ทริปนี้เกิดจากความต้องการของลูกชายเมื่อเกือบ 2 ปีมาแล้ว ปีนี้ได้โอกาสเหมาะจึงพากันไปเอง 2 คนแม่ลูก รีวิวนี้ไม่มีรูปค่ะ เน้นสั้นๆ กระชับ สำหรับเราไปญีุ่่ปุ่นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกเป็นกรุ๊ปเล็กๆ 6 คนมีไกด์พาไป) แต่ลูกชายเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ขึ้นเครื่องบินและเดินทางไปต่างประเทศ

http://ppantip.com/topic/35159874 กระทู้ตารางเวลาการเดินทาง Kawaguchiko, Gotemba, แผนที่เดินไปสถานี Shinjuku ขึ้นรถบัสไป Kawaguchiko

การเดินทาง
- เดินทางด้วยหางแดง ถ้าเดินทางดึก มักจะไปถึงสนามบินก่อนเวลา 8 โมง ขาไปให้นั่งฝั่งซ้าย เช้ามาจะเห็นภูเขาไฟฟูจิ เราเห็นเต็มลูกเลย ไม่มีเมฆบดบัง (เคยอ่านบางคนเห็นปล่อง) แต่เราเห็นเต็มๆ ใช้กล้องถ่ายรูปนะ ไม่ควรใช้มือถือ เพราะเครื่องกำลังลง เขาห้ามเปิดโทรศัพท์มือถือ
- ขากลับ กลับเช้าให้นั่งฝั่งขวา ลองเล็งดู อาจจะเห็นภูเขาไฟฟูจิ
- ด้านหลังหางแดงมีที่นั่ง 2 ที่เป็นส่วนตัวดีสำหรับเดินทางสองคน

สถานี Shinjuku
- ทางออก west exit เพื่อจะไปซื้อตั๋ว fuji hakone free pass ให้เดินอยู่ข้างล่างหลังจากออกจากรถไฟ ไม่ต้องเดินขึ้นข้างบน เดินข้างล่างไปเรื่อยๆ มองป้าย west exit จะเจอป้าย odakyu service ป้ายสีฟ้า เด่นชัด

Fuji hakone free pass
- ใช้ขึ้นรถบัสไป kawaguchiko
- ขึ้นรถ retro bus, omibus (ขับซิ่งมาก ไวกว่ารถ retro)
- ขึ้นกระเช้าคาชิ คาชิ หรือล่องเรือ ได้ส่วนลด 20% แต่ไม่มีส่วนลดสำหรับถีบเรือเป็ดที่ทะเลสาบคาวาฯ 2 พันเยนก็ถีบไป ได้บรรยากาศแตกต่างจากถีบที่สวนลุมหรือดรีมเวิล์ด
- ใช้ขึ้นรถไฟไปดูเจดีย์แดง (มีป้ายบอกไปตลอดทาง ไม่หลงแน่นอน)
- ขึ้นรถไฟ ไปขึ้นบัสไปหมู่บ้าน oshino hakkai
- ขึ้นรถบัสไปหมู่บ้าน oshino hakkai
- ขึ้นรถบัสไป gotemba ได้
- ขึ้นรถจาก gotemba ไปสถานีรถไฟ hakone-yumoto
- ใช้ขึ้น romance car บวกเพิ่ม 890 เยน (จ่ายเพิ่ม) จองในเว็บได้
- เวลาใช้ pass ให้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู
- ใช้ซะจนลูกชายบอกว่าชอบ pass นี้จริงๆ

บัตร suica
สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีต้องซื้อที่ออฟฟิศ Jr เพื่อลงทะเบียนโดยใช้ passport และจะมีชื่อพิมพ์บนบัตรได้ส่วนลดรถไฟ (เพิ่งมารู้วันสุดท้าย เอาฟ่ะ ก็ดีกว่าไม่รู้เลย) เช่น ค่ารถไฟ 160 เยน เด็กน้อยราคา 100 เยน

Kawaguchiko
- ที่พัก station-inn@ kawaguchiko ที่พักยอดฮิตของคนไทย ดีงามพระรามแปด ไวไฟฟรีในที่พัก อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นอร่อยค่ะ
- การปูที่นอนที่นอนกับสื่อทาทามิ คือ ผ้าสีขาวต่างหากให้ใช้คลุมฟูกที่ไม่มีผ้าคลุม ใช้ผ้าสีขาวที่มีลายดอกไม้เป็นรูปวงรีใช้ห่มนอน (ปูผิดมาแล้ว)
- อาหารการกินที่สถานี kawaguchiko ดีงาม ไม่แพงมาก เป็นสถานที่กันเหนียวในเรื่องกิน ยามฝนตก

Gotemba
- ที่พักที่ gotemba คือ gotemba condominium tanpopo ดีงาม เดินจากสถานี gotemba นิดเดียว ห้องใหญ่มีอุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องใช้ไม้สอยครบถ้วน เหมาะกับอยู่กันหลายๆ คนเป็นครอบครัว ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำทำธุระส่วนตัวแยกขาดจากกัน แต่ต้องแยกขยะให้เขาแต่ละประเภท ไม่มีไวไฟ แต่มีคอม มีเน็ตให้ใช้ มีโทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอพร้อมวิดีโอการ์ตูนจิบลี
- Gotemba outlet ยี่ห้อ coach ลด 50 % (ไปเดือน พ.ค.) เรย์แบนเราว่าราคาพอๆ กับเมืองไทย
- เจอร้านเสื้อผ้าร้านนึง แซคสวยมาก งานเนี้ยบ ราคาแพง made in Thailand งานเนี้ยบเจงๆ สวย
- Lego ที่ gotemba outlet แพงกว่า bic camera ในโตเกียว (ตรูจะไปเพื่อ???) (ลองคำนวณดูดีๆ เพราะบางคนซื้อเมืองไทยใช้แต้มบัตรเครดิตมี on top ส่วนลด โน่นนี่นั่นเมืองไทยอาจถูกกว่า แต่หากอยากได้บรรยากาศว่าซื้อจากญี่ปุ่นก็ตัดใจซะ!!) แต่ที่แน่ๆ gundum ที่ญี่ปุ่นถูกกว่าเมืองไทยมาก (มั้ง)
- ไปถึง gotemba outlet แล้วไป information center จะได้เล่มคูปองส่วนลดในเล่มจะบอกว่าร้านไหนส่วนลดเท่าไหร่ ต้องซื้อเท่าไหร่จะได้รับส่วนลด

Ikebukuro
- โรงแรม Metropolitan Ikebukuro ดีงาม ไวไฟฟรี (ตะก่อนไม่ได้ฟรีทุกห้อง มีเฉพาะห้องบางราคา) แต่บริเวณเดียวกันมีโรงแรมอีก 2 เจ้า แต่รอบๆ แถวนั้นมีทางเข้าสถานีรถไฟทั้ง JR และ Tobu หลายทาง ดีงาม ห้างรอบๆ เพียบ สามารถเดินทะลุในสถานีรถไฟได้ มีร้านสะดวกซื้อครบครัน ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ไม่อดตาย มีป้ายบอก Metropolitan Plaza ไม่หลง หาง่าย
- มิโดริซูชิที่ห้าง Seibu เฉยๆ นะ แต่เมล่อนอร่อย

Yokohama
- พิพิธภัณฑ์ราเมงที่โยโกฮามา ถ้ามาด้วยรถไฟสาย Blue เดินใกล้กว่ามากกกกก โผล่ขึ้นมาเจอภาคพื้นดิน พอเดินไปได้นิดเห็นซอยด้านซ้ายเลี้ยวเข้าไปเลย เดินตรงไปให้มองด้านขวา ถ้าแห็นบะหมี่ชักเย่อขึ้นลง มีนักท่องเที่ยวยืนอยู่หน้าตึกเยอะๆ นั่นแหละใช่เลย แต่สำหรับเรา เฉยๆ นะ ชั้นใต้ดินเป็นร้านราเมง ชั้นหนึ่งที่เดินเข้าไปเป็นร้านค้า ด้านข้างเป็นข้อมูลประวัติ ความเป็นมา ก็ไม่มีอะไรมาก

- Cup noddle museum ดีงามพระรามสี่ เดินออกจากสถานีรถไฟแล้วตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายตึกแดง แต่พอเห็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ๆ ให้เดินข้ามไปฝั่งตรงข้าม museum อยู่ตรงข้ามห้าง World Porter ไม่ได้อยู่ใกล้ตึกแดง (ตอนแรกหาไม่เจอ ถามคุณพี่สาวๆ (เยอะ) คนญี่ปุ่น นางทั้งสามพาเดินไปส่งถึง museum เลย) เป็น museum ที่ดี  ชั้นบนเห็นวิวเมืองท่า yokohama สวยงาม ถ่ายรูปเช็คอิน สวย ถ้าจะทำบะหมี่ถ้วยของตัวเอง ตอนสูบลมเข้าถุงพลาสติกเพื่อใส่บะหมี่ ถ้าใช้หลอดที่เขาวางไว้ ถุงจะไม่โป่ง ให้เอาที่เป่าลมสอดไปในรูแล้วสูบลมเข้าไป ถุงจะโป่งพองสวยงาม ห้อยคอกันว่ามาทำบะหมี่ถ้วย

Odiba
- Food court  (อยู่ตรงหุ่นกันดั้มพอดี อาหารอร่อยคุ้มค่าราคา) ที่ห้าง diversity odaiba กินเสร็จแล้วให้เอาจาน ถาดไปเก็บที่ร้านที่ซื้อมา โดยจะมีช่องให้เก็บจาน ถาดโดยเฉพาะ ใช้เงินสด ไม่ต้องแลกบัตรเหมือนเมืองไทย
- หุ่นกันดั้มกลางคืนก็สวยดี ร้านขายกั้นด้ัมอยู่แถวนั้น อีกที น่าจะถูกกว่าไทย

Disney Sea
- จองบัตร Disneyland หรือ Disney Sea ได้ที่ Lawson (เราจองที่ Kawaguchiko) บอกพนักงานจะจิ้มที่ตู้ให้ เขาโนะเนะมาเราก็โนะเนะตามกันไป
- Disney Sea เด็กเล็กๆ ก็ไปเที่ยวกันเยอะ เดือนพฤษภาคมฉลองครบรอบ 15 ปี มีโน่นนี่นั่นขายที่เป็นสัญลักษณ์ครบ 15 ปีมากมายมีคฑาและที่วางคฑารอบๆ ดิสนีย์ สัญลักษณ์ในคฑาจะขึ้นว่าเราเอาไปวางไว้ที่ไหนบ้างครบหรือยัง
- คนญี่ปุ่นไปเที่ยว แต่งตัวจัดเต็ม เห็นแล้วทึ่ง อายเลย
- เครื่องเล่น toy story ยอดฮิต กด fast pass ตอนก่อน 11 โมง แม่เจ้าให้เล่นได้อีกทีตอน 3 ทุ่มครึ่ง ไม่ผิดค่ะ 3 ทุ่มครึ่ง แต่ช่วงก่อนเที่ยงคิวไม่เยอะ รอประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็เล่นได้ ส่วน fast pass ที่กดไว้ก็มาตอนนั้นแหละยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ไม่ใช่ยิ่งดึกคนยิ่งน้อย (ลูกเราชอบเครื่องเล่นนี้มากกกกก)
- โชว์ดอกไม้ไฟไม่ได้มีทุกวัน ถ้าไม่มีหลังจากโชว์รอบ 2 ทุ่มเสร็จ เขาจะบอกว่าไม่มี
- ไก่ smoked spicy อร่อย อยู่ตรงก่อนถึง raging spirit เครื่องเล่นที่หมุนรอบ 360 องศา
- อาหารข้างในไม่ได้แพงมาก เราว่าราคาปกติ แต่ที่เขานิยมเอาอาหารไปทาน คือ ระหว่างการต่อคิวไม่อยากเสียเวลา (น่าจะนะ)
- เต่าพูดได้ เขาพูดได้แต่ภาษาญี่ปุ่น
- ตอนหัวค่ำ Disney sea อากาศจะเย็น ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย ถ้าคิดว่าจะอยู่จนปิด
- ไม่อยากเดินเมื่อยให้นั่งเรือ transit ไปลงจะไปอยู่ตรงแถวๆ เครื่องเล่น 20000 leagues under the sea (ลูกเล่นแล้วเฉยๆ) หรือรถไฟ transit ไปลงใกล้ๆ กับเครื่องเล่น Aquatopia
- เครื่องเล่น Aquatopia มี 2 ฝั่ง ต้องเสี่ยงดวงว่าฝั่งซ้ายไปจะใกล้น้ำตก หรือฝั่งขวาจะได้ลอดถ้ำมั๊ย เรากะลูกเล่น 3 รอบ
- รถคุณปู่ ขับสั้นๆ ช้าๆ เรื่อยๆ

Saitama
- พิพิธภัณฑ์รถไฟที่ Saitama มี silmulation ให้ขับรถไฟ jr ได้คนละ 1 สถานี (ประมาณ 5 นาที) ผู้ใหญ่ เด็ก ต่อคิวกันเพียบ มีอยู่ 4 เครื่อง ดีงาม สนุกดี ไม่มีภาษาอังกฤษ มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ตัวบังคับด้านซ้ายคือคันเร่ง ตัวโยกด้านขวาคือ เบรก มีเบรกเท้าให้เหยียบที่เท้าขวา
- มีรถไฟสาย tobu แบบด่วนใช้เวลาเดินทางจากสถานี omiya มาสถานีโตเกียวใช้เวลา 30 นาที จองแบบ non-reserved ได้ ถ้าที่นั่งไม่เต็มก็นั่งได้ ราคาถูกกว่า shinkansen ครึ่งหนึ่ง

สนามบินนาริตะ
- ของขายทั้งข้างในข้างนอก check-in แต่เราเดินแต่ข้างใน เจอมุมขายรองเท้า onitsuka tiger ก็สอยตรงนั้นแหละให้ลูกชาย บวกลบแล้วถูกกว่าเมืองไทยนิดนึง

อื่นๆ
- ตู้ฝากกระเป๋าทันสมัยมาก ให้เก็บใบเสร็จที่พริ้นท์ออกมาดีๆ อย่าทิ้งขว้าง
- ถ้าไม่แน่ใจว่าจะขึ้นรถไฟถูกผิด ให้ถามเจ้าหน้าที่ในสถานีก็ได้ โดยดูจาก hyperdia ที่พริ้นมาหรือในมือถือ ถามคนญี่ปุ่น บางทีเขาก็ไม่แน่ใจ แต่เขาก็ยินดีจะจิ้มจากมือถือเช็คให้ หรือพาเดินไปส่งที่ platform หรือพาออกจากรถไฟไปถามเจ้าหน้าที่
- ตี 4 ที่ญี่ปุ่น ต้นเดือน พ.ค. ก็สว่างแล้ว ต๊กกะใจ (Tokyo, Kawaguchiko)
- เลือกรองเท้าเหมาะๆ เดินเยอะมาก เราเอาไปคู่เดียว ของลูก 2 คู่
- เผื่อเวลาหลงในสถานีรถไฟ และหาสถานีที่ท่องเที่ยว
- ถ้าทริปมีเด็ก ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เน้นให้เขานอนพักให้ครบ 8 ชั่วโมง เที่ยวไม่ครบตามแผนไม่เป็นไร ให้เขานอนพักเยอะๆ
- อากาศแปรปรวนง่าย น้องที่เคยไปเรียนเอกที่ญี่ปุ่นกล่าวไว้ ปรับเปลี่ยนแผนได้ตามสภาพอากาศ เราก็เก็บไม่หมดตามแผน เช่น ทุ่งพิ้งค์มอส ฝนตก ไม่เหมาะกับการชมดอกไม้ ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาปอะชิ ฝนถล่ม ลมแรง เราเลยปรับออก
- พยากรณ์อากาศญี่ปุ่นแม่นมาก

ส่งท้าย
ทั้งหมดทั้งมวล ถ้าผิดพลาดการเดินทางอย่าโทษตัวเอง เมื่อเปิดประสบการณ์กับโลกใหม่ ย่อมผิดพลาดกันได้ ไม่เสียหาย แต่ได้เรียนรู้ชีวิต ตื่นเต้นๆๆๆ (เสียงเหมือนอาราเล่)

ขอบคุณคุณป้าที่เจอกันที่สนามบินนาริตะ เดินทางไปเยี่ยมลูกสาว กรุณาสละที่นั่งให้ลูกเรานั่งระหว่างรอขึ้นเครื่อง มาเจอกันอีกทีตอนรอกระเป๋าให้ความกรุณาให้คุณสามีมาส่งเรากับลูกถึงบ้าน

จากการเดินทาง น้ำใจยังสามารถพบได้ทั้งจากคนญี่ปุ่นและคนไทย