เขียนไม่เก่ง แต่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังจะบิน หรือมีการวางแพลนว่าอยากไป wat บ้าง
ลองอ่านไว้อาจจะได้อะไรจากกระทู้นี้ก็เป็นได้..
1) เลือกเอเจนซี่
จากที่เคยตั้งโพสถามว่า wat กับเอเจนซี่ไหนดี ? สุดท้ายก็เลือกมาได้ด้วยการแนะนำของเพื่อนที่เคยไปมาก่อน
โดยเลือกเอเจนซี่นั้นให้คำนึงถึง งานที่อยากจะทำและเมืองที่อยากจะไป เพราะบางเอเจนซี่ราคาถูกแต่เมืองที่อยากไปไม่มี
ส่วนเราเลือกไป Destin,Florida เพราะเพื่อนบอกว่า งานดีนะช่วง Summer
2) การจองงาน
หลังจากเลือกเอเจนซี่ได้ เราก็โอนมัดจำให้เอเจนซี่เพื่อจองงาน โดยทางเขาจะให้เราเลือก 3 อันดับที่อยากจะทำโดยมีเรตค่าแรงค่าบ้านส่งมาให้
แนะนำเลยว่าให้ศึกษาดีๆก่อนด้วย และควรเลือกที่อยากจะทำ+ค่าแรงดี+ค่าบ้านโอเคไว้อันดับแรก เพราะอันดับ2-3ของเราอาจกลายเป็นอันดับ 1 ของคนอื่นได้ จากนั้นก็รอ..
ซึ่งของเราเลือกได้ว่าผิดหวังตั้งแต่แรก เพราะงานแรกที่เลือกไปนั้นไม่รับเด็กไทย ส่วนงาน 2-3 ก็เต็มหมดแล้วอย่างรวดเร็ว
เอเจนซี่ก็ขอให้เราเลือกเมืองอื่น แต่เราก็ยืนกรานขอเมืองเดิม เพราะเพื่อนเราไปเรียนที่นั่น จึงต้องรอต่อไป
ปัญหาของการจองงาน
เนื่องจากระยะหลังเด็กๆสนใจไป wat กันมาก ทำให้งานแย่งกัน เรารอเอเจนซี่อีกประมาณ 2 เดือน เขาก็เสนองานร้านขายอุปกรณ์ว่ายน้ำให้
ตอนแรกเราไม่อยากได้แต่ก็ตอบรับไปเพราะกลัวโดนดีดไปเมืองอื่น แต่พอคอนเฟิร์มไป กลายเป็นว่านายจ้างไม่รับเรา เราเลยต้องรอไปอีก
ซึ่งหากใครเจอแบบนี้ เราแนะนำให้โทรถามกับเอเจนซี่ทุกอาทิตย์ โดยเราโทรทุกวัน พฤหัส-ศุกร์ เพื่อไม่ให้เอเจนซี่รำคาญเรามากไป
ตามอีก 2-3 อาทิตย์ ก็ได้งานร้านอาหารแต่อยู่เมืองข้างๆ แต่ก็ตกลงเซ็น Job offer เรียบร้อย ถือว่าโอเคโล่ง โอนเงินค่าโครงการ+วีซ่า และรอทำวีซ่า
3) ทำ VISA
เอเจนซี่จะส่งเมล์มาให้เราว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอถึงวันสัมภาษณ์ เอเจนซี่จะเรียกเรานัดแนะและให้เราเดินไปสถานฑูต
แนะนำว่าถ้าไปคนเดียวอย่าถือของไปเยอะ ควรมีคนไปด้วยเพราะบางอย่างเอาเข้าสถานฑูตไม่ได้ ต้องฝากคนอื่นไว้
ตอนสัมภาษณ์ก็จะเจอคำถามง่ายๆ ชื่ออะไร? ไปเมืองไหน? ทำงานอะไร? ไปนานแค่ไหน? เรียนที่ไหน? อาจจะถามเกี่ยวกับที่เราเรียนหรืองานที่เราทำเพิ่มนิดหน่อย จากนั้นก็เสร็จ รอวีซ่า
4) บ้านพัก
ในกรณีที่ไป wat หลายคน มีคนรู้จัก แนะนำให้รวมกลุ่มกันหาบ้านพักเองค่ะ จะถูกกว่า
เพราะที่เอเจนซี่แจ้งมาตอนแรก 400$ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ราคาสูงขึ้นมาอีก 100$+ เลยค่ะ
เราเองก็ให้เพื่อนหาบ้านพักให้ เวลาหาบ้านพักให้ดูด้วยนะคะว่าทำงานที่ไหน
เพื่อไม่ให้ระยะทางในการเดินทางไกลเกินไปค่ะ
5) ตั๋วเครื่องบิน
จริงๆแล้วถ้าซื้อไวจะได้ราคาถูก.. แต่เราซื้อ 1-2 อาทิตย์ก่อนไป โดยไม่ได้ซื้อกับเอเจนซี่ของโครงการwat
แต่ซื้อกับบริษัทรับหาตั๋วเครื่องบิน โดยเมล์ไปถามหลายๆที่เเล้วเอาราคามาเทียบกัน ได้มาในราคา 42,500 stop ญี่ปุ่น 5 วัน American Airline^^
ซึ่งราคาของเอเจนซี่จะสูงกว่าอยู่ประมาณ 5000-6000 บาท
6) เตรียมกระเป๋า
เมืองที่เราไปอากาศใกล้เคียงกับไทยค่ะ เลยเอาชุดไปไม่เยอะเท่าไหร่ เผื่อไปซื้อที่นั่นเพิ่ม
รองเท้าก็ผ้าใบคู่นึง แตะใส่เล่นคู่นึง เพราะเดี๋ยวต้องไปซื้อรองเท้าทำงานที่นั่น
ของใช้พวกสบู่ แชมพูซื้อที่นั่นก็ได้นะคะ ราคาถูกเหมือนกัน
ของที่ควรเอาไปก็อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง โจ๊ก ผงปรุงสำเร็จเผื่อเข้าครัวเอง
เพราะพอไปถึงที่นั่น จะมีช่วงที่คิดถึงอาหารไทยทำเองมากๆ อะไรก็แทนไม่ได้
แต่อย่าลืมหาข้อมูลก่อนนะคะว่าอะไรที่เอาเข้าประเทศได้และไม่ได้บ้าง
พร้อมแล้วก็.. เตรียมตัวออกเดินทางค่ะ
ไว้จะมาเขียน Part ของการเดินทางจริงนะคะ
work&travel 2016 ครั้งแรกของการออกนอกประเทศ บินเดี่ยววว
ลองอ่านไว้อาจจะได้อะไรจากกระทู้นี้ก็เป็นได้..
1) เลือกเอเจนซี่
จากที่เคยตั้งโพสถามว่า wat กับเอเจนซี่ไหนดี ? สุดท้ายก็เลือกมาได้ด้วยการแนะนำของเพื่อนที่เคยไปมาก่อน
โดยเลือกเอเจนซี่นั้นให้คำนึงถึง งานที่อยากจะทำและเมืองที่อยากจะไป เพราะบางเอเจนซี่ราคาถูกแต่เมืองที่อยากไปไม่มี
ส่วนเราเลือกไป Destin,Florida เพราะเพื่อนบอกว่า งานดีนะช่วง Summer
2) การจองงาน
หลังจากเลือกเอเจนซี่ได้ เราก็โอนมัดจำให้เอเจนซี่เพื่อจองงาน โดยทางเขาจะให้เราเลือก 3 อันดับที่อยากจะทำโดยมีเรตค่าแรงค่าบ้านส่งมาให้
แนะนำเลยว่าให้ศึกษาดีๆก่อนด้วย และควรเลือกที่อยากจะทำ+ค่าแรงดี+ค่าบ้านโอเคไว้อันดับแรก เพราะอันดับ2-3ของเราอาจกลายเป็นอันดับ 1 ของคนอื่นได้ จากนั้นก็รอ..
ซึ่งของเราเลือกได้ว่าผิดหวังตั้งแต่แรก เพราะงานแรกที่เลือกไปนั้นไม่รับเด็กไทย ส่วนงาน 2-3 ก็เต็มหมดแล้วอย่างรวดเร็ว
เอเจนซี่ก็ขอให้เราเลือกเมืองอื่น แต่เราก็ยืนกรานขอเมืองเดิม เพราะเพื่อนเราไปเรียนที่นั่น จึงต้องรอต่อไป
ปัญหาของการจองงาน
เนื่องจากระยะหลังเด็กๆสนใจไป wat กันมาก ทำให้งานแย่งกัน เรารอเอเจนซี่อีกประมาณ 2 เดือน เขาก็เสนองานร้านขายอุปกรณ์ว่ายน้ำให้
ตอนแรกเราไม่อยากได้แต่ก็ตอบรับไปเพราะกลัวโดนดีดไปเมืองอื่น แต่พอคอนเฟิร์มไป กลายเป็นว่านายจ้างไม่รับเรา เราเลยต้องรอไปอีก
ซึ่งหากใครเจอแบบนี้ เราแนะนำให้โทรถามกับเอเจนซี่ทุกอาทิตย์ โดยเราโทรทุกวัน พฤหัส-ศุกร์ เพื่อไม่ให้เอเจนซี่รำคาญเรามากไป
ตามอีก 2-3 อาทิตย์ ก็ได้งานร้านอาหารแต่อยู่เมืองข้างๆ แต่ก็ตกลงเซ็น Job offer เรียบร้อย ถือว่าโอเคโล่ง โอนเงินค่าโครงการ+วีซ่า และรอทำวีซ่า
3) ทำ VISA
เอเจนซี่จะส่งเมล์มาให้เราว่าต้องใช้อะไรบ้าง พอถึงวันสัมภาษณ์ เอเจนซี่จะเรียกเรานัดแนะและให้เราเดินไปสถานฑูต
แนะนำว่าถ้าไปคนเดียวอย่าถือของไปเยอะ ควรมีคนไปด้วยเพราะบางอย่างเอาเข้าสถานฑูตไม่ได้ ต้องฝากคนอื่นไว้
ตอนสัมภาษณ์ก็จะเจอคำถามง่ายๆ ชื่ออะไร? ไปเมืองไหน? ทำงานอะไร? ไปนานแค่ไหน? เรียนที่ไหน? อาจจะถามเกี่ยวกับที่เราเรียนหรืองานที่เราทำเพิ่มนิดหน่อย จากนั้นก็เสร็จ รอวีซ่า
4) บ้านพัก
ในกรณีที่ไป wat หลายคน มีคนรู้จัก แนะนำให้รวมกลุ่มกันหาบ้านพักเองค่ะ จะถูกกว่า
เพราะที่เอเจนซี่แจ้งมาตอนแรก 400$ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ราคาสูงขึ้นมาอีก 100$+ เลยค่ะ
เราเองก็ให้เพื่อนหาบ้านพักให้ เวลาหาบ้านพักให้ดูด้วยนะคะว่าทำงานที่ไหน
เพื่อไม่ให้ระยะทางในการเดินทางไกลเกินไปค่ะ
5) ตั๋วเครื่องบิน
จริงๆแล้วถ้าซื้อไวจะได้ราคาถูก.. แต่เราซื้อ 1-2 อาทิตย์ก่อนไป โดยไม่ได้ซื้อกับเอเจนซี่ของโครงการwat
แต่ซื้อกับบริษัทรับหาตั๋วเครื่องบิน โดยเมล์ไปถามหลายๆที่เเล้วเอาราคามาเทียบกัน ได้มาในราคา 42,500 stop ญี่ปุ่น 5 วัน American Airline^^
ซึ่งราคาของเอเจนซี่จะสูงกว่าอยู่ประมาณ 5000-6000 บาท
6) เตรียมกระเป๋า
เมืองที่เราไปอากาศใกล้เคียงกับไทยค่ะ เลยเอาชุดไปไม่เยอะเท่าไหร่ เผื่อไปซื้อที่นั่นเพิ่ม
รองเท้าก็ผ้าใบคู่นึง แตะใส่เล่นคู่นึง เพราะเดี๋ยวต้องไปซื้อรองเท้าทำงานที่นั่น
ของใช้พวกสบู่ แชมพูซื้อที่นั่นก็ได้นะคะ ราคาถูกเหมือนกัน
ของที่ควรเอาไปก็อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง โจ๊ก ผงปรุงสำเร็จเผื่อเข้าครัวเอง
เพราะพอไปถึงที่นั่น จะมีช่วงที่คิดถึงอาหารไทยทำเองมากๆ อะไรก็แทนไม่ได้
แต่อย่าลืมหาข้อมูลก่อนนะคะว่าอะไรที่เอาเข้าประเทศได้และไม่ได้บ้าง
พร้อมแล้วก็.. เตรียมตัวออกเดินทางค่ะ
ไว้จะมาเขียน Part ของการเดินทางจริงนะคะ