[CR] รีวิว Asus Zenfone Dtac Edition จาก Dtac

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ วันนี้ผมจะมารีวิวมือถือจากค่าย Dtac ที่จับมือกับแบรน Asus เปิดตัวมือถือสมาร์ทโฟนตัวใหม่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในชื่อของ "Asus Zenfone Dtac Edition" ที่จริงรุ่นนี้ก็วางจำหน่ายมาได้ 2สัปดาห์แล้ว แต่ผมหาอ่านรีวิวยังไม่ได้เลย ก็เลยถึงคราวที่ผมต้องมารีวิวเอง
เจ้า Asus Zenfone Dtac Edition นี้ จุดเด่นของมันอยู่ที่ เป็นมือถือสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4G ในราคาแสนประหยัด ซึ่งราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,990 บาท แต่ทางDtacก็ได้มีการจัดโปรโมรชั่นไว้ในราคาที่ถูกกว่านั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รูปร่างหน้าตาภายนอก





สีที่จัดจำหน่ายจะมีด้วยกันอยู่ 3 สีคือ สีดำ สีแดง และสีฟ้า สามารถใส่เคสกันกระแทกของรุ่นZenfone Laser 5.5 ได้ (พนักงานบอกมาแบบนี้) ส่วนตัวเครื่องทำมาจากพลาสติกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้าจะเป็นสีดำไม่ว่าจะเลือกซื้อสีใดก็ตาม และจะมีกล้องหน้า กับเซ็นเซอร์อยู่ด้านขวาของลำโพงสนทนา ส่วนด้านซ้ายจะมีไฟแจ้งเตือน ด้านล่างเป็นปุ่มทัชสกรีนเมนูเบื้องต้น ซึ่งจะไม่มีไฟขึ้นที่ปุ่มทำให้ไม่สะดวกเวลาใช้งานตอนกลางคืนหรือที่ๆมีแสงสว่างน้อย ส่วนด้านหลังเป็นพลาสติกสีฟ้าหรือสีดำขึ้นอยู่กับสีที่เราเลือก ลักษณะจะโค้งมนไปกับอุ้งมือของเรา มีความแข็งแรง จับถนัดมือ ไม่ลื่น ด้านหลังจะประกอบไปด้วยกล้องหลัง ไฟแฟรช ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และลำโพง






ด้านบนตัวเครื่องประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด3.5มม. ไมสำหรับตัดเสียงรบกสน และปุ่มพาวเวอร์เปิด/ปิดเครื่อง ซึ่งถ้าเราถอดฝาหลังออกจะทำให้ไม่สามารถกดเปิดปิดได้สะดวก ต้องใช้พวกปลายปากกามาช่วยกดเปิดปิดเครื่อง ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB และไมสำหรับสนทนา





ด้านข้างตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มสั่งการใดๆทั้งด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง แต่จะมีร่องสำหรับถอดฝาหลังออกอยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง



เมื่อเราถอดฝาหลังออก จะพบกับแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ มีช่องใส่ซิม1 ซิม 2 รองรับขนาดMicro Sim และช่องใส่เมมโมรี่การ์ดขนาด Micro SD





เมื่อลองจับ Asus Zenfone Dtac Edition ไปเทียบกับ iPhone 6 Plus ก็จะเห็นว่า เจ้าAsus Zenfone Dtac Edition มีขนาดเล็กและเบากว่าเล็กกว่า เมื่อเทียบความหนาด้านข้างจะเห็นว่าขอบของAsus Zenfone Dtac Editionบางกว่า แต่เมื่อกับกับส่วนโค้งด้านหลังไปอีกจะทำให้ตัวเครื่องดูหนากว่าอยู่พอสมควร

สเปคภายในของตัวเครื่อง
  - Model ZB551KL
  - หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 pixel (HD) ความหนาแน่น 320 dpi รองรับMulti Touch 10 จุด หน้าจอชนิด IPS เป็นหน้าจอกระจกกันรอยขีดข่วน เทคโนโลยี Corning Gorillla Glass 4 ตัวล่าสุด แต่แนะนำให้ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น มีโหมดตัวกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอด้วย
  - CPU ใช้ชิปประมวลผลของ Qualcomm Snapdragon 400 Quad Core 1.4GHz แบบ 32 bit
  - GPU Adreno 305
  - Ram 2 GB หน่วยความจำภายใน 16 GB (ใช้งานได้จริง 9.66 GB) รองรับMicro SD Card สูงสุด 128 GB
  - กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล f/2.0 มาพร้อม Dual Tone LED Flash (แฟลช2สี) ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080 p (Full HD) ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 พร้อมระบบ PixelMaster2
  - รองรับ 2G/3G/4G ทุกเครือข่ายในประเทศไทย แต่ข่าวร่ายสำหรับการใช้งาน2ซิมพร้อมกัน หากเราเลือกซิมช่อง1 หรือ2เป็นซิมหลักไปแล้ว ซิมซ่องที่เหลือจะรองรับการใช้งานแค่2Gเท่านั้น ซึ่ง AIS ปัจจุบันรองรับได้บางพื้นที่เท่านั้น ส่วนCAT หมดสิทธิ์ครับ
  - แบตเตอรี่ขนิด Li-Polymer ขนาด 3,010 mAh อยู่ได้ทั้งวัน เล่นหนักๆตัวเครื่องไม่ร้อนมาก จะอุ่นๆ มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ
  - รองรับ Wifi 802.11 b/g/n   Bluetooth    4.0 with A2DP, EDR  ระบบนำทาง GPS, AGPS
  - ระบบปฏบัติการ Android 5.1 Lollipop ครอบทับด้วย Zen UI จาก Asus

อุปกรณ์ภายในกล่อง
  - ตัวเครื่อง
  - คู่มือฉบับย่อ พร้อมใบรับประกัน (รับประกันเปลี่ยนเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน7วัน ประกันหลังจากขาย 15เดือน นับจากวันที่ซื้อเครื่อง)
  - หูฟังสีดำ พร้อมจุกยางเปลี่ยน
  - อแดปเตอร์​ (ไม่ใช่แบบQuick Charger)
  - สาย Micro USB

การใช้งาน



เมื่อเราเปิดเครื่องมาก็จะพบกับหน้าโฮมของZenUI ที่มาพร้อมกับแอปของGoogleที่ติดตั้งกับเครื่องมาครบชุดกันเลยทีเดียว ไม่ต้องไปดาวโหลดเองให้เสียเวลา แต่ถ้าหากว่าแอปไหนเราไม่ได้ใช้งานหรือคิดว่ามันกินพื้นที่เครื่อง เราก็สามารถลบแอปเหล่านี้ออกจากเครื่องเราได้ นอกจากแอปจากฝั่งGoogleแล้ว แอปจากแบรน Ausu เจ้าของเองก็มาครบเลยเช่นกัน แต่ก็ต้องแอบร้องไห้อยู่รำไร เนื่องจากแอปส่วนใหญ่ไม่สามารถลบออกจากเครื่องเราได้ ทำได้เพียงแค่คิดถึงเธอ ไม่ใช่ละ ทำได้เพียงแค่หยุดการใช่งานไว้เท่านั้น



จากหน้าโฮม เมื่อเราเลื่อนหน้าจอตรงกลางลง ก็จะพบกับเมนูค้นหาที่สะดวกมากในการค้นหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลภายในเครื่อง หรือจะค้นหาผ่านgoogleก็ตาม



ถ้าหากเราเลื่อนหน้าจอตรงกลางขึ้น ก็จะเป็นเมนูการตั้งค่าต่างๆของหน้าจอ ที่มีลูกเล่นมากมายในการปรับแต่ง



เมื่อเราเลื่อนแถบแจ้งเตือนลงมา ก็จะพบเมนูลัดต่างๆซึ่งเราสามารถตั้งค่าแก้ไขได้ว่าจะให้แสดงเมนูใดบ้าง สิ่งที่ผมชอบมากสำหรับมือถือตัวนี้คือ มีโหมดกรองแสงสีฟ้ามาให้ด้วย ซึ่งถือว่าตามเทรนและช่วยเราถนอมสายตาเวลาเล่นมือถือนานๆได้





เมื่อเรากดเข้ามาหน้าแอปต่างๆ เราสามารถตั้งค่ารูปแบบการจัดเรียงไอคอนได้ และที่เด็ดไปกว่านั้น เราสามารถล็อครหัสผ่านการเข้าถึงแอปในเครื่องได้ และถ้าหากใครพยายามเข้าแอปที่เราล็อคไว้แล้วใส่รหัสผ่านผิด เครื่องก็จะถ่ายรูปคนที่ใส่รหัสผ่านผิดในขณะนั้นไว้ด้วย

ในส่วนของการตั้งค่าและปรับแต่งฟีลเจอร์อื่นๆ ก็เหมือนกับมือถือAndriodทั่วไป ไม่มีอะไรแตกต่างมากมาย







ในส่วนของกล้องหลัง จะมีโหมดในการถ่ายภาพมาให้เลือกใช้มากมาย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งตั้งค่ากล้องได้ ในส่วนของออโต้โฟกัสภาพ จะมีความหน่วงประมาณ1วินาทีในการจับโฟกัสภาพอัติโนมัติ ภาพที่ออกมาจะมีความคมชัดพอสมควร สีไม่ค่อยเพี้ยนไปจากธรรมชาติ เวลาถ่ายในที่ๆมีแสงน้อย จะมีการชดเชยแสงได้พอใช้ แต่ไม่ถึงกับดี



ส่วนกล้องหน้า จะมีโหมดปรับแต่งหน้าสวยมาให้ปรับแต่งเหมือนกับมือถือรุ่นอื่นๆ เราสามารถปรับแต่งความฟรุ้งฟริ้งได้ตามต้องการ







เมื่อเราถ่ายภาพออกมาแล้ว แล้วยังไม่ถูกใจ เราก็สามารถเข้าไปปรับแต่งภาพได้ด้วยฟีลเตอร์หรือการปรับแต่งค่าต่างๆได้ย้อนหลัง ซึ่งเอาจริงๆแล้วฟิลเตอร์ที่ติดมากับเครื่อง ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อาศัยแอปอื่นแต่งภาพจะโอเคกว่า

ส่วนตัวอย่างรูปภาพที่ถ่ายจากกล้องต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถลงได้ เนื่องจากผมรีเซทเครื่องแล้วลืมไปว่ารูปที่ไปถ่ายมาตอนเทสกล้องนั้นยังไม่ได้ลงในคอม ทำให้ไม่มีรูปเหลือเลย T^T



สำหรับผลคะแนน Antutu ได้คะแนนไป 24232 คะแนน ซึ่งกว่าพอใช้ ไม่ได้แรงมาก แต่ก็ไม่ได้ต่ำจนเกินไป เหมาพกับการใช้ง่ายทั่วไป ไม่เหมากับการเล่นเกมที่ต้องใช้การประมวลผลอย่างหนัก หรือเกมกราฟฟิกสูงๆ เพราะเท่าที่ลองเทสมา ผลปรากฏว่า กระตุกจนเล่นไม่ได้เลย เกมที่เล่นได้ปกติไหลลื่นก็จะเป็นพวกเกมเศรษฐี คุ๊กกี้รัน แคนดีคัช ประมาณนี้ ส่วนเกมเวเว่นไนท์ ผมไม่ได้เทสเพราะผมเล่นไม่เป็นแล้วไม่รู้ว่าโดยปกติของเกมแล้วมันลื่นไหลเพียงใด



สำหรับการทำงานของแรม ถือว่าโอเคมากๆ ในขณะที่ผมเปิดใช้งานแอปค้างไว้ประมาณ20กว่าแอป แล้วผมก็เล่นอย่างอื่นไปด้วย ผลปรากฏว่ายังลื่นไหลอยู่ ไม่มีสะดุดหรืออาการหน่วงใดๆ ถือว่าเพียงพอสำหรับแรม2GB


***********พิเศษ************


สำหรับผู้ที่ซื้อมือถือรุ่นนี้ จะได้รับพื้นที่จัดเก็บGoogle Driveเพิ่มอีก 100 GB เป็นเวลา2ปี วิธีรับง่ายมาก เพียงแต่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยอีเมลล์ แล้วเปิดแอปGoogle Driveขึ้นมา ก็จะได้รับไปเลยฟรีๆ


_________สุดท้ายแล้ว___________
ข้อติที่ต้องคิด - แอปที่ติดมากับเครื่องและไม่สามารถลบทิ้งได้ มีจำนวนเยอะมาก ควรให้มาแต่พอสมควร แบบนี้มันดูเยอะไปจนรก
                  - ความละเอียดของกล้อง น่าจะเป็น13 ล้านพิกเซลเหมือนกับรุ่นต้นแบบ (Asus Zenfone GO) 8 ล้านพิกเซลที่ให้มา คุณภาพแต่พอใช้ถึงดี
                  - ด้วยความที่ขนาดแบตเตอรี่มีความจุ 3010 mAh ทำให้ใช้เวลาชาร์จนานพอสมควรกว่าจะเต็ม น่าจะใส่เทคโนโลยี Quick Charger 1.0 มาให้ก็ยังดีกว่าไม่ให้มาเลย

มือถือรุ่นนี้เหมาะกับใคร ? - เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ชอบความคุ้มค่า ไม่ว่าวัยไหนก็สามารถใช้ได้ เหมาะมากกับการซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ แต่ไม่เหมาะกับคนที่เล่นเกมหนักๆ หรือคนที่จะใช้ซิมค่ายอื่นเป็นซิมสำรอง แล้วซิมนั้นไม่รองรับ2G

สรุปเลยละกัน ถามว่าคุ้มไหมกับราคาเต็ม 4990บาท บอกเลยว่า ในราคาเดียวกันนี้ ลองไปดูรุ่นอื่นดีกว่า ยังมีที่ดีกว่านี้ให้เลือกอีกมากมาย
แต่ถ้าซื้อมาในราคา 2990 บาท บอกเลยว่า คุ้มมากๆ ไม่มีอะไรต้องคิดแล้ว...

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ


ปล. หากข้อมูลผิดพลาดหรือพิมพ์ประการใด ต้องอภัยไว้ณ.ที่นี้ด้วย ผมยินน้อมรับคำติชมจากทุกความคิดเห็น และพร้อมนำไปแก้ไขให้ถูกต้องครับ

ข้อมูลที่ได้ มาจากการสอบถามโดยตรงกับพนักงานDtac และเว็ปไซต์ของDtac
ชื่อสินค้า:   Asus Zenfone Dtac Edition
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่