ฝืนตัวเองให้ รักในสิ่งที่ทำ จนลืมไปว่าการ ทำในสิ่งที่รัก อาจสำคัญกว่า?

ตอนนี้กำลังเรียนอยู่คณะพาณิชยฯ หลักสูตรบัญชี 5 ปี (ตรี-โท) มธ. ปี 1 นะครับ
และกำลังคิดจะซิ่วไป อักษร จุฬาฯ แต่ตอนอายุ 21 ปีแล้ว

ตอนม.6 ผมตั้งใจมากๆที่จะเข้าคณะนี้ ตั้งใจจะเป็น auditor เพราะค่าตอบแทนดี ดูมีความก้าวหน้าทางอาชีพสูง
ผมเลยศึกษารายละเอียดวิชาของคณะนี้ ตอนอ่านก็คิดว่าตัวเองน่าจะชอบ น่าจะพอทำได้ ก็เลยโอเค สอบตรงเข้ามาได้

ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองถนัดและชอบด้านภาษามากกว่า แต่ตอนนั้นคิดว่าอักษรฯดูจบมาแล้วดูไม่มั่นคง กลัวได้งานไม่ดี เลยไม่คิดที่จะเรียน

แต่พอได้ลองเรียนวิชาของคณะบัญชีดูจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกว่า เห้ย เราศึกษามาดีก็จริง แต่เราไม่เคยมานั่งเรียนจริงๆเลย
พอได้มาเรียนถึงได้รู้ว่า อ๋อ มันไม่น่าจะใช่ทางของเราแล้วแหละ ความอยากเป็น auditor ตอนสมัยม.6 ตอนนี้มันก็เลยเริ่มหายไปเรื่อยๆ

พอมานั่งนึกว่า นี่ขนาดเรียนบัญชีไปตัวแรก ยังรู้สึกแบบนี้
แล้วถ้าอนาคตล่ะ เจออีกกี่ตัว จะทนไหวไหม ตอนทำงานเจอทุกวัน จะมีความสุขหรอ เริ่มจะท้อแล้ว

ผมเลยลองคำนวณคะแนนแอดมิชชั่นกับเว็บเด็กดีเล่นๆ
ปรากฏว่า คะแนนผมมีแนวโน้มว่าจะติดอักษรศาสตร์ จุฬาฯ
ซึ่งอย่างที่บอกว่าผมชอบ รู้ตัวเลยว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองรัก
ผมชอบศิลปะ ชอบการใช้ภาษา อารยธรรม ประวัติศาสตร์ การต่างประเทศ
เวลาอ่านวรรณกรรมต่างๆทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ก็จะชอบชื่นชมความงามของการใช้ภาษาที่ผู้แต่งคิดขึ้น แบบ โห คิดคำแบบนี้มาได้ยังไง

เลยคิดว่า อักษรฯเนี่ยแหละ คือคณะที่ผมชอบจริงๆ แต่ที่ไม่เลือกแต่แรกก็นั่นแหละ คิดว่าไม่มั่นคง
กลัวจบแล้วจะเคว้งคว้างเหมือนรุ่นพี่หลายๆคน
กลัวจบแล้วยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้

อีกอย่างผมเคยไปแลกเปลี่ยนมาด้วย เลยรู้ภาษาสเปนมาบ้าง ก็อยากต่อยอดให้เก่งขึ้น
ตั้งใจจะเรียนเอกอังกฤษ โทสเปน อ่ะครับ
และนี่เองก็ทำให้ผมจะเป็นเฟรชชี่อายุ 21 ปี เนื่องจากเรียนซ้ำมาอยู่แล้ว 1 ปีตอนม.ปลาย
มันเลยทำให้ผมคิดหนักมาก เรื่องการเสียเวลา

จากบัญชี 5 ปี จะทำให้ผมจบโทตอนอายุ 24 ปี แต่กลับกลายเป็นผมจะจบแค่ป.ตรี ถ้าซิ่วไปอักษร
ซึ่งผมก็ลังเลว่าผมควรจะนิยามคำว่าเสียเวลาแบบไหนดี

ผมรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบในสิ่งที่เรียน แต่ถามว่ายังพอเรียนต่อไปได้ไหม ก็ได้ แต่มันเบื่อ มันไม่มี passion ที่จะอยากศึกษา อยากอ่านหนังสือ อยากทำงานสายนั้น

แต่ถ้าเรียนอักษร ผมสามารถอ่านหนังสือเรียนโดยที่ไม่รู้สึกว่าโดนบังคับเลย หรือถ้าเจออุปสรรคก็จะสู้ เพราะมี passion เข้าใจผมใช่ไหมครับ

เหมือนผมต้องเลือกระหว่างจะเรียนในสิ่งที่ไม่ได้ชอบมากเพื่อไปตามทางอนาคตที่มั่นคง เครดิตดี
หรือจะเรียนในสิ่งที่ชอบ แต่อนาคตยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะดีหรือร้าย

เหมือนต้องเลือกระหว่าง โลกแห่งความเป็นจริง (การแข่งขัน อาชีพ ความอยู่รอด ความมั่นคงแน่นอน) กับ โลกแห่งความฝัน (สิ่งที่รัก ความใฝ่ฝัน อนาคตที่อาจจะสวยหรือไม่สวยงามเหมือนที่วาดฝัน)

ผมคิดหนักจริงๆครับ เพราะถึงจะหดหู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เงิน เป็นสิ่งจำเป็นจริงๆสำหรับโลกทุนนิยม แต่ ความรักในสิ่งที่ทำ ก็สำคัญไม่แพ้กัน

เลยอยากรู้ว่าเพื่อนๆหรือพี่ๆวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วมีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้

ผมควรซิ่วดีไหม?

อยากรู้ด้วยว่า
-จบแล้วงานสายอักษร ก้าวหน้าแค่ไหน มีงานดีๆพอที่จะไปสู้กับบัญชีเยอะไหม (จะเอาไปเสนอให้พ่อแม่ฟังด้วย)
-เรื่องอายุมีผลกับการทำงานไหม สำหรับสายงานภาษา
-งานบัญชีเงินดีจริง แต่งานหนักจริงไหม ถ้ามีความคิดแบบผม จะทำไหวป่าว
-ถ้าเป็นคุณจะเลือกอะไรระหว่าง รักในสิ่งที่ทำ กับ ความมั่นคงในชีวิต

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่