[CR] [เลห์][ลาดักห์][ซันสการ์][แบคแพคเกอร์]22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VIII (จบ) ความรัก..ความรู้สึก


ติดตามเรื่องราวตอนที่แล้วได้จาก

ตอน1: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-I ตอนดีเลย์เดลี http://ppantip.com/topic/35118550
ตอน2: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-II ตอนกฏแห่งแรงดึงดูดที่ปันกอง http://ppantip.com/topic/35123718
ตอน3: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-III ตอนไปนูบราแบบแมนๆ Royal Enfield http://ppantip.com/topic/35127049
ตอน4: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-IV ตอน In Love In Leh http://ppantip.com/topic/35130597
ตอน5: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-V ตอน เส้นทางสู่ Zanskar หุบเขาแห่งสวรรค์ http://ppantip.com/topic/35139076
ตอน6: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VI ตอน เมืองแห่ง Zanskar, Rungdum-Padum http://ppantip.com/topic/35151837
ตอน7: 22 วันตกหลุมรัก Ladahk & Kashmir-VII ตอน ไปขี่ม้าที่ Sonamarg, นั่งเรือชม Dal Lake http://ppantip.com/topic/35159052

คืนสุดท้ายอำลา Kashmir
คืนสุดท้ายที่ Kashmir หลังจากไปนั่งเรือและด้วยความบ้าบิ่นของป้าไปเล่นน้ำใน ดาลเลค ที่หวั่นๆอยู่ว่าจะมีอนาคอนดาใต้น้ำมารัดขาดึงเราไปกินใต้น้ำเหมือนในหนังรึเปล่า...ปรากฎว่าไม่มีรอดไปค่ะ..มีแต่พงศ์ตะโกนบอก จาปาตีๆลอยมาจ้า.. อมยิ้ม20

นั่งเรือชิวๆๆๆๆ ใน Dal Lake


เราสั่งอาหารที่ Boat house เป็นไก่มีผัดผักและปลาเทราท์ที่เราเจอตอนนั่งเรือในดาลเลค และขอนามบัตรติดต่อให้มาส่งที่หน้าเรือโรงแรม..พร้อมของหวานเป็นลูกแพร์เชื่อม ค่าเสียหายคืนนี้ 1400 รูปี.. คนทำกับข้าวพยายามมาแวะเวียนคุยกับเรา..บอกแล้วค่ะ คนอินเดียพูดเก่งมากกกก...สามารถคุยได้ตลอดจะรู้จักหรือไม่รู้จัก จนบางครั้งต้องทำเฉยๆ ไม่งั้นยาวววว...อมยิ้ม17

คนขายปลาเทราท์บนเรือจนติดใจ สั่งมาให้ส่งที่โรงแรมตอนเย็น


อาหารค่ำคืนนี้จัดเต็ม อุดหนุนคุณลุงค่ะ

เราใช้เวลาคืนนี้ภายใต้แสงนีออน แสงเทียน แสงตะเกียงครบนั่งเสวนาเรื่องราวทั้งในอดีต เส้นทางที่แต่ละคนเคยผ่านและพบพาน และฝันถึงอนาคต   การเดินทางที่มีเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจ..อืม..อาจจะไม่ได้รู้ใจไปทั้งหมดแต่เราปรับจูนกันได้ง่ายๆ มีหงุดหงิดบ้าง ไม่ชอบความเยอะของแต่ละคนบ้าง คงเป็นเรื่องธรรมดาของต่างคนที่ต่างมา ทั้งๆที่ก่อนมาก็หวั่นๆว่าจะรอดมั้ย..ไม่เคยมานานขนาดนี้   แต่ 20 วันที่ผ่านมาพิสูจน์ได้แล้วว่า ไม่มีช่วงไหนเลยที่เรารู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว..นี่คงเป็นเสน่ห์ของการเดินทางที่มีเพื่อนร่วมทาง ต่างจากการเดินทางคนเดียวที่อาจมีเพื่อนร่วมทางตามทางที่เจอะกันแล้วก็จากกันไปหรือถ้าโชคดีก็ได้เป็นเพื่อนกันยาว  เพื่อนเดินทางที่รู้ใจถือเป็นหนึ่งในของขวัญที่ส่งมาให้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงชีวิต...แม้ว่าเราจะเพิ่งกลับมาเจอกันแต่ก็ดีกว่าไม่ได้เจอกันเลย  และเราหวังว่ายังมีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมประสบการณ์ต่อๆไปได้มากที่สุด ตราบที่เงือนไขของชีวิตอำนวย

เมาๆ เม้าท์ๆ กินๆ ดริ้งค์ๆ มีความสุขๆ


ค่ำคืนนี้อีกยาว @ Kashmir Boat House

คืนนี้เราเลยเม้าท์กันทั้งคืนจนถึงดึกและต่างหลับกันไป...เป็นคืนหนึ่งในความทรงจำที่ดี...

เข้าพรุ่งนี้เราต้องออกจาก Srinagar โดยสายการบินในประเทศกลับไปที่เดลี เรานัดลุงให้เรียกแทกซี่ตอน 7 โมงเช้าในราคา 600 รูปี (300 บาท)  

ภาพจากด้านหัวเรือ boat house


เช้า..หน้าที่ต้มกาแฟสดของพงศ์จะเป็นเข้าวันสุดท้ายที่นี่ข้างๆ ปีกเรือท่ามกลางวิวหุบเขาไกลๆสะท้อนน้ำทะเลสาปดาล เช้านี้เราไม่ได้ล่ำราอูเมอร์หนุ่มแจวเรือหน้าเข้มเค้าส่งเพื่อนมาแทน..คงทำใจไม่ได้ที่ต้องอำลาจากป้า...5555

การต้มกาแฟสดเช้าสุดท้ายในทริปนี้ ขอบคุณเตากาแฟและผู้ชงฝีมือดีที่สุดในสามโลกอมยิ้ม16
ที่สนามบินศรีนาการ์ก็มีการตรวจเข้มข้นเหมือนเดิม..บางครั้งก็ไม่เข้าใจ อย่างที่สนามบินเดลี คือเค้าให้เอาของทุกอย่างออกจากเป้ที่ถือขึ้นเครื่องและตรวจทุกอย่างแม้กระทั่งสมุดไดอารี่..ไม่เข้าใจจริงๆ

ถึงสนามบินศรีนาการ์

จับรถไฟไปทรานไซ..เอ๊ยไปอักรา (แหม..ตื่นๆ)
ถึงสนามบินเดลีประมาณเที่ยงเราจับรถแทกซี่ไปสถานีรถไฟอักราทันที...ไม่ค่ะ ไม่มีการจองล่วงหน้า..เราถูกทดสอบการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า...555

สถานีรถไฟเดลี นั่งแทกซี่มาจากสนามบินราคา 360 รูปี

ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกร่างกายรับสภาพเป้ backpacker ที่หนักกว่า 12 กิโลแทบจะไม่ไหว เพราะน้ำหนักกระเป๋าที่หลังรั้งดึงมาที่ไหล่จนถึงต้นคอ และเราต้องทนสภาพนั้นตลอดเวลาที่กระเป๋าอยู่บนหลัง  สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเป็นกระเป๋าไม่ได้มาตรฐานเพราะเป็นกระเป๋าก๊อป..ยังคิดว่ากลับไปถ้ากระดูกคอเคลื่อนจะคุ้มกันมั้ยนะ...(แนะนำค่ะ มีวิธีเลือกเป้และน้ำหนักเป้ที่ควรจะเป็นในรีวิวของหมอตะลุยโลกค่ะ)

ที่สถานีรถไฟเดลีมีเค้าท์เตอร์ขายตั๋วด้านล่างสามารถไปเข้าแถวและบอกสถานีที่ต้องการไปโดยเช็คจากเที่ยวเดินทาง แต่ต้องเสี่ยงกับถ้าที่นั่งเต็ม สำหรับนักท่องเที่ยวมีที่จำหน่ายตั๋วชั้น 2 เป็นสำหรับ international ticket ต้องกรอกรายละเอียดตั๋วขาไป ขากลับ ชื่อ พาสปอร์ต อายุ  เป็นรถไฟด่วนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึงอักรา  เรามีปัญหาสับสนนิดหน่อยเพราะกรอกข้อมูลเที่ยวผิด..เลยทำให้ต้องยกเลิกตั๋วเดิมและซื้อตั๋วใหม่ 3 คนในราคาคนะละ  550 รูปี แถมยังมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่เพราะแทนที่เราจะได้ไปเที่ยวบ่าย 2 กลับต้องรอเที่ยว เกือบทุ่ม ทำให้เราไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกที่ทัชมาฮาล

เค้าท์เต้อร์จองตั๋วสำหรับชาวต่างชาติชั้น 2


First Floor คือชั้นบนค่ะ ชั้นล่างเป็น Ground Floor


ระหว่างที่รอเราไปหาข้าวกินและเดินสำรวจรอบๆสถานีรถไฟ  ความรู้สึกก็คงคล้ายๆกับหัวลำโพงคือมีของกินของขายราคาไม่สูงมากสำหรับคนเดินทางด้วยรถไฟ  เราหากินข้าวแกงอินเดีย และมีไข่ต้มมาฝากต๋อง
เดินไปตรงไหนก็จะมีคนอินเดียมาชวนคุย ถามว่ามาจากไหน ไปไหน...พูดไม่ยอมหยุดจริงๆ ตลอดทาง



เมนูอาหาร ในร้านแถวสถานีรถไฟเดลี


เรารอจนถึงเวลารถไฟมา เรานั่งกับพงศ์ส่วนต๋องแยกไปอีกตู้เพราะที่นั่งตู้เดียวกันไม่ว่าง  เป็นเหมือนรถไฟไทยชั้น 2 คือมีที่นั่งสำหรับ 4 คน ที่เรานั่งมีชาวอินเดียที่เป็นครูมาร่วมนั่งด้วย คุยกันเค้ามาอบรมที่เดลีและกำลังจะกลับบ้าน  เราชวนคุยกันสัพเพเหระกันพักนึง  และต่างคนต่างนั่งจนถึงจุดหมายที่อักรา...โดยรวมรถไฟอินเดียก็ไม่ได้แย่อย่างที่เห็นในภาพอาจเป็นเพราะเป็นชั้น 2A (1A ราคา 750 รูปี, 2A ราคา 550 รูปี)

ถ่ายกับนายตรวจตั๋วค่ะ ตอนแรกพอบอกขอถ่าย เค้าบอกเดี๋ยวๆแล้วหยิบหวีค่ะ..หวีขึ้นมาหวีก่อน..อืม อารมณ์ดีค่ะ
เราถึงสถานี อักราประมาณเกือบ 4 ทุ่ม และใช้บริการ pre-paid taxi เพื่อเข้าที่พักที่เราเสิรชหาไว้ ที่พักที่ใกล้ๆทัชมาฮาลหาไม่ยากมีหลายที่ สำหรับคนมาแบบ walk-in เราได้ที่พักที่ Sheela Guesthouse ใกล้ๆกับทัชมาฮาล ราคา 1000 รูปีต่อห้อง

Prepaid Taxi @ Agra Railway Station


Sheela Guest house @ East Gate


ทัชมาฮาล..ในฝันที่เป็นจริง
เช้าที่อักรา หนุ่มๆยังคงไม่ตื่นแต่เราอยากเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ทัชมาฮาล เลยรีบลุกเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปซื้อตั๋ว ณ ที่ขายตั๋วในราคา 510 รูปี เป็นราคาที่ใช้พาสปอร์ตไทยซึ่งถูกกว่าราคาทั่วไป   
เดินด้อมๆสำรวจประตูยังไม่เปิด มาเจอกับพงศ์และต๋องที่ออกมาพอดีและชวนกันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Shanti Guesthouse Roof top

Tasmahal @ Roof top


ที่ East Gate ต้องไปต่อคิวคนอินเดียที่รอประตูเปิด .ไปเจอไกด์คนอินเดียชื่อ Kosan เค้าบอกจะพาเข้าแบบไม่ต้องต่อคิวและเป็นไกด์ให้เราด้วย เลยตกลงและนัดแนะกันในราคา 500 รูปี Kosan บอกว่าเค้าเกิดและเติบโตข้างๆ ทัชมาฮาล จนเลือดเนื้อเค้าคือทัชมาฮาล  Kosan เล่าประวัติที่มาและจุดเด่นของสถาปัตยกรรมได้อย่างดี แถมเป็นตากล้องให้ด้วยเพราะรู้มุมว่าควรถ่ายที่จุดไหน (จุดยอดนิยม) และพาลัดคิวบางคร้ง 555
“Kosan คุณอายุเท่าไหร่คะ”
“26 ครับ ผมมีเลือดของทัชมาฮาล เพราะผมเกิดและโตนอกรั้วนี้”
“ที่เมืองไทยมีงานมั้ยครับ ผมอยากไปทำงานที่นั่น”
“ คุณอยากทำงานประเภทไหนล่ะ”
“…..งานไม่หนัก เงินดีน่ะครับ”
“555 อืม ถ้าคุณเจองานนั้นบอกฉันทีนะ..ฉันก็กำลังหาเหมือนกัน”
Kosan เป็นหนุ่มแขกที่สุภาพ อารมณ์ดี รู้เหลี่ยม รู้มุมกล้อง ถ้าเราอยากถ่ายรูปสาวอินเดีย เค้าจะเดินเข้าไปขอให้ก่อนถ่าย
เค้าว่าปกติผู้หญิงอินเดียจะไม่ถ่ายรูปกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามี เป็นธรรมเนียม แต่ผู้หญิงไม่เป็นไร  
ข้ามจากแม่น้ำยุมนาด้านหลังของ ทัชมาฮาล เป็นสวนสวยที่สร้างขึ้นตอนจะสร้าง Black Taj mahal และมีสวนที่นักท่องเทียวนิยมไปถ่ายรูปอูฐผ่านมุมนั้น (ซึ่งเราไม่ได้ไป 
“ถ้าคุณอยากไป ผมพาไปได้ ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ผมไป”
“ผมไปที่นั่นกับแฟนสาวบ่อยๆ”
“อ่อ..ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ”” คือถึงจะเป็นป้าแต่ใจยังไม่กล้าพออ่ะค่ะ...

ด้วยพลังแห่งรัก

จากฝันที่จะได้มาชมอนุสรณ์ความรักของพระเจ้า Shah Jahan ที่มีต่อพระนางมุมตัซ (Mumtaz Mahal) จริงๆ พระเจ้า Shah มีมเหสีหลายองค์ ซึ่งพระนางมุมตัตซ์เป็นมเหสีที่โปรดปรานมากที่สุดและมีโอรส ธิดาด้วยกัน ตอนพระนางสิ้นใจจึงโทมนัส ต้องการสร้างทัชมาฮาล ซื่งแปลว่ามงกุฎแห่งราชินีเป็นที่ฝังพระศพ   แต่เนื่องจากการก่อสร้างที่ใหญ่ใช้วัสดุหินอ่อนนำเข้ามาใช้เงินมาก ลูกชาย Aurangzeb. จึงไม่พอใจจับพ่อเข้าขังคุกที่ Agra Fort นาน 8 ปีจนพ่อเสียชีวิต  ลูกสาวเป็นคนนำศพพ่อล่องมาตามแม่น้ำยุมนาด้านหลังเพื่อเชิญมาฝังร่วมกับแม่  ส่วนฝั่งตรงข้ามแม่น้ำทางพระเจ้า Shah Jahan ตั้งใจสร้าง Black Tajmahal เพื่อเป็นที่บรรจุศพของตน แต่สร้างได้แค่กำแพงและสวนเท่านั้น

ทัชมาฮาลจากทางด้านข้าง


ทัชมาฮาลทางด้านหลังก่อนออกประตู ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป


มุมจากทางเข้าทางประตู East Gate
ชื่อสินค้า:   Leh, Ladakh อินเดีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่