สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน
วันนี้มี่เอามาสค์จากแบรนด์ Apivita ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากธรรมชาติแบรนด์ใหญ่แบรนด์หนึ่งของประเทศกรีซมาฝากกันค่ะ
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์เครื่องสำอางธรรมชาติ มีผลิตภัณฑ์อยู่หลายอย่างเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ Cleansing จนไปถึงบำรุง ซึ่งแบรนด์เองเคลมว่าใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้อยตั้งแต่ 85% ไปจนถึง 100% เลยทีเดียวค่ะ ที่สำคัญคือทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่า ไม่ใส่ silicones, parabens, mineral oil, propylene glycol, polycyclic musks, nitromusks, phthalates รวมไปถึงสารอื่นๆที่มีผลเสียต่อสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ แบรนด์นี้มีวางจำหน่ายในห้างสรรพศินค้าชั้นนำหลายประเทศ เช่น กรีซ สเปน ออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และในอีกหลายประเทศ
กลับมาที่ตัวมาสค์ของเราค่ะ
ตัวมาสค์จะทำมาในรูปแบบซองๆ กล่องหนึ่งมีอยู่ 12 ซอง ซองละ 8 ml นะคะ
ตัวที่มี่ได้มาเป็นมาสค์หน้า 5 สูตร และมาสค์ใต้ตา 1 สูตรนะคะ
มาดูโฉมหน้ากันนิดนึง
เริ่มกันที่มาสค์หน้านะคะ
สูตรองุ่น: เน้นไปที่ด้านการลดริ้วรอย และยกกระชับ ในส่วนผสมมีการเสริมสารที่มีมูลค่า ในตระกูล Lipoaminoacid อย่าง Dipalmitoyl hydroxyproline ที่ให้ผลดีด้านการยกกระชับ และลดริ้วรอยด้วย
สูตรส้ม: เน้นไปที่ความกระจ่างใส Glow and Radiance
สูตร Pink Clay: เน้นเรื่องการ Detox และ ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน ด้วยส่วนผสม Clay ที่ให้ผลดูดซับสารพิษ
สูตรทับทิม: เน้นการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวเพื่อความกระจ่างใส
สูตร Sea lavender: เน้นเติมน้ำและลดการอักเสบในผิว
มาสค์ในแบรนด์นี้จะทำเป็นมาสค์แบบล้างออก หรือ Wash-off mask นะคะ ทาหนาๆ ทิ้งไว้ประมา 10 นาที ก่อนไปล้างออกค่ะ
ส่วนมาสค์รอบตา จริงๆทางแบรนด์ก็มีหลายสูตรค่ะ
ส่วนตัวที่มี่ได้มาเป็น
สูตรแปะก๊วย ที่ว่ากันว่าให้ผลดีเรื่องรอยคล้ำ และรอยบวมใต้ตาเลยหล่ะค่ะ
ทั้งนี้เพราะสารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้น นอกจากเป็น Antioxidant ให้ผลชะลอวัย ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่แล้ว สารยังมีผลช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด จึงมีผลลดรอยคล้ำและรอยบวมใต้ตาได้ด้วยค่ะ
และยังเสริมด้วยสารกลุ่ม Flavonoid ที่มีมูลค่าอย่าง Escin ที่ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ตาไม่คล้ำง่าย และมีสาร Lipoamino acid ด้วยเช่นเดียวกัน
ในส่วนของเนื้อ ก็จะเป็นเนื้อครีม มีความหนืดค่อนข้างสูง กลิ่นหอมอ่อนๆดูเป็นธรรมชาติ
เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย จะเคลือบผิวไว้ให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Occlusive effect ที่มีผลผลักวิตามินและสารบำรุงอื่นๆเข้าสู่ผิวค่ะ
หลังจากครบเวลาก็ไปล้างออก มาสค์นี้เราสามารถล้างด้วยน้ำเปล่าอุ่นๆ ได้เลยค่ะ เพราะนางล้างออกง่ายมาก
หลังล้างผิวจะค่อนข้างนุ่มและชุ่มชื้น เหมือนมาสค์ตามคลินิกเสริมความงาม หรือพวกสปาเลยหล่ะ
เนื้อมาสค์จะค่อนข้างคล้ายๆกันนะคะ จะมีก็สูตร Pink clay ที่ให้สัมผัสที่ต่างออกไป
สำหรับสูตร Pink clay เนื้อจะประมาณ Clay mask โคลนพอกหน้าค่ะ
เป็นโคลนที่บางเบา และเกลี่ยง่ายสุดตั้งแต่ใช้ Clay mask มา
ส่วนผสมหลักของมาสค์จะค่อนข้างคล้ายกันนะคะ ตัวที่มี่ยกมาเป็นตัวแทนในการวิเคราะห์ คือ มาสค์หน้าสูตรทับทิม
ส่วนผสมค่ะ
แบรนด์ Apivita นั้นจัดเป็นเครื่องสำอางธรรมชาติ เน้นไปที่กลุ่มของพืชที่ได้จากการปลูกแบบออร์แกนิก เป็นส่วนใหญ่เลยค่ะ อย่างน้ำชาที่เขาใส่ก็เป็นน้ำที่ชงจากใบชาที่ปลูกแบบออร์แกนิกนะคะ เอามาใช้แทนน้ำส่วนที่เป็น Base หรือ Vehicle เลยทีเดียว ซึ่งน้ำชาเองนอกจากสารในกลุ่มแทนนินที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังแล้ว ยังมีสาร antioxidant อยู่ด้วยค่ะ
จากส่วนผสมมี่ได้ทำแถบสีไว้ให้นะคะ สีเขียว จะเป็นกลุ่มของสารบำรุงผิว หรือ Active ingredients นะคะ ซึ่งก็มีหลายตัวเลย ได้แก่
1. กลุ่มวิตามิน ที่มีในส่วนผสมจะมีทั้ง วิตามินเอ ซี อี และบี 5 ซึ่งให้ผลโดยรวมกับผิวได้ค่อนข้างรอบด้าน ตั้งแต่ด้านชุ่มชื้น ลดอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงด้านริ้วรอยและผิวขาว
2. กลุ่มน้ำตาล ได้แก่ Sorbitol, Mannitol และน้ำผึ้ง ที่ให้ผลเรื่องความชุ่มชื้นเป็นหลัก
3. กลุ่มสารสกัด สำหรับสูตรทับทิมนั้นก็จะมีชาเขียว และ ทับทิม ซึ่งให้ผลด้านการชะลอวัย ป้องกันริ้วรอยใหม่และลดริ้วรอยเก่า รวมถึงมีสารในกลุ่มแทนนิน ที่ให้ผลเรื่องกระชับรูขุมขนได้ด้วย
สีน้ำตาลเป็นกลุ่มของน้ำมันตามธรรมชาติที่คืนไขมันทดแทนให้แก่ผิวเพื่อเพิ่มส่งเสริมให้ผิวเรากักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
สารองค์ประกอบอื่นๆที่ใช้ก็เป็นมิตรทั้งกับผิวหนังและสิ่งแวดล้อมทุกตัว
และสารบางตัวเองก็มีประโยชน์เสริมให้กับผิวได้อีก
ถึงเวลาให้คะแนนกันแล้วค่ะ
1. สารบำรุง หรือ Active ingredients แต่ละสูตรจะมีส่วนผสมของสารบำรุงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางสูตรก็ใช้วัตถุดิบที่ดูโดดเด่นและดูมีคุณค่า ส่วนบางสูตรก็เน้นไปที่ธรรมชาติ มาด้วยสารสกัดจากพืช Organic ล้วนๆ เรียกได้ว่า อยากดูแลผิวด้านไหนก็เลือกสูตรนั้นกันไปเลย แต่สิ่งที่อยากบอกก็คือว่า ในสูตรๆหนึ่ง ไม่ได้ให้ผลด้านการบำรุงแค่อย่างเดียวนะคะ แต่ให้ผลหลายๆด้านไปพร้อมกัน อย่างสูตรทับทิมที่มี่ยกมาให้ดู เรียกได้ว่าบำรุงกันครอบจักรวาลไปเลยค่ะ ในจุดนี้ก็ไม่มีอะไรให้หักคะแนนค่ะ เพราะมาค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
2. เนื้อหลัก หรือ Base เป็นรูปแบบครีมที่ให้ผลเคลือบผิวได้ดี สร้างสภาวะที่เรียกว่า Occlusive ได้เยอะ เมื่อเกิดภาวะ Occlusive ผิวเราจะมีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆในผิวดีขึ้น ที่สำคัญคือไม่มี Alcohol และ Silicone เลยค่ะ ขอให้ 5 ฟลาสก์
3. สารปรุงแต่ง หรือ Additives มีส่วนผสมของพวกสารทำเนื้อครีม (Emulsifier) สารเพิ่มความหนืด สารก่อฟิล์มบนผิว สารกันเสีย สารแต่งกลิ่น และเม็ดสีเท่านั้น ทุกตัวไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับผิว เลยไม่รู้จะหักคะแนนอะไร จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
4. การใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบสัมผัสของเนื้อครีม เพราะกลิ่นค่อนข้างละมุน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เวลามาสค์ถ้าเอาไปแช่เย็นก่อนแล้วค่อยมาละเลงบนหน้า ลงไปนอนบนเตียงนุ่มๆ หลับตาพักซักแป๊บนึง เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเลยหล่ะ พอไปล้างออกก็จะได้สัมผัสที่นุ่ม เนียน และผิวดูเรียบละเอียดขึ้น ถ้าใช้กลางคืน เช้ามาก็จะลากรองพื้นได้เนียนมากขึ้น ไม่เป็นเส้นและไม่ทิ้งคราบค่ะ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทางเพจ Skin dip ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆจากแบรนด์ Apivita มาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามมาจนจบ
Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางเพจ Skin dip
[SR] รีวิววิเคราะห์ส่วนผสมมาสค์หน้าสูตรธรรมชาติจากประเทศกรีซ Apivita express beauty
วันนี้มี่เอามาสค์จากแบรนด์ Apivita ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากธรรมชาติแบรนด์ใหญ่แบรนด์หนึ่งของประเทศกรีซมาฝากกันค่ะ
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์เครื่องสำอางธรรมชาติ มีผลิตภัณฑ์อยู่หลายอย่างเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ Cleansing จนไปถึงบำรุง ซึ่งแบรนด์เองเคลมว่าใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้อยตั้งแต่ 85% ไปจนถึง 100% เลยทีเดียวค่ะ ที่สำคัญคือทางแบรนด์ยังเคลมอีกว่า ไม่ใส่ silicones, parabens, mineral oil, propylene glycol, polycyclic musks, nitromusks, phthalates รวมไปถึงสารอื่นๆที่มีผลเสียต่อสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ แบรนด์นี้มีวางจำหน่ายในห้างสรรพศินค้าชั้นนำหลายประเทศ เช่น กรีซ สเปน ออสเตรเลีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และในอีกหลายประเทศ
กลับมาที่ตัวมาสค์ของเราค่ะ
ตัวมาสค์จะทำมาในรูปแบบซองๆ กล่องหนึ่งมีอยู่ 12 ซอง ซองละ 8 ml นะคะ
ตัวที่มี่ได้มาเป็นมาสค์หน้า 5 สูตร และมาสค์ใต้ตา 1 สูตรนะคะ
มาดูโฉมหน้ากันนิดนึง
เริ่มกันที่มาสค์หน้านะคะ
สูตรองุ่น: เน้นไปที่ด้านการลดริ้วรอย และยกกระชับ ในส่วนผสมมีการเสริมสารที่มีมูลค่า ในตระกูล Lipoaminoacid อย่าง Dipalmitoyl hydroxyproline ที่ให้ผลดีด้านการยกกระชับ และลดริ้วรอยด้วย
สูตรส้ม: เน้นไปที่ความกระจ่างใส Glow and Radiance
สูตร Pink Clay: เน้นเรื่องการ Detox และ ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน ด้วยส่วนผสม Clay ที่ให้ผลดูดซับสารพิษ
สูตรทับทิม: เน้นการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวเพื่อความกระจ่างใส
สูตร Sea lavender: เน้นเติมน้ำและลดการอักเสบในผิว
มาสค์ในแบรนด์นี้จะทำเป็นมาสค์แบบล้างออก หรือ Wash-off mask นะคะ ทาหนาๆ ทิ้งไว้ประมา 10 นาที ก่อนไปล้างออกค่ะ
ส่วนมาสค์รอบตา จริงๆทางแบรนด์ก็มีหลายสูตรค่ะ
ส่วนตัวที่มี่ได้มาเป็นสูตรแปะก๊วย ที่ว่ากันว่าให้ผลดีเรื่องรอยคล้ำ และรอยบวมใต้ตาเลยหล่ะค่ะ
ทั้งนี้เพราะสารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้น นอกจากเป็น Antioxidant ให้ผลชะลอวัย ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่แล้ว สารยังมีผลช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด จึงมีผลลดรอยคล้ำและรอยบวมใต้ตาได้ด้วยค่ะ
และยังเสริมด้วยสารกลุ่ม Flavonoid ที่มีมูลค่าอย่าง Escin ที่ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ตาไม่คล้ำง่าย และมีสาร Lipoamino acid ด้วยเช่นเดียวกัน
ในส่วนของเนื้อ ก็จะเป็นเนื้อครีม มีความหนืดค่อนข้างสูง กลิ่นหอมอ่อนๆดูเป็นธรรมชาติ
เกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย จะเคลือบผิวไว้ให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Occlusive effect ที่มีผลผลักวิตามินและสารบำรุงอื่นๆเข้าสู่ผิวค่ะ
หลังจากครบเวลาก็ไปล้างออก มาสค์นี้เราสามารถล้างด้วยน้ำเปล่าอุ่นๆ ได้เลยค่ะ เพราะนางล้างออกง่ายมาก
หลังล้างผิวจะค่อนข้างนุ่มและชุ่มชื้น เหมือนมาสค์ตามคลินิกเสริมความงาม หรือพวกสปาเลยหล่ะ
เนื้อมาสค์จะค่อนข้างคล้ายๆกันนะคะ จะมีก็สูตร Pink clay ที่ให้สัมผัสที่ต่างออกไป
สำหรับสูตร Pink clay เนื้อจะประมาณ Clay mask โคลนพอกหน้าค่ะ
เป็นโคลนที่บางเบา และเกลี่ยง่ายสุดตั้งแต่ใช้ Clay mask มา
ส่วนผสมหลักของมาสค์จะค่อนข้างคล้ายกันนะคะ ตัวที่มี่ยกมาเป็นตัวแทนในการวิเคราะห์ คือ มาสค์หน้าสูตรทับทิม
ส่วนผสมค่ะ
จากส่วนผสมมี่ได้ทำแถบสีไว้ให้นะคะ สีเขียว จะเป็นกลุ่มของสารบำรุงผิว หรือ Active ingredients นะคะ ซึ่งก็มีหลายตัวเลย ได้แก่
1. กลุ่มวิตามิน ที่มีในส่วนผสมจะมีทั้ง วิตามินเอ ซี อี และบี 5 ซึ่งให้ผลโดยรวมกับผิวได้ค่อนข้างรอบด้าน ตั้งแต่ด้านชุ่มชื้น ลดอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงด้านริ้วรอยและผิวขาว
2. กลุ่มน้ำตาล ได้แก่ Sorbitol, Mannitol และน้ำผึ้ง ที่ให้ผลเรื่องความชุ่มชื้นเป็นหลัก
3. กลุ่มสารสกัด สำหรับสูตรทับทิมนั้นก็จะมีชาเขียว และ ทับทิม ซึ่งให้ผลด้านการชะลอวัย ป้องกันริ้วรอยใหม่และลดริ้วรอยเก่า รวมถึงมีสารในกลุ่มแทนนิน ที่ให้ผลเรื่องกระชับรูขุมขนได้ด้วย
สีน้ำตาลเป็นกลุ่มของน้ำมันตามธรรมชาติที่คืนไขมันทดแทนให้แก่ผิวเพื่อเพิ่มส่งเสริมให้ผิวเรากักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
สารองค์ประกอบอื่นๆที่ใช้ก็เป็นมิตรทั้งกับผิวหนังและสิ่งแวดล้อมทุกตัว
และสารบางตัวเองก็มีประโยชน์เสริมให้กับผิวได้อีก
ถึงเวลาให้คะแนนกันแล้วค่ะ
1. สารบำรุง หรือ Active ingredients แต่ละสูตรจะมีส่วนผสมของสารบำรุงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางสูตรก็ใช้วัตถุดิบที่ดูโดดเด่นและดูมีคุณค่า ส่วนบางสูตรก็เน้นไปที่ธรรมชาติ มาด้วยสารสกัดจากพืช Organic ล้วนๆ เรียกได้ว่า อยากดูแลผิวด้านไหนก็เลือกสูตรนั้นกันไปเลย แต่สิ่งที่อยากบอกก็คือว่า ในสูตรๆหนึ่ง ไม่ได้ให้ผลด้านการบำรุงแค่อย่างเดียวนะคะ แต่ให้ผลหลายๆด้านไปพร้อมกัน อย่างสูตรทับทิมที่มี่ยกมาให้ดู เรียกได้ว่าบำรุงกันครอบจักรวาลไปเลยค่ะ ในจุดนี้ก็ไม่มีอะไรให้หักคะแนนค่ะ เพราะมาค่อนข้างดี ให้ไป 5 ฟลาสก์
2. เนื้อหลัก หรือ Base เป็นรูปแบบครีมที่ให้ผลเคลือบผิวได้ดี สร้างสภาวะที่เรียกว่า Occlusive ได้เยอะ เมื่อเกิดภาวะ Occlusive ผิวเราจะมีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆในผิวดีขึ้น ที่สำคัญคือไม่มี Alcohol และ Silicone เลยค่ะ ขอให้ 5 ฟลาสก์
3. สารปรุงแต่ง หรือ Additives มีส่วนผสมของพวกสารทำเนื้อครีม (Emulsifier) สารเพิ่มความหนืด สารก่อฟิล์มบนผิว สารกันเสีย สารแต่งกลิ่น และเม็ดสีเท่านั้น ทุกตัวไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับผิว เลยไม่รู้จะหักคะแนนอะไร จึงขอให้ 5 ฟลาสก์
4. การใช้งาน ส่วนตัวมี่ค่อนข้างชอบสัมผัสของเนื้อครีม เพราะกลิ่นค่อนข้างละมุน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เวลามาสค์ถ้าเอาไปแช่เย็นก่อนแล้วค่อยมาละเลงบนหน้า ลงไปนอนบนเตียงนุ่มๆ หลับตาพักซักแป๊บนึง เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเลยหล่ะ พอไปล้างออกก็จะได้สัมผัสที่นุ่ม เนียน และผิวดูเรียบละเอียดขึ้น ถ้าใช้กลางคืน เช้ามาก็จะลากรองพื้นได้เนียนมากขึ้น ไม่เป็นเส้นและไม่ทิ้งคราบค่ะ จุดนี้ขอให้ 5 ฟลาสก์
สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทางเพจ Skin dip ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆจากแบรนด์ Apivita มาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกท่านด้วยค่ะที่ติดตามมาจนจบ
Disclaimer/Conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทางเพจ Skin dip