คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่มีทางคืนทุนแน่นอนครับสภาพนี้ตัดหัวต่อได้ง่ายๆเลยครับ
คุยยังไงก็ยากครับ มันจะยื้อคุณเรื่อยๆๆ จนคุณยอมซ่อมครับ ผมเคยโดนประกัน ยื้อเพราะจะขอคืนทุนประกันมันก็บอกรอเข้าที่ประชุม จนท้ายสุดซ่อมไปและทนใช้ไปจนขาย ขายราคาตกติดดินเลยเพราะชนหนักตัดต่อตัวถังมา และมันจะเอาหัวคนละสีมาต่อครับ อะไหล่จะเทียมในบางชิ้นที่ไม่มีในหัวต่อ และคุมราคา แล้วท้ายสุดสาดสีทั้งคันแล้วส่งต่อไห้คุณ เอามาขับก็ต้องลองว่าศูนย์เสียไหม แต่สภาพนี้ หลายเดือนแน่นอนครับ และมันซ่อมแบบเอาหัวเชียงกงมาต่อ บวกกับทำสี มันก็ไม่แพงมันเพราะมันยกมาทั้งหัว ถ้าหัวมาแสดงว่าท้ายและทั้งคันเก่าครับ เคสนี้ต้องฟ้อง คปอ ตรงข้ามศาลอาญา และ เรียกร้องค่าเสียโอกาสการใช้รถ แต่เอาจริงๆ มันจะไม่คืนทุนเราเสียเปรียบเพราะอู่ที่มันคุมราคาได้บอกว่าค่าซ่อมไม่ถึงทุนประกัน และเสียหายน้อยกว่า 70% ครับ เคสนี้เราจะเสีย ราคาตอนขายต่อ เสียโอกาสใช้รถหลายเดือน เดินทางไม่สะดวก ของผมซ่อมไป 8 เดือนตัดท้าย กว่าจะหาท้ายตัดได้แถมหามาก็คนละสีอีกปวดตับ ส่วนเกียร์ มันยกมาได้ครับของมือสอง พวกนี้มันเคี่ยว แทนที่เราจะได้เงิน 340,000 บาทง่ายๆมันจะดันซ่อมเพื่อไห้มันเสียน้อยที่สุด งานจะหยาบเพราะคุมราคาและหัวตัดจะไม่ใช่สีเดียวกันเวลามาต่อ ดึงตะเข็บดูจะรู้เลยในช่องที่มันอาร์คมาจะคนละสี เคสนี้อู่แรกช่วยไม่ได้แน่นอนคนับเพราะรูปมันไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ประมาณอู่นี้คุมราราไม่ได้อู่ในเครือที่ทำได้มีอีกเยอะ รถคันี้ถ้าซ่อมมา ทุนประกันมักจะพอๆกับราคากลาง สมุติขายกัน 350,000 บาท ตัดหัวต่อก็จะขายได้ราวๆ 270,000 -300,000 บาทเท่านั้น ถ้าทำไม่ดีโอนไม่ได้อีกขนส่งใหญ่ เพราะดัดแปลงสภาพรถต้องแจ้งแปลงสภาพลงเล่มอีก ว่ามีการตัอต่อตัวถังมา และไห้วิศวะกรเซนต์รับรองการดัดแปลง งานนี้ยาวครับ ไปเต้นท์มันรับแต่กดต่ำสุดๆจนเราไม่อยากขายเลยครับ อย่าลืมเรียกค่าเสียโอกาสการใช้รถนะครับ สำคัญ ได้มานิดหน่อยก็ยังดี
คุยยังไงก็ยากครับ มันจะยื้อคุณเรื่อยๆๆ จนคุณยอมซ่อมครับ ผมเคยโดนประกัน ยื้อเพราะจะขอคืนทุนประกันมันก็บอกรอเข้าที่ประชุม จนท้ายสุดซ่อมไปและทนใช้ไปจนขาย ขายราคาตกติดดินเลยเพราะชนหนักตัดต่อตัวถังมา และมันจะเอาหัวคนละสีมาต่อครับ อะไหล่จะเทียมในบางชิ้นที่ไม่มีในหัวต่อ และคุมราคา แล้วท้ายสุดสาดสีทั้งคันแล้วส่งต่อไห้คุณ เอามาขับก็ต้องลองว่าศูนย์เสียไหม แต่สภาพนี้ หลายเดือนแน่นอนครับ และมันซ่อมแบบเอาหัวเชียงกงมาต่อ บวกกับทำสี มันก็ไม่แพงมันเพราะมันยกมาทั้งหัว ถ้าหัวมาแสดงว่าท้ายและทั้งคันเก่าครับ เคสนี้ต้องฟ้อง คปอ ตรงข้ามศาลอาญา และ เรียกร้องค่าเสียโอกาสการใช้รถ แต่เอาจริงๆ มันจะไม่คืนทุนเราเสียเปรียบเพราะอู่ที่มันคุมราคาได้บอกว่าค่าซ่อมไม่ถึงทุนประกัน และเสียหายน้อยกว่า 70% ครับ เคสนี้เราจะเสีย ราคาตอนขายต่อ เสียโอกาสใช้รถหลายเดือน เดินทางไม่สะดวก ของผมซ่อมไป 8 เดือนตัดท้าย กว่าจะหาท้ายตัดได้แถมหามาก็คนละสีอีกปวดตับ ส่วนเกียร์ มันยกมาได้ครับของมือสอง พวกนี้มันเคี่ยว แทนที่เราจะได้เงิน 340,000 บาทง่ายๆมันจะดันซ่อมเพื่อไห้มันเสียน้อยที่สุด งานจะหยาบเพราะคุมราคาและหัวตัดจะไม่ใช่สีเดียวกันเวลามาต่อ ดึงตะเข็บดูจะรู้เลยในช่องที่มันอาร์คมาจะคนละสี เคสนี้อู่แรกช่วยไม่ได้แน่นอนคนับเพราะรูปมันไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ประมาณอู่นี้คุมราราไม่ได้อู่ในเครือที่ทำได้มีอีกเยอะ รถคันี้ถ้าซ่อมมา ทุนประกันมักจะพอๆกับราคากลาง สมุติขายกัน 350,000 บาท ตัดหัวต่อก็จะขายได้ราวๆ 270,000 -300,000 บาทเท่านั้น ถ้าทำไม่ดีโอนไม่ได้อีกขนส่งใหญ่ เพราะดัดแปลงสภาพรถต้องแจ้งแปลงสภาพลงเล่มอีก ว่ามีการตัอต่อตัวถังมา และไห้วิศวะกรเซนต์รับรองการดัดแปลง งานนี้ยาวครับ ไปเต้นท์มันรับแต่กดต่ำสุดๆจนเราไม่อยากขายเลยครับ อย่าลืมเรียกค่าเสียโอกาสการใช้รถนะครับ สำคัญ ได้มานิดหน่อยก็ยังดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เดี๋ยวนะ ...
ปกติ การที่ประกันจะบอกว่า คืนทุน / ไม่คืนทุน นั้น ไม่ใช่แค่ยืนมองรถ แล้วก็บอกว่า คันนี้คืน / ไม่คืน นะ มันต้องมีใบเสนอราคาจากอู่ / ศูนย์ มาครับ
ซึ่งการที่เค้าให้คุณเอารถเข้าอู่ ก็ถูกต้องแล้ว เพราะอู่ จะต้องทำการประเมินค่าความเสียหาย แล้วทำใบเสนอราคาให้ประกันครับ เพื่อให้ประกันเห็นว่า มันเกินทุนประกัน จึงสั่งไม่ซ่อม และคืนทุนประกันครับ
แต่ประเด็นคือ ... อู่ที่คุณเข้า ก็ไม่อยากประเมินไง เพราะรู้อยู่แล้วว่า ประเมินไป ก็ไม่ได้ซ่อม เอาเวลาไปทำคันอื่นที่ได้ซ่อมดีกว่า ถูกป่ะ
ซึ่งอันนี้ ก็อาจจะต้องมีเทคนิค ไปคุยกับอู่หน่อยว่า ช่วยหน่อย ประเมินให้หน่อย มีค่าน้ำร้อน น้ำชาให้ พันสองพัน ประเมินให้ Total Loss นะ แค่นั้นแหละ
ปกติ การที่ประกันจะบอกว่า คืนทุน / ไม่คืนทุน นั้น ไม่ใช่แค่ยืนมองรถ แล้วก็บอกว่า คันนี้คืน / ไม่คืน นะ มันต้องมีใบเสนอราคาจากอู่ / ศูนย์ มาครับ
ซึ่งการที่เค้าให้คุณเอารถเข้าอู่ ก็ถูกต้องแล้ว เพราะอู่ จะต้องทำการประเมินค่าความเสียหาย แล้วทำใบเสนอราคาให้ประกันครับ เพื่อให้ประกันเห็นว่า มันเกินทุนประกัน จึงสั่งไม่ซ่อม และคืนทุนประกันครับ
แต่ประเด็นคือ ... อู่ที่คุณเข้า ก็ไม่อยากประเมินไง เพราะรู้อยู่แล้วว่า ประเมินไป ก็ไม่ได้ซ่อม เอาเวลาไปทำคันอื่นที่ได้ซ่อมดีกว่า ถูกป่ะ
ซึ่งอันนี้ ก็อาจจะต้องมีเทคนิค ไปคุยกับอู่หน่อยว่า ช่วยหน่อย ประเมินให้หน่อย มีค่าน้ำร้อน น้ำชาให้ พันสองพัน ประเมินให้ Total Loss นะ แค่นั้นแหละ
แสดงความคิดเห็น
ผมขับรถชนท้าย 18 ล้อ สภาพรถผมอย่างเละแต่ประกันชั้น 1 ยังอุตส่าห์หาอู่ซ่อมให้อีก ดูรูปเลยครับ
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ผมคือคนขับรถคันนี้และรอดมาได้โดยไม่เป็นไรเลย ถือว่าผมโชคดีของผมจริงๆครับ
เข้าเรื่องเลยครับ ผมต้องสอบถามเพื่อนๆพี่ๆก่อนจะโทรไปคุยกับประกันภัยของผมครับ
ทุนประกันภัย 340,000 บาท
รถติดไฟแนนท์อีก 4 เดือนหมด
รถอายุ 5 ปีแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่า รถผมเละขนาดนี้และเจ้าของอู่ A ในเครือของประกันภัยก็บอกผมว่า ซ่อมก็ไม่คุ้มทุน ถึงซ่อมได้ก็ไม่เหมือนเดิม
โดยปกติทางประอู่จะเสนอราคาค่าซ่อมให้ทางประกันภัยประเมินว่าจะซ่อมหรือจะคืนซาก กรณีนี้เจ้าของอู่ส่ายหัวและแจ้งประกันภัยไปว่าค่าซ่อมแพงพอๆ กับทุนประกัน ทางประกันภัยเลยหาอู่อื่นในเครือมาซ่อมรถผมจนได้ ! ซึ่งประกันภัยแจ้งผมมาเองเมือวาน และแจ้งเงือนไงมาให้ผมว่า
กรณี 1. ถ้ารถเสียหายมากกว่า 70% ทางประกันจะคืนทุนประกันให้ 340,000 บาทและโอนซากให้บริษัท
กรณี 2. ถ้ารถเสียหายน้อยกว่า 70% ทางประกันจะซ่อมให้
กรณี 3. ถ้ารถเสียหายน้อยกว่า 70% และทางเจ้าของรถไม่สงค์จะซ่อมหรือต้องการขับรถคนนี้อีกแล้ว
ทางประกันภัยบอกจะคืนทุนให้บางส่วนและเจ้าของเอาซากไปจัดการเอง
เรื่องของเรื่องคือ :::
*** เละขนาดนี้ยังไม่ถึง 70% อีกเหรอครับยังจะหาทางซ่อมให้ผมอีกเหรอครับ ?? ***
อู่ A ยังไม่ซ่อมเลย ไปหาอู่ B อีกให้ซ่อมอีก สำหรับผมและสภาพจิตใจก็โคตรแย่มากๆหลังจากประสบอุบัติเหตุ ไม่อยากขับรถคันนี้อีกแล้ว ถึงซ่อมเสร็จยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ผมไม่เอาแล้ว
จึงอยากถามว่าผมต้องการขอทุนประกันเท่านั้นมาดาวน์รถใหม่ ต้องใช้ทำงานจริงๆ ผมสามารถแจ้งหรือคุยกับประกันภัยยังไง
เพื่อไม่ต้องซ่อมและให้คืนทุนประกันมาให้ผม และไม่ต้องการเงื่อนไข ในกรณี 3 ด้วย