คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ายอดกุนซือชาวดัทช์อย่าง หลุย ฟาน กัล คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของฟุตบอลยุคใหม่
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกระแสการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ออกมาเป็นระยะ ๆ แม้เจ้าตัวจะยืนยันแล้วว่าต้องการอยู่กับทีมต่อในฤดูกาลหน้า
วันนี้ผมจะมาบอกเหตุผลที่แฟนๆ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดควรให้โอกาสเขาอีกปี


- ผู้มีประสบการณ์ - ผู้ไม่ยอมให้อารมณ์เข้าครอบงำ
บ่อยครั้งที่กล้องจับภาพไปยังที่นั่งผู้จัดการทีมยูไนเต็ด เรามักเห็นฟาน กัล นั่งนิ่ง จดบันทึกรายละเอียดอย่างมีสมาธิต่างจากผู้จัดการทีมคนอื่น ๆ ความนิ่งนี้คือผลของประสบการณ์การคุมทีมยักษ์ใหญ่ในหลายลีกของเขา เมื่อก่อนเขาก็เคยออกมาสั่งการ ตะโกนแก้เกมข้างสนาม แต่ปัจจุบันเขาแทบไม่จำเป็นต้องลุกออกมาจากบรรลังก์ของเขาให้เสียแรง เสียกิริยาอีกต่อไป อาห์
ไม่ว่าสถานการณ์ของทีมจะเป็นอย่างไร เขาจะไม่ยอมให้อารมณ์เข้าแทรกแซงจนต้องออกไปแสดงท่าทางใด ๆ หากลองคิดว่าทีมของคุณกำลังจะแพ้ สิ่งสุดท้ายที่คุณอยากเห็นคืออะไร แน่นอน คุณไม่อยากเห็นหัวหน้ากะวนกะวายดิ้นดุ๊ก ๆ น้ำตาคลออยู่ข้างสนามหรอก จริงไหมครับ



- ผู้รักษาสัญญา
การรักษาสัญญา ทำตามคำพูด เป็นคุณสมบัติที่ผู้นำที่ดีควรมี ข้อนี้ฟาน กัล มีอย่างครบถ้วน
ที่เห็นได้ชัดคือสัญญาการคุมทีม 3 ปี เพราะไม่ว่าจะพาทีมย่ำแย่แค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดจะวางมือจากทีมไปง่าย ๆ นั้นเพราะสัญญาที่เขาให้ไว้กับยูไนเต็ดนั้นเอง ล่าสุดยืนยันว่าตนจะคุมทีมต่อไปอีกปี เหลือแต่บอร์ดจะตัดสินใจอย่างไร บอร์ดจะยอมเป็นคนไร้หัวใจแล้วไล่คนรักษาคำพูดอย่างเขาได้ลงเชียวหรือ



- ผู้นำมาซึ่งสมดุล
หนึ่งในสิ่งที่เราได้ยินเสมอจากคำพูดของฟาน กัล คือ ความสมดุล
สมัยคุมบาเยิร์นมิวนิค ฟานกัลเคยปล่อยกองหลังอย่างลูซิโอให้ทีมอินเตอร์มิลาน เพราะต้องการกองหลังเท้าซ้ายหนึ่งคนทำงานร่วมกับกองหลังเท้าขวาหนึ่งคน อาจฟังเป็นเหตุผลที่ไม่เข้าท่า แต่ลึก ๆ แล้วนี่คือหนึ่งในหลักการแห่งสมดุล เมื่อมาคุมยูไนเต็ดเขาก็ไม่ลืมที่จะสร้างความสมดุลให้กับทีม
*แผนการเล่น 3-5-2 // การลดจำนวนกองหลังให้เหลือเกือบเท่ากองหน้าสมดุลของการรุกและรับจะเกิดขึ้น สังเกตได้ว่าหลักจากเปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้กองหลังจำนวนมากกว่ากองหน้า แมนยูจะรุกไม่ดีแต่รับดีเยี่ยม
*ถอดกองหลัง ใส่กองหลัง ด้วยสกอร์ตามหลัง // แน่นอนถ้าใส่กองหน้าไปแทนกองหลัง ทีมจะเสียสมดุล และอาจจะแพ้มากกว่านี้ได้
*มีชนะย่อมมีแพ้ // หากทีมชนะติด ๆ กัน จากนั้นไม่นานทีมก็จะแพ้เพื่อสร้างสมดุลกลับมาอีกครั้ง
นี่คือหละกการง่าย ๆ ที่เขาจะใช้พายูไนเต็มสู่ความสำเร็จ



- อาจารย์ของอาจารย์คือปรมาจารย์
"ช้าก่อน!! เว้ยเส้าเทียนคือพ่อของเจ้า ซึ่งเป็นสหายรักของจางฟู้เหยินหัวหน้าพรรคกิเลนขาว ที่เก็บเจ้ามาเลี้ยงเมื่อ 22 ปีก่อน ซึ่งจริงๆแล้วก่อนที่จะเจอเจ้า เส้าฉิเฉียนแม่นางสิบสี่แห่งสำน­ักกิเลนขาว ซึ่งได้พบเจ้าข้างหนองน้ำ ใกล้เมืองเหลียงขุ่น ซึ่งเป็นที่ที่เซี๊ยะถงลี่ น้าสาวพี่แม่ ? ได้แนะนำให้ข้ารู้ ... ได้พบข้าหลี่เซี๊ยะซุย ก่อนที่จะเจอเจ้า ซึ่งอันที่จริงแล้ว ข้าเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้า­เป็นลูกของ จางฟู้เหยิน จนข้านึกขึ้นได้ถึงวันที่จางม่า­นจื่อแม่เจ้า พาข้าไปเจอพี่สาวแม่ของเจ้า ซึ่งน้าสาว..."
ฟาน กัล คือผู้ปลุกปั้นผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงอย่างเป็ปหรือมูรินโญ ก็ต่างผ่านการโบยจากฟาน กัล มาแล้วทั้งสิ้น เรียกว่าน่าแปลกใจไม่น้อยที่มีคนเรียกร้องเอาลูกศิษย์มาคุมแทนอาจารย์ซะอย่างงั้น



- ผู้ผลักดันนักเตะสู่ความสำเร็จ
อังเคิล ดิ มาเรีย ทำลายสถิติมีส่วนร่วมในการทำประตูสูงสุดในลีกเอิงของฝรั่งเศสด้วยสถิติ 18 แอสซิส คว้าแชมป์มาเชยชมในปีแรกที่ย้ายออกไป
ฮาเวีย เออนันเดส ชิชาริโต้ ก็ทำได้ดีกับการทำประตูกับสังกัดใหม่ไปถึง 17 ประตู ในปีแรกที่ย้ายออกไป จนทีมดังทั้งหลายเริ่มจับตามอง
โรบิน ฟาน เปอร์ซี ผลิตสกอร์ไปถึง 16 ประตู พาทีมคว้าอันดับสอง โดยมีหลุยส์ นานี ที่ทำไป 8 แอสซิสอยู่ในทีมเดียวกัน
ชินจิ คางาวะ ก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยมกับสังกัดเก่าที่เยอรมนี
แดนนี เวลเบ็ค ก็พาสังกัดใหม่คว้าอันดับสองของลีกพ้นวังวนอันดับสี่มาได้อย่างสวยงาม
นักเตะเหล่านี้ล้วนถูกผลักดัน(ออกจากทีม)สู่ความสำเร็จโดยฟาน กัล ทั้งนั้น



- ผู้เติมเต็มความฝัน
"ผมมีโอกาสลงเล่นนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพมาแล้วสองครับ แต่โชคไม่ดีที่ผมพลาดทั้งสองครั้งเลย แต่คราวนี้เป็นโอกาสที่ดีของพวกเรา" เวย์น รูนีย์
นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของกัปตันทีมที่หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่ผู้จัดการทีมที่รู้และเข้าใจในตัวลูกทีมอย่างถ่องแท้อย่างฟาน กัล มีหรือจะมองข้ามจุดนี้ไป เขารู้ก่อนที่รูนีย์จะออกมาบอกกับสื่อเสียอีก เขายอมทิ้งความฝันของตนในการคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีก ยอมไม่ไล่ตามแชมป์ลีก เพื่อความฝันของกัปตัน คนที่ทุ่มเทให้กับทีมมายาวนาน



- นักโทษ
"เพื่อนที่ดีย่อมเตือนเพื่อนเมื่อทำผิด" สุภาษิตซิมบับเวโบราณ
เมื่อนักเตะทำผิดพลาด กรรมการทำผิดพลาด ดวงทำผิดพลาด ยอดผู้จัดการก็ไม่เกรงกลัวที่จะออกมาว่ากล่าวตักเตือน เผื่อให้เกิดการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เรียกว่าติเพื่อก่อนั้นเอง มันอาจจะง่ายที่เราจะทำเป็นมองข้ามข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของคนอื่น แต่มันจะดีกว่าถ้าเรากล้าออกมาบอกข้อผิดพลาดเหล่านั้น



- จดจำคนที่จิตวิญญาณ ไม่ใช่ที่ชื่อ
จะมีกี่คนที่เรียกคนชื่อคริสผิดเป็นไมค์ // ฟาน กัล เคยเรียกคริส สมอลลิ่งว่าไมค์ถึงสองครั้ง นอกจากไม่ใกล้เคียงแล้วในทีมก็ยังไม่มีไมค์สักคน
ลูกทีมอาจจะสะเทือนใจ คิดกังวลไปว่าแม้แต่ชื่อหัวหน้ายังจำไม่ได้แบบนี้พวกเขาจะมีความสำคัญหรือไม่ แต่เปล่าเลย ฟาน กัล กำลังสอนนักเตะทางอ้อมในเรื่องการไม่ยึดติดกับตัวตน ไม่ยึดติดกับชื่อของตน หากคริสยังทิ้งชื่อคริสไม่ได้เขาก็ไม่มีทางก้าวเดินบนเส้นทางค้าแข้งได้หรอก
นอกจากนี้เขายังเรียกแอนโตนิโอ วาเลยเซีย ว่า แอนโทนี่ วาเลนเซีย เรียกวิล คีน ว่าไมเคิล คีนอีกด้วย


ผู้สร้างความหรรษา
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำทีมให้มีลุ้นจนถึงเกมสุดท้าย การตัดสินใจไม่เอาชนะเวสต์แฮม คว้าตั๋วเข้าที่สี่ในนัดก่อนหน้า ทั้งหมดเพื่อความสนุกในการลุ้นของแฟนบอล ลองนึกถึงจิตใจของกองเชียร์เลสเตอร์ที่ซื้อตั๋วปีแต่ทีมดันคว้าแชมป์ไปก่อนปิดฤดูกาลสองสัปดาห์ นัดที่เหลือจะน่าเบื่อขนาดไหน
และหากคืนที่ผ่านมาไม่เกิดเหตุการณ์พบวัตถุต้องสงสัยในสนาม สิ่งที่ฟาน  กัล วางแผนเอาไว้น่าจะสมบูรณ์แบบกว่านี้ แต่อย่างว่า นี่มันเหนือการควบคุมของเขา


จริง ๆ ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่เขาควรได้รับโอกาสอีกปี ไม่ว่าจะเป็นความเป็นผู้สร้างความง่วง ผู้นำเทรนด์ ยอดนักแสดง ผู้เข้าใจว่ายูไนเต็ดยิ่งใหญ่กว่าสเปอร์ ฯลฯ
แต่หากเพียงเหตุผลที่ยกมาก็น่าจะเพียงพอแล้วกับการบอกว่าเขาคือยอดผู้จัดการอันดับหนึ่งของโลก
คุณละครับ จะให้เขาอยู่ต่อไหม