เพื่อนสนิทพูดหลายครั้งแล้วว่าไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ผมจะทำยังไงดีครับ

ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนครับ อายุจะสามสิบแล้ว

เขาเป็นคนดีเลย เป็นชาวมุสลิมที่เคร่งกับตัวเองแต่ไม่ตัดสินคนอื่น เช่นว่าคนอื่นกินเหล้าก็ไม่ว่า ชวนเพื่อนมาเล่นเกมที่บ้าน แต่ถึงเวลาสวดมนต์ก็ขอตัวไปสวด เสร็จแล้วก็มาเล่นกันต่อ เพื่อนกินหมูก็ไม่บ่น แต่ไม่กิน ถ้าใครชวนกินช้าวแล้วดันทำหมูมา เขาก็แว้บไปกินพิซซ่า แล้วกลับมาสังสรรต่อได้

เป็นคนรักความยุติธรรมชนิดที่ใครโกงหรือทำร้ายคนอื่นให้เห็นต่อหน้าเขามีโดยต่อย มีแผลบากที่แก้มอยู่ขีดหนึ่ง นัยว่าโดนศอกปาดหน้ามาสมัยหนุ่มๆ กว่านี้ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยยุ่งกับใครเท่าเก่าแล้ว

งานการก็ใช้ได้ คือเป็นนักวิเคราะห์การตลาดของบริษัทประกันภัยเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานกับตัวเลขไม่ค่อยได้ยุ่งกับคน ตกเย็นก็จะมาออกกำลังกายกับผม แล้วถ้าว่าง เราก็จะออกไปหาอะไรกินกัน แล้วก็มาเล่นเกมที่ห้องเขา

เขาไม่มีแฟนครับ จีบสาวทางออนไลน์บ้าง แต่ไม่ค่อยสำเร็จ เพราะเป็นคนขี้อายกับสาวๆ พ่อแม่ก็มีฐานะอยู่ จับคู่ให้เลือกแต่ละคน สวยน้ำลายหกทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่อยู่กันคนละจังหวัด คุยกันได้ไม่นานก็หยุด (ทั้งๆ ที่ไม่น่าขี้อายเล้ย หุ่นเพรียว ไหล่กว้าง ผิวเข้มตาคม จมูกโด่ง ขนตางอนเช้งจนผมอิจฉา แถมยังเป็นหนุ่มแว่นอีก ถ้าไม่นึกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันนานและเขาไม่เอาผู้ชาย ผมจีบไปนานแล้ว *--หมายเหตุ--จขกท. เป็นเสือไบก้อนครับ*)

...ย่อหน้านี้เราพักให้สาววายจิ้น จิ้นจบนะครับ ไม่มีอะไรในกอไผ่แล้วนะครับ

แต่เดิม เรามีเพื่อนกลุ่มใหญ่สี่ห้าคน แต่ตอนนี้ทุกคนก็ต่างก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง ทำงานต่างประเทศบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง เหลือแต่ผมกับเขาสองคน

เขาเริ่มพูดกับผมว่า "ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร"

มันเริ่มมาจากตอนที่เราเล่นเกม RPG เกมหนึ่งกันอยู่ครับ ตัวละครตัวหนึ่งในเกมที่เป็นตัวโกงแฝงมาตีสนิทกับตัวเอก และเผยความในใจให้ตัวเอกฟังว่า
"นายจะทำยังไง ถ้าเมื่อมองกลับไป สิ่งที่เราพยายามทำมามันไม่มีความหมาย แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้...
...บางที การที่ผมจะหายตัวไป มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้"
ตอนนั้นเพื่อนผมรินน้ำก๊อกกินอยู่ มันหยุดริน ปล่อยให้น้ำล้นแก้ว ยืนตัวแข็งทื่อ แล้วก็บอกผมเสียงเบาๆ ว่า
"ทำไมเหมือนที่กูคิดเลยวะ"
นั่นเป็นครั้งแรก (แต่ผมเล่นเกมกำลังมันๆ เลยลืมเพื่อน... กรรม...)

หลังจากนั้น ถ้าผมพูดเรื่องจีบสาว(หรือหนุ่ม) กับเขา เขาก็แค่ทำตาเศร้าๆ แล้วบอกว่า "สำหรับกู กูคงต้องอยู่คนเดียวไปชั่วชีวิตว่ะ"
แรกๆ ผมก็แค่หมั่นไส้
...อื่อหือ ไอ้ซิกแพ็คขนมปังแถว ไอ้ขนตางอนพระเอกลิเก ไอ้เศรษฐีพันล้าน ชะหนอย ทำเป็นพระเอกเหงาซึ้งอาภัพรัก ไอ้หอยจุ๊บแจงนี่...
แต่เมื่อมันบ่อยขึ้น ผมชักไม่สบายใจแล้วสิครับ

เมื่อคืนนี้ ผมติดรถเขาไปซื้อของเข้าบ้าน (ปกตินั่งรถเมล์ เป็นตุ๊กตาหน้ารถให้สารถีหล่อๆ แบบนี้นานๆ ที)
เราก็หยอกกันไปหยอกกันมา
ผมก็แกล้งแซวว่าฟันมันเหลือง (ซึ่งไม่เหลืองนะ แต่หาเรื่องอื่นด่าไม่ออก)
เขาก็ยิ้มๆ แล้วก็บอกว่า
"เหลืองไม่เหลืองก็ต้องอยู่คนเดียวจนตาย ช่างมันสิวะ"
ต่อด้วย
"ยังไงซะชาตินี้กูก็ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว"
มันไม่ได้พูดเศร้าๆ เลย มันพูดยิ้มๆ เหมือนล้อเล่น และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

ผมกลัวอะครับ
กลัวไปหามันคราวหน้ามันจะกลายเป็นศพอืดคาคอนโดฯ
ลายนิ้วมือผมงี้เต็มพรืดห้องมันตั้งแต่กุญแจรถยันฝารองโถส้วม ผมต้องเจอตำรวจลากไปหาคำสัมภาษณ์แหงๆ
เดี๋ยวเค้าจะหาว่าผมฆ่าคนเพราะติดเกมอีก ไม่อยากเสี่ยงนะ

มีใครเคยมีประสบการณ์อย่างนี้บ้างครับ และคุณมีวิธีช่วยให้เพื่อนหรือตัวเองผ่านมันไปยังไงบ้างครับ

ปล. วิธีที่เคยใช้คือไปนั่งเล่นเกมกับมัน หอบงานเอกสารเป็นตั้งๆ ไปทำระหว่างดูมันเล่นเกม สอนมันทำกับข้าวกิน (สอนต้มไข่นี่มันช่างยาก พระเจ้า...มาร์ธ่า... ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะยากขนาดนี้) ยอมให้มันสอนเล่นบาส (กีฬาแบบนี้มันช่างกาก... สกิลกีฬาผมนี่หมาขำตายควายขำล้ม... เตะบอลให้เป็นเส้นตรงยังไม่ได้เลย) พาออกไปเต้นรำกับสาวๆ กินข้าวกับเพื่อนเยอะๆ ก็แล้ว พออยู่กันสองคนมันก็เข้าโหมดดาร์กเหมือนเดิม

ปล. ที่ร่ายมายาวนี่ ผมเป็นห่วงมันน่ะครับ ใครแนะนำวิธีได้บอกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ปล. 2. ถ้าอีกสองสามเดือนยังเป็นอย่างนี้อีก ผมจะจับมันมัดมือมัดขา โยนขึ้นท้ายรถเอาไปปล่อยหน้าคลีนิกจิตแพทย์แล้วเอาบัตรแพลทตินัมของมันแหละรูดจ่าย... หึย...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่