[พลีชีพ] รักษาสิวกันเถอะ!! ..กำลังใจถึงคนรักษาสิว, RetinA, Differin

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ ถ้าผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะคะ
เราจะมาพูดถึงวิธีรักษาสิวที่เรารักษามาค่ะ ลองๆถูกๆผิดมาเอง ศึกษาข้อมูลจากเว็บต่างๆ
แล้วส่วนใหญ่ก็มาจากพันทิปค่ะ แต่ไม่ใช่เราเริ่มเองหรอกนะคะ
เหตุเกิดจากที่เราไปหาหมอค่ะ ซึ่งเป็นหมอจากโรงพยาบาล แล้วหมอก็ให้ยามา
ยาที่ได้รับก็ยาทั่วไปค่ะ Benzac, Differin, Clinda
หมอบอกเราเป็นอุดตันเยอะค่ะ ต้องขับสิวออกมา เราซึ่งเป็นผู้ที่พยายามรักษาสิวมาหลายวิธีก็พอทราบค่ะ ว่าการใช้สองตัวนี้สิวจะเห่อ
เราเองเคยซื้อมาใช้ ผลที่ได้คือสิวเห่อมาก ตอนนั้นเราไม่อดทน เลยเลิกใช้แล้วเราก็อยู่กับสิวอุดตันมาตลอด ขึ้นที่เดิมซ้ำๆ วนไปเป็นวัฏจักร
จนเราหาหมอ จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะหาหมอสิวค่ะ แต่ช่วงนั้นเป็นผื่นขึ้นที่ตัวเลยไปหาหมอผิวหนัง ที่โรงพยาบาล หมอเห็นเราเป็นสิวเลยถามว่าอยากรักษาสิวไหม (มารู้ทีหลังว่าหมออยู่พรเกษมด้วย) เราเลยรักษาสิวด้วยเลยค่ะ

เริ่มเลยละกันค่ะ มาดูสภาพผิวก่อนทำการรักษากันค่ะ

จะเห็นว่าเป็นรอยสิว และที่เยอะมากๆคือสิวอุดตัน เม็ดๆใต้ผิวหนัง มันจะขึ้นแล้วหาย แล้วขึ้นใหม่ไม่ยอมหยุดค่ะ
เอาล่ะค่ะมาดูยาที่ใช้รักษากันค่ะ เริ่มแรกที่เราได้รับมาคือ

1.    Aczee Gel :
        > ตัวนี้ตัวยาเดียวกับ Benzac ค่ะ ตัวยาเดียวกัน ตั้งชื่อแบรนด์ต่างกัน ส่วนประกอบหลักคือ benzoyl peroxide ความเข้มข้น 2.5% สำหรับคนที่เริ่มรักษาแนะนำให้เริ่มที่ความเข้มข้นนี้ค่ะ เนื่องจากต้องให้สภาพผิวชินกับตัวยา
        > สรรพคุณ: ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ที่เป็นต้นเหตุของสิวเห่อและอักเสบ และลดจำนวนของ comedones
        > วิธีใช้: ทาทั่วหน้าก่อนอาบน้ำค่ะ (เช็ดเครื่องสำอางให้หมดก่อนนะคะ แล้วล้างน้ำเปล่า แล้วทายาค่ะ) แรกๆแนะนำ 5-10 นาทีเท่านั้นค่ะ เพราะอาจแสบหน้าค่ะ พอเริ่มชินก็อัพเป็น 15 นาทีได้ค่ะ ไม่ควรทิ้งไว้นานนะคะ
2.    Klinna clindamycin lotion 1% :
        > สรรพคุณ: ช่วยไม่ให้สิวของเราเกิดการติดเชื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ สิวหนอง ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes
        > วิธีใช้: จริงๆแล้วยานี้ให้ทาบริเวณสิวอักเสบ หรือเมื่อเราเห็นเป็นตุ่มแดงๆกำลังจะขึ้นสิวค่ะ แต่หมอให้เราทาทั้งหน้าเลยค่ะ บางๆ เนื่องจากเราเป็นสิวอุดตันเยอะ แล้วสิวอุดตันพวกนี้ก็จะกลายเป็นสิวอักเสบค่ะ
3.    Differin/Retin-A :
       > เป็นยาในจำพวกกรดวิตามินเอ ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ดีตัวนี้จ่วยขับสิวอุดตันออกมาค่ะ ให้ผลแต่ละคนแตกต่างกันไป สำหรับเรา สิวเห่อมากค่ะ มากถึงมากที่สุด
      ** ในตอนแรกเราใช้ Retin-A นะคะ แต่เนื่องจากไม่ได้เก็บหลอดไว้เลยถ่ายDifferin แทนค่ะ Retin-A ให้ผลรุนแรงกว่าDifferin ค่ะ ทั้งหน้าลอก ไวต่อแสง แต่แน่นอนค่ะ มันเห็นผลในการขับสิวเร็วกว่ามากค่ะ ตอนแรกเราใช้ retinA 0.025% ค่ะ

เป็นตัวนี้ค่ะ ความเข้มข้นต่ำสุดค่ะ เริ่มแรกทุกคนควรเริ่มที่ความเข้มข้นนี้ค่ะ
ส่วนดิฟเฟอรินเป็นกลุ่มวิตามินเอเหมือนกันค่ะแต่ถูกคิดค้นมาให้ส่งผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่ความแรงของยาก็ลดลงค่ะ ถ้าใครไม่ได้เป็นสิวอุดตันเยอะ ใช้ดิฟเฟอรินก็ได้ค่ะเพื่อหลีกเลี่ยงหน้าไวต่อแสง และลอกค่ะ แต่บางคนเท่าที่ศึกษาจากรีวิวแต่ละคนบางคนก็ไม่ลอกนะคะ อันนี้แล้วแต่คนจริงๆค่ะ
       > วิธีใช้ : ทาก่อนนอนบางๆค่ะ ทาแล้วปิดไฟนอนเลยค่ะ (โดยเฉพาะRetin-A ควรหลีกเลี่ยงแสงค่ะ)
เราใช้ยาชุดนี้ไปได้1 เดือนค่ะ เรามาดูผลกันนะคะ อย่างที่เห็นแล้วเราสิวอุดตันเยอะมากค่ะ แน่นอนมันต้องขึ้นมาเยอะมากจากผลของ Retin-A

             ค่ะ อย่างที่เห็นสิวอุดตันพากันขึ้นเยอะมากค่ะ จากรูปแค่2 อาทิตย์ค่ะ แต่ถ้าทุกคนคิดว่านี่ขึ้นเยอะแล้ว คิดผิดค่ะ บอกเลยนี่แค่เริ่มต้นค่ะ
ทาไปเรื่อยๆทุกวันค่ะ ขยันทา สิวยังคงผุดออกมาอย่างมหาศาล

           ทั้งสิวหนองสิวอักเสบค่ะ อย่างที่บอกนี่แค่เริ่มต้นค่ะ ในรูปยังคงมีเม็ดเล็กๆที่ยังไม่ขึ้นมาค่ะ หมอนัดเราอีก1เดือนถัดมาค่ะ เราเดาไว้แล้วค่ะ ว่าสิ่งที่หมอจะให้ต่อมาคือการเพิ่มความเข้มข้นของยาค่ะ เมื่อถึงวันนัด เป็นไปตามคาดค่ะ หมอให้ยาเหมือนเดิมแค่เพิ่มความเข้มข้นค่ะ ยกเว้น Kilnna ที่ยังคงเป็นตัวเดิมค่ะ

            หมอเปลี่ยนจากตัว Aczee Gel มาเป็นตัวนี้ค่ะ สรรพคุณเหมือนเดิม ตัวยาเหมือนเดิมแค่เพิ่มความเข้มข้นของยาเป็น 5% ค่ะ
เช่นเดียวกับ retin-A ค่ะ ถูกเพิ่มมาเป็น 0.05%


          การที่หมอเพิ่มความเข้มข้นของยา นั่นหมายถึงสิวอุดตันจะโผล่ออกมาเร็วขึ้นค่ะ =[]=
เราต้องยอมและอดทนค่ะ ตอนนั้นก็คิดไว้แล้ว ไม่มีอะไรจะเสียแล้วค่ะ ต้องยอมค่ะ
เราก็ทาแบบเดิม จนกว่าหมอจะนัดใหม่นั่นคือ อีก 1 เดือนครึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนนนน เราต้องทนกับสิวที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ยั้งอย่างอดทน
.
.
.
มาดูผลกันค่ะ TT



            OMG !!=[]= อย่างที่คาดไว้ เม็ดเล็กๆโผล่ขึ้นเต็มตามความแรงของยา แต่มันยังไม่ใช่ที่สุดนะคะ สิวยังคงขึ้นเรื่อยๆค่ะ
และจากผลของ Retin-A รวมถึงการที่สิวขึ้นมาเยอะมาก ส่งผลให้เกิดการลอกของผิวหน้า หน้าเราลอกเยอะค่ะ โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำลอกมาเป็นขุยๆแผ่นๆเลยค่ะ


           จำได้ว่าทรมานมากเลยค่ะ แสบบ้างเจ็บบ้าง ถ้ายิ่งโดนแดดเราก็จะแสบ และหน้าแดง ตอนนั้นหน้าบางมากกกกก ต้องคอยหลบแดดค่ะ แต่ก็หลบได้ไม่มากเพราะต้องขับรถไปเรียนค่ะ   และเราก็คิดค่ะว่าไม่ควรจะปล่อยให้มันลอกแบบนี้ ก็หาข้อมูลค่ะ พยายามหายาที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่หน้า และต้องเป็นเวชสำอางด้วย และต้องเหมาะกับผิวแพ้ง่ายมากเท่านั้น หาข้อมูลอยู่นานค่ะ ได้ที่สนใจมา2ตัวคือ Ezerra cream และ  Physiogel AI Cream สุดท้ายเลือกแบบ Physiogel AI Cream จริงๆแล้ว Physiogel มีสองตัวค่ะ คือ
         - Physiogel cream
         - Physiogel AI Cream

                ซึ่งทั้งสองตัวเป็นเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี อ่อนโยน เหมาะกับผิวแห้ง แพ้ง่าย และคนที่เป็นสิวง่าย จัดว่าเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์แถวหน้าที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ โดย Physiogel AI Cream จะอ่อนโยนมากกว่า ดังนั้นเราจึงเลือกแบบ AI ค่ะ ราคาก็สูงกว่าแบบธรรมดาค่ะ


>> Physiogel AI Cream
          ทางแบรนด์เคลมว่าเป็น Non-comedogenic ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เนื้อครีมจะมีโครงสร้างคล้ายกับเกราะป้องกันผิวหนังตามธรรมชาติ โดยตัว AI จะมีสารกันแพ้ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นหาคนที่แพ้ได้น้อยมากก ซึ่งถูดคิดค้นและพัฒนาด้วยนวัตกรรมการผลิตชั้นสูง สถาบันวิจัยเพื่อผิวพรรณ สตีเฟล เนื้อครีมจะมีโครงสร้างแบบลาเมลล่า เมื่อทาบนผิวสามารถเสริมสร้าง LiquidBarrier ของผิว และมีสารบำรุงพิเศษด้วยค่ะ PEA Complex จะป้องกันการระคายเคือง โดย ตัวนี้จะ ปราศจากสารแต่งสี แต่งกลิ่น ค่ะ จึงเหมาะสำหรับผิวบอบางแพ้ง่าย แต่เนื้อครีมตัว AI จะเข้มข้นกว่าตัวธรรมดาค่ะ ในกลางวันควรทาบางๆน้อยนะคะ เพื่อเนื้อครีมค่อนข้างมันนิดหน่อยค่ะ
           เราจะทาตัวนี้บริเวณที่ลอกและแสบค่ะ โดยทาทั่วหน้าเฉพาะก่อนนอนนะคะ แต่ทาบริเวณลอกๆบางๆตอนกลางวันค่ะ อย่างที่บอกเนื้อครีมค่อนข้างหนักค่ะ และทาก่อนเรตินเอค่ะ เพื่อป้องกันการลอกด้วยค่ะ เราทาตัวนี้มาได้สักพักค่ะ พวกที่ลอกก็เริ่มดีขึ้น ดีขึ้น จนไม่ลอกแล้วค่ะ
____________________________________
          ยกเว้น!! สิว!! ที่ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลของเรตินเอ ที่ขับสิว ตอนนั้นคิดอย่างเดียวค่ะ ว่าเราควรทนต่อไปไหม มันจะหมดจริงๆหรอ ทั้งหน้าแสบ ไวต่อแสง หน้าดำคล้ำ แต่อีกใจก็คือ มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็อดทนต่อไปค่ะ สิวยังขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ขอรวมรูปเป็นไฟล์เดียวกันเลยนะคะ เนื่องจากเดี๋ยวกระทู้จะยาวเกินไปค่ะ แต่ละรูปถ่ายกันคนละเวลาค่ะ



           OMGGGGG ! นี่แค่บริเวณแก้มนะคะ แต่จริงๆขึ้นหมดค่ะ หหน้าผาก คาง แต่ไม่ได้ถ่ายไว้น่ะค่ะตกใจไหมคะ เราก็ตกใจ แต่ปลงค่ะ ไม่มีอะไรจะเสีย เป็นช่วงที่พีคมาก ไม่อยากออกไปไหน มีแต่คนทัก แพ้อะไรมารึเปล่า ก็ได้แต่ยิ้มๆค่ะ นับว่าหดหู่มากช่วงนั้น
เราก็อดทนทาต่อไปเรื่อยๆค่ะ…………….....
.........................
........................
.............

แล้วในที่สุด คงถึงเวลาที่ทุกอย่างควรจะหยุดลง สิวที่ขึ้นมาควรจะหมดได้แล้ว


               ผ่านมาประมาณอีกเกือบเดิมสิวขึ้นน้อยลงค่ะ แต่เหลือรอยไว้เยอะมากค่ะ เรายังคงทาแบบเดิมต่อไปค่ะ หวังว่าจะขับออกมาจนหมดนะ

                ค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าดีใจมากกกก ที่ผ่านช่วงโหดร้ายมาได้ แม้จะไม่ใส แต่ก็นับว่าเป็นอะไรที่ดีมากกก จากการทรมานที่ผ่านมา จากรูปนะคะ สิวเริ่มขึ้นน้อยลงแล้ว หน้าเริ่มเรียบไม่เป็นตุ่มเล็กๆเหมือนตอนแรก (ก็ดูที่ยามันขับออกมาสิ ถ้ายังมีอยู่ก็ไม่รู้ว่าไงแล้วค่ะ) กดๆจิ้มๆที่ รู้สึกว่านุ่มขึ้น ไม่ค่อยมีไขมันก้อนๆใต้ผิว
               แต่ถามว่าสิวยังขึ้นอีกไหม ก็ยังขึ้นค่ะ สิวอุดตันบางอันก็อยู่ลึกลงไปอาจจะขึ้นมาช้าหน่อย ก็ยังขึ้นเรื่อยๆแต่ไม่เห่อเหมือนตอนแรก แต่ปัญหาสำคัญต่อมาคือรอยสิว!!
              แล้วก็ถึงเวลาที่หมอนัดค่ะ หมอยังบอกว่ายังคงมีสิวอุดตันค่ะ ให้ใช้ยาเดิมต่อไป … แต่ที่เพิ่มมาคือตัวนี้

>>EFFACLAR DUO [+]
             มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้า ช่วยลดปัญหาสิว และการอุดตันของรูขุมขน เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว และรูขุมขนอุดตัน
เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลปรนนิบัติผิวเหมาะผิวมันและผิวที่มีปัญหาสิว ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรม Anti-Mark ที่ช่วยลดเลือดรอยดำและรอยแดงจากสิว ด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการทดสอบกับผิวที่บอบบาง เป็นสิวง่าย และทดสอบในทุกระดับความเข้มของสีผิว(fair to dark skin) หลังการใช้ 24 ชม. พบว่ารอยแดงจากสิวของกลุ่มตัวอย่าง 38 คน  ลดเลือนลง และหลังการใช้ 8 วัน รอยจากสิวของกลุ่มตัวอย่าง 51 คน แลดูลดลง มีคุณสมบัติในการควบคุมความมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบบนใบหน้า สามารถใช้เป็น make-up base ได้
             เราทาตัวนี้ก่อนทาครีมกันแดดค่ะ และทุกอย่างยังคงทาเหมือนเดิม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่