สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 103
ค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ
คือที่หายไปคือไปเจรจากับทุกฝ่ายมาแล้วค่ะ
แบบว่าอึดอัดจนระเบิด 5555
เราคุยกับพ่อแม่เราว่าเราไม่ไหวแล้ว
ที่บ้านเราโอเค ยอมรับในการตัดสินใจของเรา
เราคุยกับสามีว่าเราอึดอัดเราทนไม่ไหวแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเหมือนเราไม่มีค่า
เราคุยกับพ่อแม่สามีว่าเราขอโทษ
เรารักลูกชายเค้านะ แต่เราสองคนเข้ากันไม่ได้เลย เราเปลี่ยนตัวเองจนเหนื่อยแล้ว เราไม่รู้จะต้องทำไงแล้ว พ่อแม่เค้าก็ตกใจเพราะเราร้องไห้ด้วย เรียกลุงป้าน้าอามากล่อมเรา บอกอย่าทิ้งสามีเลย จะเลิกกันทำไมรักกันก็ดีอยู่แล้ว ค่อยคุยค่อยปรับกันสิ พ่อแม่เค้าก็เหมือนช็อคไป เงียบกริ้บ ป้าเค้าขอโทษเราขอโทษแทนหลานเค้าแทนน้องเค้า(พ่อแม่สามีเรา) ขอร้องให้เราเปลี่ยนใจ แต่แม่เราก็พูดแบบไม่ไว้หน้าใครแล้วแม่เราบอกวันนี้ต้องจบ ลูกแม่ไม่ได้เลี้ยงมาให้รับใช้ใคร ลูกเขยแบบนี้แม่เราไม่เอา!! ไปขอมาให้เอามาเป็นเมียออกหน้าออกตา ไม่ใช่ขอมาทิ้งๆขว้างๆมารับใช้อะไรแบบนี้ ยาวววววเลยค่ะ หน้าหงายไปตามๆกัน #สรุป. วันนี้ไปหย่ามาเรียบร้อยแล้วค่ะ สามีพยายามง้ออยู่บอกให้โอกาสเค้าอีกทีได้มั้ย แต่เราว่าเราให้มาเยอะแล้วหมดโอกาสสำหรับเค้าแล้วค่ะ เราบอกเค้าบอกต่อหน้าญาติๆเค้าเลยว่าเราบุญไม่ถึงเค้า ไม่คู่ควรกับคนดีคนประเสริฐแบบเค้าหรอก แล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านมากับแม่เลยค่ะ เจ็บนะคะแต่ถ้าทนต่อคงเจ็บไปมากกว่านี้
ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
แต่มันจบแล้วค่ะ ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป😂
คือที่หายไปคือไปเจรจากับทุกฝ่ายมาแล้วค่ะ
แบบว่าอึดอัดจนระเบิด 5555
เราคุยกับพ่อแม่เราว่าเราไม่ไหวแล้ว
ที่บ้านเราโอเค ยอมรับในการตัดสินใจของเรา
เราคุยกับสามีว่าเราอึดอัดเราทนไม่ไหวแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเหมือนเราไม่มีค่า
เราคุยกับพ่อแม่สามีว่าเราขอโทษ
เรารักลูกชายเค้านะ แต่เราสองคนเข้ากันไม่ได้เลย เราเปลี่ยนตัวเองจนเหนื่อยแล้ว เราไม่รู้จะต้องทำไงแล้ว พ่อแม่เค้าก็ตกใจเพราะเราร้องไห้ด้วย เรียกลุงป้าน้าอามากล่อมเรา บอกอย่าทิ้งสามีเลย จะเลิกกันทำไมรักกันก็ดีอยู่แล้ว ค่อยคุยค่อยปรับกันสิ พ่อแม่เค้าก็เหมือนช็อคไป เงียบกริ้บ ป้าเค้าขอโทษเราขอโทษแทนหลานเค้าแทนน้องเค้า(พ่อแม่สามีเรา) ขอร้องให้เราเปลี่ยนใจ แต่แม่เราก็พูดแบบไม่ไว้หน้าใครแล้วแม่เราบอกวันนี้ต้องจบ ลูกแม่ไม่ได้เลี้ยงมาให้รับใช้ใคร ลูกเขยแบบนี้แม่เราไม่เอา!! ไปขอมาให้เอามาเป็นเมียออกหน้าออกตา ไม่ใช่ขอมาทิ้งๆขว้างๆมารับใช้อะไรแบบนี้ ยาวววววเลยค่ะ หน้าหงายไปตามๆกัน #สรุป. วันนี้ไปหย่ามาเรียบร้อยแล้วค่ะ สามีพยายามง้ออยู่บอกให้โอกาสเค้าอีกทีได้มั้ย แต่เราว่าเราให้มาเยอะแล้วหมดโอกาสสำหรับเค้าแล้วค่ะ เราบอกเค้าบอกต่อหน้าญาติๆเค้าเลยว่าเราบุญไม่ถึงเค้า ไม่คู่ควรกับคนดีคนประเสริฐแบบเค้าหรอก แล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านมากับแม่เลยค่ะ เจ็บนะคะแต่ถ้าทนต่อคงเจ็บไปมากกว่านี้
ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
แต่มันจบแล้วค่ะ ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป😂
ความคิดเห็นที่ 13
เราอ่านแล้วเราคิดว่าปัญหาอยู่ที่สามีคุณ ไม่ใช่พ่อแม่
สามีคุณเค้าติดใจความอบอุ่น ความรักที่พ่อแม่มีให้ เค้าเป็นคนขาดพ่อแม่ไม่ได้เอง
เค้าพอใจชีวิตแบบนี้ ชีวิตอิสระเป็นนายตัวเอง มีความสุขกับสวนและผลิตผลของเค้า
สิ่งที่เค้ารักมันก็เข้าขากับพ่อแม่เป็นอย่างดี คุยภาษาเดียวกันว่างั้น เมียเหมือนมาอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ
คุณก็เห็นว่าตอนที่เค้าไม่ได้อยู่ด้วยกันพ่อแม่เค้าก็มีชีวิตกันอยู่ได้ แต่สามีคุณนั่นแหละที่ขาดครอบครัวเค้าไม่ได้
จะมาช่วยงานพ่อแม่ก็ไม่ได้คิดแต่แรกว่าจะแยกเรือนเป็นการส่วนตัว แถมคงจะอ้อนพ่อแม่เก่งน่าดู
พ่อแม่แค่รับลูกเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะเห็นว่าลูกมีความสุขที่อยู่กับเค้ามากกว่า
ยิ่งลูกนัวเนียกับตัวเองมากแค่ไหน ก็คิดว่าเค้าจะต้องมอบความห่วงใยให้ลูกมากเท่านั้น
เราไม่รู้จะแนะนำยังไง นอกจากให้คุณลองหลาย ๆ วิธี อันไหนได้ผลก็ทำต่อ ไม่ดีก็เปลี่ยนวิธี
อันดับแรก อย่าแสดงออกนอกหน้าว่าคุณไม่พอใจพ่อแม่เค้า สำหรับเค้าพ่อแม่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ ห้ามแตะ
คุณแตะเมื่อไหร่ เค้าจะไม่ไว้ใจคุณไม่ว่าคุณจะพูดอะไร
วิธีที่ให้ลองคือ แผนแรกเข้าหาพ่อแม่เค้ามากขึ้น ทำตัวกลมกลืนทำลายกำแพงแม่ผัวลูกสะใภ้
คุณบอกว่าเค้านอนคุยกัน คุณเข้าไปคุยแล้วคุยไม่รู้เรื่องต่อไม่ติดจนต้องหลบออกมา
คราวหน้าอย่าออกมา ชวนเค้าคุยเรื่องที่เค้าสนใจและสนุก เข้าขากับพวกเค้าให้ได้
ถ้าคุณคุยกะเค้าไม่ได้ คุณก็จะกลายเป็นคนนอกอยู่เรื่อย และตลอดไป
แผนสอง ดึงสติสามีว่าอย่าเป็นลูกแหง่มากนัก พาเค้าไปเจอครอบครัวเพื่อน ๆ ที่เค้าอยู่กันพ่อแม่ลูก
อย่างมีความสุข อบอุ่น หรือชวนเค้าไปเที่ยวที่โรแมนติกกันสองคน (วันเกิดเค้าหรือของคุณ
บอกเค้าไปเลยว่าจองโรงแรมสำหรับสองคนไว้แล้ว อ้างว่าแม่คุณให้เป็นของขวัญก็ได้)
ตกลงกันว่าทุกวันอะไรจะต้องมีวันของคุณสองคน วันที่ไม่มีใครรับโทรศัพท์
หรือไม่มีนัด และไปกินข้าวกันสองคน คุณเองก็ต้องอ้อนสามีบ้างนะ
ถ้าคุณพยายามทุกอย่างแล้ว แต่เหนื่อยเปล่า ก็คิดดูว่าจะอยู่ต่อหรือจะไป
อ้อ...หางานทำเป็นความคิดที่ดี และอย่าเพิ่งรีบมีลูกค่ะ ถึงมีลูก คุณก็เป็นผู้ช่วยแม่สามีเลี้ยงลูกคุณอยู่ดี
แม่เค้าจะเป็นคนจัดการเองแน่ ๆ ว่าจะเลี้ยงยังไงแบบไหน โดยมีสามีคุณสนับสนุนตามเคย
สามีคุณเค้าติดใจความอบอุ่น ความรักที่พ่อแม่มีให้ เค้าเป็นคนขาดพ่อแม่ไม่ได้เอง
เค้าพอใจชีวิตแบบนี้ ชีวิตอิสระเป็นนายตัวเอง มีความสุขกับสวนและผลิตผลของเค้า
สิ่งที่เค้ารักมันก็เข้าขากับพ่อแม่เป็นอย่างดี คุยภาษาเดียวกันว่างั้น เมียเหมือนมาอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ
คุณก็เห็นว่าตอนที่เค้าไม่ได้อยู่ด้วยกันพ่อแม่เค้าก็มีชีวิตกันอยู่ได้ แต่สามีคุณนั่นแหละที่ขาดครอบครัวเค้าไม่ได้
จะมาช่วยงานพ่อแม่ก็ไม่ได้คิดแต่แรกว่าจะแยกเรือนเป็นการส่วนตัว แถมคงจะอ้อนพ่อแม่เก่งน่าดู
พ่อแม่แค่รับลูกเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพราะเห็นว่าลูกมีความสุขที่อยู่กับเค้ามากกว่า
ยิ่งลูกนัวเนียกับตัวเองมากแค่ไหน ก็คิดว่าเค้าจะต้องมอบความห่วงใยให้ลูกมากเท่านั้น
เราไม่รู้จะแนะนำยังไง นอกจากให้คุณลองหลาย ๆ วิธี อันไหนได้ผลก็ทำต่อ ไม่ดีก็เปลี่ยนวิธี
อันดับแรก อย่าแสดงออกนอกหน้าว่าคุณไม่พอใจพ่อแม่เค้า สำหรับเค้าพ่อแม่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ ห้ามแตะ
คุณแตะเมื่อไหร่ เค้าจะไม่ไว้ใจคุณไม่ว่าคุณจะพูดอะไร
วิธีที่ให้ลองคือ แผนแรกเข้าหาพ่อแม่เค้ามากขึ้น ทำตัวกลมกลืนทำลายกำแพงแม่ผัวลูกสะใภ้
คุณบอกว่าเค้านอนคุยกัน คุณเข้าไปคุยแล้วคุยไม่รู้เรื่องต่อไม่ติดจนต้องหลบออกมา
คราวหน้าอย่าออกมา ชวนเค้าคุยเรื่องที่เค้าสนใจและสนุก เข้าขากับพวกเค้าให้ได้
ถ้าคุณคุยกะเค้าไม่ได้ คุณก็จะกลายเป็นคนนอกอยู่เรื่อย และตลอดไป
แผนสอง ดึงสติสามีว่าอย่าเป็นลูกแหง่มากนัก พาเค้าไปเจอครอบครัวเพื่อน ๆ ที่เค้าอยู่กันพ่อแม่ลูก
อย่างมีความสุข อบอุ่น หรือชวนเค้าไปเที่ยวที่โรแมนติกกันสองคน (วันเกิดเค้าหรือของคุณ
บอกเค้าไปเลยว่าจองโรงแรมสำหรับสองคนไว้แล้ว อ้างว่าแม่คุณให้เป็นของขวัญก็ได้)
ตกลงกันว่าทุกวันอะไรจะต้องมีวันของคุณสองคน วันที่ไม่มีใครรับโทรศัพท์
หรือไม่มีนัด และไปกินข้าวกันสองคน คุณเองก็ต้องอ้อนสามีบ้างนะ
ถ้าคุณพยายามทุกอย่างแล้ว แต่เหนื่อยเปล่า ก็คิดดูว่าจะอยู่ต่อหรือจะไป
อ้อ...หางานทำเป็นความคิดที่ดี และอย่าเพิ่งรีบมีลูกค่ะ ถึงมีลูก คุณก็เป็นผู้ช่วยแม่สามีเลี้ยงลูกคุณอยู่ดี
แม่เค้าจะเป็นคนจัดการเองแน่ ๆ ว่าจะเลี้ยงยังไงแบบไหน โดยมีสามีคุณสนับสนุนตามเคย
ความคิดเห็นที่ 1
พลาดตั้งแต่ยอมเขาก่อนแต่งงาน
ตอนเขายื่นคำขาดว่าแต่งแล้วต้องอยู่บ้านเขาเท่านั้น ไม่งี้นไม่ต้องแต่ง
แสดงว่าพ่อแม่เขาไม่ได้แคร์คุณเลย
ตอนนั้นคุณควรจะเด็ดขาด ตอบแฟนไปเลย งั้นไม่แต่ง
เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า คุณได้สามี เป็นไม้หลักปักขี้เลน
พี่ก้อไม่รู้จะเมนท์อย่างไรดี เพราะจริงๆ พ่อแม่สามีก้อแก่มากแล้ว
ถ้าคุณรักสามีมากพอ เรื่องตรงนี้ทนได้ทนไปเหอะ
แต่ไอ้เรื่องจะให้สามีแยกครอบครัวออกมาจะด้วยวิธีใด
จากทีอ่านความเป้นสามีคุณในกทนี้แล้ว
บอกตรงๆ เลย ยากกกกกกกกกกกกกกกกส์
ตอนเขายื่นคำขาดว่าแต่งแล้วต้องอยู่บ้านเขาเท่านั้น ไม่งี้นไม่ต้องแต่ง
แสดงว่าพ่อแม่เขาไม่ได้แคร์คุณเลย
ตอนนั้นคุณควรจะเด็ดขาด ตอบแฟนไปเลย งั้นไม่แต่ง
เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า คุณได้สามี เป็นไม้หลักปักขี้เลน
พี่ก้อไม่รู้จะเมนท์อย่างไรดี เพราะจริงๆ พ่อแม่สามีก้อแก่มากแล้ว
ถ้าคุณรักสามีมากพอ เรื่องตรงนี้ทนได้ทนไปเหอะ
แต่ไอ้เรื่องจะให้สามีแยกครอบครัวออกมาจะด้วยวิธีใด
จากทีอ่านความเป้นสามีคุณในกทนี้แล้ว
บอกตรงๆ เลย ยากกกกกกกกกกกกกกกกส์
แสดงความคิดเห็น
สามีติดพ่อแม่มาก!!! อึดอัด ควรทำไงดี?
เราคบกันมา 4 ปี และพึ่งแต่งงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว
ตอนคบกันเป็นแฟนก็พอรู้ๆนะคะว่าเค้าเป็นคนรักครอบครัว
รักพ่อแม่มาก สมาชิกในครอบครัวเค้ามี 4 คน
พ่อ แม่ พี่ชาย ตัวเค้า ครอบครัวอบอุ่นเลยเชียว
แต่พี่ชายเค้าแต่งงานและย้ายไปอยู่กทม. ที่บ้านจึงเหลือแค่พ่อแม่
ก่อนแต่งงานเราก็ไปเที่ยวบ้านเค้าหลายครั้งนะ
ไปค้างคืนเวลาบ้านเค้าทำบุญหรือมีงานงี้
ก็ยังไม่เท่าไหร่ จนเราตัดสินใจจะแต่งงานกัน
พ่อแฟนก็ยื่นคำขาดมาว่าถ้าแต่งงานแล้วต้องไปอยู่บ้านเค้านะ!!
ไม่งั้นไม่ให้แต่งนะ! คือพูดทำนองหยอกเย้าเอาขำๆ
แต่เรารู้สึกว่ามันทะๆแปลกๆ.. ><
จนที่สุดเราก็แต่งงานกัน..
คือตอนเป็นแฟนเนี่ยเราสองคนทำงานอยู่จังหวัดเดียวกัน
ครอบครัวแฟนก็อยู่อีกจังหวัด ครอบครัวเราก็อยู่อีกจังหวัด
เราจะได้กลับบ้านก็เวลาเทศกาลหรือวันหยุด ซึ่งก็จะเวียนบ้านเธอบ้านฉัน
คือพยายามแบ่งเวลาให้พ่อแม่สองบ้านเท่าๆกันน่ะแหละ
หลังแต่งงานได้สามเดือน สามีเราก็ลาออกจากงานโดยเราก็ลาออกเช่นกัน
เพื่อกลับไปอบู่บ้านต่างจังหวัดของสามี
อ่อ ที่บ้านสามีอาชีพหลักคือทำไร่ทำสวนนะคะ
ส่วนบ้านเราพ่อเราเป็นอดีตข้าราชการ แม่มีกิจการค้าขายค่ะ
ทั้งที่แม่เราอยากให้เราอยู่บ้านตัวเองมากกว่า
แต่พ่อสามีเราอ้างว่าไม่มีใครช่วยงาน พี่ชายเค้าก็ไปรับราชการที่กรุงเทพ
ถ้าสามีเราไม่สืบต่อทำไร่ทำสวนก็ไม่รู้จะให้ใครทำแล้วมีกันแค่นี้
เราก็เลยคุยกับแม่เราว่าสงสาร ฝั่งนู้นไม่มีใครเลยจริงๆบ้านเรายังมีพี่ชายเราอีกตั้งสองคน
แม่เราเลยยอมให้ย้ายไป #แต่เรากับสามีไม่มีใครเคยทำไร่ทำสวนมาเลยนะ
...............
หลังจากแต่งเข้าบ้านสามีมา เราเป็นแม่บ้านเต็มตัว
ทำแต่งานบ้าน ตื่นแต่ตีสี่ตีห้ามาหุงข้าวทำกับข้าว
#ทั้งที่เราทำกับข้าวไม่เป็นมาก่อน แต่เราอาศัยเปิดgoogleช่วย 555
พยายามทำหน้าที่ศรีสะใภ้ที่ดี
วันดีคืนดีเราก็ต้องออกไปทำไร่ไปถางหญ้า
ไปนอนเฝ้าไร่เฝ้าเครื่องสูบน้ำกับสามีบ้างบางคืน
เราอดทนทุกอย่าง..เพราะรัก
สามีเราจริงจังกับการทำไร่มากกกกก วันๆคิดแต่จะออกไปไร่
จะไปไหนก็ห่วงว่าใครใส่ปุ๋ยรึยัง น้ำพอมั้ย ตรงไร่นั้นพรวนรึยัง
ออกไปไร่ตั้งแต่เช้าาาาา กลับมาแค่กินข้าวเที่ยงแล้วก็ออกไปไร่
กลับมาอีกทีคือเวลากินข้าวเย็น เป็นแบบนี้ทุกวัน
จนเรารู้สึกเหมือนโดนแย่งเวลา..เหมือนโดนแย่งสามีไปอ่ะ
เวลาที่เราจะได้คุยกันวันๆนึงมีน้อยมาก
เวลาจะจู๋จี๋อี๋อ๋อยิ่งไม่ต้องพูดถึง กลับมาก็หลับเป็นตาย
เราพยายามเข้าใจนะ เรารู้ว่าเค้าเหนื่อยเราก็สงสาร
........
เข้าเรื่องดีกว่า ....
คือด้วยเวลาสวีทอันน้อยนิดของเรามันมีน้อยมากกก
เราก็พยายามทวงคืนแหละ
แต่อุปสรรคของเราคือพ่อแม่สามีนี่แหละค่ะ
พวกท่านเกาะติดสามีเราไปทุกที่!!!!
เช้ามืดก็มาเคาะห้องเรียกไปไร่ ปล่อยเราทำกับข้าวหัวฟูไว้รอ
7.00 น. ก็กลับมากินข้าวเช้า แล้วก็ไปกันปล่อยเราเก็บกวาดเช็ดถู
บางทีสามีแวะกลับมาเอาของ พ่อก็จะรีบโทรตามให้ออกไป
วันไหนไม่ได้ไปไร่ภาพที่เราเห็นจนเอือมคือพ่อแม่ลูกนั่งกกกัน
นอนหนุนตักกัน ..แรกๆเราก็ชื่นชมว่าน่ารัก อบอุ่นดี
แต่หลังๆชักจะเยอะไปนะเราว่า
บางคืนพ่อแม่ลูกเค้าก็จะไปปูเสื่อนอนกันหน้าระเบียงบ้าน
นอนคุยกันหนุงหนิงเหมือนจากกันไปหลายวัน
ทั้งที่อยู่ด้วยกันทุกวันน่ะแหละ 😒
เราเคยไปขอนอนกับเค้ามั่งนะ ผลคือเค้าก็คุยกันสามคน
ปล่อยเราเป็นส่วนเกินเคว้งคว้างจนต้องรีบๆหลับให้พ้นๆ
เวลากินข้าวก็จะตักให้กันแทบจะป้อน
จนเราเอือมระอาเราเลยขอออกไปหางานทำข้างนอก
เราให้สามีพาไปสมัครงาน ปรากฎว่าทุกๆ15นาที
คุณพ่อคุณแม่จะสลับกันโทรถามตลอด..
ไอ้หนูถึงไหนแล้ว.. จะไปไหนมั่ง แวะไหนรึป่าว กลับกี่โมง บลาบลา..
ปั้ดโท่ววว..! ไม่รู้จะห่วงอะไรกันขนาดนั้น
สามีเราก็รีบบบบบบ แบบว่าเราชวนหาไรกินก่อนเข้าบ้านกัน
เค้าบอกไว้ไปกินที่บ้านดีกว่า แม่รอ.. เฮ้อ!
คือเราหาเวลาอยู่ลำพังกับสามียากมากกก
เวลาเราจะกลับบ้านต่างจังหวัดเรา พ่อแม่สามีจะอิดออดไม่ค่อยอยากให้ไป
คือจริงๆไม่อยากให้ลูกเค้ามาส่งแหละ
แต่แม่เราไม่ยอมให้เรานั่งรถตู้มาเอง สามีเลยต้องมาส่ง
คิดดูนะอิดออดกันจนเก้าโมงยังไม่ได้ออกจากบ้านอ่ะ
จากบ้านเค้ามาบ้านเราใช้เวลา 4 ชม.
มัวแต่ร่ำลาประหนึ่งลูกชายจะออกรบ. เรานั่งคอยในรถจนเบื่ออ่ะ
มาเกาะประตูรถจับไม้จับมือลูบหัวกันเป็นชั่วโมง
เราไหว้ลาไปสามรอบเค้ายังลากันไม่เสร็จ หอมกันอยู่นั่น
เราลูกสาวเรายังไม่มุ้งมิ้งกะแม่เราขนาดนี้เลยเฮ้ย
ลากันขนาดนั้นยังไม่หนำใจ ระหว่างทางนี่โทรตลอดดด
ถึงไหนแล้ว.. พักรถที่ไหน.. กินข้าวรึยัง.. กินอะไร...
สารพัดที่เราว่ามันเยอะไปแระนะ
ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ไม่ว่าเรากับสามีจะไปไหน
จะกลับบ้าน ไปสมัครงาน ไปหาเพื่อน ไปงานเลี้ยงอะไรก็ตามแต่
.......
ล่าสุด เพื่อนสามีเราบวช พ่อแม่ก็ตามไปด้วยเลยจ้า
ไปนั่งแบบไม่รู้จักใครซักคน
เพื่อนๆก็งงว่าเอาพ่อแม่มาด้วย?
งานแต่งเพื่อนก็เช่นกัน ตามติดชีวิตดาวสุดๆ
คือเราอึดอัดมากนะแบบนี้
แต่งงานแต่ไม่เคยมีเวลาส่วนตัวสวีทกันเลย
มีใครติดพ่อแม่ หรือ พ่อแม่ตามติดขนาดนี้มั้ย
......
เราเคยเปิดใจคุยกับสามีว่าเราอยากแยกออกไปปลูกบ้านเอง
ที่ว่างหลังบ้านพ่อแม่ก็มี แต่เราไม่อยากอยู่รวมในบ้านแบบนี้
สามีเราบอกนี่ก็บ้าน จะไปปลูกอีกหลังทำไม?
คืออะไร เข้าใจมั้ยว่าเราอึดอัด
เหมือนสามีจะไม่เข้าใจะไรทั้งนั้น
เค้ามีความสุข ได้อยู่กับพ่อกับแม่
ไม่คิดถึงคนเป็นเมียที่ต้องทนสารพัดงานบ้านงานครัว
เวลาญาติๆมาเรางี้เหมือนนางทาสมากอ่ะ
ต้องปั้นหน้ายิ้มเข้าไว้ เหนื่อยแค่ไหนก็ยิ้มมม
แค่อยากจะมีช่วงเวลาของครอบครัวเราเองบ้าง
คือไม่รู้จะพูดกับเค้าวิธีไหนแล้วล่ะ
รักพ่อแม่รักครอบครัวมันก็ดี แต่อย่าลืมว่าตัวเองโตแล้ว
มีเมียแล้ว มีครอบครัวแล้ว ใส่ใจเมียบ้างเว้ย
จะบอกเค้ายังไงดี????