มีข่าวเล็กๆขนาดใหญ่ๆจากสำนักข่าวอิศราเมื่อวานซืน
ข่าวการเสียชีวิตของนายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาคดีกบฏแบ่งแยกดินแดน แกนนำคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังวิกฤติไฟใต้ตัวจริงเสียงจริง
เป็นผู้กุมศูนย์อำนาจสั่งการขบวนการแบ่งแยกดินแดน
เป็นผู้วางแผนบุกค่ายทหารปล้นปืน 413 กระบอก อันระบือลือลั่น เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา
นายมะแซ อุเซ็ง เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อเรื้อรัง เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ประเทศมาเลเซีย
การตายของ “นายมะแซ อุเซ็ง” ถือเป็นการสูญเสียผู้นำสูงสุดแบบ “ทูอินวัน”
1, เสียแม่ทัพใหญ่กลุ่มบีอาร์เอ็น ที่มีเครือข่ายมากที่สุด และเข้มแข็งที่สุดในปัจจุบัน
2, เสียเสนาธิการใหญ่สุดยอดนักวางแผนก่อการร้ายทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งทางการไทยพยายามไล่ล่าหาตัวมานานหลายปี
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆ นายมะแซ อุเซ็ง เป็นชาวอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีหมายจับคดีกบฏ คดีอั้งยี่ซ่องโจร คดีก่อการร้ายมากมายหลายคดี
ได้หลบหนีการจับกุมไปตั้งศูนย์บัญชาการเคลื่อนไหวในมาเลเซีย
ใช้วิธีสั่งการผ่านแกนนำบีอาร์เอ็นที่กระจายอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้โดยตรง
บางครั้งก็ลอบเข้ามาประชุมวางแผนในเขตไทยเป็นครั้งคราว
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ข้อมูลฝ่ายความมั่นคงระบุว่า “นายมะแซ อุเซ็ง” คือผู้มีบทบาทสำคัญในการจุดไฟใต้ให้ลุกโชนมากว่า 12 ปี
เป็นเจ้าของแผนปฏิวัติ 7 ขั้นของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
เริ่มตั้งแต่ปลุกระดม ก่อความไม่สงบ จนถึงขั้นใช้กองกำลังติดอาวุธสู้รบกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาล ฯลฯ
เพื่อแบ่งแยก 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย ไปจัดตั้งเป็นรัฐอิสลามปัตตานีให้สำเร็จภายใน 3 ปี
แต่แผนปฏิวัติ 7 ขั้นภายใน 3 ปีของนายมะแซ อุเซ็ง ไม่สำเร็จ และไม่มีทางสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
วันเวลาผ่านไปกว่า 12 ปี ได้ข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดน ไม่สามารถแยก 3 จังหวัดภาคใต้ออกจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการเสียชีวิตของ “นายมะแซ อุเซ็ง” แม่ทัพใหญ่ตัวจริง
ในขณะที่ “นายสะแปอิง บาซอ” ผู้นำสูงสุด (ด้านจิตวิญญาณ) ก็มีอายุมากและมีอาการป่วยเรื้อรัง
จะทำให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนถดถอยและอ่อนแอลง
อาจเป็นจุดเปลี่ยนทำให้สถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้คลี่คลายขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่าบรรดาแกนนำที่ยังเคลื่อนไหวอยู่จะเริ่ม “ตาสว่าง” มองเห็นความจริง
ความจริงคือแนวคิดแยกดินแดนไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ
ถ้ายังเคลื่อนไหวอย่างนี้อีก 5 ปี 10 ปี 20 ปี สถานการณ์ก็ยังเป็นเกมแมวไล่จับหนู หนูลอบกัดหางแมว ซํ้าซากวนเวียนเหมือนเดิม
“แม่ลูกจันทร์” ถามว่าถึงเวลาที่จะมีการเจรจาปรองดองเพื่อร่วมกันนำสันติสุขกลับคืนสู่ชายแดนใต้หรือยัง??
12 ปียังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกที.
"แม่ลูกจันทร์"
https://www.thairath.co.th/content/619613
แกนนำคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังวิกฤติไฟใต้ตัวจริงเสียงจริง
ข่าวการเสียชีวิตของนายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องหาคดีกบฏแบ่งแยกดินแดน แกนนำคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังวิกฤติไฟใต้ตัวจริงเสียงจริง
เป็นผู้กุมศูนย์อำนาจสั่งการขบวนการแบ่งแยกดินแดน
เป็นผู้วางแผนบุกค่ายทหารปล้นปืน 413 กระบอก อันระบือลือลั่น เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา
นายมะแซ อุเซ็ง เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อเรื้อรัง เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ประเทศมาเลเซีย
การตายของ “นายมะแซ อุเซ็ง” ถือเป็นการสูญเสียผู้นำสูงสุดแบบ “ทูอินวัน”
1, เสียแม่ทัพใหญ่กลุ่มบีอาร์เอ็น ที่มีเครือข่ายมากที่สุด และเข้มแข็งที่สุดในปัจจุบัน
2, เสียเสนาธิการใหญ่สุดยอดนักวางแผนก่อการร้ายทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งทางการไทยพยายามไล่ล่าหาตัวมานานหลายปี
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆ นายมะแซ อุเซ็ง เป็นชาวอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีหมายจับคดีกบฏ คดีอั้งยี่ซ่องโจร คดีก่อการร้ายมากมายหลายคดี
ได้หลบหนีการจับกุมไปตั้งศูนย์บัญชาการเคลื่อนไหวในมาเลเซีย
ใช้วิธีสั่งการผ่านแกนนำบีอาร์เอ็นที่กระจายอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้โดยตรง
บางครั้งก็ลอบเข้ามาประชุมวางแผนในเขตไทยเป็นครั้งคราว
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ข้อมูลฝ่ายความมั่นคงระบุว่า “นายมะแซ อุเซ็ง” คือผู้มีบทบาทสำคัญในการจุดไฟใต้ให้ลุกโชนมากว่า 12 ปี
เป็นเจ้าของแผนปฏิวัติ 7 ขั้นของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
เริ่มตั้งแต่ปลุกระดม ก่อความไม่สงบ จนถึงขั้นใช้กองกำลังติดอาวุธสู้รบกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาล ฯลฯ
เพื่อแบ่งแยก 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย ไปจัดตั้งเป็นรัฐอิสลามปัตตานีให้สำเร็จภายใน 3 ปี
แต่แผนปฏิวัติ 7 ขั้นภายใน 3 ปีของนายมะแซ อุเซ็ง ไม่สำเร็จ และไม่มีทางสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
วันเวลาผ่านไปกว่า 12 ปี ได้ข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดน ไม่สามารถแยก 3 จังหวัดภาคใต้ออกจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการเสียชีวิตของ “นายมะแซ อุเซ็ง” แม่ทัพใหญ่ตัวจริง
ในขณะที่ “นายสะแปอิง บาซอ” ผู้นำสูงสุด (ด้านจิตวิญญาณ) ก็มีอายุมากและมีอาการป่วยเรื้อรัง
จะทำให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนถดถอยและอ่อนแอลง
อาจเป็นจุดเปลี่ยนทำให้สถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้คลี่คลายขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่าบรรดาแกนนำที่ยังเคลื่อนไหวอยู่จะเริ่ม “ตาสว่าง” มองเห็นความจริง
ความจริงคือแนวคิดแยกดินแดนไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ
ถ้ายังเคลื่อนไหวอย่างนี้อีก 5 ปี 10 ปี 20 ปี สถานการณ์ก็ยังเป็นเกมแมวไล่จับหนู หนูลอบกัดหางแมว ซํ้าซากวนเวียนเหมือนเดิม
“แม่ลูกจันทร์” ถามว่าถึงเวลาที่จะมีการเจรจาปรองดองเพื่อร่วมกันนำสันติสุขกลับคืนสู่ชายแดนใต้หรือยัง??
12 ปียังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกที.
"แม่ลูกจันทร์"
https://www.thairath.co.th/content/619613