ไปดูมาแล้ว...
จากเกมส์ยิงนกสุดฮิต ถูกปลุกชีวิตให้โลดแล่นบนจอเงิน “The Angry Birds Movie” (ให้ 7/10)
*****ไม่สปอยล์*****
จากเกมส์ยิงนกสุดฮิตจากบริษัท โรวิโอโมไบล์ ในปี 2552 ด้วยเนื้อหาและรูปแบบเกมส์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครจึงเกิดกระแสฮิตทั่วโลกและมียอดดาวน์โหลดถล่มทลาย ไม่มีใครที่ไม่รู้จักและไม่เล่นเกมส์ ‘Angry Birds’ และตอนนี้ฉากในเกมส์พร้อมทั้งเหล่าบรรดาตัวละครกำลังถูกปลุกให้มีชีวิตออกมาโลดแล่นบนจอโรงภาพยนตร์แล้ว
.
“The Angry Birds Movie” เล่าเรื่องราวบนเกาะแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสุขและเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านกที่บินไม่ได้ ‘RED’ (พากย์เสียงโดย Jason Sudeikis) นกตัวสีแดงมีนิสัยชอบเกรี้ยวกราดจนไม่มีเพื่อนคบ เขาถูกส่งให้ไปฝึกควบคุมอารมณ์โกรธจนทำให้ได้พบกับเพื่อนร่วมก๊วนใหม่คือ ‘Chuck’ นกเหลืองเจ้าปัญหา (พากย์เสียงโดย Josh Gad ที่เคยพากย์เป็น Olaf ใน Frozen) และ ‘Bomb’ นกสีดำที่มักจะระเบิดตัวเองเมื่อโกรธ (พากย์เสียงโดย Danny McBride) แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อหมูตัวสีเขียว “Leonardo” ต้องการมาขโมยไข่ของเหล่านกเพื่อนำไปเป็นอาหาร ภารกิจกอบกู้ไข่ของบรรดานกจึงเริ่มต้นขึ้น
สำหรับผู้ใหญ่ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร เพราะเป็นแอนนิเมชั่นสำหรับเด็กจริงๆ มันจะไม่ใช่แนวดิสนี่ย์ที่ได้ข้อคิดลึกซึ้งดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่เรื่องนี้จะเน้นที่ความสนุกสนาน สดใสสไตล์เด็กๆ บทและพล็อตจึงไม่มีอะไรมากนอกจากดำเนินเรื่องให้มันสนุก ทำให้ในช่วงครึ่งแรกบทมีความเนือยเล่าเรื่องและแนะนำตัวละครไปเรื่อยๆ มีปล่อยมุกให้พอได้ฮากันบ้าง ความน่าสนใจจะไปอยู่ที่ครึ่งหลัง ช่วงที่เป็นการเปิดศึกระหว่างนกกับหมู มันส์มากและปล่อยมุกฮาเยอะมากเช่นกัน
คาแรกเตอร์ของเหล่าบรรดานกถือว่าทำได้ดีทีเดียว แต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นไม่ทับลายกัน ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวการ์ตูนแต่การสื่อสารอารมณ์ต่างๆ ผ่านสีหน้าและท่าทางของตัวละครสามารถดึงให้คนดูอินตามได้ไม่ยาก เพลงประกอบก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยส่งเสริมให้เรื่องราวมันตื่นเต้นน่าสนใจและพาให้มีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ตลอดเวลา ชอบแกงค์นกเพื่อนซี้สามตัวมาก เวลามาเข้าก๊วนกันเมื่อไรฮากระจายเหมือนได้ดูแกงค์สามช่าเลย
นอกจากนี้ ภาพในเรื่องสวยมีสีสันสดใส ออกแบบตัวละครนกได้น่ารักน่ากอดมาก ฉากต่อสู้ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของเรื่อง ถอดแบบมาจากเกมส์ได้เหมือนเด๊ะมากๆ แถมใส่ลูกเล่นให้มันดูอลังการตื่นตาตื่นใจมากกว่าในเกมส์ไปอี้ก ดูจบแล้วอยากจะไปโหลดเกมส์มาเล่นอีกครั้ง มีเอนเครดิตปิดท้ายทิ้งปมไว้เหมือนจะมีภาคต่อซึ่งคิดว่าน่าจะทำภาคต่อนะ เพราะในเกมส์ยังมีหลายภาคเลย หนังก็คงจะทำหลายภาคเช่นกัน
ความโกรธคืออารมณ์หนึ่งของคนเราเหมือน อารมณ์รัก เสียใจ หรือกลัว ซึ่งความโกรธเป็นเป็นการเตรียมพร้อมของเราในการป้องกันตัวเองจากสิ่งที่มากระทบกับตัวเรา การแสดงออกมักจะเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมก้าวร้าว ความโกรธไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใน Angry Birds หนังนำเสนอด้านดีของอารมณ์โกรธ ให้ใช้ความโกรธตอบโต้เมื่อโดนรังแก RED เป็นนกที่มีปมมาตั้งแต่เด็กทำให้กลายเป็นนกที่โมโหร้าย แต่แล้วเมื่อนกตัวอื่นหรือเจ้าหมูสีเขียวมาก่อเรื่อง มันจึงปลุกเอาความโกรธในตัวเองและเพื่อนใช้เป็นอาวุธต่อกรกับวายร้าย อารมณ์โกรธเกิดขึ้นได้กับทุกคนและไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่เราต้องรู้จักควบคุมอารมณ์นั้นและใช้มันเป็นแรงผลักให้ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า
.
โดยรวม ถ้าคุณเป็นคนคิดเยอะ ต้องการจะหาอะไรบางอย่างจากหนังเรื่องนี้ ก็ขอเตือนว่าอย่าไปดูเลย เพราะการดูแอนนิเมชั่นเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องสนุกและคงไม่ใช่แนวทางุของคุณ ถ้าจะไปดูจริงๆ แนะนำให้ปล่อยใจไปตามหนัง ลองทำตัวเป็นเด็กสักครั้งแล้วคุณจะได้สัมผัสรสชาติของชีวิตวัยเด็กที่มีแต่ความสดใส สนุกสนาน ไร้เดียงสา ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นแอนนิเมชั่นขวัญใจเด็กอย่างแน่นอน หมดเวลาเล่นได้เวลาสู้ไปกับ “The Angry Birds Movie” วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1713628745588672/?type=3&theater
[SR] จากเกมส์ยิงนกสุดฮิต ถูกปลุกชีวิตให้โลดแล่นบนจอเงิน “The Angry Birds Movie”
ไปดูมาแล้ว...
จากเกมส์ยิงนกสุดฮิต ถูกปลุกชีวิตให้โลดแล่นบนจอเงิน “The Angry Birds Movie” (ให้ 7/10)
*****ไม่สปอยล์*****
จากเกมส์ยิงนกสุดฮิตจากบริษัท โรวิโอโมไบล์ ในปี 2552 ด้วยเนื้อหาและรูปแบบเกมส์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครจึงเกิดกระแสฮิตทั่วโลกและมียอดดาวน์โหลดถล่มทลาย ไม่มีใครที่ไม่รู้จักและไม่เล่นเกมส์ ‘Angry Birds’ และตอนนี้ฉากในเกมส์พร้อมทั้งเหล่าบรรดาตัวละครกำลังถูกปลุกให้มีชีวิตออกมาโลดแล่นบนจอโรงภาพยนตร์แล้ว
.
“The Angry Birds Movie” เล่าเรื่องราวบนเกาะแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสุขและเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านกที่บินไม่ได้ ‘RED’ (พากย์เสียงโดย Jason Sudeikis) นกตัวสีแดงมีนิสัยชอบเกรี้ยวกราดจนไม่มีเพื่อนคบ เขาถูกส่งให้ไปฝึกควบคุมอารมณ์โกรธจนทำให้ได้พบกับเพื่อนร่วมก๊วนใหม่คือ ‘Chuck’ นกเหลืองเจ้าปัญหา (พากย์เสียงโดย Josh Gad ที่เคยพากย์เป็น Olaf ใน Frozen) และ ‘Bomb’ นกสีดำที่มักจะระเบิดตัวเองเมื่อโกรธ (พากย์เสียงโดย Danny McBride) แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อหมูตัวสีเขียว “Leonardo” ต้องการมาขโมยไข่ของเหล่านกเพื่อนำไปเป็นอาหาร ภารกิจกอบกู้ไข่ของบรรดานกจึงเริ่มต้นขึ้น
สำหรับผู้ใหญ่ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร เพราะเป็นแอนนิเมชั่นสำหรับเด็กจริงๆ มันจะไม่ใช่แนวดิสนี่ย์ที่ได้ข้อคิดลึกซึ้งดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่เรื่องนี้จะเน้นที่ความสนุกสนาน สดใสสไตล์เด็กๆ บทและพล็อตจึงไม่มีอะไรมากนอกจากดำเนินเรื่องให้มันสนุก ทำให้ในช่วงครึ่งแรกบทมีความเนือยเล่าเรื่องและแนะนำตัวละครไปเรื่อยๆ มีปล่อยมุกให้พอได้ฮากันบ้าง ความน่าสนใจจะไปอยู่ที่ครึ่งหลัง ช่วงที่เป็นการเปิดศึกระหว่างนกกับหมู มันส์มากและปล่อยมุกฮาเยอะมากเช่นกัน
คาแรกเตอร์ของเหล่าบรรดานกถือว่าทำได้ดีทีเดียว แต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นไม่ทับลายกัน ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวการ์ตูนแต่การสื่อสารอารมณ์ต่างๆ ผ่านสีหน้าและท่าทางของตัวละครสามารถดึงให้คนดูอินตามได้ไม่ยาก เพลงประกอบก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยส่งเสริมให้เรื่องราวมันตื่นเต้นน่าสนใจและพาให้มีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ตลอดเวลา ชอบแกงค์นกเพื่อนซี้สามตัวมาก เวลามาเข้าก๊วนกันเมื่อไรฮากระจายเหมือนได้ดูแกงค์สามช่าเลย
นอกจากนี้ ภาพในเรื่องสวยมีสีสันสดใส ออกแบบตัวละครนกได้น่ารักน่ากอดมาก ฉากต่อสู้ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของเรื่อง ถอดแบบมาจากเกมส์ได้เหมือนเด๊ะมากๆ แถมใส่ลูกเล่นให้มันดูอลังการตื่นตาตื่นใจมากกว่าในเกมส์ไปอี้ก ดูจบแล้วอยากจะไปโหลดเกมส์มาเล่นอีกครั้ง มีเอนเครดิตปิดท้ายทิ้งปมไว้เหมือนจะมีภาคต่อซึ่งคิดว่าน่าจะทำภาคต่อนะ เพราะในเกมส์ยังมีหลายภาคเลย หนังก็คงจะทำหลายภาคเช่นกัน
ความโกรธคืออารมณ์หนึ่งของคนเราเหมือน อารมณ์รัก เสียใจ หรือกลัว ซึ่งความโกรธเป็นเป็นการเตรียมพร้อมของเราในการป้องกันตัวเองจากสิ่งที่มากระทบกับตัวเรา การแสดงออกมักจะเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมก้าวร้าว ความโกรธไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใน Angry Birds หนังนำเสนอด้านดีของอารมณ์โกรธ ให้ใช้ความโกรธตอบโต้เมื่อโดนรังแก RED เป็นนกที่มีปมมาตั้งแต่เด็กทำให้กลายเป็นนกที่โมโหร้าย แต่แล้วเมื่อนกตัวอื่นหรือเจ้าหมูสีเขียวมาก่อเรื่อง มันจึงปลุกเอาความโกรธในตัวเองและเพื่อนใช้เป็นอาวุธต่อกรกับวายร้าย อารมณ์โกรธเกิดขึ้นได้กับทุกคนและไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่เราต้องรู้จักควบคุมอารมณ์นั้นและใช้มันเป็นแรงผลักให้ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า
.
โดยรวม ถ้าคุณเป็นคนคิดเยอะ ต้องการจะหาอะไรบางอย่างจากหนังเรื่องนี้ ก็ขอเตือนว่าอย่าไปดูเลย เพราะการดูแอนนิเมชั่นเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องสนุกและคงไม่ใช่แนวทางุของคุณ ถ้าจะไปดูจริงๆ แนะนำให้ปล่อยใจไปตามหนัง ลองทำตัวเป็นเด็กสักครั้งแล้วคุณจะได้สัมผัสรสชาติของชีวิตวัยเด็กที่มีแต่ความสดใส สนุกสนาน ไร้เดียงสา ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นแอนนิเมชั่นขวัญใจเด็กอย่างแน่นอน หมดเวลาเล่นได้เวลาสู้ไปกับ “The Angry Birds Movie” วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1713628745588672/?type=3&theater