก็บรูปแสงอาทิตย์ยามเช้า ยืนรับลมรับแดด สำหรับวันท่องเที่ยวแบบหลวมๆ วันนี้ก่อนจะกลับไปยังสนามบิน






Heidelberg Castle  แม้เมืองนี้จะรอดพ้นจากสงคราม แต่ก็ไม่รอดพ้นจากไฟ   ปราสาทนี้ถูกสร้างใหม่ในปี1214 และขยายโอบล้อมมากขึ้นในปีต่อๆมา  แต่ทว่าในปี1537ได้ถูกฟ้าผ่าทำให้เสียหายในส่วนบน หลังจากนั้นยังเกิดไฟไหม้และสงครามภายหลังปี1650
หลังจากนั้นปราสาทได้ถูกสร้างใหม่ในช่วง ศตวรรษที่17-18 แต่ยังโดนฟ้าผ่าอีกครั้งในปี1764
ผมเลือกที่จะนั่งรถรางขึ้นไปชมจุดชมวิวบนยอดเขาเสียก่อน เพื่อเก็บภาพยามเช้า เมื่อถึงครึ่งทางก็เปลี่ยนรถรางเป็นรถรางเก่าแก่ 100 ปีเพื่อขึ้นยังจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำ Neckar แลเมือง Heidelberg ทั้งเมือง




หลังจากนั้นผมลงมาเพื่อเข้าชมปราสาท  เมื่อเข้าในเขตปราสาท จะพบอาหารอิฐสีแดง แบบโกธิคเรเนสซองค์ รายรอบ โดย Heidelberg Castle นั้นเป็นปราสาทที่สร้างจากหินทรายสีแดงที่สวยที่สุดในเยอรมันนี และสร้างไสตล์ Gothic  หลักจากนั้นได้สร้างขยายมากขึ้นต่อมา โดยกลายเป็นศิลปะแบบ Renaissance  




อาคารกระจก (Der Glaeserne Saalbau) เป็นอาคารแบบ เรอเนสซองค์ ตกแต่งด้วยกระจก
อาการ Ottheinrichesbau  เป็นพระที่นั่งถูกสร้างแบบเรอเนสซองค์ที่ยังดูสมบูรณ์อยู่  เป็นที่อยู่ของพิพิธภัณฑ์ยา (Deutsches Apothekanmuseum) ซึ่งเล่าถึงยาสมุนไพรต่างๆ รวมถึงบรรทุกยาเก่าๆ ตู้ยาสมัยเก่าที่มีสมุนไพรเก็บอยู่ตามลิ้นชังต่างๆ ตาช่างที่ใช้ชั่งยา


ถัดมาเป็นส่วนของ ถังบ่มไวน์ ซึ่งที่นี่มีถังบ่มไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  แค่ผมเดินลงมาเห็นถังแรก ผมก็รีบถ่ายรูปแต่ทว่าหากใช่ถังที่ใหญ่ที่สุดไม่  ข้างๆกันเดินลงไปยังมีถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของที่สุดอยู่



นอกเสียจากตัวปราสาทแล้วยังมีส่วนของสวนปราสาทที่มีพื้นที่กว้างมาก และมีหลายชั้นด้วยกัน ทว่าณเวลานี้มีเพียงสนามหญ้าผืนใหญ่และต้นไม้ใหญ่ เมื่อดูรูปเก่า ๆ เดิมเคยเป็นสวนที่ใหญ่และสวยงามมาก ลองจินตนาการตามรูปสมัยโบราณยังรู้สึกน่าทึ่งที่เค้าสามารถสร้างสวนขนาดใหญ่บนปราสาทบนเขาได้ขนาดนี้ ตลอดข้างทางริมรั้ว ยังสามารถมองเห็นตัวปราสาท เห็นเมือง  Heidelberg ทั้งเมือง ได้จน การ์ดในกล้องผมแทบเต็ม





ผมใช้เวลาเที่ยวบนปราสาทรวมสจุดชมวิวไปเกือบ 4 ชม.เลยทีเดียว พอเลยเที่ยง ท้องก็ร้อง เดินกลับไป ร้าน Pommes เนื่องจากติดใจเฟรนช์ฟราย และ เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของผมที่เยอรมัน เลยจัดของโปรดของผม นั่นคือ Currywurst with fries มันคือ ไส้กรอกเยอรมันบนซอส ผงกระหรี่ที่ผมคิดถึงเสมอที่มาเยอรมัน  เท่าที่ดูวิธีทำไม่น่ายากคงได้ลองทำสักวันแน่ๆ

และทั้งหมดก็เป็นการท่องเที่ยวเยอรมันตะวันตกของผมแม้เป็นช่วงเวลาแค่ 3 วัน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามีความสุขอัดแน่น แม้เป็นการเที่ยวเองคนเดียวครั้งแรกของผม แต่ผมตั้งใจว่าจะกลับมาอีกแน่ๆ