สุดท้ายผมก็ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องสำรองจนได้ หลังจากที่ไปลองจับลงเล่น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ที่ร้านมา โดยก่อนหน้านี้ผมใช้ ASUS Zenfone 3 Max เป็นมือถือเครื่องสำรอง เพราะต้องการมือถือแบตเตอรี่อึดเป็นหลัก ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องพก Powerbank ซึ่งเจ้า ASUS Zenfone 3 Max 5.2 ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ตอบสนองกิเลสส่วนตัวเท่าไหร่ 555 (อ่านรีวิว Zenfone 3 Max 5.2 จากในสปอยได้เลยครับ)
เอาเป็นว่าผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 แทน ซึ่ง
มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 7,990 บาท (Zenfone 3 Max 5.2 ราคา 5,990 บาท) ก็ต้องบอกว่าได้สเปคที่สูงขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็น CPU จาก Qualcomm, Ram 3 GB, หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ความละเอียดมากขึ้นเป็น Full HD รวมถึงกล้องที่อัพเกรดมาจนแตะ ๆ กับ ASUS Zenfone 3 Laser ที่แพงกว่า 1,000 บาทเลยทีเดียว
สเปค ASUS Zenfone 3 Max 5.5
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว 2.5D ความละเอียด Full HD
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 octa-core ความเร็ว 1.4 GHz
- RAM 3 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อม TriTech AF
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับ 4G และรองรับ 2 ซิม
- มีสแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh
-
ราคาเปิดตัว 7,990 บาท
เหตุผลที่ผมเปลี่ยนจาก ASUS Zenfone 3 Max 5.2 มาเป็น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 เนื่องจากความจุของ ASUS Zenfone 3 Max 5.2 นั้นไม่ค่อยพอกับการใช้งานเท่าไหร่ (เหตุผลไว้หลอกตัวเอง) เอาเป็นว่าผมวู่วามซื้อไปแล้วล่ะ 555 จ่ายไป 7,990 บาท สบายตัวไป โดยรอบนี้เปลี่ยนมาซื้อสีเงิน Silver ครับ
กล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็คล้าย ๆ กับกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.2 แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เสียดายที่ผมขาย ASUS Zenfone 3 Max 5.2 ไปแล้ว (ไม่งั้นโดน ผบทบ. เล่นแน่นอน) เลยไม่ได้เอามาเทียบกัน
ข้างกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็ยังคงโชว์รายละเอียดเหมือนเดิม
อุปกรณ์ในกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มีอะแดปเตอร์, สาย Micro USB to USB Type-A, เข็มจิ้มซิม และสาย USB OTG เพราะรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank ให้กับมือถือเครื่องอื่นได้ด้วย แบตเยอะ 4100 mAh ก็งี้ล่ะครับ เหลือกินเหลือใช้
หน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 จะฉีกไปจาก ASUS Zenfone 3 Max 5.2 พอสมควร แต่จะไปคล้ายกับรุ่นสูงกว่าอย่าง ASUS Zenfone 3 Laser รายละเอียดโดยรวมมาในรูปแบบเดียวกันเลย ทั้งปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ที่อยู่ด้านล่างหน้าจอ
ด้านบนหน้าจอเป็นกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ลำโพงสำหรับสนทนา ส่วนตัวผมว่าเสียงคมชัดไม่แพ้ ASUS Zenfone 3 Max 5.2
หน้าจอ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD กระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D ตามสเปคบอกว่ามีความสว่างหน้าจอสูงถึง 450 units สัดส่วนหน้าจอ 73% ของพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด
ASUS Zenfone 3 Max 5.5 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด (ซิม 1 เป็น Micro Sim ซิม 2 เป็น Nano Sim) และรองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 128 GB
ตำแหน่งของปุ่มเปิด - ปิด และปุ่มปรับระดับเสียงอยู่พอดีมือ ทางด้านขวาของตัวเครื่อง
ด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB, ไมค์สำหรับสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ให้เสียงที่ดัง และคุณภาพดีกว่าตัว 5.2 พอสมควร
ด้านบนเป็นพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไมค์ตัดเสียงรบกวน
ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 ติดระบบ TriTech auto-focus ได้แก่ การโฟกัสด้วยเลเซอร์, Phase Detection และ ออโต้โฟกัสต่อเนื่อง ซึ่งมันโฟกัสเร็วกว่ารุ่น 5.2 นิ้วพอสมควรเลยครับ เป็นจุดที่รู้สึกว่าเพิ่มเงินไปแล้วคุ้มค่าทีเดียว และยังมีกันสั่น EIS ให้อีกด้วย
ซอฟท์แวร์กล้องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็คล้ายกับรุ่น 5.2 โหมดต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน การถ่ายภาพออกมาก็ถือว่าโอเคทีเดียวครับ การจับโฟกัสแม่นยำกว่าเดิม คุณภาพรูปถ่ายผมว่าโอเคเลยล่ะ ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายได้ครับ ผมลองเอาไปถ่ายที่ทะเลมา ใช้ได้เลย
ด้านหลังนอกจากกล้องหลังแล้ว ก็จะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ดีไซน์เหมือนกับตัว 5.2 นิ้วเลยครับ คือเป็นทรงสี่เหลี่ยม การปลดล็อกก็รวดเร็วทันใจ ส่วนตัวให้พอ ๆ กับ iPhone 6s Plus ที่ผมใช้เป็นเครื่องหลักเลย
ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย ASUS ZenUI 3.0 หน้าตาคล้าย ๆ กับมือถือ ASUS ในซีรี่ส์ Zenfone 3
แบตเตอรี่ของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ให้มาที่ความจุ 4100 mAh เท่ากับหน้าจอ 5.2 นิ้ว แต่ในแง่ของการใช้งาน แบตเตอรี่ของรุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้วจะอึดกว่า เนื่องจากสเปคของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 นั้นสูงกว่า หน้าจอความละเอียดมากกว่า แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น เปิดแอพได้มากกว่า เล่นเกมก็พอไหว
เท่าที่ใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็นาน ๆ ชาร์จไฟทีครับ ทั้ง ๆ ที่เปิด 4G ไว้ตลอด แล้วก็เน้นโทรเป็นหลักก็ตาม โดยปกติผมจะชาร์จไฟเฉลี่ย 2 วันครั้ง ใช้กันยาว ๆ เลย และยังมีโหมด Power Saver ช่วยยืดอายุการใช้งานอีกด้วย ตามหน้าสเปคบอกว่าในโหมด Power Saver แบตเตอรี่ 10% นี่ใช้ได้อีก 30 ชั่วโมง สำหรับการสแตนบายเลยครับ
ภาพรวมสำหรับ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 กับราคา 7,990 บาท ส่วนตัวผมอัพเกรดมาจากรุ่น 5.2 นิ้ว ก็ถือว่าพอใจกับเงินที่จ่ายไปครับ มันดีพอที่จะใช้เป็นเครื่องหลักเลยครับ เพราะกล้องเอย สเปครวม ๆ เอยก็ถือว่าใช้งานได้ดี Snapdragon 430 กับ Ram 3 GB นี่เพียงพอที่จะเล่นเกม 3D สวย ๆ ได้สบาย ๆ ส่วนการใช้งานโดยรวมก็ลื่นกว่ารุ่น 5.2 นิ้วอย่างเห็นได้ชัดครับ
[CR] รีวิว ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ภาคต่อของมือถือแบตอึดสุดคุ้ม จอใหญ่ขึ้น สเปคดีขึ้น ราคา 7,990 บาท
สุดท้ายผมก็ต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องสำรองจนได้ หลังจากที่ไปลองจับลงเล่น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ที่ร้านมา โดยก่อนหน้านี้ผมใช้ ASUS Zenfone 3 Max เป็นมือถือเครื่องสำรอง เพราะต้องการมือถือแบตเตอรี่อึดเป็นหลัก ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องพก Powerbank ซึ่งเจ้า ASUS Zenfone 3 Max 5.2 ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ตอบสนองกิเลสส่วนตัวเท่าไหร่ 555 (อ่านรีวิว Zenfone 3 Max 5.2 จากในสปอยได้เลยครับ)
เอาเป็นว่าผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 แทน ซึ่งมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 7,990 บาท (Zenfone 3 Max 5.2 ราคา 5,990 บาท) ก็ต้องบอกว่าได้สเปคที่สูงขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็น CPU จาก Qualcomm, Ram 3 GB, หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ความละเอียดมากขึ้นเป็น Full HD รวมถึงกล้องที่อัพเกรดมาจนแตะ ๆ กับ ASUS Zenfone 3 Laser ที่แพงกว่า 1,000 บาทเลยทีเดียว
สเปค ASUS Zenfone 3 Max 5.5
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว 2.5D ความละเอียด Full HD
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 octa-core ความเร็ว 1.4 GHz
- RAM 3 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อม TriTech AF
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับ 4G และรองรับ 2 ซิม
- มีสแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh
- ราคาเปิดตัว 7,990 บาท
เหตุผลที่ผมเปลี่ยนจาก ASUS Zenfone 3 Max 5.2 มาเป็น ASUS Zenfone 3 Max 5.5 เนื่องจากความจุของ ASUS Zenfone 3 Max 5.2 นั้นไม่ค่อยพอกับการใช้งานเท่าไหร่ (เหตุผลไว้หลอกตัวเอง) เอาเป็นว่าผมวู่วามซื้อไปแล้วล่ะ 555 จ่ายไป 7,990 บาท สบายตัวไป โดยรอบนี้เปลี่ยนมาซื้อสีเงิน Silver ครับ
กล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็คล้าย ๆ กับกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.2 แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เสียดายที่ผมขาย ASUS Zenfone 3 Max 5.2 ไปแล้ว (ไม่งั้นโดน ผบทบ. เล่นแน่นอน) เลยไม่ได้เอามาเทียบกัน
ข้างกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็ยังคงโชว์รายละเอียดเหมือนเดิม
อุปกรณ์ในกล่องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มีอะแดปเตอร์, สาย Micro USB to USB Type-A, เข็มจิ้มซิม และสาย USB OTG เพราะรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank ให้กับมือถือเครื่องอื่นได้ด้วย แบตเยอะ 4100 mAh ก็งี้ล่ะครับ เหลือกินเหลือใช้
หน้าตาของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 จะฉีกไปจาก ASUS Zenfone 3 Max 5.2 พอสมควร แต่จะไปคล้ายกับรุ่นสูงกว่าอย่าง ASUS Zenfone 3 Laser รายละเอียดโดยรวมมาในรูปแบบเดียวกันเลย ทั้งปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ที่อยู่ด้านล่างหน้าจอ
ด้านบนหน้าจอเป็นกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ลำโพงสำหรับสนทนา ส่วนตัวผมว่าเสียงคมชัดไม่แพ้ ASUS Zenfone 3 Max 5.2
หน้าจอ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD กระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D ตามสเปคบอกว่ามีความสว่างหน้าจอสูงถึง 450 units สัดส่วนหน้าจอ 73% ของพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด
ASUS Zenfone 3 Max 5.5 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด (ซิม 1 เป็น Micro Sim ซิม 2 เป็น Nano Sim) และรองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 128 GB
ตำแหน่งของปุ่มเปิด - ปิด และปุ่มปรับระดับเสียงอยู่พอดีมือ ทางด้านขวาของตัวเครื่อง
ด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB, ไมค์สำหรับสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ให้เสียงที่ดัง และคุณภาพดีกว่าตัว 5.2 พอสมควร
ด้านบนเป็นพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไมค์ตัดเสียงรบกวน
ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 ติดระบบ TriTech auto-focus ได้แก่ การโฟกัสด้วยเลเซอร์, Phase Detection และ ออโต้โฟกัสต่อเนื่อง ซึ่งมันโฟกัสเร็วกว่ารุ่น 5.2 นิ้วพอสมควรเลยครับ เป็นจุดที่รู้สึกว่าเพิ่มเงินไปแล้วคุ้มค่าทีเดียว และยังมีกันสั่น EIS ให้อีกด้วย
ซอฟท์แวร์กล้องของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ก็คล้ายกับรุ่น 5.2 โหมดต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน การถ่ายภาพออกมาก็ถือว่าโอเคทีเดียวครับ การจับโฟกัสแม่นยำกว่าเดิม คุณภาพรูปถ่ายผมว่าโอเคเลยล่ะ ลองดูตัวอย่างภาพถ่ายได้ครับ ผมลองเอาไปถ่ายที่ทะเลมา ใช้ได้เลย
ด้านหลังนอกจากกล้องหลังแล้ว ก็จะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ดีไซน์เหมือนกับตัว 5.2 นิ้วเลยครับ คือเป็นทรงสี่เหลี่ยม การปลดล็อกก็รวดเร็วทันใจ ส่วนตัวให้พอ ๆ กับ iPhone 6s Plus ที่ผมใช้เป็นเครื่องหลักเลย
ASUS Zenfone 3 Max 5.5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย ASUS ZenUI 3.0 หน้าตาคล้าย ๆ กับมือถือ ASUS ในซีรี่ส์ Zenfone 3
แบตเตอรี่ของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 ให้มาที่ความจุ 4100 mAh เท่ากับหน้าจอ 5.2 นิ้ว แต่ในแง่ของการใช้งาน แบตเตอรี่ของรุ่นหน้าจอ 5.2 นิ้วจะอึดกว่า เนื่องจากสเปคของ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 นั้นสูงกว่า หน้าจอความละเอียดมากกว่า แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น เปิดแอพได้มากกว่า เล่นเกมก็พอไหว
เท่าที่ใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็นาน ๆ ชาร์จไฟทีครับ ทั้ง ๆ ที่เปิด 4G ไว้ตลอด แล้วก็เน้นโทรเป็นหลักก็ตาม โดยปกติผมจะชาร์จไฟเฉลี่ย 2 วันครั้ง ใช้กันยาว ๆ เลย และยังมีโหมด Power Saver ช่วยยืดอายุการใช้งานอีกด้วย ตามหน้าสเปคบอกว่าในโหมด Power Saver แบตเตอรี่ 10% นี่ใช้ได้อีก 30 ชั่วโมง สำหรับการสแตนบายเลยครับ
ภาพรวมสำหรับ ASUS Zenfone 3 Max 5.5 กับราคา 7,990 บาท ส่วนตัวผมอัพเกรดมาจากรุ่น 5.2 นิ้ว ก็ถือว่าพอใจกับเงินที่จ่ายไปครับ มันดีพอที่จะใช้เป็นเครื่องหลักเลยครับ เพราะกล้องเอย สเปครวม ๆ เอยก็ถือว่าใช้งานได้ดี Snapdragon 430 กับ Ram 3 GB นี่เพียงพอที่จะเล่นเกม 3D สวย ๆ ได้สบาย ๆ ส่วนการใช้งานโดยรวมก็ลื่นกว่ารุ่น 5.2 นิ้วอย่างเห็นได้ชัดครับ