ช่วงนี้ เวลาดาราเลิกกันมักจะได้ยินประโยคที่ว่า "ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน" อยู่บ่อยครั้ง จนเริ่มรู้สึกว่ามันกลายเป็นประโยคฮิตเวลาเลิกเทียบเท่า "เธอดีเกินไป" "ห่างกันสักพัก" "เปลี่ยนสถานะจากแฟนเป็นเพื่อน" หรือ "ขอเป็นได้แค่พี่/น้อง"
ตัวผมเองก็เคยเจอประโยคนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร เพราะวิถีชีวิตเราต่างกันจริงๆ ในการคบกันไม่เกินหนึ่งปี เราต่างรู้ว่าไปกันไม่รอดแน่ๆ ไม่เลิกตอนนี้ ก็ต้องเลิกกันสักวันหนึ่งข้างหน้า ไม่ช้าก็เร็ว
ในกรณีของดารา เช่น ปู ไปรยา และ เซเลปท่านอื่นๆ ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะ คบกันมาไม่ใช่ปีสองปี น่าจะรู้วิถีชีวิตของแต่ละคนกันเป็นอย่างดีในช่วงปีแรกๆ อะไรรับได้ อะไรรับไม่ได้ ถ้าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันจริง เหตุไฉนถึงยังยอมคบกันอยู่ยาวนานขนาดนั้น
แล้วคุณละครับ ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ถึงจะรู้ว่า ไลฟ์สไตล์ตรงหรือไม่ตรงกัน แล้วคุณมีวิธีจัดการอย่างไร
"ไลฟ์สไตล์ตรง\ไม่ตรงกัน" ใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะรู้สึกถึงประโยคนี้ แล้วคุณมีวิธีจัดการยังไงกับความรู้สึกนั้น
ตัวผมเองก็เคยเจอประโยคนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร เพราะวิถีชีวิตเราต่างกันจริงๆ ในการคบกันไม่เกินหนึ่งปี เราต่างรู้ว่าไปกันไม่รอดแน่ๆ ไม่เลิกตอนนี้ ก็ต้องเลิกกันสักวันหนึ่งข้างหน้า ไม่ช้าก็เร็ว
ในกรณีของดารา เช่น ปู ไปรยา และ เซเลปท่านอื่นๆ ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะ คบกันมาไม่ใช่ปีสองปี น่าจะรู้วิถีชีวิตของแต่ละคนกันเป็นอย่างดีในช่วงปีแรกๆ อะไรรับได้ อะไรรับไม่ได้ ถ้าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันจริง เหตุไฉนถึงยังยอมคบกันอยู่ยาวนานขนาดนั้น
แล้วคุณละครับ ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ถึงจะรู้ว่า ไลฟ์สไตล์ตรงหรือไม่ตรงกัน แล้วคุณมีวิธีจัดการอย่างไร