กระทู้นี้ เป็นการรีวิวครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปกติผมมีเวลาว่างชอบนั่งอ่าน Pantip มากกว่าที่จะอ่านหนังสือเป็นเล่ม เหตุผลเพราะ Pantip จะมีเรื่องราวต่างๆ ที่ทันสมัย และมีคนที่เขียนกระทู้แบบสรุปใจความห้องประจำที่ผมฝั่งตัวจะเป็นห้อง บลูแพลนเน็ต จะหาข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ แล้วก็เก็บข้อมูลไว้ไปเที่ยว เช่น กวางโจว ซึ่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางเองผมอ่านจากกระทู้ของหลายๆท่านที่ได้รีวิวไว้ ครั้งแรกผมว่าจะรีวิวกวางโจว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สมัครสมาชิก Pantip พออ่านในห้อง บลูแพลนเน็ต แต่หลายๆ ท่าน รีวิว อินโดนีเซีย คุณหมิง เยอะมาก ซึ่งตัวผมเอง ได้ไปเที่ยวทั้งสองที่เหมือนกันกับท่านอื่นๆ อยากจะแชร์สถานที่ท่องเที่ยวท่องเที่ยวให้คนอื่นอ่าน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา
มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ อินโดนีเซียช่วง เทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 7 – 12 กุมภาพันธ์ 2559 เดินทางโดย Air Asia จากดอนเมือง ไปลงจาการ์ตา ไปกลับ 2 คน ค่าเครื่องรวมโหลดกระเป๋า 20 Kg ประมาณ 8900 บาทครับ
ก่อนการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลง หลายอย่าง จึงตัดสินใจซื้อ กระเป๋าเป้สะพายหลัง ยี่ห้อ Ospre จำนวน 2 ใบ ใบละ 6,990 บาท และถุงคลุมกระเป๋าไว้สำหรับโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง ใบละ 1,200 บาท ลงทุนซื้อกระเป๋าวันนี้หมดไป 16,290 บาท
ดีนะถูกหวยแต่ไม่เยอะก็พอสมทบทุนซื้อกระเป๋า ทีแรกคิดว่าซื้อไปจะคุ้มค่าไหม แต่ใช้งานจริง ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ ใช้เดินทางไป 2 ประเทศ ตัวกระเป๋าเองมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน แต่ก่อนที่จะนำมาส่งซ่อม ต้องซักทำความสะอาดก่อนไม่อย่างนั้นทางตัวแทนจำหน่ายจะไม่รับซ่อม
จัดสรรงบประมาณใช้จ่าย 5 วัน ตกวันละ 800,000 คงพอ วันนั้นแลกไป 4,000,000 รูเปียห์ เป็นเงินไทยอยู่ที่ 10,400 บาท ใช้จริง 8,000 บาท ยังมีเงินเหลือกลับบ้านไปทริปหน้าอีก 2,000
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 เครื่องออกจากดอนเมือง สายการบินแอร์เอเชียได้ประกาศเป็นภาษาบาฮาซา อินโดนีเซีย และภาษาอังกฤษ ตกใจครับปกติ ปกติขึ้นเครื่องจะมีประกาศเป็นภาษาไทยก่อน แอร์ของสายการบินอินโดนีเซียแอร์แอร์เอเชีย สวย หน้าคม แต่สจ๊วดเปรียบเทียบกับคนไทย คนบ้านเราหล่อกว่า ผมว่าคงหน้าตาคงหล่อสุดบ้านเขา สจ๊วดสูงประมาณ 165 ครับ ที่อินโดนีเซียคงเลือกคนจากความสามารถมากกว่าหน้าตาครับ ระหว่างเครื่องออกจากกรุงเทพฯ แอร์ก็ให้ใบกรอกคนเข้าเมือง แต่เป็นภาษาบาฮาซา ตกใจครับ เลยขอเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ ตามภาพครับ ขออภัยภาพไม่ชัดเนื่องจากถ่ายจากมือถือระหว่างบนเครื่อง
โชคดีหน่อย ที่มีคนอินโดนีเซียนั่งข้างๆ เลยสอบถามว่า ข้อมูลต้องกรอกอย่างไร พอเครื่องมาถึงที่ท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา ต้องนั่งรถบัสไปยัง Terminal 3 เจ้าหน้าตรวจคนที่เข้าเมือง ถามผมด้วยภาษาบาฮาซา ผมก็งง เป็นไก่ตาแตก แปบหนึ่งแล้วผมก็สื่อสารภาษาอังกฤษกับเจ้าหน้าที่ เขาก็ถามว่ามากี่วัน พักที่ไหน (คิดในใจคิดว่าเราเป็นลูกครึ่งอินโดหรือไง) แต่อีกคนที่มาด้วยกันกลับไม่ถามชักคำถามเลย ตลอดทั้งทริปนี้ เดินทางโดย Toyota Avanza ที่อินโดจะเป็นโรงงานผลิตรถครอบครัวโดยเฉพาะครับ ไม่มีรถกระบะครับ เขาจะนิยม Avanza รองลงมาที่เห็นคือ Freed
ออกมาจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา บนถนนหน้าสนามบินในเมืองจาการ์ต้าสมแล้วจริงๆ ที่เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก มีคนขายกินเล็กๆ น้อยๆ คล้ายๆ กับบ้านเราครับ ผมเห็นชื่อรุ่นรถ Toyota LIMO ซึ่งนำมาเป็นแท็กซี่ ลักษณะเหมือน Toyota vios 2010 ของบ้านเราครับ แต่เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน จึงไม่ได้นำรูปมาฝาก
มองไปเห็นสติกเกอร์ที่ติดในรถบรรทุกครับ ที่อินโดนีเซียนี้ดีกว่าบ้านเราผมว่า เขาจัดการกับรถบรรทุกได้ดีครับ ลักษณะเหมือนกับรถจะต้องไปตรวจสภาพรถก่อน ถึงจะมาต่อพรบ เสียภาษีได้ที่กรมการขนส่งทางบก ที่อินโด ประมาณนี้ครับ
พอเข้าทางด่วนครับ เดินทางจากจาเมืองการ์ตา มายังเมืองเบกาซี ค่าทางด่วน ตกประมาณ 12 บาทครับ
มาถึงเมืองเบกาซี่ ดึกแล้ว แวะรับประทานอาหาร ไปทานอาหารที่ร้านของคนรู้จักของเพื่อน เพื่อนผมถามว่าชอบทานอะไร ผมก็ตอบไปว่า อะไรก็ได้ยกเว้นเนื้อ ผมไม่ทานเนื้อ ร้านอาหารที่นี้
ชอบผัดผักบุ้งครับ รสชาติ คล้ายๆ บ้านเรา ผักใส่ไข่นกกระทา เสริฟใส่กระทะร้อน คล้ายกับใส่กระทะหอยทอด ซึ่งที่บ้านเราผมไม่เคยเห็นแบบนี้
พอถึงบ้านเพื่อน ประมาณ 2 ทุ่ม เพื่อนก็ชวนไปซิมการ์ด อินโดนีเซียอยู่ด้านล่างของบ้านเพื่อน โดยเลือกผู้ให้บริการคือ INDOSAT ผมเลือก Package เน็ต 2 GB ในราคา 40,000 รูเปียห์ ราคาตกประมาณ 104 บาท โดยลงทะเบียนเป็นชื่อของเพื่อน อินเตอร์เน็ตเร็วมากครับ บริการเป็นแบบ 4G แทบทั้งเมือง ผมเอาซิมการ์ดกลับมาที่ไทยและนำไปที่คุณหมิงยังใช้งานได้ปกติทางเครือข่ายโรมมิงให้อัตโนมัติครับ
[CR] ชวาตะวันตกมีมากกว่าที่คิด
กระทู้นี้ เป็นการรีวิวครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปกติผมมีเวลาว่างชอบนั่งอ่าน Pantip มากกว่าที่จะอ่านหนังสือเป็นเล่ม เหตุผลเพราะ Pantip จะมีเรื่องราวต่างๆ ที่ทันสมัย และมีคนที่เขียนกระทู้แบบสรุปใจความห้องประจำที่ผมฝั่งตัวจะเป็นห้อง บลูแพลนเน็ต จะหาข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ แล้วก็เก็บข้อมูลไว้ไปเที่ยว เช่น กวางโจว ซึ่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางเองผมอ่านจากกระทู้ของหลายๆท่านที่ได้รีวิวไว้ ครั้งแรกผมว่าจะรีวิวกวางโจว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สมัครสมาชิก Pantip พออ่านในห้อง บลูแพลนเน็ต แต่หลายๆ ท่าน รีวิว อินโดนีเซีย คุณหมิง เยอะมาก ซึ่งตัวผมเอง ได้ไปเที่ยวทั้งสองที่เหมือนกันกับท่านอื่นๆ อยากจะแชร์สถานที่ท่องเที่ยวท่องเที่ยวให้คนอื่นอ่าน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา
มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ อินโดนีเซียช่วง เทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 7 – 12 กุมภาพันธ์ 2559 เดินทางโดย Air Asia จากดอนเมือง ไปลงจาการ์ตา ไปกลับ 2 คน ค่าเครื่องรวมโหลดกระเป๋า 20 Kg ประมาณ 8900 บาทครับ
ก่อนการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลง หลายอย่าง จึงตัดสินใจซื้อ กระเป๋าเป้สะพายหลัง ยี่ห้อ Ospre จำนวน 2 ใบ ใบละ 6,990 บาท และถุงคลุมกระเป๋าไว้สำหรับโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง ใบละ 1,200 บาท ลงทุนซื้อกระเป๋าวันนี้หมดไป 16,290 บาท
ดีนะถูกหวยแต่ไม่เยอะก็พอสมทบทุนซื้อกระเป๋า ทีแรกคิดว่าซื้อไปจะคุ้มค่าไหม แต่ใช้งานจริง ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ ใช้เดินทางไป 2 ประเทศ ตัวกระเป๋าเองมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน แต่ก่อนที่จะนำมาส่งซ่อม ต้องซักทำความสะอาดก่อนไม่อย่างนั้นทางตัวแทนจำหน่ายจะไม่รับซ่อม
จัดสรรงบประมาณใช้จ่าย 5 วัน ตกวันละ 800,000 คงพอ วันนั้นแลกไป 4,000,000 รูเปียห์ เป็นเงินไทยอยู่ที่ 10,400 บาท ใช้จริง 8,000 บาท ยังมีเงินเหลือกลับบ้านไปทริปหน้าอีก 2,000
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 เครื่องออกจากดอนเมือง สายการบินแอร์เอเชียได้ประกาศเป็นภาษาบาฮาซา อินโดนีเซีย และภาษาอังกฤษ ตกใจครับปกติ ปกติขึ้นเครื่องจะมีประกาศเป็นภาษาไทยก่อน แอร์ของสายการบินอินโดนีเซียแอร์แอร์เอเชีย สวย หน้าคม แต่สจ๊วดเปรียบเทียบกับคนไทย คนบ้านเราหล่อกว่า ผมว่าคงหน้าตาคงหล่อสุดบ้านเขา สจ๊วดสูงประมาณ 165 ครับ ที่อินโดนีเซียคงเลือกคนจากความสามารถมากกว่าหน้าตาครับ ระหว่างเครื่องออกจากกรุงเทพฯ แอร์ก็ให้ใบกรอกคนเข้าเมือง แต่เป็นภาษาบาฮาซา ตกใจครับ เลยขอเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ ตามภาพครับ ขออภัยภาพไม่ชัดเนื่องจากถ่ายจากมือถือระหว่างบนเครื่อง
โชคดีหน่อย ที่มีคนอินโดนีเซียนั่งข้างๆ เลยสอบถามว่า ข้อมูลต้องกรอกอย่างไร พอเครื่องมาถึงที่ท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา ต้องนั่งรถบัสไปยัง Terminal 3 เจ้าหน้าตรวจคนที่เข้าเมือง ถามผมด้วยภาษาบาฮาซา ผมก็งง เป็นไก่ตาแตก แปบหนึ่งแล้วผมก็สื่อสารภาษาอังกฤษกับเจ้าหน้าที่ เขาก็ถามว่ามากี่วัน พักที่ไหน (คิดในใจคิดว่าเราเป็นลูกครึ่งอินโดหรือไง) แต่อีกคนที่มาด้วยกันกลับไม่ถามชักคำถามเลย ตลอดทั้งทริปนี้ เดินทางโดย Toyota Avanza ที่อินโดจะเป็นโรงงานผลิตรถครอบครัวโดยเฉพาะครับ ไม่มีรถกระบะครับ เขาจะนิยม Avanza รองลงมาที่เห็นคือ Freed
ออกมาจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา บนถนนหน้าสนามบินในเมืองจาการ์ต้าสมแล้วจริงๆ ที่เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก มีคนขายกินเล็กๆ น้อยๆ คล้ายๆ กับบ้านเราครับ ผมเห็นชื่อรุ่นรถ Toyota LIMO ซึ่งนำมาเป็นแท็กซี่ ลักษณะเหมือน Toyota vios 2010 ของบ้านเราครับ แต่เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน จึงไม่ได้นำรูปมาฝาก
มองไปเห็นสติกเกอร์ที่ติดในรถบรรทุกครับ ที่อินโดนีเซียนี้ดีกว่าบ้านเราผมว่า เขาจัดการกับรถบรรทุกได้ดีครับ ลักษณะเหมือนกับรถจะต้องไปตรวจสภาพรถก่อน ถึงจะมาต่อพรบ เสียภาษีได้ที่กรมการขนส่งทางบก ที่อินโด ประมาณนี้ครับ
พอเข้าทางด่วนครับ เดินทางจากจาเมืองการ์ตา มายังเมืองเบกาซี ค่าทางด่วน ตกประมาณ 12 บาทครับ
มาถึงเมืองเบกาซี่ ดึกแล้ว แวะรับประทานอาหาร ไปทานอาหารที่ร้านของคนรู้จักของเพื่อน เพื่อนผมถามว่าชอบทานอะไร ผมก็ตอบไปว่า อะไรก็ได้ยกเว้นเนื้อ ผมไม่ทานเนื้อ ร้านอาหารที่นี้
ชอบผัดผักบุ้งครับ รสชาติ คล้ายๆ บ้านเรา ผักใส่ไข่นกกระทา เสริฟใส่กระทะร้อน คล้ายกับใส่กระทะหอยทอด ซึ่งที่บ้านเราผมไม่เคยเห็นแบบนี้
พอถึงบ้านเพื่อน ประมาณ 2 ทุ่ม เพื่อนก็ชวนไปซิมการ์ด อินโดนีเซียอยู่ด้านล่างของบ้านเพื่อน โดยเลือกผู้ให้บริการคือ INDOSAT ผมเลือก Package เน็ต 2 GB ในราคา 40,000 รูเปียห์ ราคาตกประมาณ 104 บาท โดยลงทะเบียนเป็นชื่อของเพื่อน อินเตอร์เน็ตเร็วมากครับ บริการเป็นแบบ 4G แทบทั้งเมือง ผมเอาซิมการ์ดกลับมาที่ไทยและนำไปที่คุณหมิงยังใช้งานได้ปกติทางเครือข่ายโรมมิงให้อัตโนมัติครับ