สืบเนื่องจากกระทู้นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/35163789
วันนี้ไปสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ ตอน 8.15
อยากมาเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ เพื่อประโยชน์ต่อคนอื่นนะคะ
สถานภาพตอนนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป เข้าไปคนเดียวค่ะ ผู้ปกครองไม่ต้องมาให้เสียเวลา ถ้ามาก็รอด้านนอกนะคะ
- อยู่ในช่วงปิดเทอมยาว 6 เดือน จบม.ปลาย รอมอบตัวเข้ามหาลัย เพราะฉะนั้น**ไม่มีใบรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษา**
- วีซ่าท่องเที่ยว ไปเที่ยวกับคุณป้า พักที่บ้านเพื่อนป้า รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านจากกระทู้ด้านบนนะคะ
บทสนทนากับเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ ช่อง 15 (ดูมีอายุ ใส่แว่น หน้าตาจริงจัง ดุมาก) คงดวงไม่ดีจริงๆ
จนท : ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
จนท : พักที่ไหน
เรา : พักที่บ้านเพื่อนป้าค่ะ (มาคิดทีหลังว่าถ้าตอบเป็นชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้านจะดีกว่าไหม เพื่อเลี่ยงประเด็นคนรู้จัก แต่ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เสียงสั่น)
จนท : งั้นขอจดหมายจากเพื่อนป้าค่ะ
เรา : (ตกใจมาก เพราะไม่มี ไม่คิดว่าเค้าจะขอ เลยเงียบไปพักนึง) ไม่มีค่ะ
จนท : (ขึ้นเสียง ดูหงุดหงิด) เอ๊า แล้วจะรู้ได้ไงว่าไปพักที่นั่นจริงๆ
เรา : (เงียบไปพักนึง) แต่มีจดหมายของคุณป้าค่ะ เอ้ย ไม่ใช่ค่ะ มี statement คุณป้า และใบลาของคุณป้ามายืนยันค่ะ
จนท : งั้นขอจดหมายของคุณป้าค่ะ(เราพูดผิด แต่จนทไม่ได้ยินว่าเราพูดถึง statement)
เรา : ไม่มีค่ะ(คิดในใจว่สขออะไรก็ไม่มี ไม่ผ่านแน่) เมื่อกี้พูดผิดค่ะ
จนท : แล้วเมื่อกี้พูดว่าอะไร จดหมายอะไร(เสียงดุ มองหน้าเราด้วยT_T)
เรา : ขอโทษค่ะ เมื่อกี้พูดผิด
จนท : สแกนลายนิ้วมือ บลาๆๆๆ
หลังจากโดนจนทไทยสัมภาษณ์ไป เราก็คิดเลยว่าเราไม่ผ่านแน่ๆ เพราะเคยอ่านมาเค้าว่ากันว่าจนทไทยคือตัวการสำคัญ ว่าจะให้เรา ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน แต่เราก็ยังคิดในแง่ดีว่า เอาหน่า ยังไงก็ต้องสู้ตาย สัมภาษณ์กับฝรั่งต้องทำให้ดีๆ ยิ้มเข้าไว้(แต่ในใจนี่จะร้องไห้ละT___T)
ช่องที่เราโดนฝรั่งสัมภาษณ์ เราโชคร้าย+ดวงซวย ยกกำลังสอง(หรือเปล่า) เจอช่องฝรั่งผู้ชาย ท้วมๆหน่อย ไม่ยิ้มเลย แล้วเพิ่งปฏิเสธวีซ่าคนก่อนหน้าเราไป เป็นนักศึกษาเหมือนกับเรา คือช่องนี้ คนก่อนหน้าเราสัมนานมากกกกก แบบเค้าเข้าไปข้างหลัง หายไปนานมาก สุดท้ายก็โดนปฏิเสธ
บทสนทนา
จนท : สวัสดีครับ
เรา : สวัสดีค่ะ(ไหว้+ยิ้มสยาม เผื่อช่วยทำคะแนน ซึ่งเค้าไม่มอง5555)
จนท : ไปทำอะไรครับ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
จนท : ไปกี่วันครับ
เรา : 16วันค่ะ
จนท : ไปที่ไหนครับ
เรา : ไป California ค่ะ(ไม่ได้ตอบว่า San fran ไม่กล้าเจาะจง เพราะกลัว Sf คนไทยเยอะมาก ที่ไปอยู่+โรบินฮู้ด)
จนท : ไปกับใครครับ
เรา : ไปกับคุณป้าค่ะ
จนท : ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : คุณป้าออกใช้ค่ะ จะดูstatementไหมคะ
จนท : โอ้ โนๆๆ
จนท : ชื่อ xxxx ใช่ไหมครับ
เรา : ใช่ค่ะ
จนท : คุณป้ามีวีซ่าแล้วใช่ไหมครับ
เรา : ใช่ค่ะ(พร้อมจะยื่นพาสปอร์ตป้า พร้อมวีซ่าให้ แต่เค้าไม่เอา)
จนท : ป้าทำงานอะไรครับ
เรา : ทำงานราชการค่ะ ที่ xxxx
จนท : เคยไปไหนมาบ้างครับ
เรา : เคยไปญี่ปุ่น 3 ครั้งค่ะ(พร้อมยื่นพาสปอร์ตเก่า ที่มีหลักฐานให้เค้าดู เค้าก็เอาไปดู)
จนท : ตอนไปญี่ปุ่น ป้าคุณไปด้วยไหมครับ
เรา : ไปค่ะ(จริงๆป้าเราไปกับเราแค่ครั้งเดียว จาก3ครั้ง แต่เราไม่ได้บอกไป ตอนนั้นตื่นเต้น)
จนท : ไปพักที่ไหนครับ
เรา : พักบ้านเพื่อนป้าค่ะ(คิดในใจ มาประเด็นนี้อีกแล้ว) คือไปเที่ยว พักบ้านเพื่อนป้า แล้วเค้าจะพาเที่ยวค่ะ
จนท : เพื่อนป้าทำงานอะไรครับ
เรา : เปิดร้านอาหารค่ะ
(จนท ก็พิมพ์ๆๆๆ สักพักนึงเลย เราก็ว่าไม่น่าผ่านละ เตรียมตัวจะหยิบจดหมายแนะนำตัวเอง ว่าเราจะกลับมาเพราะเหตุผลอะไร กับหลักฐานติดมหาลัยให้เค้าดู ว่าเราไม่ไปอยู่นู่นแน่นอน)
จนท : (เอื้อมหยิบใบขาว) เอ่อ ขอโทษด้วยครับ คุณไม่ผ่านวีซ่า บลาๆๆ ให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานว่ามีอะไรผูกพันธ์กับที่ไทย
เรา : มีค่ะ นี่ไงคะ มีจดหมายแนะนำตัวเอง กับ...(ยังพูดไม่จบ ฮีก็เซย์โนอย่างเดียวเลยค่ะ โนๆๆๆ ซอรี่ๆๆ เลยจบการสนทนา เดินคอตกออกมา)
ขอพิจารณาข้อผิดพลาดตัวเองนะคะ
- ไม่มีจดหมายจากเพื่อนป้า+จดหมายจากป้า
- ดันปาก..(ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ) ว่าเพื่อนป้าเปิดร้านอาหาร (จริงๆคือรู้ว่าถ้าพูดแล้วจะไม่ผ่าน แต่เพื่อนป้าเค้าก็เปิดร้านอาหารจริงๆ เลยได้แต่ภาวนาว่าอย่าเจอคำถามนี้ แต่ก็ไม่รอดค่ะ)
ปล. หลังจากบอกข่าวร้ายกับป้าว่าคงอดไปเหยียบอเมริกาแล้วแน่ๆ ป้าแกดันบอกมาว่า จริงๆเพื่อนป้าไม่ได้ทำร้านอาหารแล้วนะ เค้าขายไปแล้ว 2-3เดือนที่แล้ว เราก็แบบ อ้าววว ทำไมเป็นงี้ คือบอกเค้าไปแล้ว เค้าบันทึกข้อมูลไปแล้ว ***อยากถามว่า : จะแก้ไขตรงนี้ยังไงคะ เค้าจะตรวจสอบได้ไหม ว่าเราโกหก แต่เราไม่รู้จริงๆ ป้าบอกว่าถ้าบอกไปว่า เพื่อนป้าเค้ายังว่างงาน ยิ่งขอยากไปใหญ่ เราก็ไม่รู้ เฮ้ออ
- ไม่มีใบรับรองสถานภาพนักศึกษา แต่เขาก็ไม่ขอดูนะ แต่มีไว้ดีกว่า
คำแนะนำสำหรับกึ่งนักเรียน กึ่งนักศึกษาแบบเรา+คนที่มีญาติ จะไปพักบ้านญาติ แล้วญาติจะพาเที่ยว
- ถ้าเรามีจดหมายแนะนำตนเอง ยื่นไปตั้งแต่แรกเลยค่ะ เค้าอ่านหรือไม่อ่านอีกเรื่องนึง เรามายื่นตอนหลังเค้าไม่เอาแล้ว
- กึ่งนักเรียน กึ่งนักศึกษาแบบเรา ถ้ารู้ว่าจะไปอเมริกาล่วงหน้า รีบขอใบรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน+transcrip ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนเลยค่ะ อย่ารอให้จบแล้ว เลื่อนลอยแบบเรา ใบติดคณะนู่นนี่ มันไม่ใช่หลักฐานที่ยืนยันได้ว่าเราจะกลับมาเรียน
- หลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เตรียมไปให้หมดแหละค่ะ อย่าคิดว่าเรามีหลักฐานอันนี้แล้ว อาจช่วยได้เหมือนกัน เช่น เราไม่ได้ขอจดหมายของป้า เพราะคิดว่ามี statement ถึงแม้บอกว่ามีชื่อป้า ออกให้เรา เค้าก็ไม่เอาค่ะ เอาแค่จดหมายอย่างเดียว
- ถ้าคิดว่ายื่นไปก็ไม่ผ่าน เพราะเป็นสถานะแบบเรา ไม่มีหลักฐานว่าจะกลับมาแน่นอน ฯลฯ อย่ายื่นให้เสียเงินเลยค่ะ มันจะเสียเครดิตเราเปล่าๆ ว่าเราเคยถูกปฎิเสธวีซ่า มันจะอยู่กับเราอีกนานนนนเลยค่ะ รอให้หลักฐานครบ การงานมั่นคง แน่นอน ดวงดี(555) ค่อยยื่นดีกว่า ครั้งเดียวจบ
หลังจากสัมภาษณ์ออกมา เสียใจมากค่ะ เสียเงินพ่อไปฟรีๆ เสียเวลาเป็นเดือนเพื่อเตรียมเอกสาร แค่เห็นหน้าพ่อแม่ยืนชะเง้อจากข้างหน้าสถานทูต รอเราออกมา เราก็น้ำตาจะไหลแล้วค่ะ เสียใจที่ไม่สามารถตอบพ่อแม่อย่างเต็มคำได้ว่า ผ่านวีซ่า
สำหรับคนที่ไม่ผ่านเหมือนเรา ไม่เป็นไรนะคะ สู้ๆ เริ่มใหม่ เตรียมตัวใหม่ คิดซะว่าครั้งที่แล้วพลาดหลักฐานอะไรไป ครั้งต่อไปเตรียมตัวให้พร้อมขึ้น อย่าให้พลาดซ้ำ อุดรอยรั่วให้ได้ รอหน้าที่การงานมั่นคงแน่นอน ค่อยขอใหม่ก็ได้ค่ะ อเมริกาไม่ได้หนีเราไปไหน มันก็ยังอยู่ของมัน ดีไม่ดียังมีอีกหลายประเทศทั่วโลก ที่สวยกว่า และน่าไปกว่าอเมริกาตั้งเยอะนะคะ สู้ๆ เราหัวอกเดียวเนอะ ขอบคุณมากสำหรับคนที่อ่านจบนะคะ^_^
คำถามของ จขกท เอง
- มีเหตุผลไหนที่เป็นเหตุให้เคสของจขกทไม่ผ่านอีกไหมคะ นอกจากที่พิจารณาตัวเองไป
- หลักฐานเพิ่มเติมจากนี้ที่จำเป็น มีอีกไหมคะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
วีซ่าท่องเที่ยว สถานะนักศึกษาไม่ผ่าน ขอคำพิจารณาด้วยค่ะ + ให้กำลังใจคนไม่ผ่านค่ะ เราเข้าใจพวกคุณ:)
วันนี้ไปสัมภาษณ์มาแล้วค่ะ ตอน 8.15
อยากมาเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ เพื่อประโยชน์ต่อคนอื่นนะคะ
สถานภาพตอนนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป เข้าไปคนเดียวค่ะ ผู้ปกครองไม่ต้องมาให้เสียเวลา ถ้ามาก็รอด้านนอกนะคะ
- อยู่ในช่วงปิดเทอมยาว 6 เดือน จบม.ปลาย รอมอบตัวเข้ามหาลัย เพราะฉะนั้น**ไม่มีใบรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษา**
- วีซ่าท่องเที่ยว ไปเที่ยวกับคุณป้า พักที่บ้านเพื่อนป้า รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านจากกระทู้ด้านบนนะคะ
บทสนทนากับเจ้าหน้าที่คนไทยค่ะ ช่อง 15 (ดูมีอายุ ใส่แว่น หน้าตาจริงจัง ดุมาก) คงดวงไม่ดีจริงๆ
จนท : ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
จนท : พักที่ไหน
เรา : พักที่บ้านเพื่อนป้าค่ะ (มาคิดทีหลังว่าถ้าตอบเป็นชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้านจะดีกว่าไหม เพื่อเลี่ยงประเด็นคนรู้จัก แต่ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เสียงสั่น)
จนท : งั้นขอจดหมายจากเพื่อนป้าค่ะ
เรา : (ตกใจมาก เพราะไม่มี ไม่คิดว่าเค้าจะขอ เลยเงียบไปพักนึง) ไม่มีค่ะ
จนท : (ขึ้นเสียง ดูหงุดหงิด) เอ๊า แล้วจะรู้ได้ไงว่าไปพักที่นั่นจริงๆ
เรา : (เงียบไปพักนึง) แต่มีจดหมายของคุณป้าค่ะ เอ้ย ไม่ใช่ค่ะ มี statement คุณป้า และใบลาของคุณป้ามายืนยันค่ะ
จนท : งั้นขอจดหมายของคุณป้าค่ะ(เราพูดผิด แต่จนทไม่ได้ยินว่าเราพูดถึง statement)
เรา : ไม่มีค่ะ(คิดในใจว่สขออะไรก็ไม่มี ไม่ผ่านแน่) เมื่อกี้พูดผิดค่ะ
จนท : แล้วเมื่อกี้พูดว่าอะไร จดหมายอะไร(เสียงดุ มองหน้าเราด้วยT_T)
เรา : ขอโทษค่ะ เมื่อกี้พูดผิด
จนท : สแกนลายนิ้วมือ บลาๆๆๆ
หลังจากโดนจนทไทยสัมภาษณ์ไป เราก็คิดเลยว่าเราไม่ผ่านแน่ๆ เพราะเคยอ่านมาเค้าว่ากันว่าจนทไทยคือตัวการสำคัญ ว่าจะให้เรา ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน แต่เราก็ยังคิดในแง่ดีว่า เอาหน่า ยังไงก็ต้องสู้ตาย สัมภาษณ์กับฝรั่งต้องทำให้ดีๆ ยิ้มเข้าไว้(แต่ในใจนี่จะร้องไห้ละT___T)
ช่องที่เราโดนฝรั่งสัมภาษณ์ เราโชคร้าย+ดวงซวย ยกกำลังสอง(หรือเปล่า) เจอช่องฝรั่งผู้ชาย ท้วมๆหน่อย ไม่ยิ้มเลย แล้วเพิ่งปฏิเสธวีซ่าคนก่อนหน้าเราไป เป็นนักศึกษาเหมือนกับเรา คือช่องนี้ คนก่อนหน้าเราสัมนานมากกกกก แบบเค้าเข้าไปข้างหลัง หายไปนานมาก สุดท้ายก็โดนปฏิเสธ
บทสนทนา
จนท : สวัสดีครับ
เรา : สวัสดีค่ะ(ไหว้+ยิ้มสยาม เผื่อช่วยทำคะแนน ซึ่งเค้าไม่มอง5555)
จนท : ไปทำอะไรครับ
เรา : ไปเที่ยวค่ะ
จนท : ไปกี่วันครับ
เรา : 16วันค่ะ
จนท : ไปที่ไหนครับ
เรา : ไป California ค่ะ(ไม่ได้ตอบว่า San fran ไม่กล้าเจาะจง เพราะกลัว Sf คนไทยเยอะมาก ที่ไปอยู่+โรบินฮู้ด)
จนท : ไปกับใครครับ
เรา : ไปกับคุณป้าค่ะ
จนท : ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้คุณครับ
เรา : คุณป้าออกใช้ค่ะ จะดูstatementไหมคะ
จนท : โอ้ โนๆๆ
จนท : ชื่อ xxxx ใช่ไหมครับ
เรา : ใช่ค่ะ
จนท : คุณป้ามีวีซ่าแล้วใช่ไหมครับ
เรา : ใช่ค่ะ(พร้อมจะยื่นพาสปอร์ตป้า พร้อมวีซ่าให้ แต่เค้าไม่เอา)
จนท : ป้าทำงานอะไรครับ
เรา : ทำงานราชการค่ะ ที่ xxxx
จนท : เคยไปไหนมาบ้างครับ
เรา : เคยไปญี่ปุ่น 3 ครั้งค่ะ(พร้อมยื่นพาสปอร์ตเก่า ที่มีหลักฐานให้เค้าดู เค้าก็เอาไปดู)
จนท : ตอนไปญี่ปุ่น ป้าคุณไปด้วยไหมครับ
เรา : ไปค่ะ(จริงๆป้าเราไปกับเราแค่ครั้งเดียว จาก3ครั้ง แต่เราไม่ได้บอกไป ตอนนั้นตื่นเต้น)
จนท : ไปพักที่ไหนครับ
เรา : พักบ้านเพื่อนป้าค่ะ(คิดในใจ มาประเด็นนี้อีกแล้ว) คือไปเที่ยว พักบ้านเพื่อนป้า แล้วเค้าจะพาเที่ยวค่ะ
จนท : เพื่อนป้าทำงานอะไรครับ
เรา : เปิดร้านอาหารค่ะ
(จนท ก็พิมพ์ๆๆๆ สักพักนึงเลย เราก็ว่าไม่น่าผ่านละ เตรียมตัวจะหยิบจดหมายแนะนำตัวเอง ว่าเราจะกลับมาเพราะเหตุผลอะไร กับหลักฐานติดมหาลัยให้เค้าดู ว่าเราไม่ไปอยู่นู่นแน่นอน)
จนท : (เอื้อมหยิบใบขาว) เอ่อ ขอโทษด้วยครับ คุณไม่ผ่านวีซ่า บลาๆๆ ให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานว่ามีอะไรผูกพันธ์กับที่ไทย
เรา : มีค่ะ นี่ไงคะ มีจดหมายแนะนำตัวเอง กับ...(ยังพูดไม่จบ ฮีก็เซย์โนอย่างเดียวเลยค่ะ โนๆๆๆ ซอรี่ๆๆ เลยจบการสนทนา เดินคอตกออกมา)
ขอพิจารณาข้อผิดพลาดตัวเองนะคะ
- ไม่มีจดหมายจากเพื่อนป้า+จดหมายจากป้า
- ดันปาก..(ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ) ว่าเพื่อนป้าเปิดร้านอาหาร (จริงๆคือรู้ว่าถ้าพูดแล้วจะไม่ผ่าน แต่เพื่อนป้าเค้าก็เปิดร้านอาหารจริงๆ เลยได้แต่ภาวนาว่าอย่าเจอคำถามนี้ แต่ก็ไม่รอดค่ะ)
ปล. หลังจากบอกข่าวร้ายกับป้าว่าคงอดไปเหยียบอเมริกาแล้วแน่ๆ ป้าแกดันบอกมาว่า จริงๆเพื่อนป้าไม่ได้ทำร้านอาหารแล้วนะ เค้าขายไปแล้ว 2-3เดือนที่แล้ว เราก็แบบ อ้าววว ทำไมเป็นงี้ คือบอกเค้าไปแล้ว เค้าบันทึกข้อมูลไปแล้ว ***อยากถามว่า : จะแก้ไขตรงนี้ยังไงคะ เค้าจะตรวจสอบได้ไหม ว่าเราโกหก แต่เราไม่รู้จริงๆ ป้าบอกว่าถ้าบอกไปว่า เพื่อนป้าเค้ายังว่างงาน ยิ่งขอยากไปใหญ่ เราก็ไม่รู้ เฮ้ออ
- ไม่มีใบรับรองสถานภาพนักศึกษา แต่เขาก็ไม่ขอดูนะ แต่มีไว้ดีกว่า
คำแนะนำสำหรับกึ่งนักเรียน กึ่งนักศึกษาแบบเรา+คนที่มีญาติ จะไปพักบ้านญาติ แล้วญาติจะพาเที่ยว
- ถ้าเรามีจดหมายแนะนำตนเอง ยื่นไปตั้งแต่แรกเลยค่ะ เค้าอ่านหรือไม่อ่านอีกเรื่องนึง เรามายื่นตอนหลังเค้าไม่เอาแล้ว
- กึ่งนักเรียน กึ่งนักศึกษาแบบเรา ถ้ารู้ว่าจะไปอเมริกาล่วงหน้า รีบขอใบรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน+transcrip ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนเลยค่ะ อย่ารอให้จบแล้ว เลื่อนลอยแบบเรา ใบติดคณะนู่นนี่ มันไม่ใช่หลักฐานที่ยืนยันได้ว่าเราจะกลับมาเรียน
- หลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เตรียมไปให้หมดแหละค่ะ อย่าคิดว่าเรามีหลักฐานอันนี้แล้ว อาจช่วยได้เหมือนกัน เช่น เราไม่ได้ขอจดหมายของป้า เพราะคิดว่ามี statement ถึงแม้บอกว่ามีชื่อป้า ออกให้เรา เค้าก็ไม่เอาค่ะ เอาแค่จดหมายอย่างเดียว
- ถ้าคิดว่ายื่นไปก็ไม่ผ่าน เพราะเป็นสถานะแบบเรา ไม่มีหลักฐานว่าจะกลับมาแน่นอน ฯลฯ อย่ายื่นให้เสียเงินเลยค่ะ มันจะเสียเครดิตเราเปล่าๆ ว่าเราเคยถูกปฎิเสธวีซ่า มันจะอยู่กับเราอีกนานนนนเลยค่ะ รอให้หลักฐานครบ การงานมั่นคง แน่นอน ดวงดี(555) ค่อยยื่นดีกว่า ครั้งเดียวจบ
หลังจากสัมภาษณ์ออกมา เสียใจมากค่ะ เสียเงินพ่อไปฟรีๆ เสียเวลาเป็นเดือนเพื่อเตรียมเอกสาร แค่เห็นหน้าพ่อแม่ยืนชะเง้อจากข้างหน้าสถานทูต รอเราออกมา เราก็น้ำตาจะไหลแล้วค่ะ เสียใจที่ไม่สามารถตอบพ่อแม่อย่างเต็มคำได้ว่า ผ่านวีซ่า
สำหรับคนที่ไม่ผ่านเหมือนเรา ไม่เป็นไรนะคะ สู้ๆ เริ่มใหม่ เตรียมตัวใหม่ คิดซะว่าครั้งที่แล้วพลาดหลักฐานอะไรไป ครั้งต่อไปเตรียมตัวให้พร้อมขึ้น อย่าให้พลาดซ้ำ อุดรอยรั่วให้ได้ รอหน้าที่การงานมั่นคงแน่นอน ค่อยขอใหม่ก็ได้ค่ะ อเมริกาไม่ได้หนีเราไปไหน มันก็ยังอยู่ของมัน ดีไม่ดียังมีอีกหลายประเทศทั่วโลก ที่สวยกว่า และน่าไปกว่าอเมริกาตั้งเยอะนะคะ สู้ๆ เราหัวอกเดียวเนอะ ขอบคุณมากสำหรับคนที่อ่านจบนะคะ^_^
คำถามของ จขกท เอง
- มีเหตุผลไหนที่เป็นเหตุให้เคสของจขกทไม่ผ่านอีกไหมคะ นอกจากที่พิจารณาตัวเองไป
- หลักฐานเพิ่มเติมจากนี้ที่จำเป็น มีอีกไหมคะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ