สวัสดีค่ะ คุณ JikKaRoO

1. ตัวขนาดนี้คือกี่วันคะ
       ไม่น่าเกิน 5 วันค่ะ


2. ป้อนข้าวสวยได้มั้ยคะ
        ลูกนกกระจอกช่วงนี้ต้องการโปรตีนในการสร้างกล้ามเนื้อและขนค่ะ แนะนำให้ใช้อาหารเม็ดของน้องแมวหรือของสุนัขก็ได้ค่ะ ดิฉันเลี้ยงแมวอยู่เลยใช้อาหารของแมว เลือกเอาที่โปรตีนสูง ๆ หน่อย เอามาแช่น้ำให้บวมนิ่ม ส่วนการป้อนดิฉันใช้หลอดดูดน้ำพลาสติกทั่ว ๆ ไป ตัดปลายให้เป็นเหมือนช้อน พอดีไม่มีภาพให้ดูเสียด้วยสิคะ คือ ใช้กรรไกรตัดปลายหลอดแบบเฉียง ๆ ให้เหมือนปากฉลามน่ะค่ะ อย่าลืมตัด ๆ เกลา ๆ ลบเหลี่ยมให้หมด ก็จะใช้เป็นเหมือนช้อนได้ ก็เอาช้อนนี้ตัดอาหารเม็ดที่นิ่มแล้วออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วตักป้อนเข้าปากลูกนกได้เลยค่ะ นกกระจอกเวลาหิวจะอ้าปากกว้างรออาหาร ทั้งนี้ไม่ต้องป้อนน้ำเพิ่มเพราะในอาหารเม็ดมันบวมน้ำอยู่แล้วค่ะ ตอนตักอาหารก็ไม่ต้องตักน้ำติดไปด้วยนะคะ เดี๋ยวเค้าสำลักค่ะ

        ที่เคยเลี้ยงมา ดิฉันจะใช้อาหารแมวป้อนจนขนขึ้นเกือบเต็ม จึงเริ่มเปลี่ยนมาใช้อาหารเม็ดของนกเอี้ยงนกขุนทองที่เป็นเม็ดสีแดง ๆ เอามาแช่น้ำให้นิ่มเหมือนกัน ทั้งนี้เพราะเมื่อลูกนกขนขึ้นเกือบเต็มแล้ว กล้ามเนื้อเติบโตดีแล้ว ความต้องการโปรตีนจะลดลงค่ะ อาหารนกเอี้ยงจะมีโปรตีนไม่ต่ำกว่า 19% (อ่านจากข้างถุง) ส่วนอาหารแมวที่ดิฉันใช้นั้นมีโปรตีนไม่ต่ำกว่า 32% ค่ะ

         การเตรียมอาหารควรเตรียมสำหรับป้อน 1-2 มื้อ เพราะช่วงนี้อากาศร้อน อาหารอาจจะเน่าเสียทำให้ลูกนกท้องเสียไปด้วยค่ะ
       
        เวลาป้อนก็ป้อนเค้าไปเรื่อย ๆ พอเค้าอิ่มเค้าจะหยุดอ้าปากร้องขอเองค่ะ ป้อนทุก 1-2 ชั่วโมงค่ะ ในหนึ่งวันควรได้รับอาหารไม่น้อยกว่า 8 ครั้ง ไม่เช่นนั้นเค้าอาจจะตายได้ค่ะ
       
         เวลาเค้าอิ่ม เค้าจะถ่ายมูลออกมา ให้ใช้กระดาษทิชชู่แตะออกมาทิ้งนะคะ อึลูกนกที่มีลักษณะดีจะเหมือนมีเยื่อบาง ๆ หุ้มอยู่ เวลาใช้กระดาษทิชชู่แตะเบา ๆ จะติดขึ้นมาทั้งยวงเลยค่ะ ไม่เหลวเละเทะ ถ้าเหลวเละแสดงว่าลูกนกท้องเสียซึ่งไม่ค่อยดีค่ะ


3. ต้องกกไฟไหมคะ
          ที่เลี้ยงมาไม่เคยกกไฟเลยค่ะ พอดีว่าดิฉันหาฟางข้าวมาปูรองพื้นได้ และเก็บตะกร้าที่ใส่ลูกนกไว้ในห้องอับลมตลอดเวลาแต่ต้องไม่ร้อนจนเกินไปนะคะ ก็รอดมาได้ทุกตัวค่ะ (เลี้ยงมา 4 ตัวแล้วค่ะ)

          เพิ่มเติมเรื่องการเลี้ยงให้นิดนึงค่ะ ดิฉันแนะนำตะกร้าขนาดกลางแบบที่หาซื้อได้จากร้านขายพลาสติก ราคาอยู่ที่ประมาณ 59-69 บาทขึ้นอยู่กับร้านค่ะ มีฝาปิดมิดชิด มีหูหิ้วสะดวก ในตะกร้าควรรองด้วยฟางหรือกระดาษตัดเป็นริ้ว ๆ เหมือนออกจากเครื่องทำลายเอกสาร เพื่อให้ลูกนกไม่เกิดอาการขาแป ควรรองพื้นให้หนาพอสมควรค่ะ ไม่งั้นเค้าจะขุดลงไปถึงพื้นตะกร้าลื่น ๆ ได้ และควรหาอุปกรณ์กันมดขึ้นตะกร้าด้วยค่ะเพราะบางทีเราป้อนอาหารแล้วหกอยู่ข้างในตะกร้า มดจะมาหามทั้งอาหารและลูกนกของเราได้


4. กลางคืนยังต้องป้อนเค้ามั้ยคะ
          ไม่ต้องค่ะ ดิฉันป้อนมื้อสุดท้ายตอนประมาณ 6 โมงครึ่ง พอฟ้ามืดก็หยุด ปิดไฟในห้องให้มืด เค้าก็จะหยุดร้องและนอนหลับ เริ่มมื้อใหม่อีกทีตอนฟ้าแจ้งจางปางเลยค่ะ แต่ถ้าตื่นเช้าก็เริ่มเลี้ยงได้ตั้งแต่ฟ้าสางเลยก็ได้ค่ะ ตอนนั้นเค้าก็จะร้องจิ๊บ ๆ ขออาหารกินแล้ว


5. กี่วันเค้าถึงจะเริ่มโต เริ่มมีขนและบินได้คะ
           อีก 2-3 วันจะเริ่มเห็นขนขึ้นแล้วค่ะ ขนที่ขึ้นแรก ๆ จะเหมือนเข็มหมุด คือมีก้านขนยาว ๆ มีกระจุกขนอยู่แค่ตรงปลาย จากนั้นจึงจะค่อย ๆ เติมเต็มขึ้นมา กว่าขนจะขึ้นเต็มตัวก็อายุประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ หัวอาจจะยังล้านอยู่หน่อย ๆ แต่ขนปีกขนหางจะสวยแล้ว พออายุ 2 สัปดาห์ครึ่งจะเริ่มบินได้แล้วค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลูกนกแต่ละตัวด้วยนะคะ บางตัวบินได้ไวมาก  พอขนขึ้นครบก็บินได้เลย บางตัวจะบินได้ช้า แต่จะอยู่ภายในช่วงอายุ 2-3 สัปดาห์นี่ล่ะค่ะ เค้าจะบินได้เอง ไม่ต้องสอน แต่ที่ต้องสอนคือการกินด้วยตนเอง เพราะเค้าจะกินเองไม่เป็นค่ะ แม้จะบินได้แล้วก็ยังปล่อยไม่ได้ ปล่อยไปก็ตาย ต้องเลี้ยงอยู่และสอนจนกว่าเค้าจะจิกอาหารเองได้ รอให้แข็งแรงก่อนจึงจะปล่อยได้ค่ะ

           

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ JikKaRoO และเจ้านกน้อยนะคะ การเลี้ยงลูกนกอ่อนช่วงนี้จะไม่ยุ่งยากแค่ต้องการเวลาที่ต้องอยู่ป้อนอาหารให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 มื้อ จะไปยุ่งยากมากก็ตอนสอนเค้ากินอาหารเองนี่ล่ะค่ะ เพราะตอนนั้นเค้าจะบินได้แล้ว ต้องหากรงหรือห้องสำหรับเลี้ยงเค้าไว้เพื่อจะได้มีเวลาสอนให้กินอาหารเองก่อนจะปล่อยไปค่ะ


สู้ สู้ นะคะ ตอนนี้ดิฉันกำลังเลี้ยงจิ๊บน้อยตัวที่ 5 อยู่ เพิ่งบินได้เองเมื่อวานค่ะ