เกาะหมากเป็นเกาะเล็กๆในจังหวัดตราด ผมเองก็เพิ่งรู้จักเกาะแห่งนี้เมื่อไม่นานมานี้เองครับ
ได้ยินข่าวมาว่าเกาะแห่งนี้เป็นเกาะ Low cabon ผมเลยอยากลองไปเยือนสักครั้งครับ
พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ
ทริปนี้ผมเดินทางไปกับแฟนสองคน ออกจากอนุสาวรีย์ชัย 05.30 น. ไปถึงท่าเรือแหลมงอบ ประมาณ 10.30 น. ถึงแล้วซื้อตั๋วเรือ เข้าแถวขึ้นเรือเลยครับ กระชั้นชิดนิดนึงเพราะเรือเที่ยวแรกออก 10.30 น. ที่ท่าเรือจะมีโต๊ะขายตั๋วเรือไว้บริการอยู่ครับ ค่าเรือไป-กลับ คนละ 900 บาท
ระหว่างรอขึ้นเรือครับ
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 50 นาที ก็มาถึงท่าเรือมากะธานี รีสอร์ท เกาะหมาก
ก่อนลงเรือผมได้โทรแจ้งทางรีสอร์ทที่ผมจะเข้าพักว่ามาเรือเที่ยวแรก ทางรีสอร์ทก็จะมีรถมารับที่ท่าเรือครับ
พอถึงท่าเรือจะมีคนจากทางรีสอร์ทตะโกนเรียก Banana sunset ทางนี้ครับ ผมเลยเดินตรงไปเพราะผมจองที่พักที่ Banana Sunset bar&bungalow ไว้ครับ ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่เรียบง่าย และอีกอย่างราคาไม่แพงด้วยครับ ผมจองผ่าน Booking.com ราคา 1000 บาท
ระหว่างนั่งรถ...มีสาวแอบถ่าย 55555555
นั่งรถมา 15 นาที ก็ถึงรีสอร์ทครับ พนักงานออกมาต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาครับ พูดไทยค่อนข้างชัด นิสัยน่ารักมาก....อันนี้กล้าพูดเลยครับ
หลังจากที่เชคอินเข้าที่พัก...พนักงานก็ขนของไปส่งที่ห้องพักครับ
ที่พักจะเป็นหลังๆ เรียบง่ายตามวิถีชาวเกาะ รายล้อมด้วยป่า ตัวบ้านทำจากปูน หน้าบ้านมีเปลให้นอนพักครับ
นอนหันหน้าไปหาทะเล...ดูฟินเนอะ
อีกอย่างคือที่นี่ไม่มีแอร์นะครับ แต่มีพัดลมให้ พัดลมโบราณตัวนึง พัดลมติดผนังตัวนึง มีมุ้งให้ด้วย
ดูติดดินไปหน่อย แต่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติแบบผมครับ
บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทครับ
สำรวจรอบๆเสร็จก็ทานมื้อเที่ยงกันครับ สั่งร้านอาหารที่รีสอร์ทนี่แหละครับ บรรยากาศติดทะเล...ฟินไปอีก
เติมพลังเสร็จก็เช่ามอเตอร์ไซต์สำรวจรอบๆเกาะครับ ขับไปเรื่อยๆเจอรีสอร์ทชื่อว่า เกาะหมากรีสอร์ท มีสะพานทอดยาวลงไปในทะเลด้วยครับ
มีนางแบบด้วยครับ 55555
จิกเท้ารัวๆ
ถ่ายกับป้ายสถานที่หน่อย
บรรยากาศ Low cabon จริงๆครับ
หลังจากพระอาทิตย์เริ่มดับแสงเราก็รีบขับรถกลับรีสอร์ทครับ เพราะพระอาทิตย์ตกฝั่งรีสอร์ทที่ผมพัก
มาทันแสงสุดท้ายพอดี...สั่งอาหารเย็นทานตรงนี้ซะเลย
บรรยากาศชิวๆ แบบนี้สั่ง Cocktail จิบซักแก้วก่อนนอนครับ
วันที่ 2 ตื่นนอนทำภารกิจส่วนตัว ออกไปหาอะไรกินก่อนเลยครับ
ไข่กะทะ 40 บาท อิ่มมมมม...
แสงแดด ยามเช้า กับทิวมะพร้าวบนเกาะ
นอกจากมะพร้าวแล้วชาวบ้านที่นี่ยังปลูกยางพารากันด้วยนะครับ
ขับรถชมวิวไปซักพักใกล้ถึงเวลากลับของผมแล้วครับ ต้องกลับไปโลกแห่งความจริงอีกแล้ว ก่อนกลับจะมีคนขับรถไปส่งที่ท่าเรือเกาะหมากรีสอร์ทครับ รอสักพักพนักงานก็จะเรียกเราขึ้นเรือ....กลับท่าเรือแหลมงอบครับ
ขอบคุณทุกท่านที่รับชมนะครับ
[CR] Slow life in Koh Mak ^^
พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ
ทริปนี้ผมเดินทางไปกับแฟนสองคน ออกจากอนุสาวรีย์ชัย 05.30 น. ไปถึงท่าเรือแหลมงอบ ประมาณ 10.30 น. ถึงแล้วซื้อตั๋วเรือ เข้าแถวขึ้นเรือเลยครับ กระชั้นชิดนิดนึงเพราะเรือเที่ยวแรกออก 10.30 น. ที่ท่าเรือจะมีโต๊ะขายตั๋วเรือไว้บริการอยู่ครับ ค่าเรือไป-กลับ คนละ 900 บาท
ระหว่างรอขึ้นเรือครับ
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 50 นาที ก็มาถึงท่าเรือมากะธานี รีสอร์ท เกาะหมาก
ก่อนลงเรือผมได้โทรแจ้งทางรีสอร์ทที่ผมจะเข้าพักว่ามาเรือเที่ยวแรก ทางรีสอร์ทก็จะมีรถมารับที่ท่าเรือครับ
พอถึงท่าเรือจะมีคนจากทางรีสอร์ทตะโกนเรียก Banana sunset ทางนี้ครับ ผมเลยเดินตรงไปเพราะผมจองที่พักที่ Banana Sunset bar&bungalow ไว้ครับ ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่เรียบง่าย และอีกอย่างราคาไม่แพงด้วยครับ ผมจองผ่าน Booking.com ราคา 1000 บาท
ระหว่างนั่งรถ...มีสาวแอบถ่าย 55555555
นั่งรถมา 15 นาที ก็ถึงรีสอร์ทครับ พนักงานออกมาต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาครับ พูดไทยค่อนข้างชัด นิสัยน่ารักมาก....อันนี้กล้าพูดเลยครับ
หลังจากที่เชคอินเข้าที่พัก...พนักงานก็ขนของไปส่งที่ห้องพักครับ
ที่พักจะเป็นหลังๆ เรียบง่ายตามวิถีชาวเกาะ รายล้อมด้วยป่า ตัวบ้านทำจากปูน หน้าบ้านมีเปลให้นอนพักครับ
นอนหันหน้าไปหาทะเล...ดูฟินเนอะ
อีกอย่างคือที่นี่ไม่มีแอร์นะครับ แต่มีพัดลมให้ พัดลมโบราณตัวนึง พัดลมติดผนังตัวนึง มีมุ้งให้ด้วย
ดูติดดินไปหน่อย แต่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติแบบผมครับ
บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทครับ
สำรวจรอบๆเสร็จก็ทานมื้อเที่ยงกันครับ สั่งร้านอาหารที่รีสอร์ทนี่แหละครับ บรรยากาศติดทะเล...ฟินไปอีก
เติมพลังเสร็จก็เช่ามอเตอร์ไซต์สำรวจรอบๆเกาะครับ ขับไปเรื่อยๆเจอรีสอร์ทชื่อว่า เกาะหมากรีสอร์ท มีสะพานทอดยาวลงไปในทะเลด้วยครับ
มีนางแบบด้วยครับ 55555
จิกเท้ารัวๆ
ถ่ายกับป้ายสถานที่หน่อย
บรรยากาศ Low cabon จริงๆครับ
หลังจากพระอาทิตย์เริ่มดับแสงเราก็รีบขับรถกลับรีสอร์ทครับ เพราะพระอาทิตย์ตกฝั่งรีสอร์ทที่ผมพัก
มาทันแสงสุดท้ายพอดี...สั่งอาหารเย็นทานตรงนี้ซะเลย
บรรยากาศชิวๆ แบบนี้สั่ง Cocktail จิบซักแก้วก่อนนอนครับ
วันที่ 2 ตื่นนอนทำภารกิจส่วนตัว ออกไปหาอะไรกินก่อนเลยครับ
ไข่กะทะ 40 บาท อิ่มมมมม...
แสงแดด ยามเช้า กับทิวมะพร้าวบนเกาะ
นอกจากมะพร้าวแล้วชาวบ้านที่นี่ยังปลูกยางพารากันด้วยนะครับ
ขับรถชมวิวไปซักพักใกล้ถึงเวลากลับของผมแล้วครับ ต้องกลับไปโลกแห่งความจริงอีกแล้ว ก่อนกลับจะมีคนขับรถไปส่งที่ท่าเรือเกาะหมากรีสอร์ทครับ รอสักพักพนักงานก็จะเรียกเราขึ้นเรือ....กลับท่าเรือแหลมงอบครับ
ขอบคุณทุกท่านที่รับชมนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น