สหายรัก.. หลังวันที่ท่านเร้นกายจากยุทธภพอย่างไร้ร่องรอยเมื่อนานมาแล้ว
ข้าพเจ้าก็ซุกเก็บมีดสั้นอย่างเงียบเชียบ และลากเท้าอันหักอึ้ง เดินจากมาด้วยเช่นกัน ...
ด้วยว่ามีดของข้าพเจ้า ไม่อาจแยกแยะศัตรูหรือมิตรได้อีก(เนื่องจากล่อกันนัวเนียไปหมด)
มิตรกลับเป็นศัตรู ศัตรูกลับมาเห็นอกเห็นใจเมื่อท่านเพลี่ยงพล้ำ
มีดบินของข้าพเจ้าอาจไม่มีตา แต่มันมีหัวใจ จึงไม่อาจซัดใส่ผู้มีอุดมการณ์ได้เด็ดขาด!
เมื่อไร้มีด ก็ไร้"อาฟ" และไร้"แก้ไขข้อความ" ดวงตาของขัาพเจ้าไม่มีประกายอีกแล้ว อีกทั้งมือก็สั่นเทา เส้นผมก็หงอกขาว พุงก็มานิดๆ
ดังนั้น อย่าได้ถามถึงความฮึกเหิมที่จะร่ายรำกระบี่ตะลุยยุทธภพราชดำเนิน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ อีกาคาบข่าวสารมาถึงข้าพเจ้า ว่ามีผู้คนแอบเห็นประกายจากวงสวิงของท่านร่ายรำอยู่แถบภาคเหนือ
ขัพเจ้าจึงคาดเดาว่า ท่านคงเร้นกายฝึกยุทธ หาวงใหม่ และซ้อมตีไกล เพื่อกลับเข้าสู่ยุทธจักรอีกครา...
อา... วงสวิงอันเจิดจ้า ย่อมเป็นที่จดจำของผู้คนมากกว่าใบหน้า หากท่านกลับมาจริง แฮนดี้แคปจะเท่าไหร่แล้วนะ น่ากลัว น่ากลัวอย่างยิ่ง..
นอกจากกา... ก็ยังมีสุนัข.. เป็นสุนัขน้อยชื่อฝรั่ง ที่ทำตาโตใส่ข้าพเจ้า เมื่อทราบว่าพวกเราเป็นสหายกันหลังจากบอกข่าวของท่าน
เนื่องจากความสง่างามผึ่งผายของท่าน ชื่อเสียงและเพลงยุทธของท่าน เสียงฮัมเพลงลูบเคราเมื่อร่ายรำดาบ..
มันฝากรอยประทับใจเล็กๆเอาไว้ สุนัขน้อยถึงกับเค้นสอบถามข้าพเจ้าว่า อาร์ตโฟล์ค มีแฟนหรือยัง(ฮาา)
ดูเอาเถิด ตอบปัญหาในเพจ ยังไม่ลำบากเท่านี้เลย...
ท่านคาดเดาว่าข้พเจ้าคงร่ายกวีจิบเหล้าอยู่ริมปิง ?
ข้พเจ้าเร้นกายในร้านเหล้าจริง ก็มิใช่ร้านเหล้านี่หรือ ที่เป็นชุมนุมมังกร ซ่อนพยัคฆ์ ผู้ที่เบื่อหน่ายลีลาในยุทธจักร
เหล่าผู้เยี่ยมยุทธที่ใช้เหล้าราดรดหัวใจรักษาอาการถูกอุดมการณ์จอมปลอมทำร้าย เราเพียงถอดทอนใจใส่กัน ชนจอก(แก้ว) พึมพัมคำว่า"ติเตียนๆๆ"ก่อนสาดสุรา"เผาดาบ"อันร้อนแรงลงลำคอจนเกลี้ยงจอก
ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลง กาลก่อน ในร้านเหล้า มักจะมีนักดนตรีเล่นปี่แป้(กีตาร์จีน) ขับกล่อม มีบ้างที่เชิญชวนลูกค้าเข้าร่วมขับกล่อมสลับโต๊ะไปมา
แต่ไม่นานมานี้ มีจอมยุทธสังกัดกรมเมือง ก็มาเปลี่ยนบบรยากาศหาข่าวมาในโรงเตี้ยมด้วย
นอกจากหาข่าว พวกท่านยังนิยมการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ การวนเวียนเเลกเปลี่ยนในการฟังและขับร้องจึงหายไป
ข้าพเจ้าชอบฟังเพลง ถึงเป็นเพลงที่ขัาพเจ้าไม่ชอบ ข้พเจ้าก็ทนได้ ด้วยรู้ว่ามันจะใช้เวลาเพียงอึดใจ จบเพลงนั้น ก็ได้ฟังเพลงอื่น
แต่นี่เป็นเพลงเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งซุ้มเสียงแหบครือ ท่านก็ยังไม่หยุดร้อง
อา.. หรือแม้แต่ร้านเหล้า เราก็อยู่ไม่ได้อีกแล้ว...
ข้พเจ้าไม่กล้ากล่าวต้อนรับอะไรท่าน ด้วยมิใช่เจ้าบ้าน เพียงหวังได้มีโอกาสร่ำสุราถกเคล็ดวิชาอีกสักครั้งก็พอใจมากแล้ว และหากมี"ตุ้ม แม็ค" (ซึ่งตอนนี้อยู่ไหนไม่ทราบ)มาบรรเลงปีแป้เพลงเย้ยยุทธจักร(เวอร์ชั่นบีทเทิ่ล)ด้วยกัน ใครจะติเตียนใคร ข้าพเจ้าก็คงไม่สนใจแล้ว อะฮ่าาา
หรือว่ามีบางสิ่งอย่างกำลังจะเกิดขึ้น.. เหตุใด"อาร์ต W"จึงย้อนกลับสู่ยุทธจักรราชดำเนิน?
ข้าพเจ้าก็ซุกเก็บมีดสั้นอย่างเงียบเชียบ และลากเท้าอันหักอึ้ง เดินจากมาด้วยเช่นกัน ...
ด้วยว่ามีดของข้าพเจ้า ไม่อาจแยกแยะศัตรูหรือมิตรได้อีก(เนื่องจากล่อกันนัวเนียไปหมด)
มิตรกลับเป็นศัตรู ศัตรูกลับมาเห็นอกเห็นใจเมื่อท่านเพลี่ยงพล้ำ
มีดบินของข้าพเจ้าอาจไม่มีตา แต่มันมีหัวใจ จึงไม่อาจซัดใส่ผู้มีอุดมการณ์ได้เด็ดขาด!
เมื่อไร้มีด ก็ไร้"อาฟ" และไร้"แก้ไขข้อความ" ดวงตาของขัาพเจ้าไม่มีประกายอีกแล้ว อีกทั้งมือก็สั่นเทา เส้นผมก็หงอกขาว พุงก็มานิดๆ
ดังนั้น อย่าได้ถามถึงความฮึกเหิมที่จะร่ายรำกระบี่ตะลุยยุทธภพราชดำเนิน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ อีกาคาบข่าวสารมาถึงข้าพเจ้า ว่ามีผู้คนแอบเห็นประกายจากวงสวิงของท่านร่ายรำอยู่แถบภาคเหนือ
ขัพเจ้าจึงคาดเดาว่า ท่านคงเร้นกายฝึกยุทธ หาวงใหม่ และซ้อมตีไกล เพื่อกลับเข้าสู่ยุทธจักรอีกครา...
อา... วงสวิงอันเจิดจ้า ย่อมเป็นที่จดจำของผู้คนมากกว่าใบหน้า หากท่านกลับมาจริง แฮนดี้แคปจะเท่าไหร่แล้วนะ น่ากลัว น่ากลัวอย่างยิ่ง..
นอกจากกา... ก็ยังมีสุนัข.. เป็นสุนัขน้อยชื่อฝรั่ง ที่ทำตาโตใส่ข้าพเจ้า เมื่อทราบว่าพวกเราเป็นสหายกันหลังจากบอกข่าวของท่าน
เนื่องจากความสง่างามผึ่งผายของท่าน ชื่อเสียงและเพลงยุทธของท่าน เสียงฮัมเพลงลูบเคราเมื่อร่ายรำดาบ..
มันฝากรอยประทับใจเล็กๆเอาไว้ สุนัขน้อยถึงกับเค้นสอบถามข้าพเจ้าว่า อาร์ตโฟล์ค มีแฟนหรือยัง(ฮาา)
ดูเอาเถิด ตอบปัญหาในเพจ ยังไม่ลำบากเท่านี้เลย...
ท่านคาดเดาว่าข้พเจ้าคงร่ายกวีจิบเหล้าอยู่ริมปิง ?
ข้พเจ้าเร้นกายในร้านเหล้าจริง ก็มิใช่ร้านเหล้านี่หรือ ที่เป็นชุมนุมมังกร ซ่อนพยัคฆ์ ผู้ที่เบื่อหน่ายลีลาในยุทธจักร
เหล่าผู้เยี่ยมยุทธที่ใช้เหล้าราดรดหัวใจรักษาอาการถูกอุดมการณ์จอมปลอมทำร้าย เราเพียงถอดทอนใจใส่กัน ชนจอก(แก้ว) พึมพัมคำว่า"ติเตียนๆๆ"ก่อนสาดสุรา"เผาดาบ"อันร้อนแรงลงลำคอจนเกลี้ยงจอก
ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลง กาลก่อน ในร้านเหล้า มักจะมีนักดนตรีเล่นปี่แป้(กีตาร์จีน) ขับกล่อม มีบ้างที่เชิญชวนลูกค้าเข้าร่วมขับกล่อมสลับโต๊ะไปมา
แต่ไม่นานมานี้ มีจอมยุทธสังกัดกรมเมือง ก็มาเปลี่ยนบบรยากาศหาข่าวมาในโรงเตี้ยมด้วย
นอกจากหาข่าว พวกท่านยังนิยมการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ การวนเวียนเเลกเปลี่ยนในการฟังและขับร้องจึงหายไป
ข้าพเจ้าชอบฟังเพลง ถึงเป็นเพลงที่ขัาพเจ้าไม่ชอบ ข้พเจ้าก็ทนได้ ด้วยรู้ว่ามันจะใช้เวลาเพียงอึดใจ จบเพลงนั้น ก็ได้ฟังเพลงอื่น
แต่นี่เป็นเพลงเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งซุ้มเสียงแหบครือ ท่านก็ยังไม่หยุดร้อง
อา.. หรือแม้แต่ร้านเหล้า เราก็อยู่ไม่ได้อีกแล้ว...
ข้พเจ้าไม่กล้ากล่าวต้อนรับอะไรท่าน ด้วยมิใช่เจ้าบ้าน เพียงหวังได้มีโอกาสร่ำสุราถกเคล็ดวิชาอีกสักครั้งก็พอใจมากแล้ว และหากมี"ตุ้ม แม็ค" (ซึ่งตอนนี้อยู่ไหนไม่ทราบ)มาบรรเลงปีแป้เพลงเย้ยยุทธจักร(เวอร์ชั่นบีทเทิ่ล)ด้วยกัน ใครจะติเตียนใคร ข้าพเจ้าก็คงไม่สนใจแล้ว อะฮ่าาา