หนีฮ่าวค่ะทุกคนนนนน !!! ต้องบอกก่อนเลยว่านี่เป็นครั้งแรกกับการเขียนกระทู้แบบนี้ แอบเขินนิดนึง 55555 ยังไงถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เราและครอบครัวได้จองไปกับบริษัททัวร์ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าใครชอบแบบสะดวกสบายไปแบบเป็นทัวร์อาจจะเวิร์ค แต่เราแนะนำว่าไปเองสะพายเป้หลังเต่าน่าจะเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกกว่านะคะ การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นการไปจีนครั้งแรกของเรา และเป็นการไปเที่ยวเล่นปลดปล่อยหัวใจในรอบหลายๆปีเลยทีเดียว เนื่องจากปิดทงปิดเทอมไม่ค่อยจะตรงกับชาวบ้านเค้า ก็เศร้าไปเนอะเด็กมหาลัยชีวิตตามAEC โถๆๆๆ โม้นอกเรื่องซะเยอะมาเข้าสู่สาระกันดีกว่า หลังจากจัดกระเป๋าเสร็จ (อย่าบอกใครว่าเอารองเท้าไปสามคู่ - - ตื่นเต้นและเว่อมากกก) วันแรกออกเดินทางไปกับสายการบินราคาสบายกระเป๋า Air Asia เราขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินฉางซา ที่ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนานของจีน ใช้เวลาเดินทางประมาณ  3 ชั่วโมงค่ะ โดยเวลาที่โน่นจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง หลังจากตรวจพาสปอร์ตอะไรเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้นั่งรถบัสไปทานข้าวแล้วนั่งต่อไปยังจางเจียเจี้ยเลย ในขณะนั่งรถไกด์ก็บอกรายละเอียดโน่นนี่ไป ส่วนเรา แฮร่ หลับซิคะจะรออะไร 5 ชั่วโมงผ่านไป ขึ้นเขาลงห้วย ขึ้นสวรรค์(อันนี้สงสัยจะเป็นในฝัน) ก็ถึงแล้วววว หนีฮ่าววว จางเจียเจี้ย อากาศเย็นสบายแบบเหมาะกับผู้หญิงเมืองร้อนแบบเรา ชั้นก็ตกหลุมรักเค้าอย่างง่ายดาย 555555 ใจง่ายไปไหม เนื่องจากตอนมาถึงก็เย็นมากแล้ว มาการแวะกินข้าวก่อนที่ไกด์จะพาไปชมโชว์นางพญาจิ้งจอกขาว THE LOVE STORY OF A WOODENMAN AND A FAIRY FOX อลังการอะโลฮ่ามาก มีฉากหลังเป็นเขาเทียนเหมินชาน สวยมาก เพลงก็เพราะ เลอค่า แต่ฝนดันตกนี่สิ แอบเซ็งตรงนี้ สำหรับโชว์นี้จะมีซับอังกฤษและซับเกาหลีขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์ให้เราสามารถเข้าใจได้ ที่มีเป็นภาษาเกาหลีเนื่องจากว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวเกาหลีค่อนข้างมาก เหล่าอปป้านูน่าก็เลยโชคดีไป(แต่ที่เราเจอเป็นแก๊งค์อากงอาม่านะคะ อปป้งอปป้าไม่มีซักคน -..-) ชมโชว์เสร็จก็เข้าโรงแรมที่พัก ซึ่งเป็นแหล่ง wifi ชั้นเยี่ยมของเรา ลืมบอกไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาจีน อย่าลืมโหลด wechat มาล่วงหน้านะคะ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในจีน ผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน นอนสบายไร้เสียงประหลาด

              สำหรับวันที่สองเราตื่นแต่เช้า ออกเดินทางไปสู่เขาเทียนเหมินชาน วันนี้ตามทริปเราจะไปประตูสวรรค์ พิชิตเส้นทาง 99 โค้งกันค่ะ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถบัสหรือเคเบิลคาร์ขึ้นไป ตอนขึ้นเรานั่งรถบัส ส่วนขากลับเป็นเคเบิลคาร์ แนะนำว่าควรลองเดินทางทั้งสองรูปแบบ เพื่อให้ได้อารมณ์ที่หลากหลาย รถบัสนี่เสียวไส้เสียวพุง  ขึ้นเขาสูงมาก ฝากชีวิตไว้กับคนขับล้วนๆเลยค่ะ ไปถึงประตูสวรรค์ โอ้โห คนเยอะมาก แต่คุ้มค่ากับการนั่งรถ สวยมากจริงๆ กดแชะๆๆๆแทบไม่ทันเลยทีเดียว เมื่อเห็นแบบไกลๆแล้วก็ต้องไปดูแบบใกล้ๆกันบ้าง ซึ่งเค้าก็ได้มีการสร้างตัวเลือกให้เราอีก ระหว่างเดินบันไดชันๆ 999 ขั้นกับบันไดเลื่อน เราก็ขอเลือกขึ้นแบบสวยๆแล้วกันเนอะ ให้เหลือพลังที่จะเที่ยวอีก 3 วันที่เหลือจะดีกว่า -.- ข้างบนก็ไม่มีอะไรมาก มีกุญแจคู่รักให้ได้คล้องไว้ด้วยกันเหมาะสำหรับคนมีคู่ค่ะ สาวโสดอย่างเราก็ขอหลบมาทำใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ดีกว่า  หลังจากปลดปล่อยหัวใจไปขึ้นสวรรค์เรียบร้อยแล้ว ตอนขากลับเราก็ได้กลับแบบเชิดๆสวยๆกับเคเบิลคาร์ที่มีความยาวถึง 7.5 กิโลเมตร ระหว่างนั่งก็ชมวิว ถ่ายรูป โชคดีที่กระเช้าที่เรานั่งไม่มีใครเมาหรือเวียนหัวอาเจียนเหมือนของน้าเรา เฮ้อ โล่งอกไป ต่อจากนั้นไกด์ก็พานั่งรถไปร้านบัวหิมะและชา ซึ่งเป็นร้านของรัฐบาลจีน อันนี้ไม่ขอพูดถึงจริงๆ ต้องลองค่ะต้องลอง แล้วจะรู้ หุหุ อยากให้เธอรู้อยากให้เธอลอง 5555555 วันที่สองก็เสร็จสิ้นภารกิจกันไป แยกย้ายกันไปพักผ่อน