เป็นอีกครั้งที่เราอยากเก็บความทรงจำไว้ในนี้ เรารู้แกคงไม่เข้ามาอ่านหรอก ซึ่งมันดีแล้ว : )
จำได้ใช่มั้ยเมื่อปีที่แล้ว เราบอกชอบแก ถึงสุดท้ายลึกๆจะรู้ว่าถูกปฏิเสธอยู่ดี แต่เมื่อไม่มีหวังคงไม่กล้าสารภาพ แกมอบความหวังนั้นให้เราเองนะ ฮ่าๆๆ
(ไม่โทษตัวเองเล๊ยยยย)
เป็นไปตามที่ควร ถูกปฏิเสธจนได้
ก็นะ เราขอร้องแกด้วยประโยคสุดคลาสสิก "เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้มั้ย" ทุกอย่างดูกลับมาปกติ เพื่อนไม่มีใครรู้ แต่...
หลังจากวันนั้นเรามองหน้ากันไม่ติดหลายสัปดาห์ เรารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะทำใจ สนิทกันแค่ปีกว่าๆก็น้อยพอจะทำลายความเชื่อใจ เราฟุ้งซ่าน รู้สึกหมดหวังสำหรับทุกอย่างในชีวิต ทำใจไม่ได้สำหรับการทำลายความเป็นเพื่อนเพราะความคิดไปเองของเราคนเดียว ช่วงนั้นเองเราก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงเข้ามา เราไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของพี่เค้าและตกลงคบกันก่อนจะเปิดเทอมปี 3 เทอม 2
ตอนนี้ทุกคนรับรู้ว่าเรามีแฟน แกก็เช่นกัน
ความสัมพันมันดีขึ้นเรื่อยๆนะว่ามั้ย เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิม แกดูสนิทใจขึ้น เราปรึกษากันและกัน เล่าความลับที่ไม่กล้าบอกคนอื่น แต่กล้าบอกกันและกัน มันดูตลกดี เราดีใจมากที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างที่มันควรเป็น เราเหมาะสมกับคำว่าเพื่อนมากกว่าสถานะอื่น
ถึงอยากจะจับมือ คล้องแขน กอดกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน ที่สำคัญเลย แกชอบให้นวด การกระทำพวกนี้เองที่ทำให้คิดไปไกล ตอนนี้เรารู้ตัวและพยายามไม่ทำสิ่งเหล่านั้นอีก แอบรู้สึกว่าแกก็เลี่ยงมันเช่นกัน ดีต่อเราทั้งคู่แล้วล่ะเนอะ ^^
ยอมรับว่าหลังจากมีแฟนก็เลือกคิดเรื่องแกได้ แค่ใช้เวลานานหลายเดือนหน่อย ความสัมพันของเรากับแฟนก็ดีเป็นปกติ เพียงแต่นางชอบน้อยใจไปหน่อย นางบอกว่าเราไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกนาง ถามว่าเราเคยรักใครรึป่าว?
มันเป็นคำถามที่เราต้องกลับมาคิดหนัก ปากเราบอกว่ารักแฟน แล้วใจเราต้องการอะไรกันแน่
บางทีก็อยากบอกพี่เค้าว่า เราไม่กล้ารักใครมากจนทุ่มเททุกอย่างให้อีกแล้วล่ะ เรากลัวความผิดหวัง แต่คิดเสมอนะ ขอบคุณที่พี่เข้ามาในชีวิตเรา เหมือนดึงคนเพ้อฝันให้มาเจอความจริงที่มีคนรักเรารออยู่ เค้าจะรักแฟนเป็นการตอบแทนนะคะ
ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นปี 4 นี่เอง เรามีเวลาว่างสำหรับเที่ยว 7 วัน เราตัดสินใจเลือกเพื่อน แทนที่จะไปเที่ยวกับแฟน เราทำให้แฟนผิดหวังนิดหน่อยแต่นางก็เข้าใจ อยากให้เราอยู่กับเพื่อนก่อนแยกย้ายกันไปเรียนช่วงปีสี่นี้ วางแผนไปทะเลกันดิบดี ปรากฏว่าอาทิตย์นึงก็เที่ยว แกกับเราดันมีงานต้องไป วันว่างเลยเหลือแค่ 4 วัน ทำได้แค่แต่มองดูเพื่อนไปเที่ยว T T
เราตัดสินใจชวนคนที่เหลือเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ แกก็โอเคกับเชียงคาน พอลองชวนดู เพื่อนดันไม่ไปซะงั้น ฮ่าๆๆๆ เหลือเราสองคนละไง ทริปไม่ล่มหรอกจริงมั้ย
และเราก็ไปกันแค่สองคนจริงๆ ขับรถไปกันเอง 300 กว่าโล
แกนี่น๊าา ไม่เตรียมของใช้เท่าไหร่เลย แม้แต่แปรงสีฟันกับโรลออน เอาไปแต่อุปกรณ์แต่งหน้า เฮ้อออ ได้แวะซื้อคือเก่า555
ทริปนี้มาแบบ acuteสุดๆ ตัดสินใจได้ จองที่พัก เสาร์สอบเสร็จอาทิตย์ก็ไปเลย
ห้องพักเราติดแม่น้ำโขงเลย วิวสวยสงบแบบที่ชีวิตอย่างเราๆหาได้ยากแน่ๆ พักผ่อนนิดหน่อยก็ออกไปปั่นจักรยานเล่นกันริมน้ำโขง เราปั่นได้แย่มากเลย แกต้องคอยดูว่าอีนี่มันจะล้มไปอีกเมื่อไหร่ (ก็ชั้นขับเป็นแต่รถยนต์นี่ยะ แหม่)
ปั่นกันจนฟ้ามืดก็พอ เราเก็บจักรยานไว้ซอยข้างบ้านแล้วเดินเล่นต่อ
ถนนคนเดินของที่นี่เจ๋งไปเลย กุ้งแม่น้ำน้อยเสียบไม้อร่อยจนติดใจ อยากซื้อกลับขอนแก่นไปให้รู้แล้วรู้รอด ฮ่าๆๆๆ มาที่นี่เรามีเป้าหมายนะเว่ย บอกแกตั้งแต่ก่อนมาละ
'โปสการ์ดไม้'
เดินหาอยู่นาน เจอจนได้!! พี่แกเล่นเปิดร้านอยู่ซอยซะไกล มาถึงก็เหงื่อแตกกันเลย
พี่คนขายตัวอ้วนอวบหน่อย เรียกพี่อ้วนละกัน อิ^^
เราตกลงกันว่าจะส่งให้เดอะแก๊งเป็นของฝาก แกเลือก 5 ใบ เราเลือกอีก 5 ใบ คนละสไตล์กันเลย
เราชอบแบบที่เป็นรูปสถานที่มากกว่า ส่วนแกน่ะจะแอ๊บสแตรกไปไหน รูปวาดตุ้กแกกลมๆงี้ ความหมายคืออะไรห้ะ 5555
แกเลือกโปสการ์ดส่งให้ที่บ้านด้วย เราก็เหมือนกัน ส่งให้แฟนและตัวเองอีกใบ
ถึงเวลาจ่ายตัง คุณพระะะ หมดตูดกันเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ค่าโปสการ์ด (แต่แสตมป์ก็เสียมากกว่าการส่งโปสการ์ดกระดาษ เพราะมันเป็นไม้) เกือบได้จ่ายใบละ 45 ละ ดีหน่อยที่พี่อ้วนลดให้ แต่แกก็จริงๆเล้ย "กวนตีน" พี่เค้ามาก จนพี่อ้วนหลุดปากมา "มุงจะเอาไรกะkuนักหนา" ฟังละก็ขำ ตอนนี้ก็ยังขำ จำเหตุการณ์ได้แม่น ฮ่าๆๆๆๆๆ
กวนกันพอหอมปากหอมคอ เราก็เดินเล่นต่อ
ไม่รู้จะบรรยายความสวยสงบของที่นี่ได้ยังไง ร้านค้าจายของแฮนด์เมด หน้าตามันก็ดูเหมือนๆกันแหล่ะ ซื้อร้านไหนคงไม่ต่าง แต่ที่นี่สวยจริง เราเคยไปถนนคนเดินหลายที่ แต่ประทับใจเชียงคานสุด(ยังไม่เคยไปปายนะ555) อาจเพราะมากับแกก็ได้ อันนี้ไม่ทราบ เวลานั้นเรามีความสุขสุดๆอ่ะ ไม่คิดว่าจะได้มากันแค่สองคน
...ความคิดมันเกิดขึ้นอีกแล้ว เราเหมือนแฟนกันเลย...
ทั้งวัน เราไม่ได้ไลน์ ไม่โทรหาแฟน เหมือนลืมทุกอย่าง หลุดเข้ามาในโลกความฝันอย่างเต็มตัวและเต็มใจ แอบกลัวความรู้สึกตัวเองอีกครั้ง หลังจากมันหายไปนานมากๆเกือบปี
คืนนั้นเราซื้อน้ำหวานมากินกัน(ก็นั่นแหล่ะ) ไม่เมาหรอก แต่มันก็ทำให้เราหนักหัวหน่อยนึง ถึงเวลานอนแล้วนะ เราบังคับตัวเองไม่ให้ทำอย่างที่ต้องการ พยายามนอนให้ห่างแก ก็นะ มันเตียงเดี่ยว วิวสวย บรรยากาศดี ล่อใจจัง -..-
ไม่ค่อยง่วง แต่ข่มตาไว้ ใจมันก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ หายใจยากเลยล่ะตอนนั้น แกเองก็นอนพลิกไปอีกทางแล้ว ในเมื่อนอนไม่หลับเราเลยพลิกไปมองหลังแกอยู่อย่างนั้นแหล่ะ จนหลับเองเมื่อไหร่ไม้รู้
ถือเป็นคืนดีๆที่ในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้วมั้ง
โชคดีจัง
เราคิดว่าลืมความรู้สึกไปได้ แต่ผิดแล้วล่ะ มันแค่ถูกเก็บไว้รอเวลากลับมาเฉยๆ มั้ง
อย่ากลับมาเลย ไม่อยากทำร้ายใครแล้ว
สำหรับเรา มันอาจใช่ หรือ ไม่ใช่ความรักก็ได้ แค่อยากดูแลแกแค่นั้นเอง เพื่อนเคยบอกว่านิสัยเราต่างกันจนไม่คิดว่าจะสนิทกันได้ มันเคยคิดว่าเรากิ๊กกันด้วยซ้ำ อยากบอกจริงๆว่ามีแต่ชั้นนี่แหล่ะที่ชอบแกฝ่ายเดียว ฮ่าๆๆๆ
อาจไม่ได้เรียกว่าแอบรัก เพราะเราบอกแกไปแล้วทุกอย่าง แล้วแต่จะคิดนะ เราพูดจริงรู้สึกจริง ตอนนี้ก็ไม่ปฏิเสธว่ายังรู้สึกอยู่ ถ้าเราสองคนพร้อม ซักวันนึงอาจเป็นไปได้ก็ได้นะ5555 ช่างเหอะ
อีกอย่าง ***แกกล้ามาเที่ยวกับชั้นสองต่อสองได้ไง ไม่กลัวชั้นทำอะไรเกินเลยหราาา***หมั่นไส้
ที่พิมพ์ไว้แค่อยากกลับมาอ่านบ้าง เป็นคนชอบทำบันทึกหายบ่อยๆ แด่ความทรงจำดีๆ : )
//แกกับเรา
ถ้าพันทิปมีแท็ก เพื่อนรักเพื่อน ก็ดีสิ แต่ใช้ แอบรักแทน ก็ได้555
เก็บมันไว้เป็นแค่ความทรงจำก็พอ
จำได้ใช่มั้ยเมื่อปีที่แล้ว เราบอกชอบแก ถึงสุดท้ายลึกๆจะรู้ว่าถูกปฏิเสธอยู่ดี แต่เมื่อไม่มีหวังคงไม่กล้าสารภาพ แกมอบความหวังนั้นให้เราเองนะ ฮ่าๆๆ
(ไม่โทษตัวเองเล๊ยยยย)
เป็นไปตามที่ควร ถูกปฏิเสธจนได้
ก็นะ เราขอร้องแกด้วยประโยคสุดคลาสสิก "เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้มั้ย" ทุกอย่างดูกลับมาปกติ เพื่อนไม่มีใครรู้ แต่...
หลังจากวันนั้นเรามองหน้ากันไม่ติดหลายสัปดาห์ เรารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะทำใจ สนิทกันแค่ปีกว่าๆก็น้อยพอจะทำลายความเชื่อใจ เราฟุ้งซ่าน รู้สึกหมดหวังสำหรับทุกอย่างในชีวิต ทำใจไม่ได้สำหรับการทำลายความเป็นเพื่อนเพราะความคิดไปเองของเราคนเดียว ช่วงนั้นเองเราก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงเข้ามา เราไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของพี่เค้าและตกลงคบกันก่อนจะเปิดเทอมปี 3 เทอม 2
ตอนนี้ทุกคนรับรู้ว่าเรามีแฟน แกก็เช่นกัน
ความสัมพันมันดีขึ้นเรื่อยๆนะว่ามั้ย เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิม แกดูสนิทใจขึ้น เราปรึกษากันและกัน เล่าความลับที่ไม่กล้าบอกคนอื่น แต่กล้าบอกกันและกัน มันดูตลกดี เราดีใจมากที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างที่มันควรเป็น เราเหมาะสมกับคำว่าเพื่อนมากกว่าสถานะอื่น
ถึงอยากจะจับมือ คล้องแขน กอดกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน ที่สำคัญเลย แกชอบให้นวด การกระทำพวกนี้เองที่ทำให้คิดไปไกล ตอนนี้เรารู้ตัวและพยายามไม่ทำสิ่งเหล่านั้นอีก แอบรู้สึกว่าแกก็เลี่ยงมันเช่นกัน ดีต่อเราทั้งคู่แล้วล่ะเนอะ ^^
ยอมรับว่าหลังจากมีแฟนก็เลือกคิดเรื่องแกได้ แค่ใช้เวลานานหลายเดือนหน่อย ความสัมพันของเรากับแฟนก็ดีเป็นปกติ เพียงแต่นางชอบน้อยใจไปหน่อย นางบอกว่าเราไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกนาง ถามว่าเราเคยรักใครรึป่าว?
มันเป็นคำถามที่เราต้องกลับมาคิดหนัก ปากเราบอกว่ารักแฟน แล้วใจเราต้องการอะไรกันแน่
บางทีก็อยากบอกพี่เค้าว่า เราไม่กล้ารักใครมากจนทุ่มเททุกอย่างให้อีกแล้วล่ะ เรากลัวความผิดหวัง แต่คิดเสมอนะ ขอบคุณที่พี่เข้ามาในชีวิตเรา เหมือนดึงคนเพ้อฝันให้มาเจอความจริงที่มีคนรักเรารออยู่ เค้าจะรักแฟนเป็นการตอบแทนนะคะ
ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นปี 4 นี่เอง เรามีเวลาว่างสำหรับเที่ยว 7 วัน เราตัดสินใจเลือกเพื่อน แทนที่จะไปเที่ยวกับแฟน เราทำให้แฟนผิดหวังนิดหน่อยแต่นางก็เข้าใจ อยากให้เราอยู่กับเพื่อนก่อนแยกย้ายกันไปเรียนช่วงปีสี่นี้ วางแผนไปทะเลกันดิบดี ปรากฏว่าอาทิตย์นึงก็เที่ยว แกกับเราดันมีงานต้องไป วันว่างเลยเหลือแค่ 4 วัน ทำได้แค่แต่มองดูเพื่อนไปเที่ยว T T
เราตัดสินใจชวนคนที่เหลือเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ แกก็โอเคกับเชียงคาน พอลองชวนดู เพื่อนดันไม่ไปซะงั้น ฮ่าๆๆๆ เหลือเราสองคนละไง ทริปไม่ล่มหรอกจริงมั้ย
และเราก็ไปกันแค่สองคนจริงๆ ขับรถไปกันเอง 300 กว่าโล
แกนี่น๊าา ไม่เตรียมของใช้เท่าไหร่เลย แม้แต่แปรงสีฟันกับโรลออน เอาไปแต่อุปกรณ์แต่งหน้า เฮ้อออ ได้แวะซื้อคือเก่า555
ทริปนี้มาแบบ acuteสุดๆ ตัดสินใจได้ จองที่พัก เสาร์สอบเสร็จอาทิตย์ก็ไปเลย
ห้องพักเราติดแม่น้ำโขงเลย วิวสวยสงบแบบที่ชีวิตอย่างเราๆหาได้ยากแน่ๆ พักผ่อนนิดหน่อยก็ออกไปปั่นจักรยานเล่นกันริมน้ำโขง เราปั่นได้แย่มากเลย แกต้องคอยดูว่าอีนี่มันจะล้มไปอีกเมื่อไหร่ (ก็ชั้นขับเป็นแต่รถยนต์นี่ยะ แหม่)
ปั่นกันจนฟ้ามืดก็พอ เราเก็บจักรยานไว้ซอยข้างบ้านแล้วเดินเล่นต่อ
ถนนคนเดินของที่นี่เจ๋งไปเลย กุ้งแม่น้ำน้อยเสียบไม้อร่อยจนติดใจ อยากซื้อกลับขอนแก่นไปให้รู้แล้วรู้รอด ฮ่าๆๆๆ มาที่นี่เรามีเป้าหมายนะเว่ย บอกแกตั้งแต่ก่อนมาละ
'โปสการ์ดไม้'
เดินหาอยู่นาน เจอจนได้!! พี่แกเล่นเปิดร้านอยู่ซอยซะไกล มาถึงก็เหงื่อแตกกันเลย
พี่คนขายตัวอ้วนอวบหน่อย เรียกพี่อ้วนละกัน อิ^^
เราตกลงกันว่าจะส่งให้เดอะแก๊งเป็นของฝาก แกเลือก 5 ใบ เราเลือกอีก 5 ใบ คนละสไตล์กันเลย
เราชอบแบบที่เป็นรูปสถานที่มากกว่า ส่วนแกน่ะจะแอ๊บสแตรกไปไหน รูปวาดตุ้กแกกลมๆงี้ ความหมายคืออะไรห้ะ 5555
แกเลือกโปสการ์ดส่งให้ที่บ้านด้วย เราก็เหมือนกัน ส่งให้แฟนและตัวเองอีกใบ
ถึงเวลาจ่ายตัง คุณพระะะ หมดตูดกันเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ค่าโปสการ์ด (แต่แสตมป์ก็เสียมากกว่าการส่งโปสการ์ดกระดาษ เพราะมันเป็นไม้) เกือบได้จ่ายใบละ 45 ละ ดีหน่อยที่พี่อ้วนลดให้ แต่แกก็จริงๆเล้ย "กวนตีน" พี่เค้ามาก จนพี่อ้วนหลุดปากมา "มุงจะเอาไรกะkuนักหนา" ฟังละก็ขำ ตอนนี้ก็ยังขำ จำเหตุการณ์ได้แม่น ฮ่าๆๆๆๆๆ
กวนกันพอหอมปากหอมคอ เราก็เดินเล่นต่อ
ไม่รู้จะบรรยายความสวยสงบของที่นี่ได้ยังไง ร้านค้าจายของแฮนด์เมด หน้าตามันก็ดูเหมือนๆกันแหล่ะ ซื้อร้านไหนคงไม่ต่าง แต่ที่นี่สวยจริง เราเคยไปถนนคนเดินหลายที่ แต่ประทับใจเชียงคานสุด(ยังไม่เคยไปปายนะ555) อาจเพราะมากับแกก็ได้ อันนี้ไม่ทราบ เวลานั้นเรามีความสุขสุดๆอ่ะ ไม่คิดว่าจะได้มากันแค่สองคน
...ความคิดมันเกิดขึ้นอีกแล้ว เราเหมือนแฟนกันเลย...
ทั้งวัน เราไม่ได้ไลน์ ไม่โทรหาแฟน เหมือนลืมทุกอย่าง หลุดเข้ามาในโลกความฝันอย่างเต็มตัวและเต็มใจ แอบกลัวความรู้สึกตัวเองอีกครั้ง หลังจากมันหายไปนานมากๆเกือบปี
คืนนั้นเราซื้อน้ำหวานมากินกัน(ก็นั่นแหล่ะ) ไม่เมาหรอก แต่มันก็ทำให้เราหนักหัวหน่อยนึง ถึงเวลานอนแล้วนะ เราบังคับตัวเองไม่ให้ทำอย่างที่ต้องการ พยายามนอนให้ห่างแก ก็นะ มันเตียงเดี่ยว วิวสวย บรรยากาศดี ล่อใจจัง -..-
ไม่ค่อยง่วง แต่ข่มตาไว้ ใจมันก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ หายใจยากเลยล่ะตอนนั้น แกเองก็นอนพลิกไปอีกทางแล้ว ในเมื่อนอนไม่หลับเราเลยพลิกไปมองหลังแกอยู่อย่างนั้นแหล่ะ จนหลับเองเมื่อไหร่ไม้รู้
ถือเป็นคืนดีๆที่ในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้วมั้ง
โชคดีจัง
เราคิดว่าลืมความรู้สึกไปได้ แต่ผิดแล้วล่ะ มันแค่ถูกเก็บไว้รอเวลากลับมาเฉยๆ มั้ง
อย่ากลับมาเลย ไม่อยากทำร้ายใครแล้ว
สำหรับเรา มันอาจใช่ หรือ ไม่ใช่ความรักก็ได้ แค่อยากดูแลแกแค่นั้นเอง เพื่อนเคยบอกว่านิสัยเราต่างกันจนไม่คิดว่าจะสนิทกันได้ มันเคยคิดว่าเรากิ๊กกันด้วยซ้ำ อยากบอกจริงๆว่ามีแต่ชั้นนี่แหล่ะที่ชอบแกฝ่ายเดียว ฮ่าๆๆๆ
อาจไม่ได้เรียกว่าแอบรัก เพราะเราบอกแกไปแล้วทุกอย่าง แล้วแต่จะคิดนะ เราพูดจริงรู้สึกจริง ตอนนี้ก็ไม่ปฏิเสธว่ายังรู้สึกอยู่ ถ้าเราสองคนพร้อม ซักวันนึงอาจเป็นไปได้ก็ได้นะ5555 ช่างเหอะ
อีกอย่าง ***แกกล้ามาเที่ยวกับชั้นสองต่อสองได้ไง ไม่กลัวชั้นทำอะไรเกินเลยหราาา***หมั่นไส้
ที่พิมพ์ไว้แค่อยากกลับมาอ่านบ้าง เป็นคนชอบทำบันทึกหายบ่อยๆ แด่ความทรงจำดีๆ : )
//แกกับเรา
ถ้าพันทิปมีแท็ก เพื่อนรักเพื่อน ก็ดีสิ แต่ใช้ แอบรักแทน ก็ได้555