สวัสดีคะ นี้เป็นกระทู้แรกของเรา(เรายืมล้อกอินเพื่อนมา) อ่านพันทิปมาตั้งนานไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่ต้องมาตั้งกระทู้เอง
พอดีแม่เราเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน แล้วเจรจาไม่ได้ เลยต้องรบกวนมาขอคำปรึกษา ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
วันที่ 24 เมษายน 2559เวลาประมาณ 11.30
เกิดเหตุรถชน ที่แยกพระราม9 รถกระบะ(สีขาว)ทะเบียน 3กลxxx คนขับเป็นชาวต่างชาติ ได้ขับมาชน ของเราซึ่งเป็นรถเก๋ง(สีเทา)ซึ่งมีคุณแม่นั่งอยู่และเพื่อนคุณแม่เป็นคนขับ หลังจากชนแล้ว ก็ขับรถออกไปเลยรถแม่เราจึงบีบแตรไล่ และทั้งคู่ได้มาจอดตกลงกันอีกครั้งที่ บริเวณหน้าห้างฟอร์จูน
พอลงรถมา เห็นคนขับเป็นชาวต่างชาติ แม่เราก็ตกใจ เพราะแม่เราเป็นแม่บ้านธรรมดา พูดภาษาอังกฤษก็ไม่เป็น
คนขับรถสีขาวพอลงมาก็มีลักษณะรีบร้อน ไม่ยอมคุยอะไร แม่เราเองก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็เลยได้แต่เพียง ถ่ายรูป
ทะเบียนรถ หน้าประกัน และ ขอเบอร์ติดต่อไว้ แล้วก็ปล่อยไป เพราะ 1.แม่เราดูหน้าประกันภัยเห็นว่าเป็นประกันชั้น หนึ่ง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 2.แม่เราเห็นในรถมีเด็ก แล้วเด็กก็วิ่งขึ้นวิ่งลงรถเดี้ยวจะเป็นอันตราย 3.แม่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
หลังจากนั้นทางเราได้ทำการติดต่อประกันตามรายละเอียดที่มี จึงได้ทราบว่าชาวต่างชาติ แจ้งกับทางประกันไว้ว่า รถเราเป็นคนชนรถเขา“ซึ่งไม่เป็นความจริง”แม่เราก็เลยใช้เวลาเดินเรื่องตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2559 ไปทั้งสถานีตำรวจห้วยขวาง สถานีตำรวจดินแดง ไปสำนักงานกทม กลับไปกลับมาหลายครั้งเพื่อ ขอดูภาพจากกล้องที่ป้อมตำรวจ
จากภาพจะเห็นได้ว่า ชาวต่างชาติ เป็นผู้ขับรถมาชน ทางเราจึงได้มีการติดต่อไปหา ชาวต่างชาติตามเบอร์ที่ให้ไว้เพื่อเจรจา ขั้นต่อไป
ชาวต่างชาติ ใช้คำพูดที่โอนเอียงไปในทางไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น... ทางเราจึงได้ติดต่อทางประกันชาวต่างชาติเพื่อขอคำปรึกษา แต่ทางประกันแจ้งว่า ลูกค้าบอกว่าตัวเองไม่ผิด จึงไม่สามารถทำเรื่องต่อได้.
รายละเอียดเพิ่มเติม และการอัพเดต
- รถบ้านเราเป็นประกันชั้น 3 จำเป็นต้องได้รับใบเคลมจากประกันชั้น 1ก่อน ไม่งั้นซ่อมไม่ได้
- รถชาวต่างชาติเป็นประกันชั้น 1
- เราได้ลองติดต่อทั้งประกันเราและ ประกันช่าวต่างชาติแล้ว
- ประกันเราแจ้งว่าต้องได้ใบเคลมไม่งั้นทำอะไรไม่ได้
- ประกันชาวต่างชาติ แจ้งว่าชาวต่างชาติ ยังไม่ได้แจ้งเรื่องเข้ามา ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ประกันโทรมาหาแม่เราแจ้งว่า ลูกค้าเขาบอกว่าลูกค้าไม่ผิด ประกันก็เชื่อลูกค้า และทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้มาดูรอยการชนเลย
- เราติดต่อประกันชาวต่างชาติหลายรอบมากแล้ว ก็โอนเราไปโอนเรามา บอกว่าจะติดต่อกลับ สุดท้ายก็ไม่ติดต่อมา
- รถเรามีรอยที่กลางลำด้านขวา แต่เขาบอกว่าเราขับไปชนท้ายเขา
- เราไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษ ได้แค่นิดหน่อยตามที่เห็น
- เรามีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ที่ได้มาจากป้อมตำรวจ
- เราพยายามคุยกับตัวแทนที่เป็นคนดูแลชาวต่างชาติคนนี้ ให้ช่วยเราประสานงานหน่อย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
- เราไม่ได้อยากฟ้องร้องให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเท่านี้แม่เราก็เหนื่อยกับการเดินเรื่องไปๆมาๆมากแล้ว
- บทสนทนากับชาวต่างชาติ ไม่มีการลบและ สิ้นสุดตามรูป ที่เราไม่ได้ส่งวีดีโอให้ดู เพราะกลัวมีผลกับรูปคดี
- ตอนนี้แม่เรากำลังเรื่องตามกฎหมายแล้ว แต่ยังไม่ค่อยคีบหน้าเท่าไร เพราะ แม่เราก็เป็นแค่ป้าแก่ๆคนนึง ความรู้ก็ไม่สูง ไปคุยอะไรกับใครก็ งงๆ
- เราต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เราก็พยายามช่วยแม่อยู่ แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไร
- หน้าประกันเป็นชื่อของชาวต่างชาติคนนี้เอง มีที่อยู่ที่หัวหิน และอาศัยที่หัวหิน แต่เหตุเกิดที่กรุงเทพ ตอนนี้กลับหัวหินไปแล้ว
ตอนนี้ เรื่องไม่คีบหน้าเลยค่ะ เราสงสารแม่เรา เห็นวิ่งไปวิ่งมา เราบอกแม่แล้วว่าไม่ต้องเอาเรื่อง เดี้ยวค่อยๆหาเงินซ่อมกันเองก็ได้ แม่เราก็บอกว่า ไม่ได้เสียดายเงิน แต่ไม่อยากโดนเอาเปรียบ อุตส่าห์หาหลักฐานมาได้ขนาดนี้แล้ว
ตอนนี้เราต้องไปที่ไหนต่อค่ะ เรากับแม่ไม่รู้ข้อกฏหมาย แต่จะพยายามสู้คะ
ยินดีรับทุกความคิดเห็น
ด้วยความเคารพ
ขอความช่วยเหลือคะ..โดนรถฝรั่งชนแล้วหนี
พอดีแม่เราเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน แล้วเจรจาไม่ได้ เลยต้องรบกวนมาขอคำปรึกษา ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
วันที่ 24 เมษายน 2559เวลาประมาณ 11.30
เกิดเหตุรถชน ที่แยกพระราม9 รถกระบะ(สีขาว)ทะเบียน 3กลxxx คนขับเป็นชาวต่างชาติ ได้ขับมาชน ของเราซึ่งเป็นรถเก๋ง(สีเทา)ซึ่งมีคุณแม่นั่งอยู่และเพื่อนคุณแม่เป็นคนขับ หลังจากชนแล้ว ก็ขับรถออกไปเลยรถแม่เราจึงบีบแตรไล่ และทั้งคู่ได้มาจอดตกลงกันอีกครั้งที่ บริเวณหน้าห้างฟอร์จูน
พอลงรถมา เห็นคนขับเป็นชาวต่างชาติ แม่เราก็ตกใจ เพราะแม่เราเป็นแม่บ้านธรรมดา พูดภาษาอังกฤษก็ไม่เป็น
คนขับรถสีขาวพอลงมาก็มีลักษณะรีบร้อน ไม่ยอมคุยอะไร แม่เราเองก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็เลยได้แต่เพียง ถ่ายรูป
ทะเบียนรถ หน้าประกัน และ ขอเบอร์ติดต่อไว้ แล้วก็ปล่อยไป เพราะ 1.แม่เราดูหน้าประกันภัยเห็นว่าเป็นประกันชั้น หนึ่ง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 2.แม่เราเห็นในรถมีเด็ก แล้วเด็กก็วิ่งขึ้นวิ่งลงรถเดี้ยวจะเป็นอันตราย 3.แม่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
หลังจากนั้นทางเราได้ทำการติดต่อประกันตามรายละเอียดที่มี จึงได้ทราบว่าชาวต่างชาติ แจ้งกับทางประกันไว้ว่า รถเราเป็นคนชนรถเขา“ซึ่งไม่เป็นความจริง”แม่เราก็เลยใช้เวลาเดินเรื่องตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2559 ไปทั้งสถานีตำรวจห้วยขวาง สถานีตำรวจดินแดง ไปสำนักงานกทม กลับไปกลับมาหลายครั้งเพื่อ ขอดูภาพจากกล้องที่ป้อมตำรวจ
จากภาพจะเห็นได้ว่า ชาวต่างชาติ เป็นผู้ขับรถมาชน ทางเราจึงได้มีการติดต่อไปหา ชาวต่างชาติตามเบอร์ที่ให้ไว้เพื่อเจรจา ขั้นต่อไป
ชาวต่างชาติ ใช้คำพูดที่โอนเอียงไปในทางไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น... ทางเราจึงได้ติดต่อทางประกันชาวต่างชาติเพื่อขอคำปรึกษา แต่ทางประกันแจ้งว่า ลูกค้าบอกว่าตัวเองไม่ผิด จึงไม่สามารถทำเรื่องต่อได้.
รายละเอียดเพิ่มเติม และการอัพเดต
- รถบ้านเราเป็นประกันชั้น 3 จำเป็นต้องได้รับใบเคลมจากประกันชั้น 1ก่อน ไม่งั้นซ่อมไม่ได้
- รถชาวต่างชาติเป็นประกันชั้น 1
- เราได้ลองติดต่อทั้งประกันเราและ ประกันช่าวต่างชาติแล้ว
- ประกันเราแจ้งว่าต้องได้ใบเคลมไม่งั้นทำอะไรไม่ได้
- ประกันชาวต่างชาติ แจ้งว่าชาวต่างชาติ ยังไม่ได้แจ้งเรื่องเข้ามา ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ประกันโทรมาหาแม่เราแจ้งว่า ลูกค้าเขาบอกว่าลูกค้าไม่ผิด ประกันก็เชื่อลูกค้า และทำอะไรไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้มาดูรอยการชนเลย
- เราติดต่อประกันชาวต่างชาติหลายรอบมากแล้ว ก็โอนเราไปโอนเรามา บอกว่าจะติดต่อกลับ สุดท้ายก็ไม่ติดต่อมา
- รถเรามีรอยที่กลางลำด้านขวา แต่เขาบอกว่าเราขับไปชนท้ายเขา
- เราไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษ ได้แค่นิดหน่อยตามที่เห็น
- เรามีทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ที่ได้มาจากป้อมตำรวจ
- เราพยายามคุยกับตัวแทนที่เป็นคนดูแลชาวต่างชาติคนนี้ ให้ช่วยเราประสานงานหน่อย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
- เราไม่ได้อยากฟ้องร้องให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะเท่านี้แม่เราก็เหนื่อยกับการเดินเรื่องไปๆมาๆมากแล้ว
- บทสนทนากับชาวต่างชาติ ไม่มีการลบและ สิ้นสุดตามรูป ที่เราไม่ได้ส่งวีดีโอให้ดู เพราะกลัวมีผลกับรูปคดี
- ตอนนี้แม่เรากำลังเรื่องตามกฎหมายแล้ว แต่ยังไม่ค่อยคีบหน้าเท่าไร เพราะ แม่เราก็เป็นแค่ป้าแก่ๆคนนึง ความรู้ก็ไม่สูง ไปคุยอะไรกับใครก็ งงๆ
- เราต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เราก็พยายามช่วยแม่อยู่ แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไร
- หน้าประกันเป็นชื่อของชาวต่างชาติคนนี้เอง มีที่อยู่ที่หัวหิน และอาศัยที่หัวหิน แต่เหตุเกิดที่กรุงเทพ ตอนนี้กลับหัวหินไปแล้ว
ตอนนี้ เรื่องไม่คีบหน้าเลยค่ะ เราสงสารแม่เรา เห็นวิ่งไปวิ่งมา เราบอกแม่แล้วว่าไม่ต้องเอาเรื่อง เดี้ยวค่อยๆหาเงินซ่อมกันเองก็ได้ แม่เราก็บอกว่า ไม่ได้เสียดายเงิน แต่ไม่อยากโดนเอาเปรียบ อุตส่าห์หาหลักฐานมาได้ขนาดนี้แล้ว
ตอนนี้เราต้องไปที่ไหนต่อค่ะ เรากับแม่ไม่รู้ข้อกฏหมาย แต่จะพยายามสู้คะ
ยินดีรับทุกความคิดเห็น
ด้วยความเคารพ