เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันคบแฟนมา1ปีกว่า ดิฉันอายุ 31ปี แฟนอายุ 29ปี ปล.เรามีแฟนอายุน้อยกว่าเรา2ปี ตัวเราเองเป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลส่งเสียเลี้ยงดูแม่เป็นเสาหลักของบ้าน [แม่เราอยู่ต่างจังหวัดแต่เราอยู่บ้านที่กรุงเทพกับน้องชาย แต่เราต้องส่งเสียค่าใช้จ่ายแม่ทุกเดือน] แฟนเราอยู่กับพ่อ แม่ และน้องสาว แฟนเรานิสัยดี ดีมากเลยและ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยว เข้ากับครอบครัวเราได้ แฟนเราเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ รายได้ไม่แน่นอน แต่แฟนเราไม่ซีเรียสเพราะแฟนเราอยู่กับพ่อแม่ ค่าใช้จ่ายมีไม่มาก เราเลยบอกให้หางานประจำทำเถอะ ซึ่งมันมีรายได้ที่แน่นอนกว่า แฟนเราก็สมัครที่นิตยสารหนังสืออาหารที่เดียว แล้วเขาก็ไม่เรียกตัว เพราะแฟนเราใส่ตัวเลขเงินของที่เก่าที่ออกมาก่อนทำฟรีแลนซ์ ซึ่งแฟนเราบอกว่าได้ก็ได้ไม่ได้ก็ไม่เอา ซึ่งแฟนเราสนิทกับบก.แล้วถ้าแฟนเราคิดจะทำจริงๆ คือแฟนเราสามารถถามบก.ติดขัดตรงไหน เงินที่ผมเขียนไปเยอะไปไหม ทางนิตยสารไหวที่เท่าไร ซึ่งแฟนเราไม่สนใจติดตาม แค่สมัครตามที่เราบอก เพราะไม่อยากทะเลาะกับเราแค่นั้น เราบอกแฟนว่า ถ้าตอนนี้เทอยังไม่กระตือรือร้นขนขวายแล้วม่ะไหร่จะลืมตาอ้าปากได้ แฟนเราบอกว่า ถ้ารู้จักใช้ กินอยู่ไม่ฟุ้งเฟ้อก็อยู่ได้ เราเลยบอกว่า เทอก็พูดได้นี้เพราะเทออยู่กับพ่อแม่ ไม่มีเงินก็มีกิน ลองออกมาใช้ชีวิตด้วยกันสัก3เดือนไหม เราบอกเราจะออกค่าบ้านเดือนละ19,000บาท เราให้แฟนออก ค่าน้ำ,ไฟ,อินเตอร์เนต กิน อยู่ เดินทาง แฟนเราบอกถ้ามาอยู่ด้วยกันก็ไม่พอหรอก แล้วบอกว่าอยู่กับพ่อแม่ไม่มีค่าใช้จ่ายจำเป็นต้องออกมาหรอ แล้วพ่อแม่แฟนเราก็ไม่ยอมให้ออกมากลัวลูกลำบาก แล้วแฟนเราก็ไม่กล้าขัดใจพ่อแม่กลัวพ่อแม่เสียใจ เราบอกว่านี่ไงโลกของความเป็นจริงฉันต้องการสื่อให้เห็นว่า ทำงานแค่นี้ไม่พอกินแน่นอนถ้าใช้ชีวิตด้วยกัน ต้องขนขวายดิ้นรน ไม่ใช่มีงานก็ทำไม่มีก็ไม่ดิ้นรนไรเลย อายุก็เพิ่มขึ้นทุกวัน รถก็ยังไม่มี บ้านก็ยังไม่ อนาคตก็ยังมองไม่เห็น แฟนเราบอกเราว่า เทอก็เข้ามาคุยกับพ่อกับแม่ชั้นสิ [หึ นี่กุเป็นผู้หญิงนะ คิดในใจ] เราตอบแฟนเราไปว่า ถ้าแค่นี้เทอยังไม่มีความสามารถคุยกับพ่อแม่เทอได้เลยก็พอเถอะนะ ปล.แฟนเรามีนิสัยไม่ค่อยกล้าที่จะทำไรด้วยตัวเอง นิสัยออกแนวผู้หญิง
แฟนบอกว่า แม่รักพ่อเพราะพ่อเป็นแบบนี้ เราเลยบอกแฟนว่า ชั้นชื่นชมพ่อเทอเสมอ พ่อเทอดูแลแม่เทอดูแลเทอดูแลน้องเทอจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าแม่เทอไม่ได้ทำงาน พ่อเทอยังดูแลแม่เทอให้มีความสุข เทอล่ะได้สักครึ่งหนึ่งของพ่อไหม แฟนเราก็บอกมันไม่เหมือนกันสมัยนี้กับสมัยก่อน เราเลยบอกว่า 3เดือนนี้แระจะทำให้เทอเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความคิดความอ่าน มองอนาคตมากขึ้น จะได้รู้ว่าความลำบากเวลาไม่มีพ่อแม่โอบอุ้มเป็นไง แฟนเราบอกไม่ไปอ่ะจะอยู่กับพ่อแม่ ไปๆกลับๆได้ ให้ไปอยู่เลย3เดือนไม่ไป เราเลยบอกว่า ถ้าเทอไม่ก้าวขาออกมาเมื่อไหร่จะโต เมื่อไหร่จะคิดได้ ถ้าไม่ออกมา ก็จบกันแค่นี้เถอะ แฟนเราไม่ยอมออกมา แต่เลือกที่จะจบกับเรา ขอถามว่า เราผิดไหม ที่เราอยากให้แฟนโตเป็นผู้ใหญ่ มีภาวะการเป็นผู้นำ อยากให้คิดถึงอนาคตไม่ใช่แบบว่า ทำงานเช้าชามเย็นชาม
ทดลองใช้ชีวิตร่วมกัน3เดือน
แฟนบอกว่า แม่รักพ่อเพราะพ่อเป็นแบบนี้ เราเลยบอกแฟนว่า ชั้นชื่นชมพ่อเทอเสมอ พ่อเทอดูแลแม่เทอดูแลเทอดูแลน้องเทอจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าแม่เทอไม่ได้ทำงาน พ่อเทอยังดูแลแม่เทอให้มีความสุข เทอล่ะได้สักครึ่งหนึ่งของพ่อไหม แฟนเราก็บอกมันไม่เหมือนกันสมัยนี้กับสมัยก่อน เราเลยบอกว่า 3เดือนนี้แระจะทำให้เทอเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความคิดความอ่าน มองอนาคตมากขึ้น จะได้รู้ว่าความลำบากเวลาไม่มีพ่อแม่โอบอุ้มเป็นไง แฟนเราบอกไม่ไปอ่ะจะอยู่กับพ่อแม่ ไปๆกลับๆได้ ให้ไปอยู่เลย3เดือนไม่ไป เราเลยบอกว่า ถ้าเทอไม่ก้าวขาออกมาเมื่อไหร่จะโต เมื่อไหร่จะคิดได้ ถ้าไม่ออกมา ก็จบกันแค่นี้เถอะ แฟนเราไม่ยอมออกมา แต่เลือกที่จะจบกับเรา ขอถามว่า เราผิดไหม ที่เราอยากให้แฟนโตเป็นผู้ใหญ่ มีภาวะการเป็นผู้นำ อยากให้คิดถึงอนาคตไม่ใช่แบบว่า ทำงานเช้าชามเย็นชาม