ผมใช้รถฟอร์ด เฟียสต้า สี่ประตู ปี2011 สังเกตว่า เมื่อใดก็ตามที่ ต้องเข้าศูนย์หรือเข้าอู่ แล้วทำอะไรที่ต้องยกรถให้ล้อลอยเหนือพื้น เมื่อเสร็จและออกจากอู่หรือออกจากศูนย์ จะรู้สึกว่า โช๊คหน้ามันเหมือนพังไปเลย คือพอเจอถนนไม่เรียบ หรือหลังเต่า มันจะรับรู้การกระแทกเหมือนรถไม่มีโช๊คในการซับแรงกระแทกเลยครับ แต่ผิดกับล้อคู่หลัง ซึ่งยังสามารถรับแรงกระแทกได้นุ่มนวลเหมือนเดิม ตอนแรกก็คิดว่าโช๊คหน้าคงเสียซะแล้ว แต่ก็ยังฝืนขับไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ โช๊คหน้า ก็กลับมาซับแรงกระแทกได้เหมือนเดิม
ผมสังเกตว่า มันเป็นแบบนี้ หลายรอบแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปใช้บริการที่ศูนย์รถฟอร์ด เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซึ่งต้องยกรถในแบบนี้เช่นกัน พอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จช่างที่ศูนย์มาแจ้งว่า โช๊ครถผมมันแข็ง ประมาณว่าน่าจะเสียแล้ว จะเปลี่ยนเลยหรือไม่ ผมก็เลยตอบไปว่าไม่เปลี่ยน จริงๆ แล้วคือไม่ได้เตรียมเงินไปเผื่อด้วย และคิดว่า เพราะเค้ายกรถขึ้นไปนั่นแหละ ทำให้โช๊คมันแข็ง ขับไปสักระยะคงดีขึ้น จากนั้นขับรถกลับบ้านตามปกติ ช่วงล่างหน้ามันก็กระแทบกระเทือนมากแบบที่เป็นๆ มา โดยที่ช่วงล่างด้านหลังยังนุ่มนวลเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่รถก็ถูกยกทั้งสี่ล้อ
จากนั้นผมก็มาสังเกตช่างล่างหน้า กับหลังมันต่างกันยังไง ทำไมมันแข็งเหมือนจะพังเฉพาะด้านหน้า เท่าที่ผมดู ด้านหน้านั้น สปริงมันครอบสวมอยู่กับแกนโช๊ค โดยที่หัวโช๊คก็ยึดกับเบ้าโช๊คซึ่งอยู่ภายในกระโปรงหน้ารถส่วนบนและปลายโช๊คก็ยึดกับส่วนล่างของรถ คือลักษณะมันเหมือนกับว่า โช๊คกับสปริงมันเป็นชิ้นเดียวกัน แต่ตัวโช๊คเป็นตัวรับน้ำหนักรถมากกว่า ส่วนในช่วงล่างด้านหลัง ผมเห็นว่า สปริงกับโช๊ค มันอยู่คนละส่วนกัน เหมือนแยกกันรับน้ำหนัก โดยที่สปริงอาจจะเป็นตัวรับน้ำหนักรถโดยตรงมากกว่าโช๊ค
เพราะแบบนี้รึเปล่า ที่ทำให้โช๊คในช่วงล่างหลัง แม้จะโดนยกเหมือนกัน แต่ไม่ทำให้มีผลต่อการซับแรงกระเทือนมากเท่าด้านหน้าเพราะการซับแรงไปอยู่ที่สปริงมากกว่า ส่วนด้านหน้านั้น โช๊คมันต้องรับการกระแทกกระเทือนมากกว่าเพราะหัวโช๊คและปลายโช๊คมันยึดอยู่ระหว่างส่วนบนกับส่วนล่างของด้านหน้ารถ โดยที่สปริงมันอยู่ในแกนโช๊คอีกทีหนึ่ง
ขออภัยที่ผมอาจจะอธิบายไม่เก่งนัก อาจทำให้ท่านที่เข้ามาอ่านงงๆ มากทีเดียว แต่ที่เข้ามาเล่า คือ จะอยากบอกว่า ท่านที่อาจจะมีประสบการณ์เหมือนผม คือเมื่อรถถูกยกแล้ว เมื่อทำหรือซ่อมรถเสร็จเกิดเจออาการโช๊คแข็งเหมือนผม แล้วช่างให้เปลี่ยนโช๊คนั้น อาจจะลองใช้รถไปสักระยะหนึ่งก่อน อาจจะดีขึ้น (อย่างของผม คือแรกๆ สมัยรถยังใหม่ๆ เอาไปเข้าศูนย์ อาการมันอาจจะไม่เยอะจนไม่สังเกต) เมื่อรถมีอายุการใช้งานเริ่มเยอะแล้ว จึงออกอาการ แต่ยังไม่ถึงกับเสีย
เท่าที่สังเกตคือหลังจากยกรถแล้ว นำกลับมาใช้งาน โช๊คหน้าจะแข็งอยู่ประมาณ5-7วัน แล้วจะค่อยๆ กลับมานุ่มเหมือนเดิม เป็นอย่างนี้มาหลายรอบแล้วครับ แต่สักวันนึงเมื่อมันเก่ากว่านี้ ก็คงจะพังและต้องเปลี่ยนแหละครับ ตอนที่ช่างที่ศูนย์เสนอราคามา รู้สึกว่า โช๊คหน้าข้างละประมาณ1,6XXบาท เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนเป็นคู่ รวมค่าแรงประมาณ5,XXXบาท ก็หวังว่ากระทู้ผมคงเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ หรือถ้าไม่มีประโยชน์เลยต้องขออภัยที่เสียเวลาเข้ามาอ่านกันนะครับ
ชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องยกรถ(ยนต์)จนกระทั่งล้อลอยจากพื้นทั้งสี่ล้อเพื่อเปลี่ยนยางหรือซ่อมบำรุงใต้ท้องรถ
ผมสังเกตว่า มันเป็นแบบนี้ หลายรอบแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปใช้บริการที่ศูนย์รถฟอร์ด เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซึ่งต้องยกรถในแบบนี้เช่นกัน พอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จช่างที่ศูนย์มาแจ้งว่า โช๊ครถผมมันแข็ง ประมาณว่าน่าจะเสียแล้ว จะเปลี่ยนเลยหรือไม่ ผมก็เลยตอบไปว่าไม่เปลี่ยน จริงๆ แล้วคือไม่ได้เตรียมเงินไปเผื่อด้วย และคิดว่า เพราะเค้ายกรถขึ้นไปนั่นแหละ ทำให้โช๊คมันแข็ง ขับไปสักระยะคงดีขึ้น จากนั้นขับรถกลับบ้านตามปกติ ช่วงล่างหน้ามันก็กระแทบกระเทือนมากแบบที่เป็นๆ มา โดยที่ช่วงล่างด้านหลังยังนุ่มนวลเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่รถก็ถูกยกทั้งสี่ล้อ
จากนั้นผมก็มาสังเกตช่างล่างหน้า กับหลังมันต่างกันยังไง ทำไมมันแข็งเหมือนจะพังเฉพาะด้านหน้า เท่าที่ผมดู ด้านหน้านั้น สปริงมันครอบสวมอยู่กับแกนโช๊ค โดยที่หัวโช๊คก็ยึดกับเบ้าโช๊คซึ่งอยู่ภายในกระโปรงหน้ารถส่วนบนและปลายโช๊คก็ยึดกับส่วนล่างของรถ คือลักษณะมันเหมือนกับว่า โช๊คกับสปริงมันเป็นชิ้นเดียวกัน แต่ตัวโช๊คเป็นตัวรับน้ำหนักรถมากกว่า ส่วนในช่วงล่างด้านหลัง ผมเห็นว่า สปริงกับโช๊ค มันอยู่คนละส่วนกัน เหมือนแยกกันรับน้ำหนัก โดยที่สปริงอาจจะเป็นตัวรับน้ำหนักรถโดยตรงมากกว่าโช๊ค
เพราะแบบนี้รึเปล่า ที่ทำให้โช๊คในช่วงล่างหลัง แม้จะโดนยกเหมือนกัน แต่ไม่ทำให้มีผลต่อการซับแรงกระเทือนมากเท่าด้านหน้าเพราะการซับแรงไปอยู่ที่สปริงมากกว่า ส่วนด้านหน้านั้น โช๊คมันต้องรับการกระแทกกระเทือนมากกว่าเพราะหัวโช๊คและปลายโช๊คมันยึดอยู่ระหว่างส่วนบนกับส่วนล่างของด้านหน้ารถ โดยที่สปริงมันอยู่ในแกนโช๊คอีกทีหนึ่ง
ขออภัยที่ผมอาจจะอธิบายไม่เก่งนัก อาจทำให้ท่านที่เข้ามาอ่านงงๆ มากทีเดียว แต่ที่เข้ามาเล่า คือ จะอยากบอกว่า ท่านที่อาจจะมีประสบการณ์เหมือนผม คือเมื่อรถถูกยกแล้ว เมื่อทำหรือซ่อมรถเสร็จเกิดเจออาการโช๊คแข็งเหมือนผม แล้วช่างให้เปลี่ยนโช๊คนั้น อาจจะลองใช้รถไปสักระยะหนึ่งก่อน อาจจะดีขึ้น (อย่างของผม คือแรกๆ สมัยรถยังใหม่ๆ เอาไปเข้าศูนย์ อาการมันอาจจะไม่เยอะจนไม่สังเกต) เมื่อรถมีอายุการใช้งานเริ่มเยอะแล้ว จึงออกอาการ แต่ยังไม่ถึงกับเสีย
เท่าที่สังเกตคือหลังจากยกรถแล้ว นำกลับมาใช้งาน โช๊คหน้าจะแข็งอยู่ประมาณ5-7วัน แล้วจะค่อยๆ กลับมานุ่มเหมือนเดิม เป็นอย่างนี้มาหลายรอบแล้วครับ แต่สักวันนึงเมื่อมันเก่ากว่านี้ ก็คงจะพังและต้องเปลี่ยนแหละครับ ตอนที่ช่างที่ศูนย์เสนอราคามา รู้สึกว่า โช๊คหน้าข้างละประมาณ1,6XXบาท เวลาเปลี่ยนต้องเปลี่ยนเป็นคู่ รวมค่าแรงประมาณ5,XXXบาท ก็หวังว่ากระทู้ผมคงเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ หรือถ้าไม่มีประโยชน์เลยต้องขออภัยที่เสียเวลาเข้ามาอ่านกันนะครับ