กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
การขยายเที่ยวบินเที่ยวที่เจ็ดต่อวันแสดงให้เห็นว่า กรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลางทางที่มีเที่ยวบินเปิดรองรับให้บริการมากที่สุดในเครือข่ายของสายการบินเอมิเรตส์
เอมิเรตส์ประกาศเพิ่มเที่ยวบินบริการเที่ยวที่เจ็ดต่อวันบินตรงระหว่างดูไบ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป
เที่ยวบินที่เปิดให้บริการเพิ่มนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของนักเดินทางที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั้งสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เอมิเรตส์มีเที่ยวบินเปิดให้บริการต่อวันมากที่สุด เทียบเท่ากับคูเวตและโดฮา
บริการที่เอมิเรตส์เปิดเพิ่มขึ้นมานี้จะให้บริการควบคู่ไปกับ เครื่องบินแอร์บัส A380 ที่เปิดให้บริการอยู่แล้วสี่เที่ยวบินต่อวันและ โบอิ้ง 777 ที่ให้บริการอยู่สองเที่ยวบินต่อวันระหว่างดูไบและกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มเที่ยวบินเป็นทั้งหมด 49 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มที่นั่งต่อสัปดาห์ได้อีก 2,520 ที่นั่งและเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าได้อีก 134 ตันต่อสัปดาห์ต่อเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯและดูไบ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสในการเดินทางและการค้าระหว่างประเทศไทยไปยังจุดหมายปลางทางอื่นๆของเอมิเรตส์ทั่วโลก
นอกจากนี้การเพิ่มเที่ยวบินให้บริการนี้ยังช่วยเชื่อมต่อประเทศไทยไปยังภูมิภาคอื่นๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมผ่านสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมของสายการบินเอมิเรตส์ในครั้งนี้รวมไปถึง 19 จุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง เกาะสมุยและเชียงใหม่ในประเทศไทย เมืองเสียมเรียบในประเทศกัมพูชา เมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ในประเทศเมียนมาร์ ภูมิภาคนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาอยู่มากมายรวมไปถึงมรดกโลก อย่าง พระมหาเจดีย์ชเวดากองและนครอังกอร์วัดเป็นต้น โดยสถานที่เหล่านี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์สามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อวันมายังสนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยให้ลูกค้าของสายการบินสามารถเลือกเวลาเที่ยวบินที่เหมาะสมและสะดวกต่อตารางเวลาของแต่ละท่านได้มากขึ้น
ผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ สามารถเพลิดเพลินไปกับบริการอันหลากหลายจากลูกเรือนานาชาติ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับกับระบบความบันเทิงบนเครื่องบินชั้นเลิศหรือ "ไอซ์" ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นอันดับหนึ่งในด้านระบบความบันเทิงจากสกายแทรกซ์ติดต่อกันนานถึง 11ปี ด้วยบริการที่มีให้เลือกชมมากกว่า 2,500 ช่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เกมส์ หนังสือเสียงและเพลง
ตั้งแต่วัน 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เที่ยวบินใหม่นี้จะเปิดให้บริการด้วยเที่ยวบิน EK350 ซึ่งจะเดินทางออกจากดูไบ เวลา 19.50 น. และเดินทางถึงสนามบินสุวรรรณภูมิเวลา 05.10 น. ในวันถัดไป[1] โดยเที่ยวบินนี้มีความน่าสนใจและน่าดึงดูดสำหรับนักเดินทางเพราะเที่ยวบินนี้จะออกเดินทางจากสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตะวันออกกลางและเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเช้า จึงทำให้นักเดินทางสามารถใช้เวลาทั้งวันเพื่อติดต่อด้านธุรกิจหรือธุระส่วนตัวได้ทันที
สำหรับเที่ยวบินกลับ EK351 จะเดินทางออกจากรุงเทพฯ เวลา 06.35 น. และเดินทางถึงดูไบเวลา 09.50 น. ในวันเดียวกัน โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมเป็นต้นไป[2] นอกจากนี้เที่ยวบินดังกล่าวยังช่วยให้การเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางในยุโรป อาทิ ลอนดอน แฟรงก์เฟริต ลิสบอน อิสตัลบูล มาดริด และบาร์เซโลนา เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ด้วยบริการอันยอดเยี่ยมของเที่ยวบินจากสายการบินเอมิเรตส์นี้ ผู้โดยสารจะได้รับน้ำหนักสัมภาระ 30 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด 40 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และ 50 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
http://www.newswit.com/life/2016-05-19/5f6967cb7f1eb339a79407dd75abfca2/
เอมิเรตส์ เพิ่มเที่ยวบินเป็นเจ็ดเที่ยวต่อวันสู่กรุงเทพฯ จะเพิ่มเที่ยวบินการให้บริการระหว่างดูไบกรุงเทพฯ
การขยายเที่ยวบินเที่ยวที่เจ็ดต่อวันแสดงให้เห็นว่า กรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลางทางที่มีเที่ยวบินเปิดรองรับให้บริการมากที่สุดในเครือข่ายของสายการบินเอมิเรตส์
เอมิเรตส์ประกาศเพิ่มเที่ยวบินบริการเที่ยวที่เจ็ดต่อวันบินตรงระหว่างดูไบ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป
เที่ยวบินที่เปิดให้บริการเพิ่มนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของนักเดินทางที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั้งสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เอมิเรตส์มีเที่ยวบินเปิดให้บริการต่อวันมากที่สุด เทียบเท่ากับคูเวตและโดฮา
บริการที่เอมิเรตส์เปิดเพิ่มขึ้นมานี้จะให้บริการควบคู่ไปกับ เครื่องบินแอร์บัส A380 ที่เปิดให้บริการอยู่แล้วสี่เที่ยวบินต่อวันและ โบอิ้ง 777 ที่ให้บริการอยู่สองเที่ยวบินต่อวันระหว่างดูไบและกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มเที่ยวบินเป็นทั้งหมด 49 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มที่นั่งต่อสัปดาห์ได้อีก 2,520 ที่นั่งและเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าได้อีก 134 ตันต่อสัปดาห์ต่อเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯและดูไบ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสในการเดินทางและการค้าระหว่างประเทศไทยไปยังจุดหมายปลางทางอื่นๆของเอมิเรตส์ทั่วโลก
นอกจากนี้การเพิ่มเที่ยวบินให้บริการนี้ยังช่วยเชื่อมต่อประเทศไทยไปยังภูมิภาคอื่นๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมผ่านสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมของสายการบินเอมิเรตส์ในครั้งนี้รวมไปถึง 19 จุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง เกาะสมุยและเชียงใหม่ในประเทศไทย เมืองเสียมเรียบในประเทศกัมพูชา เมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ในประเทศเมียนมาร์ ภูมิภาคนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาอยู่มากมายรวมไปถึงมรดกโลก อย่าง พระมหาเจดีย์ชเวดากองและนครอังกอร์วัดเป็นต้น โดยสถานที่เหล่านี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์สามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อวันมายังสนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยให้ลูกค้าของสายการบินสามารถเลือกเวลาเที่ยวบินที่เหมาะสมและสะดวกต่อตารางเวลาของแต่ละท่านได้มากขึ้น
ผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ สามารถเพลิดเพลินไปกับบริการอันหลากหลายจากลูกเรือนานาชาติ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับกับระบบความบันเทิงบนเครื่องบินชั้นเลิศหรือ "ไอซ์" ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นอันดับหนึ่งในด้านระบบความบันเทิงจากสกายแทรกซ์ติดต่อกันนานถึง 11ปี ด้วยบริการที่มีให้เลือกชมมากกว่า 2,500 ช่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เกมส์ หนังสือเสียงและเพลง
ตั้งแต่วัน 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เที่ยวบินใหม่นี้จะเปิดให้บริการด้วยเที่ยวบิน EK350 ซึ่งจะเดินทางออกจากดูไบ เวลา 19.50 น. และเดินทางถึงสนามบินสุวรรรณภูมิเวลา 05.10 น. ในวันถัดไป[1] โดยเที่ยวบินนี้มีความน่าสนใจและน่าดึงดูดสำหรับนักเดินทางเพราะเที่ยวบินนี้จะออกเดินทางจากสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตะวันออกกลางและเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเช้า จึงทำให้นักเดินทางสามารถใช้เวลาทั้งวันเพื่อติดต่อด้านธุรกิจหรือธุระส่วนตัวได้ทันที
สำหรับเที่ยวบินกลับ EK351 จะเดินทางออกจากรุงเทพฯ เวลา 06.35 น. และเดินทางถึงดูไบเวลา 09.50 น. ในวันเดียวกัน โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมเป็นต้นไป[2] นอกจากนี้เที่ยวบินดังกล่าวยังช่วยให้การเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางในยุโรป อาทิ ลอนดอน แฟรงก์เฟริต ลิสบอน อิสตัลบูล มาดริด และบาร์เซโลนา เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ด้วยบริการอันยอดเยี่ยมของเที่ยวบินจากสายการบินเอมิเรตส์นี้ ผู้โดยสารจะได้รับน้ำหนักสัมภาระ 30 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด 40 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และ 50 กิโลกรัมสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
http://www.newswit.com/life/2016-05-19/5f6967cb7f1eb339a79407dd75abfca2/