ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/35140269
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/35146042/comment2-1
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/35164567/comment3-1
ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย) http://ppantip.com/topic/35179616/comment2

บันทึกการเดินทาง สิบสองปันนา-คุนหมิง-ต้าลี่ หนีร้อน...เที่ยวเมืองจีน

---

ต่อจากเหตุการณ์เมื่อคืน หลังจากที่นั่งรถนอนจากสิบสองปันนามุ่งหน้าสู่คุนหมิง โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทาง ประมาณ12ชั่วโมง ถ้านั่งรถตอนกลางวันจะใช้เวลาสั้นกว่า ประมาณ7-8ชั่งโมง เพราะว่าช่วงกลางคืน เวลาตี2 – ตี5 ทางการจีนไม่อนุญาตให้เดินรถ เพราะฉะนั้นรถที่เดินทางตอนกลางคืนเมื่อถึงเวลาดังกล่าวจะไปจอดพักรถตามจุดพักรถ แล้วให้เรานอนบนรถจนถึงตี5 ถึงจะสตาร์ทรถต่อ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์การเข้าห้องน้ำจีนในตำนาน

Day 3 : คุนหมิง
พอถึงตีห้า รถล้อหมุนต่ออีกสักสองชั่วโมง ก็มาถึงคุนหมิงแล้วครับ รถจะมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ของคุนหมิง ก็ลงจากรถแล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า มีสถานีรถไฟฟ้า(south bus station)อยู่ที่นี่พอดี สามารถนั่งเข้าเมืองได้เลย สะดวกสบาย

บัตรโดยสารจะเป็นแบบนี้ ราคา2หยวนครับ ถูกมาก ผมขึ้นที่ south bus station ไปลงที่สถานี Huanchen Nanlu นั่งไป11สถานีครับ  

พอถึงก็ลงจากรถไฟฟ้าเดินหาที่พักแถวนั้น พักผ่อนสักแปปนึงจากนั้นก็ค่อยไปหาอะไรกิน
ท้องเริ่มหิวไม่รู้ว่าเช้านี้จะกินอะไรดี จนเดินไปเจอกับร้านขนมจีนอยู่ร้านหนึ่ง ดูท่าน่าจะอร่อย ไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในร้าน
ร้านนี้มีแต่มีเส้นขนมจีนให้เราเลือกสองแบบ แบบเส้นเล็กกับเส้นใหญ่ ผมเลือกเส้นเล็กครับ จากนั้นก็เลือกซุป เลือกเครื่องที่จะใส่ ราคาก็ต่างกันไปอยู่ที่เครื่องที่เราเลือก

ผมสั่งขนมจีนซุปใส เครื่องเลือกได้สามอย่าง ผมเลือกแฮม หนังไก่ทอดแล้วก็เห็ดสวรรค์ รสชาติอร่อยดี ซุปร้อนมากๆ ลวกลิ้นด้วย
ข้างๆร้านมีร้านขายซาลาเปาด้วย เข่งล่ะ7หยวน เป็นใส่หมูนะครับ รสชาติพอใช้ มีน้ำจิ้มพริกให้จิ้มด้วย

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว รู้สึกคอแห้งก็เลยซื้อน้ำเต้าหู้ที่ร้านซาลาเปามาดื่มครับ น้ำเต้าหู้ทีนี่ส่วนมาจาบรรจุแก้วพลาสติกปิดด้วยแผ่นพลาสติก เจาะแล้วดื่มได้เลย

เริ่มออกเดินทางครับ วันนี้ผมจะไปเที่ยวที่หมู่บ้านชาติพันธุ์ ที่เลือกไปที่นี่ก็พอว่าส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเรื่องราวเกี่ยวกับชนเผ่า ชอบวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆ และที่มณฑลยูนนานนี้เป็นมณฑลที่มีชนเผ่าอาศัยอยู่มากที่สุดของจีน โดยที่หมู่บ้านชนเผ่านี้ก็จะจัดแสดงและรวบรวมวัฒนธรรมของชนเผ่าที่อาศัยอยู่นานยูนนานไว้ที่นี่

ผมนั่งรถเมล์ไปนะครับ จำไม่ได้ว่านั่งสายอะไร แต่มีหลายสายที่ผ่านหมู่บ้านชาติพันธุ์ ดูที่ป้ายรถเมล์ได้ รถเมล์คันนี้เป็นสองชั้นติดแอร์ ค่าโดยสาร2หยวนตลอดสายครับ ชั้นล่างคนเยอะ แต่ผมขึ้นไปนั่งชั้นบนคนน้อยมาก มีไม่กี่คนเอง

ระหว่างทางก็ถ่ายรูปวิวข้างทางนิดๆหน่อยๆ

ท้องฟ้าแจ่มใส่มาก อากาศดี๊ดี ไม่หนาวไม่ร้อน

ดูวิวข้างทางไป ดูดน้ำเต้าหู้ไป ฟินดี อิอิ

ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงแล้วครับ หมู่บ้านชาติพันธุ์ หรือ 民族村(หมินจู๋ชุน) ประตูทางเข้าใหญ่โตสวยงามดีครับ


เดินเข้าไปเรื่อยๆแล้วไปซื้อบัตรด้านใน ที่นี่เสียค่าเข้าชมคนล่ะ90หยวน บัตรเป็นแบบนี้ มีหลายชนเผ่าเลย ^^

จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จะเจอกับเมืองโบราณคุนหมิงก่อน เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้ดูโบราณนะครับ ไม่ใช่เมืองโบราณจริง ข้างในก็จะมีร้านขายของกิน ของที่ระลึก





มีรูปปั้นม้าด้วย ไม่รู้ว่ามันมีความหมายอะไรหรือป่าว



เอาล่ะมาเริ่มกันที่ชนเผ่าแรกเลย หมู่บ้านแรกคือหมู่บ้านของเผ่าอาชาง 阿昌族



ที่นี่จัดได้สวยดีครับ แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของแต่ล่ะชนเผา บางเผ่าก็มีการแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ให้เราเห็นด้วย

เดินถัดมาเรื่อยๆไปเจอกับช้างอยู่ตัวหนึ่ง มีคนจีนให้ความสนใจมาถ่ายและกับให้อาหารช้างเยอะเลย



ต่อไปคือ หมู่บ้านของเผ่าฮาหนี 哈尼族 ชนเผ่านี้ที่ภาคเหนือของบ้านเราก็มี แต่จะเรียกว่าอาข่า


มีการแสดงมาให้ดูสั้นๆด้วย

เดินต่อไปไปเจอกับชนเผ่าทิเบต 藏族 บางส่วนจะอาศัยที่ที่แชงกรีลีล่าในมณฑลยูนนาน



ที่เห็นเป็นก้อนหินเหล่า เรียกว่า Marnyi Stone เป็นหินที่สลักบทสวดของชาวทิเบตไว้ ซึ่งมีความหมายให้โลกนี้สงบสุข

แหละนี่ก็เป็นสิ่งก่อสร้างสไตล์ทิเบต มีลักษณะคล้ายๆกับวันโปตาลากงในทิเบตเลยเนอะ

ด้านในมีระฆังแบบทิเบตด้วย

เดินต่อไปเรื่อยๆไปเจอกับร้านขายสินค้าไทย ที่สะดุดตาก็คือ มีป้ายภาษาไทยเขียนว่า “สวัสดีครับ” ด้วย แต่ฉไนภาษาจีนถึงเขียนเป็น “萨瓦迪卡”ล่ะ

ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นหมู่บ้านชาวไต傣族 ด้านในมีเจดีย์สีขาว น่าจะเป็นศิลปะแบบไทลื้อไทใหญ่นะ


วิวที่นี่สวยดีครับ มีทะเลสาบมีต้นไม้ร่มรื่นดี เดินได้ทั้งวันไม่ค่อยร้อนครับ　




และแล้วก็มาถึงอีกหนึ่งชนเผ่านั่นคือ ชนเผ่าเย้า瑶族เผ่านี้ที่บ้านเราก็มีครับ เมื่อเดินมาถึงสิ่งแรกที่เห็นคือเขาควายหลายเขา ดูไปแล้วบรรยกาศก็ดูน่ากลัวนิดๆนะครับ

เป็นลานเอาไว้แสดงโชว์ต่างๆ





มาถึงนี่เจอกับเผ่าอะไรอีกก็ไม่รู้ มีลูกหินกลมเหมือนกับเอาไว้บูชายันเลยเนอะ

เข้ามาเที่ยวที่นี้ไม่ต้องกลัวหลงนะครับ เพราะที่นี่จะมีแผนที่คอยบอกทางให้เรารู้ประจำอยู่หลายๆจุดภายในหมู่บ้านชาติพันธุ์นี้

ต่อไปเป็นอีกหนึ่งชนเผ่าที่ผมชอบมากครับ นั่นคือชนเผ่ามองโกล蒙古族หลายๆคนก็น่าจะรู้จักบ้าง ชนเผ่านี้ได้รับฉายานามว่าเป็นชนเผ่าบนหลังม้า เป็นชนเผ่าที่แข็งแกร่ง และครั้งนึงเคยยึดราชวงศ์ของจีนด้วย


ที่เห็นคือเต็นท์มองโกล ดูโทรมๆเนอะ เสียดายที่นี่ไม่มีคนอยู่เลยไม่มีคนคอยดูแล ปล่อยให้มันเก่าตามกาลเวลา

ต่อไปเป็นหมู่บ้านเผ่าแมนจู 满族ดูไปดูมาก็คล้ายๆกับที่อยู่อาศัยแบบจีนเลยนะ ความจริงแมนจูไม่ใช่คนจีนเผ่าฮั่นนะ แต่แมนจูเคยยึดครองจีนเหมือนกันในสมัยราชวงศ์ชิง เราคงเคยเห็นในหนังจีน เช่น องค์หญิงกำมะลอ นั้นแหละแมนจู ผู้ชายจะไว้ผมหัวล้านครึ่งหัวแล้วเปียผมยาว ส่วนผู้หญิงก็จะใส่กี่เพ้ายาวๆ แล้วชุดกี่เพ้าที่เราเห็นคนจีนใส่กันทุกวันนี้จนนึกว่าเป็นชุดจีนไปแล้ว ความจริงมันคือชุดของชาวแมนจูนะ



ที่นี่มีโรงละครไว้แสดงโชว์ต่างๆของชนเผ่าด้วย แต่ผมไม่ได้เข้าไปดูหรอกนะ มันต้องซื้อบัตรอีกตางหาก ใครสนใจก็ไปชมได้